กายละเอียดหน้าตาเหมือนตัวเรา??...แล้วถ้าเป็นสัตว์อื่น ๆ ล่ะครับ กุ้ง หอย ปู ปลา ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ หน้าตาจะเป็นยังไง??...เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร? หรือผมเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ผู้รู้ช่วยตอบหน่อยพอเป็นกระสัยนะครับ..
กายละเอียด???
เริ่มโดย r_olygold, Apr 15 2006 11:08 PM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 15 April 2006 - 11:08 PM
#2
โพสต์เมื่อ 16 April 2006 - 10:01 AM
กานละเอียดสัตว์เดียรัจฉานทุกประเภทครับ กายละเอียดของเค้าจะเหมือนกายมนุษย์ละเอียดเหมือนๆอย่างเรานี่แหละครับ แต่ว่ากายหยาบของเค้าถูกห่อหุ้มด้วย Uniform อื่นที่ไม่ใช่กายมนุษย์นี่แหละครับ
#3
โพสต์เมื่อ 16 April 2006 - 12:51 PM
อย่างที่คุณ kran นั่นแหละใช่เลย...
#4
โพสต์เมื่อ 16 April 2006 - 02:01 PM
QUOTE
กายละเอียดหน้าตาเหมือนตัวเรา??...แล้วถ้าเป็นสัตว์อื่น ๆ ล่ะครับ กุ้ง หอย ปู ปลา ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ หน้าตาจะเป็นยังไง??...เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร? หรือผมเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า?
กายกับใจมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันครับ ถ้าจิตเป็นบุญกุศลระดับศีล 5 กายในกายที่เป็นกายมนุษยธรรมละเอียดก็จะปรากฎรองรับ แต่ถ้าเมื่อใดจิตเป็นฌานสมาธิกายในกายที่เป็นพรหมธรรม ก็จะปรากฎบังเกิดขึ้นเพื่อรองรับ เช่นกันถ้าจิตเป็นมิจฉาทิฐิ หรือจิตเป็นบาปด้วยความโลภ กายในกายก็จะบังเกิดกายที่เป็นทุคติกว่ากายมนุษย์ละเอียดเช่น กายสัตว์เดียรัจฉาน กายเปรต กายอสุรกาย กายสัตว์นรก บังเกิดขึ้นรองรับเช่นกันครับ
ดังนั้น กุ้ง หอย ปู ปลา ช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ ที่ถามมาว่ากายในกายหน้าตาเป็นอย่างไร? ก็ต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับจิตของสัตว์นั้นๆ ว่าจะหมดบาปในจิตไปได้มากน้อยเพียงใดถ้าจิตเป็นบาปอยู่มาก กายในกายที่เป็นกายทุคติ คือ กายสัตว์ก็ยังคงจะปรากฎอยู่ จนกว่าสัตว์ชนิดนั้นจะหมดกรรมที่จะทำให้เกิดเป็นสัตว์และบังเกิดกายมนุษย์ละเอียดนั่นแหละจึงจะสามารถมาบังเกิดเป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรมระดับมนุษยธรรมได้ครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 10:46 AM
