ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

จะบวชแล้วมีคนห้าม.....


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 19 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 sumete_255

sumete_255
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 05:00 PM

ตั้งใจจะบวชธรรมทายาทปิดเทอมนี้แต่ ป้าห้ามไม่ให้บวช เราควรทำอย่างไรครับ ................ เป็นกรรมอะไรรึเปล่าถึงมีคนห้าม
อยากรู้จริงๆครับ

#2 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 05:19 PM

อ้าว
แล้วมีคนอื่นที่อนุญาตให้เราบวชไหมล่ะคะ
ถ้ามีก็บวชได้ค่ะ

การถูกห้ามไม่ให้บวชก็มีได้หลายสาเหตุ ขอเดาเอานะคะ
1 ไปห้ามเขาไม่ให้บวช
2 ไปห้ามงานบวช
3 ไม่ยอมเป็นทายาทกับพระพุทธศาสนา

และอื่นๆอีกมาก

ไม่ควรไปคิดมากค่ะ เพราะเป็นกหนึ่งในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงบอกไว้ว่ากฎแห่งกรรมไม่ควรคิด จะทำให้เป็นบ้าได้
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#3 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 05:48 PM

ไม่เป็นไรนะคะ ทำใจใสๆ เข้าไว้ ที่เราเจอคนห้ามไว้แบบนี้ ในอดีตชาติ เราก็คงเคยไปทักท้วงคนที่เขากำลังจะบวชเช่นกัน หรือไม่เคยสนับสนุนให้คนบวช แต่ก็ไม่แน่อีกเช่นกัน อาจจะยังไม่ถึงเวลาของเรา ล๊อคบุญยังไม่มาน่ะค่ะ แต่อย่าคิดมากกังวลใจไปเลยค่ะ ทำใจเย็นๆ ใจใสๆ สั่งสมบุญและอธิษฐานจิตไปเรื่อยๆ นะคะเดี๋ยวก็จะได้อย่างหวังเองค่ะ

อายุเท่าไรแล้วคะ ถ้ายังไม่เคยบวชเลย ก็ลองค่อยๆ คุยกับป้าดู ใช้ไม้อ่อนดีกว่าไม้แข็งค่ะ ก่อนเข้าไปคุยกับคุณป้า ก็อย่าลืมนั่งธรรมะให้ใจใสๆก่อน อาราราธนาบารมีของหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ว่าลูกอยากจะทำพระนิพพานให้แจ้ง หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ช่วยด้วยเถิด

พอเข้าไปหาคุณป้า ก็อ้อนๆ เข้าหน่อย ยิ้มๆ เข้าไปกอดป้า กราบเท้าป้า ว่าผมอยากจะบวชครับ ว่านี่เป็นการบวชเพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อจะได้นำเอาพุทธวิธี หลักปฏิบัติแห่งการเป็นคนดีมีศีลธรรม มาใช้ ในชีวิตหลังจากบวชแล้ว การบวช เป็นการยกใจให้สูงขึ้น เป็นการทำความดี บวชแล้วก็ต้องสึกอยู่ดี ไม่ได้บวชแล้วบวชเลย (อย่าเพิ่งไปบอกล่ะ ว่าจะบวชไม่สึก ค่อยๆบวชวันต่อวัน ถ้าไม่อยากสึกก็ยืดไปเรื่อยๆ ก่อน) อีกอย่าง การบวช ก็ถือว่า ผู้ที่สนับสนุน จะได้บุญจากการบวชนี้ เหมือนเกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ด้วย

คนแก่ ต้องใช้ไม้อ่อนนะคะ อย่าไปใช้ไม้แข็งกับท่านนะคะ ไม่งั้นก็คงไม่สมปรารถนา จะเป็นบาปติดใจทั้งตัวคุณและตัวป้า อีกทั้งจะเป็นบาปติดตัวไปด้วยนะคะ

