ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีความก้าวหน้าเกิดขึ้น


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 February 2006 - 11:08 PM

วิธีการสังเกตความก้าวหน้าในวิชชาชีวิตอย่างง่ายๆ

เคยสงสัยไหมคะว่า วันนี้เราดีกว่าเมื่อวานหรือเปล่า
มีวิธีง่ายๆ เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของตัวเองมาฝากค่ะ
สำหรับผู้ที่กำลังฝึกตัวและเตรียมตัวเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันที่ดี

บางท่านที่ฝึกตนอย่างสม่ำเสมอมาดีแล้วนั้น คงมีคำตอบที่ชัดเจน
เพราะทำการบ้านสิบข้อเป็นประจำและมากขึ้นไปเรื่อยๆ
เราก็จะเห็นความก้าวหน้าเกิดขึ้นเมื่อนั่งสมาธิ
แล้วสำหรับผู้ที่กำลังฝึกตัวใหม่ๆล่ะคะ
รวมทั้งผู้ที่ยังไม่มีอุปกรณ์ยึดเหนี่ยว เพื่อเตือนตัวเองให้รักษาใจให้ใสได้ทั้งวัน
รู้ไหมว่าเราก้าวหน้าจริงๆ

สังเกตตัวเองซิคะ....
และหมั่นอธิษฐานให้เตือนตัวเองให้ได้ ขอให้เราบอกสอนตัวเองได้เอง
ขอแบ่งปันประสบการณ์ให้กับทุกท่านค่ะ
แล้วมาดูซิว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงไหม

ตื่นเช้ามารู้สึกสดใส สดชื่น และลุกจากที่นอนอย่างผู้ชนะ
คือ ชนะใจตัวเองที่อยากนอนต่ออีกห้านาทีไงล่ะ
แล้วก็เตือนตัวเองได้ทันที ให้นึกถึงองค์พระ
เข้ากลางไปกราบหลวงพ่อก่อนค่ะ
แล้วก็ทำการบ้านขณะทำภารกิจประจำวัน

ก่อนทานอาหารก็แว้บบบ..เตือนตัวเองได้ค่ะว่า
เช้าใดยังไม่ได้ทำทาน เช้านั้นอย่าเพิ่งกินข้าว
ก็แค่ตรึกนิดเดียว น้อมเอาอาหารไว้ที่กลางกายเพื่อถวายข้าวพระ
ถือเป็นกุศโลบายให้เราเอาใจไปเกาะเกี่ยวพระรัตนตรัยในตัวค่ะ
ถ้ามีเวลามากก็น้อมกลั่นให้ใสก่อน แล้วอธิษฐานต่อ
ขอให้อานิสงค์นี้ส่งผลให้เรามีร่างกายแข็งแรงได้อยู่สร้างบารมีไปนานๆ

อยากได้บุญละเอียด ก็เลยพิถีพิถันเพิ่มขึ้นในการเตรียมสำรับ
จัดให้เป็นระเบียบ งามตา เลิกนิสัยมักง่าย ไม่ใช่ว่าเรากินเองยังไงก็ได้
จำคำสอนของคุณยายอาจารย์ได้ค่ะ ที่ฝึกให้เราเป็นคนละเอียด
ผู้ใดให้ของละเอียดก็จะได้ของละเอียด
เมื่อธรรมเกิดขึ้นก็จะได้ธรรมละเอียดค่ะ
ฝึกตนให้เป็นคนละเอียดทุกๆเรื่อง ก็จะเกิดความรอบคอบ และเป็นคนรอบรู้ค่ะ


จะออกไปทำงาน...ก็ไม่ลืม
วันใดยังไม่ได้สมาทานศีล วันนั้นอย่าพึ่งออกจากบ้าน
ก็เพียงแค่ตรึก ตอกย้ำสำนึกว่าเราจะระวังรักษาศีลห้า( หรือแปดในวันพระ)ให้บริสุทธิ์
หลวงพ่อทัตตชีโว สอนว่าศีลนั้นรักษาไม่ยาก อยู่ที่การตั้งใจที่จะรักษา ถ้าตั้งใจ ก็รักษาได้
และอีกอย่าง เข้ากลางไปนิมนต์หลวงพ่อไปด้วยนะคะ เราจะได้ปลอดภัย

ตราบใดที่เรายังไม่มีที่พึ่งอย่างแท้จริง ก็ไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิตนะคะ
ไม่รู้ว่านอกบ้านมีภัยอะไรคอยเราอยู่ วิบากก็คอยที่จะทำหน้าที่ของเขาอยู่
เราไม่รู้ว่าเคยผิดพลาดไปทำอะไรมาบ้าง อย่ากระนั้นเลย...
อาราธนาพระเดชพระคุณหลวงพ่อของเราไปด้วย อุ่นใจกว่าเยอะ
ใครมีองค์พระใสๆติดกลางไปด้วย ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้น
เป็นอีกวิธีที่จะยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกค่ะ