เรื่องกายละเอียดขอองสัตว์อื่นนั้น ตั้งแต่กายฝันเขาเป็นมนุษย์นะครับ และเขาก็มีกายหลัก18 กายเหมือนเรา เพียงแต่กายหยาบเป็นสัตว์เดรัชฉานกายเดียวเพราะเกิดจากบาปเวรที่ทำไว้ มดตัวหนึ่ง ช้างตัวหนึ่ง ตั้งแต่กายฝันเขาก็เป็นคนเหมือนเรา หมาฝรั่งกายฝันก็หน้าตาเป็นคนฝรั่ง หมาจีนกายฝันก็เป็นคนจีน เรื่องกายในกายนี่ถ้าเราสามารถไปรู้ไปเห็น เราจะหมดข้อสงสัยเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เพราะแม้แต่หนอนก็เคยเป็นคนมาก่อน เพราะพอเราดูกายในกายเขากายฝันเขาก็เป็นคนเหมือนเรา แต่อยู่ในสภาพขุ่นมัวสกปรกไม่ขาวใสเท่ามนุษย์อย่างเราๆ นี่ก็มีเหตุมาจากดวงบาปให้ผลนั่นเอง
#6
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 10:52 AM
QUOTE
เรื่องกายละเอียดของสัตว์อื่นนั้น ตั้งแต่กายฝันเขาเป็นมนุษย์นะครับ และเขาก็มีกายหลัก18 กายเหมือนเรา เพียงแต่กายหยาบเป็นสัตว์เดรัชฉานกายเดียวเพราะเกิดจากบาปเวรที่ทำไว้ มดตัวหนึ่ง ช้างตัวหนึ่ง ตั้งแต่กายฝันเขาก็เป็นคนเหมือนเรา หมาฝรั่งกายฝันก็หน้าตาเป็นคนฝรั่ง หมาจีนกายฝันก็เป็นคนจีน เรื่องกายในกายนี่ถ้าเราสามารถไปรู้ไปเห็น เราจะหมดข้อสงสัยเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เพราะแม้แต่หนอนก็เคยเป็นคนมาก่อน เพราะพอเราดูกายในกายเขากายฝันเขาก็เป็นคนเหมือนเรา แต่อยู่ในสภาพขุ่นมัวสกปรกไม่ขาวใสเท่ามนุษย์อย่างเราๆ นี่ ก็มีเหตุมาจากดวงบาปให้ผลนั่นเอง
เหมือนกับที่หลวงปู่สดท่านเทศน์ไว้เลยครับ
"สัตว์เดรัจฉานน่ะเป็นแต่กายข้างนอก กายข้างในน่ะ เป็นกายมนุษย์ละเอียดแท้ๆ"
#7
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 12:45 PM
กายในกายมีลึกเข้าไปเป็นชั้นๆ สัตว์ทุกชนิดก็มี 18 กายปฐมข้อนี้ย่อมต้องเป็นปกติอยู่แล้วเพียงแต่กายทุคติใหม่
จะบังเกิดขึ้นเพื่อรองรับสัตว์ให้ตกไปในอบายด้วยระดับบาปอกุศลที่แต่ละคนกระทำมาดังนั้น
เปรตก็มีกายทุคติไม่งดงามดูไม่เหมือนมนุษย์ สัตว์ในนรกบ้างก็มีหัวเป็นหมูตัวเป็นคน หัวเป็นคนตัวเป็นหมู
แต่ถ้าถามว่าลึกเข้าไปในกายสัตว์ทุคติเหล่านั้นมีกายมนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหม กายธรรมต่างๆ หรือไม่
ก็ต้องตอบว่ามีเหมือนๆ กันหมด
ถ้าใครเคยเห็นหมาฝันจะทราบได้ดีว่ากายฝันของหมาเวลาเขาวิ่งเล่น ขาตะกุยๆ หนะกายฝันหมาเขาเป็นกายมนุษย์
หรือเป็นกายฝันหมากันแน่ ดังนั้นถ้าจะให้แน่มี 2 วิธีคือ ลองเป็นหมาดูเอง กับทำวิชชาให้ถึงของจริงประเภทเห็นจริงบ้าง
ไม่จริงบ้างรู้ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ต้องยึดหลักวิชชาของพระพุทธเจ้าเป็นแกนนำหละครับ
ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำชั่วได้กายชั่ว ทำดีได้กายดี จิตเป็นบาปกายทุคติก็ต้องรองรับแม้ยังไม่ตายกายทุคติก็เกิดรองรับแล้ว
จิตเป็นบุญแม้ยังไม่ตายกายสุคติก็เกิดรองรับแล้ว จิตบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสแม้ยังไม่ตายกายที่บริสุทธิ์ละเอียดเป็นธรรมก็รองรับแล้ว
จะบังเกิดขึ้นเพื่อรองรับสัตว์ให้ตกไปในอบายด้วยระดับบาปอกุศลที่แต่ละคนกระทำมาดังนั้น