ขอให้สมปรารถนานะคะ

#4 ~ รั ก บุ ญ ~

~ รั ก บุ ญ ~
  • Members
  • 98 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand
  • Interests:^-^ กรุณา เผื่อแผ่ เหลียวแลเอื้อ ^-^<br />^-^หวังช่วยเหลือ เพื่อนยาก ลำบากขันธ์^-^<br />^-^เห็นเพื่อนทุกข์ ทุกข์ด้วย เข้าช่วยพลัน^-^<br />^-^ให้เพื่อนนั้น พ้นทุกข์ ได้สุขใจ ฯ^-^

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 07:06 PM

QUOTE
ตั้งใจจะบวชธรรมทายาทปิดเทอมนี้แต่ ป้าห้ามไม่ให้บวช เราควรทำอย่างไร

ตอบก่อนอื่นคุณพี่sumete_255 ต้องรู้สาเหตุที่คุณป้าของคุณพี่ไม่ให้บวชก่อน ถ้าสาเหตุเพราะคูณป้ายังไม่เข้าใจธรรมะหรือเรื่องการบวช คุณพี่ต้องหาโอกาสดีๆ ค่อยชี้แจงท่าน ให้ท่านทราบว่า การบวชนี้ บวชเพื่ออะไร บวชนี้ดีอย่างไร มีอานิสงส์อย่างไร แล้วมีเวลาดีๆ เมื่อไหร่อีก ก็ค่อยชี้แจ้งธรรมะต่างๆให้ท่านเข้าใจ พยายามหาโอกาสนำท่านมาวัด พยายามให้ท่านรู้คุณค่าของการบวช อาจจะต้องใช้เวลา แต่เราก็ต้องใจเย็นๆครับ ค่อยชี้แจ้งท่าน เวลาทำบุญทุกบุญก็อธิษฐานขอให้ท่านเข้าใจแล้วขอให้ได้บวช ผมว่าในที่สุดท่านก็ต้องเข้าใจครับ
QUOTE
เป็นกรรมอะไรรึเปล่าถึงมีคนห้าม อยากรู้จริงๆครับ

ตอบ ส่วนที่มีคนห้าม เกิดจากกรรมอะไรนั้น ผมไม่ขอตอบ เพราะผมยังไม่สามารถที่จะรู้บุพพกรรมของใครๆได้ แต่ขอยืนยันคำเดิม คือ พยายามพูดด้วยปิยวาจาใบหน้ายิ้มแย้มให้ท่านเข้าใจธรรมะและผลดีจากการบวชในเวลาที่เหมาะ แล้วเวลาทำบุญก็อธิษฐานขอให้ท่านเข้าใจธรรมะขอให้ท่านอนุญาต ขอให้เราได้บวช ผมว่าน่าจะได้ผลนะครับ อนุโมทนาบุญในความตั้งใจดีของพี่ครับ
******************************************************
ใ ค ร ช อ บ. . .ใ ค ร ชั ง. . .ช่ า ง เ ถิ ด
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .


#5 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 07:46 PM

อยากบวชแบบไหนหละครับ บวชตามประเพณี หรือจะบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง

ถ้าจะบวชจริงจังแนะนำให้ทำแบบพระพุทธเจ้าเราเลยครับ หนีบวชเลยอย่ากลัว หรือไม่คุณก็ไปพูดหน้าห้องนอนป้าคุณ แล้วพูดว่าผมขอไปบวชนะครับ ถ้าไม่คัดค้านเงียบหรือไม่ขานถือว่าอนุญาตนะครับ สาธุ....ป้าใจดีจังนอนแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย 5555 (กายละเอียดป้าได้ยินเห็นด้วยแล้วงั้นบวชได้เลยครับ หุหุหุ)

