ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เรื่องของ น้ำ ( อะไร ? )


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 February 2006 - 03:56 PM

มหัศจรรย์แห่ง น้ำ

น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ายิ่งแก่มวลมนุษย์
น้ำมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย
และมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนโลกใบนี้

น้ำเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้น การดำรงอยู่ และการสิ้นสุดของสรรพสิ่ง

โดยปรากฎในรูปแบบของพิธีกรรม วัฒนธรรมและประเพณี
เป็นเป็นเครื่องหมายของความสะอาดบริสุทธิ์ ความชุ่มฉ่ำ ร่มเย็น
ไม่ว่าเราจะทำให้น้ำร้อนขึ้นด้วยวิธีใด ชั่วระยะเวลาหนึ่งน้ำก็จะกลับมาเย็นดังเดิม

นอกจากนี้น้ำยังมีความหมายถึงการประสานสามัคคีอีกด้วย
ทั้งนี้เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ไม่แยกจากกัน แม้จะใช้สิ่งอื่นคั่นไว้ เมื่อเอาสิ่งนั้นออก
น้ำก็จะหลอมรวมกันเหมือนเดิมอย่างแนบสนิท ไม่มีรอยร้าวใดๆทั้งสิ้น

ฉะนั้นมนุษย์ชาติจึงใช้น้ำทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ประสานความศรัทธาของมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ
และนั่นเองคือความมหัศจรรย์ของน้ำ ที่ปรากฎอยู่บนพื้นพิภพ
ทั้งเรื่องราว ความเชื่อ และความเป็นจริง


น้ำจากมวยผมพระแม่ธรณี
ในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์กำลังตรัสรู้นั้น พญามารได้ยกทัพมาขัดขวาง ข่มขู่ แต่ด้วยบุญบารมี พระแม่ธรณีได้ปรากฎกายขึ้นบิดมวยผม ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่พัดพากองทัพมารแตกพ่ายไป
ครั้นวันรุ่งขึ้นพระโพธิสัตว์ก็ตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยเหตุนี้ น้ำจากมวยผมพระแม่ธรณี
จึงเป็นความมหัศจรรย์ของน้ำที่ทรงคุณค่าต่อพุทธศาสนา


น้ำเสี่ยงทาย
สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตล้วนเป็นสิ่งไม่แน่นอน ดังนั้นเพื่อความสบายใจ
มนุษย์เราจึงมีความเชื่อเรื่องโชคชะตาและการเสี่ยงทาย การใช้น้ำในการเสี่ยงทาย
นับเป็นความเชื่อที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล
ก่อนตรัสรู้ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ได้มีการลอยถาดข้าวมธุปายยาสของ นางสุชาดา เพื่อเป็นการเสี่ยงทาย ว่าจะได้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณหรือไม่
หรือกระทั่งในวรรณคดีอย่างลิลิตพระลอ ก็มีความเชื่อเรื่องการเสี่ยงทายกับแม่น้ำกาหลง เป็นต้น



น้ำอมฤต

เมื่อครั้งที่เหล่าเทวดาและอสูรใช้พญานาคพันรอบเขาพระสุเมธุ เพื่อกวนเกษียรสมุทธนั้น
ได้เกิดของ 14 สิ่งผุดขึ้นมาด้วย และน้ำอมฤตหรือน้ำทิพย์ ก็เป็นหนึ่งในของวิเศษที่เกิดจากพิธีนั้น

ครั้นเมื่อเกิดอมฤต พระราหูจึงแอบคว้าไปดื่ม แต่พระจันทร์เห็น จึงบอกพระนารายณ์
พระองค์จึงขว้างจักรไปตัดคอพระราหูขาดเป็น 2 ท่อน แต่ด้วยฤทธิ์ของน้ำอมฤต
จึงทำให้พระราหูไม่ตาย และตามล้างแค้นพระจันทร์ ดังนั้นเมื่อพระราหูเห็นพระจันทร์
จึงตรงเข้ากัดกินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



น้ำอบ น้ำปรุง
เป็นน้ำที่ผ่านการอบด้วยดอกไม้และเทียนหอม เพื่อให้ทีความหอมเย็น
ใช้ในการประกอบพิธีในงานมงคลตามประเพณีของไทย โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์
หรือเทศกาลขึ้นปีใหม่ไทย จะใช้ในการสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
และประพรมกันเพื่อเป็นการมอบสิ่งดีๆ และส่งความสุขร่มเย็นให้แก่กัน