เปรตก็มีกายทุคติไม่งดงามดูไม่เหมือนมนุษย์ สัตว์ในนรกบ้างก็มีหัวเป็นหมูตัวเป็นคน หัวเป็นคนตัวเป็นหมู
แต่ถ้าถามว่าลึกเข้าไปในกายสัตว์ทุคติเหล่านั้นมีกายมนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหม กายธรรมต่างๆ หรือไม่
ก็ต้องตอบว่ามีเหมือนๆ กันหมด
ถ้าใครเคยเห็นหมาฝันจะทราบได้ดีว่ากายฝันของหมาเวลาเขาวิ่งเล่น ขาตะกุยๆ หนะกายฝันหมาเขาเป็นกายมนุษย์
หรือเป็นกายฝันหมากันแน่ ดังนั้นถ้าจะให้แน่มี 2 วิธีคือ ลองเป็นหมาดูเอง กับทำวิชชาให้ถึงของจริงประเภทเห็นจริงบ้าง
ไม่จริงบ้างรู้ถูกบ้างผิดบ้าง ก็ต้องยึดหลักวิชชาของพระพุทธเจ้าเป็นแกนนำหละครับ
ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทำชั่วได้กายชั่ว ทำดีได้กายดี จิตเป็นบาปกายทุคติก็ต้องรองรับแม้ยังไม่ตายกายทุคติก็เกิดรองรับแล้ว
จิตเป็นบุญแม้ยังไม่ตายกายสุคติก็เกิดรองรับแล้ว จิตบริสุทธิ์ปราศจากกิเลสแม้ยังไม่ตายกายที่บริสุทธิ์ละเอียดเป็นธรรมก็รองรับแล้ว
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#8
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 04:50 PM
เรื่องกายในกาย กายซ้อนกายนั้นละเอียดพอสมควรอยู่ อย่างเช่นเมื่อเราตาย กายฝันทำหน้าที่ทันทีคือทำหน้าที่รับช่วงต่อจากกายมนุษย์หยาบทันที ถ้าเราทำบุญไว้เยอะกายฝันเขาไปอยู่บนสวรรค์ เปลี่ยนจากกายฝันเป็นกายทิพย์ทันที โดยกายฝันก็ซ้อนอยู่ในดวงธรรมของกายทิพย์ เพราะบนสวรรค์เราอยู่ด้วยกายทิพย์ กรณีเดียวกัน เมื่อเราตาย โดยที่เราทำบาปมามาก กายฝันเปลี่ยนสภาพทันที จากกายฝันปกติเมื่อดวงบาปหุ้มเคลือบก็เปลี่ยนเป็นกายสัตว์นรกเลยทีเดียวคือกายฝันเปลี่ยนสภาพตามอำนาจของบาปที่ทำไว้ จะเป็นสัตว์นรกแบบใดก็ได้ ท่อนบนเป็นคนท่อนล่างเป็นสัตว์ มีหัวเป็นสัตว์ตัวเป็นคน ฯลฯ ได้หมด นั่นเป็นเพราะดวงบาปทำให้กายฝันที่เป็นมนุษย์ต้องเปลี่ยนแปลงไป แต่ถ้าเราเข้าใจเรื่องกายในกาย กายซ้อนกายดีเราจะทราบว่า กายฝันไม่ได้มีกายเดียว กายหลักกายหนึ่งๆ เช่น กายฝัน ก็มีกายฝันในกายฝัน ไปจนสุดหยาบสุดละเอียดไม่สิ้นสุด กายฝันกายแรกเป็นสัตว์นรก กายฝันกายต่อไปก็มาทำหน้าที่แทนคือกายต่อไปเขาก็เป็นกายฝันที่เป็นมนุษย์ปกติแต่กายไม่ขาวใสเท่าใดนัก
ส่วนเรื่องสัตว์เดรัชฉาน เวลาฝันเราก็คิดว่า หมาก็คงจะฝันว่าตนเองเป็นหมา แล้วคงฝันเป็นเรื่องเป็นราวของหมามัน ซึ่งตรงนี้มันขบเหลี่ยมกันอยู่ เพราะแม้แต่เราเป็นคนเวลาฝันนั้นเราไม่ได้ใช้กายฝันแบบที่เห็นตอนเดินวิชชา 18 กาย แต่กายฝันที่เราเห็นตอนฝันเป็นกายที่สัมพันธ์กับสัญญาในปัจจุบันชาติด้วย ปัจจุบันเป็นเช่นไรกายฝันก็แสดงบทบาทไปและส่วนใหญ่ไหลเป็นตามอารมณ์ของกิเลสจึงไม่แปลกที่กายฝันในขณะฝันจึงเชื่อถืออะไรไม่ได้ ส่วนหมาเวลาฝันก็อาจจะมีอารมณ์ใจแบบหมา มีความรู้สึกแบบหมาเพราะกิเลสและดวงบาปที่เป็นฐานของอารมณ์มันพาไป