แต่ถ้าบวชช่วงปิดเทอม ??? ผมไม่สนับสนุนครับ แต่ถ้าบวชแล้วเจตนาบวชไม่สึกอันนี้นิยมเห็นด้วยครับ แต่ถ้าบวชแล้วเลวอันนี้นิมนต์ลาสึกไปเถอะครับ ถ้าบวชแล้วดีจะสึกทำไมหละครับ พระดีลาสิกขาหมดแล้วอายุพระศาสนาจะยั่งยืนได้อย่างไรครับ

***กันชายบวชสึก กันหญิงร้องไห้***
คติหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว

QUOTE
เป็นกรรมอะไรรึเปล่าถึงมีคนห้าม

ตอบ เป็นวัฎฎะจักรของโลกครับ การบวชคือการสวนอำนาจกิเลส ถ้ามัวรอขออนุญาตกิเลสชาตินี้หรือชาติหน้าก็ฝันไปเถอะครับว่าจะบรรลุมรรคผล เพราะมัวเกรงใจกิเลส กลัวกิเลสในตัวมันจะลำบาก กลัวกิเลสคนอื่นจะไม่พอใจ ดูพระพุทธเจ้าเราเถอะครับท่านคิดจะบวชถึงท่านจะมีสมบัติพระเจ้าแผ่นดิน มีเมีย มีลูก มีเบญจกามคุณพร้อม ถึงพญามารจะมาขวางท่านก็ไม่เกรงใจทั้งสิ้นครับสวนกระแสไปเลยครับ แม้แต่หลวงพ่อเราท่านก็ยังหนีบวชแต่วัยหนุ่มเลยครับพอเรียนจบปุ๊ปท่านก็หนีบวชเลยเหมือนกันครับ

อ้อขอฝากไว้อีกข้อหนึ่งนะครับ บวชแล้วต้องเรียนพระธรรมวินัยด้วยนะครับ อย่าดูเบาประมาทฝึกแต่สมาธิโดยละเลยพระธรรมวินัย การบวชโดยอ้างไม่รู้พระวินัยไม่มีครับ การผิดวินัยก็คือผิดสัจจะต่อพระพุทธเจ้าครับ การผิดสัจจต่อพระพุทธเจ้าย่อมมีโทษมากแน่ครับ ซึ่งจะส่งผลให้ต้องไปเสวยสุขในอเวจีมหานรกได้นะครับ ด้วยเป็นเป็นห่วงครับ

โมทธนาบุญในกุศลเจตนา ขออำนาจคุณพระพุทธเจ้าพระธรรมเจ้า พระอริยเจ้าทั้งหลายได้โปรดดลบันดาลให้คุณ sumete_255 สมปรารถนาได้บวชสมดังใจนะครับสาธุ

หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#6 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 09:47 PM

ขออนุโมทนาบุญกับผู้ตั้งใจจะบวชนะค่ะ

CODE
"แต่ถ้าบวชช่วงปิดเทอม ??? ผมไม่สนับสนุนครับ แต่ถ้าบวชแล้วเจตนาบวชไม่สึกอันนี้นิยมเห็นด้วยครับ แต่ถ้าบวชแล้วเลวอันนี้นิมนต์ลาสึกไปเถอะครับ ถ้าบวชแล้วดีจะสึกทำไมหละครับ พระดีลาสิกขาหมดแล้วอายุพระศาสนาจะยั่งยืนได้อย่างไรครับ"


แต่คิดว่าไม่ว่าจะบวชระยะสั้นหนือระยะยาวถ้ามีโอกาสก็ควรบวชเถอะค่ะ เห็นด้วยถ้าจะบวชไม่ว่ากรณีไหน แต่บวชแล้วตั้งใจศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ถ้ายังไม่พร้อมที่จะบวชตลอดชีวิต ก็สามารถนำธรรมะมาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ต่อทางโลกได้นะค่ะ

ค่อยๆคุยกับคุณป้านะค่ะ ทำใจใสๆ ขอให้คุณป้าเข้าใจและอนุญาตินะค่ะ

#7 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 March 2006 - 09:55 PM

ถ้าอยากบวชก็อย่ายอมแพ้ค่ะ มีคนอีกตั้งมาก (อย่างน้อยก็ครึ่งโลก) ที่ไม่มีโอกาสบวชค่ะ

