ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

นิพพาน


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 12:33 PM

อยากทราบว่านิพพานคืออะไร อยู่ที่ไหน ครับคนที่ไปเเล้วยังมีกายละเอียดอยู่หรือไม่ครับ

ผมเข้าวัดมาได้ไม่นานยังรู้น้อยครับ
ขอโทษที่คำถามของผมอาจดูไม่เข้าท่าครับ

ขอบคุณครับ

#2 JOYSA

JOYSA
  • Members
  • 234 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 12:40 PM

QUOTE
อยากทราบว่านิพพานคืออะไร



นิพพาน



เมื่อกล่าวถึง "นิพพาน" ไม่ใคร่มีใครจะอยากตอบ อยากอธิบาย มากนัก เพราะจะรู้สึกว่า เป็นสิ่งที่สูงส่ง สุดเอื้อม ไกลตัวเหลือเกิน ประกอบกับ ล้วนเป็น ภาวะ หรือ สถานที่ ที่ปัจจุบัน หาคนที่เคยไป เคยเห็น เคยสำผัส ได้น้อยเต็มที ท่านที่บอกว่า ได้สำเร็จ มรรคผลนิพพาน ถึง ขั้นโน้นขั้นนี้ ก็น่าคลางแคลงใจ ว่า สำเร็จจริงหรือเปล่า เพราะท่านที่บอกว่าสำเร็จสมมุติมี 3 ท่าน ก็อธิบายนิพพาน ไปคนละทิศคนละทาง ชนิดที่ไม่อาจจะเป็น "นิพพาน" เดียวกันได้เลย
ในแนวทางการปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกาย เมื่อผู้ปฏิบัติเข้าถึงธรรมกาย และฝึกฝนจนเชี่ยวชาญแล้ว ก็สามารถไปดู ไปสำผัส ไปเยี่ยมเยียน นิพพาน ได้เช่นกัน ซึ่งการจะเห็น นิพพาน ได้นั้น ต้องเห็นด้วย ญาณของธรรมกายหรือตาของธรรมกาย ซึ่งเป็น "ธรรมจักษุ" หรือ "พุทธจักษุ" ซึ่งเป็น ตาที่อยู่เหนือภพ 3 (โลกุตระ) จึงจะเห็น นิพพาน ซึ่งเป็น สิ่งที่อยู่เหนือภพ 3 เช่นกันได้

ผู้ที่เข้าถึง ธรรมกาย จะเห็นนิพพานตรงกันเป็นอย่างเดียวว่า ในนิพพานนั้น มีแต่ธรรมกายอยู่มากมายเต็มไปหมด จนไม่สามารถคำนวณจำนวนได้ เฉพาะในนิพพานที่รู้จักกันทั่วไป คือนิพพานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก ซึ่งปรินิพพาน ทิ้งซากศพ(กายมนุษย์)ไว้ในโลกนี้ มีแต่ธรรมกายไปปรากฏอยู่ในอายตนนิพพานนั้น ธรรมกายมีลักษณะคล้ายพระปฏิมากร มีเกศเป็นรูปคล้ายดอกบัวตูม หน้าตักกว้าง 20 วา ใสสว่างสวยงามไม่มีที่ติ มีพระอริยบถอยู่ในท่าประทับนั่งเข้านิโรธสมาบัติ ส่วนพระขีณาสวเจ้าอีกประเภทหนึ่งที่ปรินิพพานโดยไม่ทิ้งกายมนุษย์ไว้ ก็จะมีธรรมกายอีกลักษณะหนึ่ง อยู่ในนิพพานต่างหากอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้มีญาณแก่กล้าก็จะสามารถพบเห็นได้

ในนิพพาน เป็นที่ว่างๆโล่ง ไม่มีสิ่งใดกำบัง ไม่มีโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ไม่มีการไปการมา ไม่มีการเคลื่อนไหว เพราะพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านหมดกิจที่จะทำอย่างอื่นแล้ว นอกจากเสวยสุขเข้านิโรธอย่างเดียว ดังบาลีว่า "นิพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานสุขอย่างยิ่ง"
ในนิพพานจึงมีแต่ พระธรรมกาย ปรากฏอยู่นับไม่ถ้วน (ผู้มีญานขนาดใหนก็นับไม่ถ้วน) มีรัศมีและความงดงามแตกต่างกันไปตามแต่บารมีของแต่ละองค์ที่ได้สั่งสมมา หากเป็นธรรมกายพระสัพพัญญูพุทธเจ้า ก็จะมีพระธรรมกายพระอรหันตสาวกนั่งล้อมรอบ หากเป็นธรรมกายพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะนั่งองค์เดียวโดดๆ ส่วนลักษณะของธรรมกายจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งหมดไม่มีแตกต่างกันเลยดังที่ได้กล่าวแล้ว