น้ำมนต์

น้ำมนต์เป็นน้ำอันเป็นมงคล ที่ผ่านการเข้าพิธีบริกรรมคาถา ปลุกเสก
ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวพุทธ ใช้ประกอบในพิธีมงคลต่างๆ
เพื่อให้เป็นสิริมงคล และให้มีโชคลาภ ใช้ประพรม ดื่ม อาบ สะเดาะเคราะห์ และปัดเป่าภูตผีและสิ่งชั่วร้าย

น้ำกระสายยา
น้ำกระสายยา เป็นเครื่องแทรกในตัวยา เพื่อให้ยานั้นมีผลตามต้องการ ตรงกับโรค
ทั้งยังสามารถช่วยเสริมฤทธิ์ของตัวยาด้วย น้ำกระสายยาหลายชนิดมักมีสรรพคุณเป็นยา
เช่นเดียวกับเครื่องยาหลักต่างๆ ดังนั้นจึงนับได้ว่าน้ำกระสายยาเป็นสิ่งแสดงถึง
ความมหัศจรรย์ของน้ำที่สามารถผสมผสาน รวมกับสรรพสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและช่วยเสริม
หรือดึงเอาคุณสมบัติ รวมถึงคุณค่าในสิ่งนั้นๆออกมาให้เป็นประโยชน์ ได้อย่างน่าอัศจรรย์


น้ำฝน

ฝนที่ตกลงมาบนโลกเรานั้น นับว่าเป็นวัฎจักรอันน่ามหัศจรรย์ ของวงจรน้ำที่หทุนเวียนอยู่ในโลกนี้ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เริ่มจากน้ำบนผิวโลกได้รับความร้อน จนระเหยและกลายเป็นไอ
ลอยขึ้นไปรวมตัวกับไอน้ำที่พืชคายออกมา แล้วกลายเป็นเมฆ
เมื่อเมฆลอยไปกระทบความเย็น ก็จะกลั่นตัวกลายเป็นน้ำฝนตกลงมาสู่โลก
เพื่อสร้างคุณประโยชน์ อันเอนกอนันต์แก่มวลมนุษย์ และสรรพสัตว์

น้ำประปา
เป็นน้ำที่ผ่านกรรมวิธีผลิตจนสะอาด ได้มาตรฐาน และเป็นปัจจัยหลักในชีวิตประจำวัน
ทั้งด้านอุปโภคบริโภค ของคนไทยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณ
ขององค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระราชดำริ
จัดตั้งการประปาขึ้นในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2457


พลังน้ำผลิตไฟฟ้า

หยดน้ำแต่ละหยาดเมื่อรวมตัวกันกลับมีพลังมหาศาล สามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า
ซึ่งเป็นพลังงานสำคัญในปัจจุบันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้ ความสว่างไสวยามค่ำคืน
และความสะดวกสบายจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มนุษย์ใช้อยู่นั้น จึงล้วนเป็นพลังงาน
อันเกิดจากความมหัศจรรย์ของน้ำ


น้ำพุร้อน
น้ำพุร้อนเป็นความมหัศจรรย์ของน้ำ ที่พวยพุ่งออกมาจากใต้พื้นโลก นำพาเอาความร้อนและแร่ธาตุต่างๆขึ้นมา ให้มวลมนุษย์ได้ใช้อาบ และใช้ดื่มเพื่อรักษาโรค รวมทั้งใช้บำรุงสุขภาพให้แข็งแรง และเพื่อความงาม ตลอดจนการใช้พลังงานจากน้ำพุร้อนนี้อีกด้วย

น้ำสังข์มงคล

ประเพณีมงคลสมรสของไทย ใช้สังข์อันเป็นภาชนะมงคลใส่น้ำมนต์ รดคู่บ่าวสาวเพื่ออวยพรให้ทั้งคู่อยู่กันยั่งยืน
มีความสุข ในตำนานกล่าวไว้ว่า สังข์อสูรลักเอาพระเวทไปซ่อนไว้ในหอยสังข์ จนพระนารายณ์ต้องอวตารไปปราบ
แล้วล้วงเอาพระเวทออกมา ดังนั้นที่ปากสังข์จึงมีรอยพระหัตถ์ของพระนารายณ์อยู่ สังข์จึงถือเป็นสิ่งมงคล เพราะเคยรองรับพระเวทไว้