#8 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 02:14 AM

ถ้าชาตินี้บวชสึก ชาติต่อๆ ไปก็ต้องบวชสึกอีก
เท่ากับแพ้มารทุกชาติไปครับ.....ผมเรียกการบวชแล้วสึกว่าเป็นการบวชแบบหัวเต่า เข้าๆ ออกๆ เอาดีไม่ได้จิตใจไม่หนักแน่น เบื่อทางโลกก็วิ่งหาทางธรรม เบื่อทางธรรมอยากจะชุ่มกิเลสต่อก็วิ่งเข้าหาทางโลกอีก อุปมาเหมือนคนเล่นโคลน เบื่อโคลนก็อาบน้ำ พอตัวสะอาดกลับจะโดดลงไปเล่นโคลนอีกนั่นแหละครับ แต่ถ้ากำลังใจยังไม่หนักแน่นมุ่งพระนิพพานจริงจะลาสิกขาก็ได้นะครับ อย่างน้อยก็ดีกว่าบวชไปแบบฝืนใจทนบวชในผ้าเหลืองครับ ออกๆ มาซะดีกว่าต้องทำผิดสิกขาบทครับได้บุญติดตัวบ้างดีกว่าได้บาปไปนรกครับ

****ต้องขออภัยจริงๆ ครับเพราะผมไม่สรรเสริญการบวชตามประเพณีครับ เพราะคำขอบวชบอกชัดว่า สพฺพทุกฺขนิสฺสรณ/ นิพฺพานสจฺฉิกรณตฺถาย/ แปลว่า ข้าพเจ้าขอบวชเพื่อกำจัดทุกข์ให้สิ้นเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง /ไม่มีท่อนใดเลยครับที่ระบุว่าข้าพเจ้าขอบวชตามประเพณี ขออภัยด้วยที่ขัดใจครับ****



หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#9 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 02:37 AM

การบวชไม่ว่าสั่นหรือยาวก็สามารถทำพระนิพานให้แจ้งได้เหมือนกันนะคะ แม้จะบวชวันเดียวแต่ตั้งใจทำพระนิพานให้แจ้งก็บุญมหาศาลแล้วคะ การที่ได้โอกาสเป็นพุทธบุตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น หรือเมื่อเป็นพระแท้ ก็เป็นการเติมบารมีให้กับตัวเองแล้วคะ เราต้องเริ่มตั้งผังคะ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่ผังบวชตลอดชีวิต แต่ก็ควรตั้งผังคะ บารมีเราจะค่อยๆเต็มบวกกับการอธิฐานจิตควบคู่ไปด้วย มีหลายคนนะคะที่ตอนแรกคิดจะบวชตามประเพณีแต่ พอบวชแล้วซึ้งในรสพระธรรมไม่สึกเลยก็เยอะคะ ให้โอกาสตัวเองเถอะคะ พยายามอธิบายให้คุณป้าเข้าใจว่าการบวชดีอย่างไร แล้วที่สำคัญที่สุดคือการอธิฐานจิตคะ ขอบารมีพระนิพาน หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ได้บวชคะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#10 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 06:50 AM

Don't give up be persistance...You have to to start with some thing...just keep on " nagging " It will pay off....If there is a will there is a way...Make merits and make a wish while you keep on asking.
Or as the last way out..." หนีบวช " ... how long you บวช is depending on your boon...but you have to start some where in order to be a monk your whole life...if not this life time...then the next...just take a day at the time...Good luck and Sathu kah! happy.gif
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#11 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 01:00 PM

