พระพุทธเจ้าต้นกัลป์และปลายกัลป์
#1
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 06:31 AM
และขึ้นอยู่ ช่วงเวลาที่จะมาตรัสรู้ว่าเป็นต้นกัลป์หรือปลายกัลป์ด้วย เช่นพระพทุธเจ้าของเราเกิดปลายกัลป์มนุษย์มีอายุแค่ 100 ปี
พระศรีอาร์ย เกิดต้นกัลป์ มนุษย์มีอายุถึง หนึ่งแสนปี
พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์สร้างบารมีต่างกันอย่างไร จึงมาเกิดต้นกัลป์
พระพทธเจ้าที่เกิดปลายกัลป์สร้างบารมีมาอย่างไร
พระชนมายุพระพุทธเจ้า ขึ้นอยู่กับบารมีใด เพราะแต่ละองค์สามารถล่วงรู้อายุขัยล่วงหน้าได้
ถ้าท่านเลือกได้คงอยากเกิดมาต้นกัลป์ใช่หรือไม่
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
#2
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 09:03 AM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#3
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 09:14 AM
( จะได้เอาตัวรอดได้ )
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#4 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 09:50 AM
#5
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 10:49 AM
แต่ถามว่าจำเป็นเสมอไปหรือไม่ว่าถ้าบำเพ็ญบารมีมาเยอะๆ เช่น พระศรีอาริยเมตตรัย 16 อสงไขยแสนมหากัปแล้วจะได้มีอายุยืน ข้อนี้คงไม่เสมอไปครับ เพราะยุคของพระพุทธเจ้าเราองค์ปัจจุบันพระโคดม พระศรีอาริย์ก็ยังลงมาเกิดเป็นพุทธสาวกได้รับพยากรณ์ซึ่งอายุก็อยู่ในเกณฑ์ปกติเหมือนกัน
ดังนั้นเรื่องบารมีมากหรือน้อยกับเรื่องอายุขัยจึงไม่เกี่ยวกันครับ แต่เป็นเรื่องของความเมตตาของพระบรมโพธิ์สัตว์ที่สงสารสัตว์ในยุคที่มีอายุขัยน้อยที่ไม่ค่อยได้ดีพระพุทธเจ้าลงมาบังเกิดโปรดเลยเพราะอายุขัยน้อย สัตว์ในยุคที่มีอายุไม่เกิน 100 หรือเกินนิดๆ นั้นพระโพธิสัตว์ได้ส่องพระญาณแล้วว่ามีอินทรีย์แก่กล้าพอที่จะบรรลุธรรมได้บ้าง แต่ถ้าไม่มีใครมาโปรดสัตว์ในยุคนี้ก็จะกลายเป็นอาภัพสัตว์ไปครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#6
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 11:29 AM
#7
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 12:20 PM
ไม่กล้าตอบ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 01:01 PM
#9
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 01:01 PM
ปลายกัลป์ และอายุขัย แต่ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน เมื่อสร้างบารมี
จนได้เป็น นิตยกะโพธิสัตว์แล้ว พระพุทธเจ้าองค์ก่อนจะทราบมาจากบารมีและกำหนด ระยะ
เวลามาตรัสรู้ ขนาดรูปร่าง ชื่อ ที่สถานที่ตรัสรู้เรียบร้อย อย่างเช่นพระพุทธเจ้าของเรา ได้รับ
พุทธพยากรณ์จาก พระทีปังกรพุทธเจ้า
ลองดูนะครับใครพอรู้ หรือขอความรู้จากผู้รู้ได้ ลองตอบดูนะครับเผื่อใครปรารถนา
พุทธภูมิและอยากเลือกเกิดตามใจตัวเองบ้าง ส่วนผมก็ตามหมู่คณะครับ
#10 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 04:56 PM
#11
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 05:24 PM