นิพพานที่กล่าวมานี้เรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพาน คือ นิพพานที่ไม่มีขันธ์ 5 เหลือแล้ว อาจเรียกว่า "นิพพานตาย" ก็ได้ ส่วนนิพพาน อีกประเภทหนึ่งคือ นิพพานในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน อาจเรียกว่า "นิพพานเป็น" ก็ได้ นิพพานนี้คือ นิพพานที่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ เข้าถึงในขณะที่ยังมีชีวิตหรือขันธ์ 5 อยู่ และได้สำเร็จอรหัตตผลแล้ว

สอุปาทิเสสนิพพาน ที่จริงก็คือ นิพพานส่วนตัว ที่อยู่ในศูนย์กลางกาย ของทุกๆคนนั่นเอง เมื่อดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว จึงถอดกายทิ้งซากมนุษย์ไว้ในโลก และถอดกายเป็นชั้นๆ ไปทั้ง 17 กาย (กายมนุษย์ ถึงกายธรรมอนาคามี) จนเหลือแต่ธรรมกายอรหัตต์ เมื่อธรรมกายอรหัตต์ ซึ่งมีอายตนะตรงกันกับอายตนนิพพาน อายตนนิพพานก็จะดึงดูด ธรรมกายนั้น ไปปรากฏอยู่ในอายตนนิพพาน รวมกับธรรมกายพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ที่เข้านิพพานล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

แล้วนิพพาน ตั้งอยู่ที่ไหน บางท่านบอกว่า นิพพาน "สูญ" ไปบ้าง เป็นสภาวะอารมณ์ หนึ่งบ้าง แต่ไม่มีใครบอกได้เลยว่านิพพานอยู่ที่ไหน รู้ก็รู้จากการตีความตามตำรา แต่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ได้บอกเอาไว้ดังนี้

"นิพพานอยู่ข้างบน สูงจากภพ 3 เท่าภพ 3 โตเท่าภพ 3 นี่ สว่างเป็นแก้วไปหมดทั้งนั้น งดงามมาก โตเท่าภพ 3 นี่" จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "โอวาทปาฏิโมกข์" 20 ตุลาคม 2497
นอกจากนี้ท่านยังได้วัดระยะห่างระหว่างภพ 3 กับนิพพานให้ทราบอีกด้วยว่า ห่างกันกี่โยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องแสดงความอัศจรรย์ของวิชชาธรรมกายอย่างมาก ที่สามารถรู้เห็นได้ลึกซึ้งและชัดเจนขนาดนั้น ทั้งๆที่ผู้ปฏิบัติวิชชาธรรมกาย ไม่มีผู้ใดสำเร็จแม้ พระโสดาบันเลย ล้วนเป็น "ธรรมกายโคตรภู" ทั้งสิ้น
สำหรับ นิพพานที่มีกล่าวไว้ในคัมภีร์หรือตำราต่างๆ มีดังนี้
๐ นิพพานคือสิ่งที่มีลักษณะ 5 อย่างคือ ปทํ อจฺจุตํ อจฺจนฺตํ อสงฺขตํ และ อนุตฺตรํ
ปทํ แปลว่า ส่วนหนึ่ง หมายความว่า เป็นสภาวะธรรมชนิดหนึ่งที่เข้าถึงได้
อจฺจุตํ แปลว่า ธรรมที่ไม่ตาย หมายความว่า ไม่มีการเกิด ไม่มีการตาย
อจฺจนฺตํ แปลว่า ธรรมที่ก้าวล่วงขันธ์ 5 เป็นธรรมที่พ้นจากกาลทั้ง 3 (อดีต ปัจจุบัน อนาคต)
อสงฺขตํ แปลว่า ธรรมที่ไม่ถูกปรุงแต่งด้วยปัจจัย
อนุตฺตรํ แปลว่า เป็นธรรมที่ประเสริฐ
๐ นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
นิพพานสูญอย่างยิ่ง ซึ่ง "สูญ" ในความหมายนี้ไม่ได้หมายความว่า สูญหายไปหมดเหล่าแต่ความว่างเปล่า อย่างที่หลายๆ ท่านเข้าใจกัน แต่หมายถึงว่า สูญจากกิเลส ตัณหา อุปาทาน ขันธ์ 5 นั่นเอง
๐ นิพพานัง ปรมัง สุขัง
นิพพานสุขอย่างยิ่ง เพราะธรรมกายอรหัตต์ ที่เข้าถึงนิพพาน เป็น นิจจัง สุขัง อัตตา เข้านิโรจสมาบัติ เสวยวิมุติสุข อย่างเดียวนั่นเอง
๐ เรียกนิพพานว่าเป็น อายตนะ
"ดูกร ภิษุทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา การไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุปปัตติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์"
๐ นิพพานคือ อสังขตธรรม
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะ ของอสังขตธรรม 3 ประการนี้ 3 ประการเป็นไฉน คือ
๑ ไม่ปรากฎความเกิด
๒ ไม่ปรากฎความเสื่อม
๓ เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฏความแปรปรวน
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อสังขตลักษณะของอสังขตธรรม 3 ประการ นี้แลฯ"
ความนี้สนับสนุน ความเป็น นิจจัง สุขัง อัตตา ของ ธรรมกาย และ นิพพาน นั่นเอง