จะบวชสั้น บวชยาวผมก็ว่าดีทั้งนั้นแหละครับ บางคนยังมีภาระกิจทางโลกเช่นเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือ มีครอบครัวแล้ว อันนี้ ก็คงต้องให้บวชระยะสั้นไป เพราะอย่างน้อยก็ได้เรียนรู้ชีวิตของนักบวช แม้จะเป็นช่วงสั้น เข้าใจข้อวัตรปฏิบัติของพระภิกษุ สามเณรมากขึ้น เป็นกุศลติดตัวไปบ้าง ให้เป็นเชื้อบุญได้มีโอกาสมีบวชยาวขึ้นในอนาคต พอลาสิกขาออกมาแล้วก็ทำหน้าที่เป็นธรรมทูต เอาความรู้ที่ได้ศึกษามาปฎิบัติและแนะนำคนอื่น ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะมาบวชยาวอันนี้ก็เป็นบุญเก่าของท่านตามมาทันครับ ก็ต้องสาธุด้วย

ส่วนการบวชยาวๆ เพื่อทำนิพพานให้แจ้งอันนี้ก็ยิ่งน่าสรรเสริญ เป็นการดำเนินชีวิตอันประเสริฐอย่างแท้จริง แต่การจะได้บวชยาวเช่นนี้ ก็คงต้องมีบุญบวชสั่งสมในอดีตไม่น้อยนะครับ เพราะชีวิตนักบวชไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คนที่ไม่ได้ศึกษาอย่างถ่องแท้มอง ต้องคนที่เคยบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติสมณะธรรมเท่านั้นถึงจะรู้ว่าชีวิตนักบวชนั้นไม่ง่ายเลย

แต่คนที่บวชได้แค่สั้นๆ ก็อย่าน้อยใจตนเองว่าได้บวชแค่นี้ แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ขอให้ตั้งใจศึกษาจริงๆ และถ้าศึกษาธรรมะอย่างตั้งใจแล้วจะทราบว่า เวลาบวชแม้สั้นๆ แต่ก็เป็นเวลาที่มีคุณค่าที่สุดในการเกิดมาเป็นมนุษย์ในภพชาตินี้เชียวนะครับ
ขนาดพระโพธิสัตว์ยังมีชาติหนึ่ง บวชๆ สึกๆ ตั้ง ๗ ครั้งเชียวนะครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#12 laity

laity
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 01:16 PM

ขออนุโมทนากับการตั้งใจบวชในครั้งนี้ และขอให้ได้บวชนะครับ

ผมก็เคยมีประสบการณ์จริง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อครั้งจะบวช บวชเพื่อแสวงหาตนเอง หาคำตอบบางอย่างของชีวิต ตอนนั้นผมบอกครอบครัวก่อนล่วงหน้าประมาณสี่เดือน พอจะบวชจริง มารเยอะมาก โอกาสงานดี ๆ เข้ามา มีอะไรดี ๆ หลาย ๆ อย่างมาหลอกล่อ และมีอุปสรรคมากมาย มีคนมากมายที่ทักท้วง

เพราะนี่คือบททดสอบความตั้งใจ มันจะผังสำเร็จนะครับ เพราะฉนั้นอย่ายอมแพ้นะครับ หลาย ๆ บทความข้างต้นที่บ่งบอกถึงเหตุแ่ห่งกรรมนั้น ถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงมัน เมื่อเรารู้เหตุแห่งกรรม เราย่อมรู้หนทางดับเหตุ หนทางดับเหตุคืออย่าให้กรรมมาเกิดได้อีก เช่นนี้ ต้องกระทำในวันนี้ เพื่อดับผลของวันพรุ่งนี้นะครับ คือต้องบวช และบวชอย่างตั้งใจขัดเกลาตนเอง มีนิพพานเป็นที่ตั้ง เท่านั้นนะครับ