1. ไม่มากกว่า 1 แสนปีครับ เพราะถ้าอายุมนุษย์นานกว่านั้น มนุษย์จะสบายเกินไปและสอนยาก เช่น สอนละคนเราต้องแก่นะ ไม่จีรัง มนุษย์อาจจะเถียงว่า ผมอยู่มาแสนกว่าปีแล้วไม่เห็นแก่ตรงไหนเลย
2. ไม่น้อยกว่า 1 ร้อยปี เพราะถ้าอายุมนุษย์น้อยกว่า 100 ปี กิเลสมนุษย์นั้นจะกล้ามาก สอนอย่างไรก็ไม่ค่อยฟัง
แต่ถ้าอยู่ในช่วงระหว่าง 100 ถึง แสนปี ก็เลือกลงมาได้ตลอดครับ ที่นี่ถามว่า ท่านใดจะต้องมาตอนอายุมนุษย์อายุมาก ท่านมาตอนใดอายุน้อย ก็ต้องขึ้นกับว่า บารมีของท่านเต็มเปี่ยมในระดับอายุมนุษย์ขนาดไหน ท่านก็ลงมาในช่วงเวลานั้นแหละครับ ยกเว้นว่า ท่านใดสร้างบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว แต่ยังไม่อยากลงมา อยากสร้างบารมีต่อๆไปอีก ก็ต้องเป็นอนิยตโพธิสัตว์ครับ คือ ยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์ ถ้าได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว ก็เท่ากับเวลาได้ถูกกำหนดแน่นอนตายตัวไปแล้ว แปรผันเป็นอื่นไม่ได้ครับ
#12 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 07:09 PM
- พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ บังเกิดขึ้นได้ยากกว่า หรือไม่
- ถ้าบังเกิดยาก ใยต้องเลือกเกิดในช่วงอายุขัยมนุษย์ 100ปี ขณะพระองค์ที่อายุขัยหมื่นๆปีมักจะเป็นวิริยาธิกะ ซึ่งบางพระองค์เทศนาทุก 7ปี แต่พระสมณโคดมพระองค์นี้เทศนาวันละ 5รอบตามพุทธกิจ
- ถ้าพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ บังเกิดในยุคอายุขัยมนุษย์หมื่นๆปี น่าจะมีผู้บรรลุธรรมมากมายกว่านี้หรือไม่ น่าคิด ชวนให้คิดเองว่า........จะเกรงกลัวพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะมากเลย
ไม่รู้จะมีโอกาสทราบจากฝันในฝันหรือเปล่า
#13
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 07:33 PM
โมทนาบุญกับทุกท่านค่ะที่มาร่วมให้ความกระจ่าง
#14
โพสต์เมื่อ 23 March 2006 - 07:52 PM
- พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ บังเกิดขึ้นได้ยากกว่า หรือไม่
- ถ้าบังเกิดยาก ใยต้องเลือกเกิดในช่วงอายุขัยมนุษย์ 100ปี ขณะพระองค์ที่อายุขัยหมื่นๆปีมักจะเป็นวิริยาธิกะ ซึ่งบางพระองค์เทศนาทุก 7ปี แต่พระสมณโคดมพระองค์นี้เทศนาวันละ 5รอบตามพุทธกิจ
- ถ้าพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ บังเกิดในยุคอายุขัยมนุษย์หมื่นๆปี น่าจะมีผู้บรรลุธรรมมากมายกว่านี้หรือไม่ น่าคิด ชวนให้คิดเองว่า........จะเกรงกลัวพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะมากเลย
ไม่รู้จะมีโอกาสทราบจากฝันในฝันหรือเปล่า
จริงๆแล้วก็ไม่เกี่ยวกับความยากง่ายเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการสร้างบารมี (อย่างที่รู้ๆกัน)
ที่พระพุทธเจ้าองค์นี้เทศน์สอนวันละ 5 ครั้งเพาะ มีเวลาน้อยค่ะ แค่100ปีเองนะคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#15
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 02:27 AM
บังเกิดได้ยากมากครับ การสั่งสมบารมีสาเหตุที่เต็มไวเพราะทรงมีปัญญาแก่กล้าสะสมบารมีด้วยปัญญาจึงใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด
เป็นมหาเมตตาธิคุณของพระโพธิสัตว์งัยครับ เพราะทรงหยั่งพระญาณแล้วว่าในอดีตกาลสัตว์ที่มีอายุขัยน้อยขนาดนี้แม้จะมีความสามารถบรรลุธรรมได้แต่ก็จะไม่บังเกิดมีพระโพธิสัตว์ลงมาจุติเป็นพระพุทธเจ้า ถือเป็นช่วงอายุขัยที่น่าสงสารที่สุดครับ
ว่าง่ายๆ คือ สัตว์ที่เกิดในยุคนี้เพราะมีนิสัยดื้อสุดๆ เป็นพื้นฐาน ส่วนใหญ่มีทิฐิแรง ถ้าตกนรกก็ลงยาว ถ้ามุ่งบรรลุธรรมก็จะเป็นผู้ที่แน่วแน่เอาจริงไม่ถอนถอยแน่ เพราะสัตว์ที่เกิดในยุคนี้นั้น ล้วนแล้วแต่เคยบำเพ็ญบารมีมากันชนิดนับอสงไขยกัปไม่ถ้วนทีเดียวครับ ติดอยู่เพียงแค่ทำบาปมากกว่าบุญเท่านั้นด้วยความหลงผิด
และที่สำคัญคือ ปัญญาธิกพุทธเจ้านั้นมารเขากลัวนัก ดังนั้นมารเขาจึงต้องยำใหญ่พระโพธิสัตว์ที่เป็นปัญญาธิกะอย่างหนักเช่นกันครับ เช่น บังใจพระเจ้าสุทโธทนะให้สร้างปราสาท 3 ฤดู และจับแต่งงานแต่เยาว์วัยเพื่อจะให้ทรงเลิกคิดที่จะบวชแต่เนิ่นๆ กันคนแก่ คนเจ็บ คนตายไม่ให้พระองค์ทรงทราบว่ามีความทุกข์ในโลกนี้เพื่อจะได้ไม่ออกบวช หลอกให้ทำทุกขกิริยาแทบปางตาย เพิ่มภาระทางสงฆ์ให้ผิดพระวินัยปาราชิก สังฆาทิเสส ปาจิตตีย์ และอื่นๆ เพื่อให้พระองค์ไม่มีเวลาว่างไปรบกับเขาครับ และแม้ที่สุดทรงค้นพบวิชชาอิทธิบาทธรรม เพื่อที่จะมีพระชนมายุตลอดกัปหรือยิ่งกว่า ก็ยังดลใจให้พระอานนท์ไม่ทันทูลอาราธนาให้ทรงพระชนชีพอยู่ต่อ เพราะมารเขากลัวนักจึงต้องขัดขวางทุกรูปแบบนั่นเองครับ
ที่สุดของการโปรดสัตว์ก็คือการทำให้สัตว์โลกทั้งหลายละทิฐิชั่ว มาตั้งอยู่ในคุณงามความดี และมีพระนิพพานเป็นที่สุด ถ้าท่านบังเกิดในยุคที่มนุษย์อายุยืนมากๆ คนเหล่านั้นก็นับว่ามีคุณธรรมประจำใจสูงอยู่แล้ว เหลือเพียงอีกนิดก็จะบรรลุธรรม ถามว่าคนที่ดีอยู่แล้วบรรลุธรรมง่ายจะมีประโยชน์อะไรที่จะโปรดหละครับ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงคือการเอาชนะกิเลสมารในใจของสัตว์โลก ยิ่งยุคใดคนมีกิเลสหนาแต่สามารถโปรดให้กลับใจเป็นคนดีได้นั่นแหละครับเรียกว่า รื้อสัตว์ขนสัตว์ของจริงแหละครับ
อุปมาเหมือนตีรังโจรครับ ถ้าโจรกลับใจเป็นพระได้หละก็ถือว่าสันติสุขเริ่มอยู่ใกล้เข้ามาแล้วครับ
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#16
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 02:46 AM
พุทธกิจและพุทธจริยานั้น จัดเป็นส่วนหนึ่งของคำว่า ปยตฺต อันแปลว่า ความเพียรอันยังให้หมู่สัตว์ (เวไนยสัตว์) ได้รับประโยชน์ ซึ่งมีรายละเอียดที่สำคัญดังต่อไปนี้
หลังจากภัตตกิจในอรุณรุ่ง ทรงประทานพระบรมพุทโธวาทและทรงแนะนำกัมมัฏฐานตามสมควรแก่อัธยาศัยของพระภิกษุ จากนั้น ทรงประทัพักผ่อนชั่วครู่ แล้วจึงตรวจดูอุปนิสัยของเหล่าเวไนยนิกร ที่พระองค์สามารถที่จะอบรมสั่งสอนได้
บ่าย ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่ปวงชนที่มาจากทิศต่างๆ จากนั้น ทรงสรงสนานพระวรกายและประทับพักผ่อนพระอริยาบท
๑. ปุริมยาม คือ ช่วงระหว่าง ๖ โมงเย็นถึง ๔ ทุ่ม ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ให้กัมมัฏฐาน และทรงตอบข้อสงสัยแก่เหล่าภิกษุกระทั่งสิ้นปุริมยาม
