การถวายดอกบัวมีปรากฎในพระไตรปิฎกดังนี้
อุกขิตตปทุมิยเถราปทานที่ ๑๐ (๓๔๐) ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกปทุมดอกเดียว
[๓๔๒] ในกาลนั้น เราเป็นช่างดอกไม้อยู่ในพระนครหงสวดี เราลงสู่สระปทุมเลือกเก็บดอกบัวอยู่ พระชินเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ทรงรู้จบธรรมทั้งปวงเป็นอุดมบุรุษ ทรงแสวงหาความเจริญแก่เรา จึงเสด็จมาพร้อมด้วยพระขีณาสพตั้งแสน ผู้มีจิตสงบระงับ ผู้คงที่ บริสุทธิ์ได้อภิญญา ๖ เพ่งฌานเราได้เห็นพระสยัมภูผู้ประเสริฐกว่าเทวดา เป็นนายกของโลก จึงเด็ด ดอกบัวที่ก้านแล้วโยนขึ้นไป [บูชา] ในอากาศในขณะนั้น [ด้วยเปล่งวาจา ว่า] ข้าแต่พระธีรเจ้า ถ้าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้าเชษฐบุรุษของโลก ประเสริฐกว่านระ ขอดอกบัวจงไปตั้งอยู่เหนือพระเศียรของพระพุทธเจ้าเองเถิด พระมหาวีรเจ้าเชษฐบุรุษของโลก ผู้ประเสริฐกว่านระ
ทรงอธิษฐาน กุศลกรรมที่เราทำมาแล้วนั้น และด้วยการตั้งจิตมั่น เราละกายมนุษย์แล้วได้ไปสู่ชั้นดาวดึงส์ ในชั้นดาวดึงส์นั้น วิมานของเราบุญกรรมสร้างให้ อย่างสวยงาม เรียกชื่อว่า สัตตปัตตะ สูง ๖๐ โยชน์ กว้าง ๓๐ โยชน์ เราได้เป็นจอมเทวดาเสวยรัชสมบัติ ในเทวโลกพันครั้ง ได้เป็นพระเจ้า จักรพรรดิ ๗๕ ครั้ง และเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์ โดยคณนานับ มิได้
เราเสวยกรรมของตนที่ตนทำไว้ดีแล้วในปางก่อน ด้วยดอกปทุมดอกเดียวนั้นแล เราได้เสวยสมบัติแล้ว ได้กระทำธรรมของพระผู้มีพระภาคพระนามว่า โคดมให้แจ้งชัดแล้ว เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพ ขึ้นได้หมดแล้ว เราตัดกิเลสเครื่องผูกขาดเหมือนช้าง ตัดเชือกได้แล้ว ไม่มีอาสวะอยู่ ในกัลปที่แสน แต่กัลปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งดอกปทุมดอกเดียว
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง (ภาษาไทย) เล่มที่ ๓๒
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาคที่๑ข้อที่๓๔๒ หน้าที่๓๒๗
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมตตาให้พวกเราได้บุญจากการได้ถวายดอกบัว นับเป็นสิ่งที่ควรปลื้มในการสร้างสมบารมี ไปจนกว่าจะได้เดินทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
จากบุพกรรมพระเถระ ท่านได้รับอานิสงส์จากการถวายดอกบัวเพียงหนึ่งดอก ท่านได้เสวยผลบุญมากมายหลายกัลป์ แต่ท้ายที่สุด สิ่งที่ท่านปรารถนาคือพระนิพพาน...
กราบอนุโมทนาบุญกับนักสร้างบารมีทุกท่านค่ะ