น้ำส้มป่อย

ส้มป่อย พืชสมุนไพรที่สมัยโบราณใช้แทนสบู่สำหรับสระผม ชำระล้างร่างกาย และใช้ในพิธีรดน้ำดำหัว
โดยเฉพาะในภาคเหนือ ในประเพณีปีใหม่ ชาวเหนือจะใช้น้ำส้มป่อยประพรมศีรษะของผู้ใหญ่ พอเป็นพิธี นอกจากนี้ยังมีการใช้น้ำส้มป่อยในพิธีต่างๆอีกด้วย
เพราะมีความเชื่อว่าน้ำส้มป่อยสามารถขับไล่ ภูตผีและสิ่งอัปมงคลออกไปได้


ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  wo_scn03.jpg   112.04K   57 ดาวน์โหลด


#2 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 February 2006 - 04:08 AM


สาธุค่ะ
แถมให้อีกน้ำค่ะ เป็น น้ำที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่า
คือน้ำใจค่ะ
รักษาไว้อย่าให้หมดไป ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
เหมือนยกตัวเราให้สูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วปล่อยให้ไหลลงได้ทุกที่ทุกสถานการณ์




#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 21 February 2006 - 11:08 AM

มีความรู้เกี่ยวกับ น้ำ มาเพิ่มครับ

น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป มีหน้าที่สำคัญหลายประการคือ

1. ช่วยในการย่อย การดูดซึม และการไหลเวียนของสารต่างๆ ในร่างกาย
2. เป็นตัวทำงานสำหรับสารละลายเคมีต่างๆ ทั้งที่เป็นอาหาร และสารอื่นๆ ทำให้สามารถเกิดปฏิกิริยาเคมีในร่างกายได้
3. ช่วยปกป้องเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ รวมทั้งทารกในครรภ์มารดา
4. เป็นสื่อกลางกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆ ในร่างกาย และรักษาสมดุลกรดด่าง ในร่างกาย
5. ช่วยในการขนส่งสารต่างๆ ระหว่างเนื้อเยื่อ กับกระแสโลหิต
6. ช่วยในการกำจัดของเสียจากร่างกาย เป็นปัสสาวะทางไต
7. ทำหน้าที่หล่อลื่นข้อต่างๆ ในร่างกาย

ควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย โดยเฉพาะการระบายน้ำจากผิวหนัง ลมหายใจ
ในคนที่ออกกำลังกายจะมีการเผาผลาญในร่างกาย เกิดความร้อน
และขับออกทางเหงื่อในแต่ละวันคุณควรได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ
การสูญเสียน้ำมาก หรือการได้รับน้ำ น้อยจะทำให้เกิดภาวะแห้งน้ำ
ทำให้รู้สึกกระหาย กล้ามเนื้อไม่มีแรง อ่อนเพลีย หมดสติ หรืออาจเสียชีวิตได้
ในทางตรงกันข้าม ถ้าร่างกายได้รับน้ำมากเกินไป
และไม่สามารถ ควบคุมให้อยู่ในสภาพที่สมดุลได้จะเกิดการคั่ง
บวม ปวดศีรษะ ตามัว เป็นตะคิว และอาจ ชักได้

........

ตอนเด็กๆ จำได้ว่า คุณครูเคยสอนเรื่องราวเกี่ยวกับ “น้ำ” ในวิชาภูมิศาสตร์ว่า โลกใบนี้มีผืนดินน้อยกว่าผืนน้ำ แล้วคุณครูที่สอนวิชาสุขศึกษาก็บอกด้วยว่า ในร่างกายของคนเรานั้น มีส่วนประกอบของน้ำมากถึง 70%
แล้วก็บอกด้วยว่า วันหนึ่งเราควรรับประทานน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 7 แก้ว

นับแต่นั้นมา ก็เลยให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงและสภาพการดำรงอยู่ของ “น้ำ” มากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาฝนตก เพราะมีความเห็นว่า เป็นจังหวะที่น้ำมีความโรแมนติกที่สุด
ดังนั้น ถ้ามีเวลาว่าง ก็มักจะมานั่งทอดสายตาดูฝนตกที่ระเบียงบ้านเสมอ