๒. มัชฌิมยาม คือ ช่วงระหว่าง ๔ ทุ่มถึง ๒ ยาม ซึ่งเป็นเวลาที่เงียบสงัด ในกาลนี้ เหล่าเทพยดาและพรหมทั้งหลายจากหมื่นโลกธาตุ ต่างพากันมากราบถวายบังคมพระบรมศาสดา เพื่อทูลถามปัญหาบ้าง อาราธนาพระตถาคตเจ้าเพื่อแสดงธรรมบ้าง จวบจนสิ้นมัชฌิมยาม
๓. ปัจฉิมยาม คือ ช่วงระหว่าง ๒ ยาม ถึง ๖ โมงเช้า ในระยะนี้ ทรงแบ่งเวลาออกเป็น ๓ ระยะดังนี้คือ
ระยะที่หนึ่ง ทรงพระดำเนินจงกรมเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ๒o นาที
ระยะที่สอง ทรงเข้าที่บรรทมเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ๒o นาที
ระยะที่สาม ทรงพิจารณาหมู่สัตว์ทั้งหลายว่า เหล่าใดที่เป็นเวไนยสัตว์ อันมีอุปนิสัยที่จักสามารถบรรลุถึงซึ่งมรรคผล ตามสมควรแก่วาสนาและบารมีของตน เพื่อที่พระองค์จะได้โปรดและยังหมู่สัตว์เหล่านั้น ให้บรรลุธรรมาภิสมัยในโอกาสต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ถวิล วัติรางกูล. 2530. เราคือใคร. น. 287-288. โรงพิมพ์กรุงเทพ.
เรียบเรียงโดย : เกียรติก้องธรณินทร์
#17
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 07:43 AM
ขอบคุณครับได้รับความรู้เป็นธรรมทานเพิ่มอีกมากเลย ทดลองเรียบเรียงจากคำตอบแต่ละ
ท่านดูนะครับ ของคุณหัดฝัน และคุณ XLmen
พระพุทธเจ้าสามารถจะเลือกเกิดต้นกัปล์หรือปลายกัปล์ก็ได้ แต่อาศํยพระกรุณาธิคุณอยาก
ช่วยสัตว์โลกให้ได้มากที่สุด จึงเลือกช่วงที่เหมาะสมมาเกิดที่สุด เมื่อบารมีเต็มเปี่ยม
พระพุทธเจ้าองค์ก่อนจึงเป็นพี่เลี้ยงกำหนด เวลาที่ตรัสรู้ อายุขัย และสถานที่ให้
เหมือนธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบกันมา เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เช่นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ
ก็ให้มาเกิดปลายกัลป์เพราะมนุษย์กิเลสหนาสอนยากหน่อยและมารก็ขัดขวางมากเป็นพิเศษ
เพราะต้องการสูบลงนรกให้ลึกที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้ปัญญามากเป็นพิเศษ (โจทย์ยากขึ้น)
แต่อายุมนุษย์ต้องอยู่ในช่วงอายุ 100 ปี ถึง 100000 ปี เป็นเกณฑ์เท่านั้น เพราะ
มากหรือน้อยกว่านี้แล้ว ก็สอนยากเกินไป
ถ้าให้เลือกมากเกิดได้ใคร ๆ ก็อยากมาต้นกัลป์เพราะมนุษย์มีคุณธรรมสูงอยู่แล้ว แต่
ว่าคนเก่งก็คงต้องเลือกงานที่ยาก ๆ ให้เหมาะกับฝีมือ
สาธุ ๆๆ เข้าใจแล้วครับ
#18
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 12:27 PM
1. พระปัญญาธิกะ หมายถึง ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า แบบอยากหมดกิเลสโดยเร็ว มีพระกรุณาในระดับหนึ่ง
2. พระศรัทธาธิกะ หมายถึง ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า แบบมีพระกรุณามากขึ้นมา ก็จะใช้เวลานานกว่าพระปัญญาธิกะ ในการหมดกิเลส
3. พระวิริยะธิกะ หมายถึง ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า แบบมีพระกรุณามาก ใช้เวลานานกว่าก็จะหมดกิเลส เพราะต้องการรวมทีมสร้างบารมีให้มากๆ จึงสร้างนาน
#19
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 03:26 PM
#20
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 06:31 PM