#3 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 12:50 PM

ขอขอบคุณมากๆๆครับ
พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว

#4 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 01:20 PM

QUOTE
นิพพานคือ อสังขตธรรม

โมทนาสาธุด้วยครับ......สาธุ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#5 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 02:49 PM

ยังไม่เข้าถึงเรย พูดไปก็เท่านั้น
นั่งสมาธิดีกว่า
ปุถุชนพูดเรื่องของพระอริยบุคคล พูดยังไงก็มะรุเรื่อง
มันต้องพบเอง
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#6 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 03:20 PM

พระนิพพานอยู่ที่ไหนจ๊ะ

อยู่ในตัวเรา ศูนกลางกายฐานที่7 เหนือสะดือขึ้นมา2นิ้วมือ




#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 04:23 PM

นิพพาน คือ อะไร
คือ สภาวะ สุขที่สุด สุขอย่างยิ่ง สุขที่ไม่กลับเป็นทุกข์อีกน่ะครับ ซึ่งก็คือ เป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนานั่นเอง เพราะชีวิตคนเรา มีแต่สุขที่กลับเป็นทุกข์อีก เช่น มีรถ ก็ทุกข์เพราะรถ มีบ้านก็ทุกข์เพราะบ้าน แต่ถ้านิพพาน จะไม่ทุกข์อีกตลอดไป

นิพพานอยู่ที่ไหน
นิพพานอยู่พ้นจากภพสามออกไปครับ คือ โลกเรานี้ประกอบไปด้วย กามภพ เป็นที่อยู่ของพวกมนุษย์ เทวดา สัตวนรก ต่างๆ รูปภพ เป็นที่อยู่ของ พรหม และอรูปภพ เป็นที่อยู่ของ อรูปพรหม
นิพพานพ้นจากภพสามนี้ทั้งหมด แต่ถึงแม้จะพ้นจากภพสาม แต่สามารถแสวงหาได้ภายในตัวของเรา โดยเริ่มต้นจาก ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นั่นแหละครับ

นิพพานไม่มีกายละเอียด หรือ กายใดๆ ที่อยู่ในภพสามนี่น่ะครับ จะมีก็แต่กายที่พ้นจากภพสามไปแล้ว ที่เรียกว่า ธรรมกาย ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 05:35 PM

นิพพานอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้แต่เรานั่งสมาธิไว้เอะแล้วท่านจะรู้เองว่านิพพานอยู่ที่ใด
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#9 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 โพสต์
  • Interests:ดีครับ

โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 06:03 PM

ขอบคุณครับ สาธุๆ
พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว

#10 ใสแจ๋ว

ใสแจ๋ว
  • Members
  • 49 โพสต์
  • Interests:ใสในใส ดับหยาบไปหาละเอียด

โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 08:22 AM

อายตนะนิพพานตามที่คุณjoysa รวบรวมมานั้นเห็นว่าชัดเจนดีแล้วนะครับ อนุโมทนาครับ มีอยู่ประเด็นหนึ่งคือท่านที่ได้ธรรมกายสามารถเข้าไปในอายตนะนิพพานเพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าได้ โดยใช้กายธรรมของเราไปในอายตนะนิพพาน ใช้กายอื่นไม่ได้ ซึ่งถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของผู้เป็นธรรมกายทุกคนต้องทำได้ ใครทำไม่ได้ถือว่าวิชชายังอ่อนเกินไป ส่วนบรรยากาศของนิพพานก็เป็นดังที่คุณjoyกล่าวไว้ เรายังไม่หมดกิเลสแต่พอเข้าถึงธรรมกายเราก็ใช้กายธรรมเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าถือว่าได้บุญมหาศาล เกิดมาไม่เคยพบพระพุทธเจ้า แต่วันนี้เราได้พบแล้วนี่ถือเป็นโชควาสนาของเรา ใครทำได้อย่างนี้ถือว่าไม่เสียชาติเกิด

#11 ลูกพระธัมฯ Merry Ma

ลูกพระธัมฯ Merry Ma

    The STRONGEST is the GENTLEST!!!

  • Members
  • 891 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:Bangkok, Thailand

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 02:05 AM

โอ้ สาธุ คุณJoysa คุณXLMen และคุณใสแจ๋ว ที่ให้คำตอบที่น่าประทับใจ

อยากจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจังเลยค่ะ
The Strongest is The Gentlest!

ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด

#12 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 05:10 PM

QUOTE
โอ้ สาธุ คุณJoysa คุณXLMen และคุณใสแจ๋ว ที่ให้คำตอบที่น่าประทับใจ

อยากจะไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าจังเลยค่ะ


เราก็ได้ไปเข้าเฝ้าแล้วไงคะ
ตอนเป็นเทวดาอยู่ชั้นดุสิตบุรีเราก็ลงมาฟังธรรม ตอนที่พระองค์เนรมิตพระพุทธเจ้าขึ้นมาอีก 1 พระองค์ไงคะ
happy.gif
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#13 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 11:48 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ...สาธุ

ลูกพระธรรม

#14 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 14 February 2007 - 12:41 PM

กราบอนุโมทนาบุญด้วย สาธุ