โคลงสุภาษิตนฤมทุมนาการ
กิจ 10 ประการ ที่ผู้ประพฤติยังไม่เคยเสียใจ
เป็นพระราชนิพนธใน์พระบาทสมเด็จพระจุุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นโคลงสี่สุภาพ
นฤทุมนาการ แปลว่าไม่มีอาการเสียใจ ( นิรฺ + ทุมฺมน + อาการ )
โคลงสุภาษิต 10 บท เป็นข้อแนะนำในด้านกายธรรม(การกระทำ) วจีกรรม(การพูด) และมโนกรรม(การคิด)
สาระสำคััญของโคลงสุภาษิตนฤทุมนาการเป็นคำสอน ซึ่งมีอยู่ 2 แนวทางคือ
1 . สอนให้ปฏิบัติในสิ่งที่ดี
2 . สอนให้ละเว้นสิ่งที่ไม่ดี
๏ บัณฑิตวินิจแล้ว..............แถลงสาร...สอนเอย
ทศนฤทุมนาการ.......................ชื่อชี้
เหตุผู้ประพฤติปาน....................ดังกล่าว..........นั้นนอ
โทมนัสเพราะกิจนี้.....................ห่อนได้เคยมี
เพราะทำความดีทั่วไป
๑
๏ ทำดีไป่เลือกเว้น...............ผู้ใด....ใดเฮย
แต่ผูกไมตรีไป............................รอบข้าง
ทำคุณอุดหนุนใน.........................การชอบ.....ธรรมนา
ไร้ศัตรูปองมล้าง..........................กลับซ้องสรรเสริญ
เพราะไม่ได้พูดร้ายต่อใครเลย
๒
๏ เหินห่างโมหะร้อน..................ริษยา
สละส่อเสียดมารษา.......................ใส่ร้าย
คำหยาบจาบจ้วงอา-........................ฆาตขู่...เข็ญเฮย
ไปหมิ่นนินทาป้าย...........................โทษให้ผู้ใด
เพราะถามฟังความก่อนตัดสิน
๓
๏ ยินคดีมีเรื่องน้อย...................ใหญ่ไฉน.....ก็ดี
ยังบ่ลงเห็นไป................................เด็ดด้วน
ฟังตอบสอบคำไข..........................คิดใคร่...ครวญนา
ห่อนตัดสินห้วนห้วน........................เหตุด้วยเบาความ
เพราะคิดเสียก่อนจึงพูด
๔
๏ พาทีมีสติรั้ง................รอคิด
รอบคอบชอบแลผิด.......................ก่อนพร้อง
คำพูดพ่างลิขิต...............................เขียนร่าง...เรียงแฮ
ฟังเพราะเสนาะต้อง........................โสตทั้งห่างภัย
เพราะงดพูดในเวลาโกรธ
๕
๏ สามารถอาจห้ามงด..................วาจา...ตนเฮย
ปางเมื่อยังโกรธา...........................ขุ่นแค้น
หยุดคิดพิจารณา............................แพ้ชนะ....ก่อนนา
ชอบผิดคิดเห็นแม้น.........................ไม่ยั้งเสียความ
เพราะได้กรุณาต่อคนที่ถึงอับจน
๖
๏ กรุณานรชาติผู้.....................พ้องภัย..พิบัติเฮย
ช่วยรอดปลอดความไขษย...............สว่างร้อน
ผลจักเพิ่มพูนใน..............................อนาคต...กาลแฮ
ชนจักชูชื่อช้อน...............................ป่างเบื้องประจุบัน
เพราะขอโทษบรรดาที่ได้ผิด
๗
๏ ใดกิจผิดพลาดแล้ว...............ไป่ละ..ลืมเลย
หย่อนทิฐิมานะ...............................อ่อนน้อม
ขอโทษเพื่อคารวะ..........................วายบาด...หมางแฮ
ดีกว่าปดอ้อมค้อม..........................คิดแก้โดยโกง
เพราะความอดกลั้นต่อผู้อื่น
๘
๏ ขันตีมีมากหมั้น.....................สันดาน
ใครเกะกะระราน............................อดกลั้น
ไป่ฉุนเฉียวเฉกพาล.....................พาเดือด....ร้อนพ่อ
ผู้ประพฤติดั่งนั้น.........................จักได้ใจเย็น
เพราะไม่ฟังคำคนพูดเพศนิทาน
๙
๏ ไป่ฟังคนพูดฟุ้ง....................ฟั่นเฝือ
เท็จและจริงจานเจือ.....................คละเคล้า
คือมึดที่กรีดเถือ..........................ท่านทั่วไปนา
ฟังจะพาพลอยเข้า......................... พวกเพ้อรังควาญ
เพราะไม่หลงเชื่อข่าวร้าย
๑๐
๑ อีกหนึ่งไป่เชื่อถ้อย...................คำคน....ลือแฮ
บอกเล่าข่าวเหตุผล..........................เรื่องร้าย
สืบสอบประกอบจน..........................แจ่มเท็จ...จริงนา
งบ่ด่วนยักย้าย...................................ตื่นเต้นก่อนกาล
๑ ข้อความตามกล่าวแก้...............สิบประการ...นี้นอ
ควรแก่ความพิจารณ์...........................ทั่วผู้
แม้ละไป่ขาดปาน..............................โคลงกล่าว...ก็ดี
ควรระงับดับสู้....................................สงบบ้างยังดี