2. พระศรัทธาธิกะ หมายถึง ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า แบบมีพระกรุณามากขึ้นมา ก็จะใช้เวลานานกว่าพระปัญญาธิกะ ในการหมดกิเลส
3. พระวิริยะธิกะ หมายถึง ผู้ที่สร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า แบบมีพระกรุณามาก ใช้เวลานานกว่าก็จะหมดกิเลส เพราะต้องการรวมทีมสร้างบารมีให้มากๆ จึงสร้างนาน
ขออรรถถาธิบายขยายความต่อจากพี่หัดฝันดังนี้ครับ
๑. พระปัญญาธิกพุทธเจ้า ในขณะเสวยพระชาติเป็นพระบรมโพธิสัตว์ เรียกว่า "อุคฆฏิตัญญูโพธิสัตว์" ซึ่งเปรียบได้กับ "บัวพ้นน้ำ"
๒. พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า ในขณะเสวยพระชาติเป็นพระบรมโพธิสัตว์ เรียกว่า "วิปจิตตัญญูโพธิสัตว์" ซึ่งเปรียบได้กับ "บัวปริ่มน้ำ"
๓. พระวิริยาธิกพุทธเจ้า ในขณะเสวยพระชาติเป็นพระบรมโพธิสัตว์ เรียกว่า "เนยยโพธิสัตว์" ซึ่งเปรียบได้กับ "บัวตูมที่พร้อมเบ่งบานในกาลภายหน้า"
#21 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 24 March 2006 - 10:14 PM
- พระพุทธเจ้ามังคละ ผู้มีรัศมีสว่างตลอดหมื่นโลกธาตุในสภาวะปกติ
- พระปทุมมุตระพุทธเจ้า มีดอกบัวแดงบังเกิด
กำลังสนใจว่าพระสมณโคดม มีสิ่งนี้บังเกิดกับพระองค์หรือไม่
#22
โพสต์เมื่อ 25 March 2006 - 02:57 AM
เอ พระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย มีการอ้างอิงไว้บ้างไหมครับผม สักวันหนึ่งหรือภพชาติหนึ่ง เรา ๆ ท่าน ๆ ต้องได้ทราบทั่วกันเป็นแน่ ไปล่ะหนา ใจใส ๆ ทุกท่านน่ะครับ
#23
โพสต์เมื่อ 25 March 2006 - 04:19 PM
และตอบความคิดที่ 22 ส่วนเรื่องของการสิ้นสุดแห่งสังสารวัฏ เสียดายที่คัมภีร์ของฝ่ายเถรวาทไม่ได้มีระบุไว้น่ะครับ มิฉะนั้นก็มันส์แน่นอน ความรู้ของหลวงปู่วัดปากน้ำ ย่อมจะไม่ถูกคนบางส่วนเข้าใจผิดขนาดนี้หรอก
#24 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 25 March 2006 - 09:09 PM
ไปรู้อจินไตยกันเสียแล้ว
#25
โพสต์เมื่อ 26 March 2006 - 02:59 AM
ก็มาจากพระไตรปิฏกคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่เรื่องลึกลับอะไร
หลังจากมีหลาย ๆ ท่านมาแสดงธรรมให้ ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า
ปัญญาธิกะ ซึ่งนับว่าเป็นเลิศเพราะใช้เวลาเพียง 80 พรรษา ก็สามารถแสดงธรรมได้ครบทุก
แง่ทุกมุม รวมถึงวิชชาธรรมกายด้วย ( ซึ่งสูญหายไป ) เพราะมีหลายตอนในพระไตรปิฏก
กล่าวถึงธรรมกายเอาไว้ และการเข้าถึงธรรมซึ่งเป็นทางสายกลางนั่นคือแนวทางเดินของ
วิชชาธรรมกายนั่นเอง
ความเป็นเลิศของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนั่นคือปัญญานั่นเอง
#26
โพสต์เมื่อ 27 March 2006 - 11:54 AM
#27
โพสต์เมื่อ 29 March 2006 - 04:13 PM
เรื่องที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน..ได้รับคำทำนายไว้จากพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
ว่าตั้งแต่ยังไม่ได้รับคำทำนายว่าเป็นพระพุทธเจ้าจนได้รับคำทำนายอ่านแล้ว
ผมว่าคุณจะได้รับ...อะไรมากกว่าที่คุณถามครับ..อย่างน้อยก็จะมีพระพุทธเจ้า
เป็นอารมณ์ไว้ปฏิบัติสมาธิได้ระดับหนึ่งครับ...
#28
โพสต์เมื่อ 26 January 2007 - 02:07 PM