แต่กายฝันที่เรียกว่ากายในกายเมื่อเราเห็นต้องเห็นที่ศูนย์กลางกาย และกายนั้นใสเป็นแก้ว เรียกอีกอย่างว่ากายมนุษย์ละเอียด(หลวงพ่อก็เขียนไว้ชัดแล้วว่ากายฝันคือกายมนุษย์ละเอียด เป็นชื่อเดียวกันเป็นกายเดียวกัน) กายนี้เชื่อถือได้ พูดคุยด้วยได้ สรุปง่ายๆ กายฝันที่เราเห็นเวลาฝันนั้นไม่ขาวใสเพราะถูกกิเลสและอารมณ์ใจในช่วงเวลาหนึ่งๆ หุ้มไว้จะฟุ้งเชื่อไม่ได้ แต่กายฝันที่แท้จริงในตอนเดินวิชชาเราต้องเห็นที่ศูนย์กลางกายและต้องทำให้ใสจึงจะใช้การได้
จึงยืนยันแบบเดิมว่า กายในกายของสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็น สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัชฉาน มีกายละเอียดตั้งแต่กายฝันเป็นมนุษย์ ไล่ไปจนครบทั้ง 18 กายหลักตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอน เพียงแต่กายแรกจะเป็นแบบใดก็ได้ตามอำนาจของบุญและบาปจะตกแต่งให้ กรณีเดียวกัน ถ้าเราเป็นเทวดา พรหม อรูปพรหม เราก็มีกายในกายซ้อนอยู่ครบตั้งแต่กายฝันเพียงแต่ว่าถ้าเราเป็นอรูปพรหม เราก็จะมีกายฝันซ้อนอยู่ในกายทิพย์ กายทิพย์ซ้อนอยู้ในกายรูปพรหม กายรูปพรหมซ้อนอยู่ในกายอรูปพรหม ต่อจากกายอรูปพพรหมก็เป็นกายธรรม เป็นเช่นนี้ลำดับไปทั้งกายหยาบกายละเอียด แต่ดวงบุญทำให้เราตายแล้วไปอยู่บนอรูปภพ(ด้วยอำนาจของอรูปฌาณ) เราก็ใช้กายอรูปพรหมเป็นกายประจำภพไป เป็นตัวละครสวมบทบาทอรูปพรหมกันไป แต่กายอื่นๆ เขาก็ซ้อนอยู่ข้างในไม่ได้หายไปไหน สุดแต่ว่าฉากนี้ดวงบุญดวงบาปให้เราแสดงเป็นอะไร สวมบทบาทเป็นใคร
สัตว์โลกเมื่อตายลงแล้ว กายมนุษย์หยาบกายเดียวที่หายไปเพราะเน่าเปื่อยผุพังไป แต่ใช่ว่าไม่มีเชื้อกายมนุษย์หยาบอยู่อีกเลย ก่อนที่กายมนุษย์หยาบจะตายระหว่างนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนถ่ายขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ของกายมนุษย์หยาบก็จะถูกถ่ายเก็บไว้ในกายมนุษย์ละเอียด(กายฝัน) ส่วนกายหยาบของกายมนุษย์ก็เน่าเปื่อยไป แต่ขันธ์ 5 ถูกเก็บเอาไว้เพื่อเป็นเชื้อในเวลามาเกิดอีก ตรงนี้ให้ไปศึกษาดูในตำรามรรคผลพิสดารเรื่องขันธ์ 5 ซ้อนขันธ์ 5 ดู เพราะเรื่องผังชีวิตนั้นละเอียดพิสดารยิ่งนัก วิชชาธรรมกายนี่แหละที่ทำให้เราเข้าใจการเวียนว่ายได้อย่างละเอียดและชัดเจน ก็ด้วยรู้และญาณทัสสนะของพระธรรมกายนั่นเอง
ส่วนเรื่องสัตว์เดรัชฉาน เวลาฝันเราก็คิดว่า หมาก็คงจะฝันว่าตนเองเป็นหมา แล้วคงฝันเป็นเรื่องเป็นราวของหมามัน ซึ่งตรงนี้มันขบเหลี่ยมกันอยู่ เพราะแม้แต่เราเป็นคนเวลาฝันนั้นเราไม่ได้ใช้กายฝันแบบที่เห็นตอนเดินวิชชา 18 กาย แต่กายฝันที่เราเห็นตอนฝันเป็นกายที่สัมพันธ์กับสัญญาในปัจจุบันชาติด้วย ปัจจุบันเป็นเช่นไรกายฝันก็แสดงบทบาทไปและส่วนใหญ่ไหลเป็นตามอารมณ์ของกิเลสจึงไม่แปลกที่กายฝันในขณะฝันจึงเชื่อถืออะไรไม่ได้ ส่วนหมาเวลาฝันก็อาจจะมีอารมณ์ใจแบบหมา มีความรู้สึกแบบหมาเพราะกิเลสและดวงบาปที่เป็นฐานของอารมณ์มันพาไป แต่กายฝันที่เรียกว่ากายในกายเมื่อเราเห็นต้องเห็นที่ศูนย์กลางกาย และกายนั้นใสเป็นแก้ว เรียกอีกอย่างว่ากายมนุษย์ละเอียด(หลวงพ่อก็เขียนไว้ชัดแล้วว่ากายฝันคือกายมนุษย์ละเอียด เป็นชื่อเดียวกันเป็นกายเดียวกัน) กายนี้เชื่อถือได้ พูดคุยด้วยได้ สรุปง่ายๆ กายฝันที่เราเห็นเวลาฝันนั้นไม่ขาวใสเพราะถูกกิเลสและอารมณ์ใจในช่วงเวลาหนึ่งๆ หุ้มไว้จะฟุ้งเชื่อไม่ได้ แต่กายฝันที่แท้จริงในตอนเดินวิชชาเราต้องเห็นที่ศูนย์กลางกายและต้องทำให้ใสจึงจะใช้การได้
จึงยืนยันแบบเดิมว่า กายในกายของสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็น สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัชฉาน มีกายละเอียดตั้งแต่กายฝันเป็นมนุษย์ ไล่ไปจนครบทั้ง 18 กายหลักตามที่หลวงพ่อวัดปากน้ำสอน เพียงแต่กายแรกจะเป็นแบบใดก็ได้ตามอำนาจของบุญและบาปจะตกแต่งให้ กรณีเดียวกัน ถ้าเราเป็นเทวดา พรหม อรูปพรหม เราก็มีกายในกายซ้อนอยู่ครบตั้งแต่กายฝันเพียงแต่ว่าถ้าเราเป็นอรูปพรหม เราก็จะมีกายฝันซ้อนอยู่ในกายทิพย์ กายทิพย์ซ้อนอยู้ในกายรูปพรหม กายรูปพรหมซ้อนอยู่ในกายอรูปพรหม ต่อจากกายอรูปพพรหมก็เป็นกายธรรม เป็นเช่นนี้ลำดับไปทั้งกายหยาบกายละเอียด แต่ดวงบุญทำให้เราตายแล้วไปอยู่บนอรูปภพ(ด้วยอำนาจของอรูปฌาณ) เราก็ใช้กายอรูปพรหมเป็นกายประจำภพไป เป็นตัวละครสวมบทบาทอรูปพรหมกันไป แต่กายอื่นๆ เขาก็ซ้อนอยู่ข้างในไม่ได้หายไปไหน สุดแต่ว่าฉากนี้ดวงบุญดวงบาปให้เราแสดงเป็นอะไร สวมบทบาทเป็นใคร
สัตว์โลกเมื่อตายลงแล้ว กายมนุษย์หยาบกายเดียวที่หายไปเพราะเน่าเปื่อยผุพังไป แต่ใช่ว่าไม่มีเชื้อกายมนุษย์หยาบอยู่อีกเลย ก่อนที่กายมนุษย์หยาบจะตายระหว่างนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนถ่ายขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ของกายมนุษย์หยาบก็จะถูกถ่ายเก็บไว้ในกายมนุษย์ละเอียด(กายฝัน) ส่วนกายหยาบของกายมนุษย์ก็เน่าเปื่อยไป แต่ขันธ์ 5 ถูกเก็บเอาไว้เพื่อเป็นเชื้อในเวลามาเกิดอีก ตรงนี้ให้ไปศึกษาดูในตำรามรรคผลพิสดารเรื่องขันธ์ 5 ซ้อนขันธ์ 5 ดู เพราะเรื่องผังชีวิตนั้นละเอียดพิสดารยิ่งนัก วิชชาธรรมกายนี่แหละที่ทำให้เราเข้าใจการเวียนว่ายได้อย่างละเอียดและชัดเจน ก็ด้วยรู้และญาณทัสสนะของพระธรรมกายนั่นเอง
#9
โพสต์เมื่อ 14 February 2007 - 11:18 AM
กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ ถ้างั้นถ้ามีใครไปเผารังมดคันไฟ ในยมโลกคงมีกายละเอียดของมด แต่รูปร่างหน้าตาเป็นกายมนุษย์ละเอียด ยิ่งแมลงอีก แมงเม่าบินเล่นไฟคืนนึงมาก ถ้านับเป็นคนจริง ๆ ตาย ก็สงครามกลางเมืองขนาดย่อม ๆ เลยนะครับ แน่นไปหมดเลยในยมโลก