ผมเองสุดท้ายตัดใจสิ่งที่มากระทบทุกอย่าง และผมก็ได้บวชธรรมทายาทรุ่นที่ 22 ได้โดยตลอด ผมบอกได้เลยว่า การตัดใจในครั้งนั้น มันเป็นประสบการณ์ชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผม จิตใจผม มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางคุณ และอย่าให้ความตั้งใจเปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา เพราะคุณไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร จงอยู่กับวันนี้.. ขอให้ประสบความสำเร็จในการบวชนะครับ

โตเกียว..ญี่ปุ่น
อย่าให้อุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางในชีวิตการสร้างบารมี และ
อย่าให้ความตั้งใจที่ดี เปลี่ยนแปลงไป กับกาลเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่า่วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เราอาจจะอยู่หรือตาย
สิ่งที่เอาไปได้มีแต่บุญกับบาปเท่านั้น ฉนั้น เราต้องอยู่กับวันนี้
วันที่เราบอกตัวเองว่า วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุด ในวันหนึ่งของชีวิตการสร้างบารมีของเรา

โอไดบะ
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

#13 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 03:54 PM

โอย อ่านความคิดเห็นข้างต้นทุกๆข้อความแล้วอยากบวชบ้างจัง แต่ด้อยโอกาส ขออนุโมทนาบุญไปก่อนแล้วกันคะ happy.gif
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#14 tee7323

tee7323
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 05:32 PM

[font=Arial][b][size=5][color=#CC33CC]ถ้ามีบุญยังไงก็ได้บวชแน่
เชื่อพี่ ซัมเมอร์นี้เลย

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  141_ss.jpg   3.86K   1 ดาวน์โหลด


#15 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 07:04 PM

กัลยาณมิตรท่านอื่นตอบกันไปหมดแล้ว สำหรับผมขอแนะนำว่า ถ้าหากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้สามารถบวชได้จริงๆ แล้วล่ะก็ ขอให้อยู่ในบุญให้มากที่สุดนะครับ แล้วอย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ให้เพียรหาบุญที่มีอานิสงส์มีกำลังส่งผลแรง อาทิ บุญสร้างองค์พระ แสนองค์ แสนปลื้ม บุญสร้างเสาแก้ว ๑,๓oo ต้น และบุญจักรแก้วบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ดวงที่ ๒ ครับ ซึ่งบุญทั้งหมดนี้สามารถทำได้จนกระทั่งถึง ๒๒ เมษายน ศกนี้นะครับ ขอกราบอนุโมทนาบุญต่อทุกท่านล่วงหน้าด้วยครับ สาธุ... สาธุ... สาธุ...

ป.ล. ทำบุญแล้วอย่าลืมอธิษฐานจิตตั้งผังบวชกำกับทุกครั้งด้วยล่ะ


#16 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 10:57 PM



เคยมีธรรมทายาทหลายท่าน อุปสรรคมากกว่านี้ ยังผ่านได้ด้วยดี
อยู่ที่คุณแหละ ว่าอยากบวชจริง หรือเปล่า ?

ถ้าอยากบวชจริงๆ ก็บวชเถิดครับ
การได้ร่วมงานบวช และการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของคุณ
ป้าจะเข้าใจ และดีใจ ในท้ายที่สุด
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#17 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 04 March 2006 - 11:17 AM

ใจเป็นธาตุสำเร็จค่ะ
อธิษฐานกำกับไปเลยค่ะ

ขอให้ได้บวช หรือไม่ก็คิดนำไปก่อนตอนที่เรา ได้ครองผ้ากาสาวพัตร์ แล้ว

จะได้เป็นผัง แล้วเดี๋ยววิธีการจะตามมาเองค่ะ

#18 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 06 March 2006 - 10:11 PM