พูดถึงเรื่องน้ำแล้ว ต้องบอกว่า มีความสำคัญต่อร่างกายของคนเรารองมาจาก “อากาศ” เท่านั้น ถ้าหากร่างกายขาดน้ำและไม่ได้ดื่มน้ำหลายวันติดต่อกัน ก็มีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้

ขณะเดียวกันน้ำก็เป็นวัตถุธาตุที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเราตั้งแต่เกิดจนถึงตาย โดยเฉพาะคนไทยนั้นมีความผูกพันกับน้ำค่อนข้างมาก
ดังจะเห็นได้จากขนบธรรมเนียมประเพณี
รวมไปถึงพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำในต่างกรรมต่างวาระกัน
ไม่ว่าจะเป็นประเพณีลอยกระทง ประเพณีแข่งเรือยาว น้ำสังข์ที่ใช้รดเวลาแต่งงาน การรดน้ำศพ การทำน้ำมนต์เพื่อใช้ในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และบำบัดรักษาโรค

ความจริง ต้องบอกว่า คนไทยเรารู้จัก “พลัง” ที่มีอยู่ในน้ำมานาน
ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่มีพิธีกรรมที่นำน้ำมาเป็นส่วนประกอบ ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือการถ่ายพลังปราณลงไปในน้ำเพื่อให้เป็นน้ำมนต์แล้วพ่นหรือประพรมให้กับผู้ที่เจ็บป่วย เพียงแต่ที่ผ่านมาเราละเลยที่จะเรียนรู้คุณประโยชน์ของน้ำเหล่านี้ และเหลือเอาไว้แค่ความจำเป็นพื้นฐานของร่างกายคือการดื่มและการชำระล้างเท่านั้น

ให้ความรู้ในแง่วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับน้ำกันสักนิด เพราะเชื่อว่ายังมีหลายคนยังไม่รู้ปกติแล้ว
เราสูญเสียน้ำออกมา
ทางปัสสาวะประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน
เสียไปกับเหงื่อ 0.6 ลิตรต่อวัน
ลมหายใจ 0.4 ลิตต่อวัน
ฯลฯ รวมๆ
แล้ววันหนึ่งๆ เราจะเสียน้ำไปประมาณ 2.5 ลิตร

ดังนั้น ต้นทุนที่เราจะต้องรักษาให้สมดุลขั้นต่ำก็คือ ต้องดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 2.5 ลิตร
และเมื่อใดก็ตามที่เราดื่มน้ำน้อย ก็จะเป็นที่มาของอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ
เพราะคุณสมบัติสำคัญของน้ำประการหนึ่งก็คือ ช่วยในการขับของเสียที่เป็นอันตรายออกจากร่างกาย

ดังนั้น ใครที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำโดยอ้างว่า ขี้เกียจเข้าห้องน้ำ ก็จงเปลี่ยนทัศนคตินี้เสียใหม่

นอกจากเรื่องการขับของเสียแล้ว น้ำยังมีคุณสมบัติที่น่าทึ่งมากมาย อาทิ
ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ช่วยในการนอนหลับ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ
ช่วยในการเจือจางสารพิษในร่างกาย และสุดท้ายช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์

ฉะนั้น ใครที่อยากผิวสวยๆ ก็ต้องดื่มน้ำให้เยอะๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เฉพาะแค่น้ำจากธรรมชาติเช่น น้ำฝน น้ำพุร้อน น้ำที่ละลายจากหิมะ ฯลฯ เท่านั้น
ปัจจุบันยังมีการนำสิ่งของต่างๆ เพื่อเพิ่มประจุพลังให้กับน้ำในหลายรูปแบบด้วยกัน
เช่นใช้รัตนชาติจำพวกทูมารีน เยอราเมีย แท่งแม่เหล็ก ปิรามิดและหอย เป็นต้น
..............


ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  041.jpg   13.71K   12 ดาวน์โหลด


#4 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 26 February 2006 - 09:46 PM

สาธุค่ะแล้วก็ อย่าลืมอย่างที่คุณ miocercio บอกนะค่ะ นําใจนี่แหละค่ะ ประเสริฐสุดเช่นกัน
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"