เจอรถติด...ว้า
เตือนตัวเองได้ไหมให้แผ่เมตตา แบ่งบุญให้คนอื่นด้วย
จะทำให้ใจเราเย็นลงค่ะ อย่าพึ่งแปลงร่างเป็นยักษ์เลย
ความใสที่สั่งสมมาก็จะกลายเป็นเขี้ยวที่งอกออกมาซะเปล่า
รักษาใจใสๆให้ต่อเนื่องค่ะ แล้วก็ยิ้มให้กับใครที่มองมาที่เรา
ยิ้ม...เพราะยิ้มแล้วรวย

เจออะไรที่ไม่ค่อยถูกใจเรา ก็รีบอธิษฐานซิคะ
ขอให้เรามีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหานี้ ขอให้เราข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ด้วยดี
อธิษฐานให้บุญช่วย เมื่อเรามีบุญก็ต้องใช้บุญให้เป็น
เพราะทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยบุญ
ในขณะเดียวกันเราก็กำลังฝึกทำอธิษฐานบารมีไปด้วย
เตือนตัวเองให้ได้ตลอดเวลาที่จะนึกถึงบุญ อย่าเปิดช่องว่างให้อกุศลเลย

เจอคำพูดที่ไม่พอใจ ก็หายใจลึกๆแล้วก็ยิ้ม
ในใจก็อธิษฐานอีกว่าอย่าให้เราได้ไปพูดแบบนี้กับใครเลย
ขอให้เรามีแต่ปิยวาจาเถิด ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงคิด.. แหมปากยายนี่ ...
แต่เดี๋ยวนี้เราเริ่มสอนตัวเองได้ และมองคนอื่นด้วยใจที่สูงขึ้น
เพราะเมื่อเราเอาใจเราไปเกาะเกี่ยวไว้กับพระพุทธเจ้า +
คุณสมบัติดีๆของท่านก็จะถ่ายทอดมาสู่เรา
กลายเป็นคนที่มีเมตตากับคนอื่นอย่างจริงใจ และไม่เดือดร้อนใจกับคำพูดส่อเสียดเหล่านั้นเลย

เมื่อเวลาอ่านเว็บบอร์ด ก็ได้ความรู้ใหม่ๆ
ทำให้เราขวนขวายที่จะเป็นผู้รู้อย่างนั้นบ้าง
เพื่อจะได้เป็นผู้มีโอกาสที่จะแบ่งปันสิ่งดีๆที่เรารู้กับผู้อื่นบ้าง
นอกจากนี้ ถ้าสังเกต เราก็ได้ซึมซับความละเอียดรอบคอบของบางท่านในการตอบกระทู้ด้วย
ซึ่งความละเอียดเหล่านี้แหละ เป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา และจะส่งผลเป็นความก้าวหน้าเมื่อเรานั่งสมาธิค่ะ

ก่อนนอนเราก็ไม่ลืมทำการบ้าน สวดมนต์ นั่งสมาธิ
เข้าไปเช็คดูว่า ที่เราทำมาทั้งวันนั้น ให้ผลอะไรบ้าง
จะรู้ว่าการทำใจให้คุ้นกับศูนย์กลางกายก็ทำให้เราฟุ้งน้อยลง
และเข้ากลางได้ง่ายขึ้นค่ะ จากนี้ไปก็ขึ้นกับสิ่งที่สั่งสมมาเมื่อปางก่อนแล้วล่ะค่ะ

ถ้าสังเกตตัวเอง ก็จะพบความเปลี่ยนแปลง
และจะรู้ตัวเองว่าเราก้าวหน้าขึ้นจริงๆ
แล้วเราก็จะได้กำลังใจเพิ่มขึ้นทุกๆวัน ที่จะทำทุกวันต่อจากนี้ให้ ดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเห็นสิ่งมหัศจรรย์แล้ว ก็อย่าลืมคาถา 3 ช.นะคะ
ใช่ + ชัวร์ + ชัด



:D :D :D :D :D :D :D :D :D

#2 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 17 February 2006 - 03:39 AM

Not many people can think like this or even takes time to try to improve oneself....most say -I don't have time or oh I forgot-- every is got 24 hrs to live or manage ...therefor don't have time is kinda a cliche the same as I forgot.... sure some time you forget things but it's easy just to say it's slip my mind.... as some one who was wise said a long long time agao --- If there is a will, there is a way!!---
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#3 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 February 2006 - 11:41 PM

Not many people can think like this ????
เราทุกคนก็ล้วนต้องฝึกตัวเองค่ะ
หลวงพ่อสอนว่า
ถ้าได้ทำก็ทำได้
ถ้าทำได้ก็ได้ทำค่ะ




#4 chaisandee

chaisandee
  • Members
  • 37 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2006 - 11:20 PM

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ อ่านแล้วมีกำลังใจมากๆ

#5 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 February 2006 - 01:20 AM

โอ ตรงเหลือเกิน ขอบคุณผู้ตั้งกระทู้นี้คะ แม้หลายอย่างที่เอ่ยมาหลายๆท่านคงจะรู้แล้วแต่ว่าบางทีอาจจะลืมเอามาใช่ในชีวิตประจำวัน โดนใจมากคะกระทู้นี้ สาธุ สาธุ ค่า
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้