QUOTE
ถ้าชาตินี้บวชสึก ชาติต่อๆ ไปก็ต้องบวชสึกอีก
เท่ากับแพ้มารทุกชาติไปครับ.....ผมเรียกการบวชแล้วสึกว่าเป็นการบวชแบบหัวเต่า เข้าๆ ออกๆ เอาดีไม่ได้จิตใจไม่หนักแน่น เบื่อทางโลกก็วิ่งหาทางธรรม เบื่อทางธรรมอยากจะชุ่มกิเลสต่อก็วิ่งเข้าหาทางโลกอีก อุปมาเหมือนคนเล่นโคลน เบื่อโคลนก็อาบน้ำ พอตัวสะอาดกลับจะโดดลงไปเล่นโคลนอีกนั่นแหละครับ แต่ถ้ากำลังใจยังไม่หนักแน่นมุ่งพระนิพพานจริงจะลาสิกขาก็ได้นะครับ อย่างน้อยก็ดีกว่าบวชไปแบบฝืนใจทนบวชในผ้าเหลืองครับ ออกๆ มาซะดีกว่าต้องทำผิดสิกขาบทครับได้บุญติดตัวบ้างดีกว่าได้บาปไปนรกครับ

****ต้องขออภัยจริงๆ ครับเพราะผมไม่สรรเสริญการบวชตามประเพณีครับ เพราะคำขอบวชบอกชัดว่า สพฺพทุกฺขนิสฺสรณ/ นิพฺพานสจฺฉิกรณตฺถาย/ แปลว่า ข้าพเจ้าขอบวชเพื่อกำจัดทุกข์ให้สิ้นเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง /ไม่มีท่อนใดเลยครับที่ระบุว่าข้าพเจ้าขอบวชตามประเพณี ขออภัยด้วยที่ขัดใจครับ****


พี่ใจเย็นๆดีกว่านะคะ
บางคนที่ไม่มีผังบวชนี่ บวชไม่ได้นะคะ มีไม่พอ ถึงเวลามันก็จะต้องมีเหตุให้สึก

อย่างบางชาติของพระพุทธเจ้าของเรา ท่านก็บวชๆสึกๆอยู่ตั้ง 6 ครั้ง มาครั้งสุดท้ายคิดได้ เลย บวชครั้งที่ 7 ไม่สึกอีกเลย เพราะเห็นภรรมานอนกลางวัน ไม่งาม เป็นยายปลาร้าค้างปี เลยเห็นความไม่งามของสังขารค่ะ

ส่วนการบวชตามประเพณีน่ะ มีอานิสงส์มากกว่าการบวชเพื่อลาภบุญอีกนะคะ
ไปที่สว่างมากๆ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#19 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 07 March 2006 - 03:16 AM

สาธุกับน้องวิวด้วยนะครับ พี่เกียรติก้องฯ ขอเสริมว่า ในชาตินั้น พระบรมโพธิสัตว์ทรงเสวยพระชาติเป็น "กุททาลบัณฑิต" (บัณฑิตจอบ####น) เรื่องราวมีอยู่ว่า

***ครั้งหนึ่งในอดีตกาล มีบุรุษผู้หนึ่งนามว่า กุททาลบัณฑิต พำนักอยู่ในกรุงพาราณสี บวชเป็นนักพรตนอกพระพุทธศาสนา อาศัยอยู่ ณ หิมวันตประเทศเป็นเวลา ๘ เดือน ครั้งถึงฤดูฝนแผ่นดินชุ่มชื้นเขาคิดว่า

"ในเรื่อนของเรามีข้าวฟ่างและลูกเดือยอย่างละครึ่งทะนาน กับจอบ####นอีกอันหนึ่ง เราพอทำการเพาะปลูกได้ อย่าให้ข้าวฟ่างและลูกเดือยต้องเสียไปเลย"

ดังนี้ แล้วสึกออกมาเพาะปลูก เมื่อเมล็ดพืชแก่ก็เก็บเกี่ยวแล้วเก็บไว้เพาะพันธุ์ทะนานหนึ่ง ที่เหลือได้นำไปบริโภค จากนั้นได้ออกบวชอีก ๘ เดือน เมื่อฤดูฝนมาถึงแผ่นดินชุ่มชื้นก็มีดำริเช่นนี้อีก และสึกอีก เป็นเช่นนี้อยู่ ๗ ครั้ง ในครั้งที่ ๗ เกิดสังเวชสลดใจ จึงดำริว่า เราควรทิ้งข้าวฟ่าง ลูกเดือย และจอบ####นในที่ใดที่หนึ่งอันจักหาไม่พบ เห็นว่าควรทิ้งในแม่น้ำคงคา แต่หากเห็นอยู่อาจลงงมเอาได้ในกาลภายหน้า จึงต้องทิ้งโดยวิธีที่จะไม่เห็นมันอีก จากนั้น จึงเอาผ้าห่อข้าวฟ่างและลูกเดือยแล้วเอาพันเข้ากับจอบ จับด้ามจอบเวียนขึ้นเหนือศีรษะสามรอบแล้วหลับตาเหวี่ยงทิ้งลงสู่แม่น้ำคงคา ครั้นลืมตาขึ้นเหลียวดูไม่เห็นที่ตก จึงเปล่งเสียงดังขึ้น ๒ ครั้งว่า

"เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว"

ขณะนั้น พระเจ้ากรุงพาราณสีได้เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการปราบกลุ่มชนปัจจันตชนบท ทรงมีพระราชบัญชาให้ไพร่พลปลูกค่ายที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา จากนั้นจึงเสด็จฯ ลงสู่แม่น้ำเพื่อสรงสนานพระวรกาย เมื่อได้ทรงสดับเสียงของบัณฑิตผู้นั้นแล้ว ไม่พอพระทัย จึงเสด็จฯ เข้าไปหากุททาลบัณฑิต ตรัสถามว่า

"เราพึ่งเสร็จสิ้นภาระกิจจากการย่ำยีศัตรูมาด้วยชัยชนะ ด้วยเข้าใจว่า เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว มาบัดนี้ ท่านกลับร้องว่า เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว หมายความว่ากระไร?"

กุททาลบัณฑิตทูลตอบว่า

"พระพุทธเจ้าข้า พระองค์ทรงชนะพวกโจรภายนอก ถึงกระนั้น ความชนะของพระองค์อาจกลับแพ้ได้ ส่วนข้าพระองค์ชนะโจรภายใน คือ กิเลส จักไม่กลับแพ้อีก ฉะนั้น การชนะโจรภายในย่อมดีกว่าการชนะโจรภายนอก"

ดังนี้แล้ว จึงกล่าวพระคาถาย้ำว่า

"ความชนะใดกลับแพ้ได้ ชัยชนะนั้นไม่ดี
ส่วนความชนะใดไม่กลับแพ้อีก ชัยชนะนั้นดี"

ขณะนั้นเอง พระบรมโพธิสัตว์ทรงมองดูแม่น้ำคงคา แล้วยังอาโปกสิณ (กสิณน้ำ) เป็นอารมณ์ให้เกิดขึ้นแล้ว จึงเหาะขึ้นสู่นภากาศ พระราชาทรงเลื่อมใสขอบรรพชาพร้อมทั้งไพร่พลของพระราชาอื่นๆ ในแคว้นใกล้เคียง ครั้นได้ทรงสดับถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ได้เสด็จฯ ออกทรงพระผนวชตามถึง ๗ พระองค์

ครั้นปัจฉิมกาลแห่งพระธรรมเทศนา พระบรมศาสดาทรงมีพุทธดำรัสว่า

"ดูกร! ภิกษุทั้งหลาย กุททาลบัณฑิตในกาลนั้น คือ เราตถาคต"


ที่มา : (วศิน อินทสระ. "จิตอันราคะไม่ซึมซาบ". ในทางแห่งความดี. เล่ม ๑. หน้า ๓๑๔-๓๑๖. กรุงเทพฯ : บรรณาคาร, ๒๕๓๓.)


#20 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 11:59 AM

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ...สาธุๆๆ