คุณคิดอย่างไร กับคุณครูไม่ใหญ่
#1
โพสต์เมื่อ 17 April 2006 - 11:14 PM
พระอุทิศกายใจ ทำไมหนอ
ลำพังตัวพระเอง ก็สุขพอ
ใยต้องรอผองเรา ไปสุดธรรม.
ธรรมทายาทรุ่น ๕๔ ปีฯ ๒๕๔๑
แปลงจากลำนำของ คุณ เบญจวรรณ มนัสไพบูลย์
ผมคิดอย่างไรกับคุณครูไม่ใหญ่ ?
โดยส่วนตัว ผมคิดว่า ท่านเป็นคน แบบว่า
1 ) ตรงไปตรงมาอย่างอ้อมค้อม
- ตรง หมายความว่า เป้าหมาย ความปรารถนาและมโนปณิธานของท่าน เที่ยงตรงและชัดเจน
เป้าหมาย คือ ที่สุดแห่งธรรม
ความปรารถนา คือ อยากให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์ คือ
พระรัตนตรัยภายใน เข้าถึงพระธรรมกายและวิชชาธรรมกาย
มโนปณิธาน คือ รื้อขนสรรพสัตว์ให้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน เข้าสู่ที่สุดแห่งธรรม
และที่ไม่มีในพจนานุกรมหรือคัมภีร์ฉบับใดๆ คือ ท่านขอเข้าพระนิพพานเป็นคนสุดท้าย ....
โดยเฉพาะยิ่งความคิด มโนปณิธานแบบนี้เป็นอะไรที่อัศ+มหัศจรรย์ เกินที่ใครๆๆจะคิดได้นะครับ
ไม่ใช่แค่อัศจรรย์พันลึก แต่ต้องเป็นมหัศ x อัศจรรย์อสงไขยลึกแล้วครับ
เพราะแม้แต่นักสร้างบารมีที่เป็นพระบรมนิยตโพธิสัตว์ ผู้ที่เข้าใจสภาพสังสารวัฎฎ์อย่างถ่องแท้
ก็ยังไม่ปรากฏว่า มีท่านใดมีมโนปณิธาน อะไรแบบนี้
ทั้งนี้เพราะ สังสารวัฎฎ์มีอันตรายยิ่งนัก อบายภูมิมีทุกข์ยาวนานยิ่งนัก
ลำพังแค่เอาตัวให้หลุดพ้นจาก กามภพ ก็ยากแสนยากยิ่งแล้ว
มิต้องกล่าวถึงการหลุดพ้นจาก รูปภพและอรูปภพ
เพราะฉะนั้นบุคคลใดที่อาสา ย่ำธรรมเภรี เพื่อรื้อขนปวงสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นวัฏฏะสงสาร
ต้องสร้างบารมีให้ยิ่งยวดกว่าผู้อื่น ต้องเหน็ดเหนื่อย ยอมพลีกาย ลำบากแสนสาหัส
ดังอุปมา
แม้นว่าพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ อยู่ในอเวจีมหานรก ต้องแหวกว่าย ดำดิ่งฝ่าทะเลน้ำกรดนรก
เพื่อนำอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ มาช่วยปวงสรรพสัตว์ให้พ้นทะเลทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ .... ก็ยอม
บุคคล ที่มีความปรารถนาและมโนปณิธานเช่นนี้หาได้ยาก ...
ปวงมนุษย์และเทวา จึงเคารพ เลื่อมใส แซ่ซ้องสาธุการและสักการะ บุคคลเช่นนี้.
ลองตรองดู ....
มนุษย์ผู้เป็นทหารของพระนิพพาน กี่ยุคกี่สมัย กี่กัป กี่อสงไขยกัป
ได้บรรลุมรรค ผล นิพพานแล้วนับอสงไขยไม่ถ้วน
แต่อีกเท่าไหร่ ที่ยังเวียนเกิดสร้างบารมีเพื่อให้หลุดพ้นวัฏฏะแห่งมาร เข้าสู่มหาอมตนฤพาน
จำนวนนักรบที่ยังตกค้างช่าง ... มีมากมายมหาศาลเหลือเกิน
เพราะฉะนั้นบุคคลใดที่อาสา ย่ำธรรมเภรี เพื่อรื้อขนปวงสรรพสัตว์
และขอเข้าพระนิพพานเป็นคนสุดท้าย
จึงเป็นอะไรที่ผมมิอาจหาถ้อยคำใดๆ พรรณนาได้ในที่นี้.
มโนปณิธานเช่นนี้ มิบังควรที่ใครๆ โต้แย้งว่า เป็นการเพ้อฝันหรือเว่อร์เกินไป
แต่บังควร ยินดี อนุโมธนา สาธุการกับบุคคลผู้มีและมุ่งมั่นทำมโนปณิธานนี้ให้สำเร็จ
บังควรสนับสนุน การก่อการดีอันประเสริฐของท่าน
ส่วนเป็นคนอ้อมค้อม หมายความว่า
ชีวิตท่านสร้างบารมี เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์
แต่เนื่องจากระดับของสัมมาทิฎฐิ ระดับของความเห็นแจ้ง
ระดับของความสะอาดและละเอียดของญาณทัสสนะของบุคคลทั่วไป มีไม่เท่าของท่าน
จึงพลอยไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านคิด ในสิ่งที่ท่านพูด ในสิ่งที่ท่านทำไปด้วย
ดังนั้นท่างจึงต้อง อ้อมค้อม สร้างโปรเจ๊กท์บุญมากมาย เช่น
สร้างพุทธ-ศาสนสถาน
สถาปนาศูนย์พุทธจักปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย , มหาธรรมกายเจดีย์ , มหาสภาธรรมกายสากล ,
มหาวิหารพระมงคลเทพมุนี , มหาวิหารคุณยายอาจารย์ และมหารัตนวิหารคดในปัจจุบัน ฯลฯ
สร้างธรรมทายาทเพื่อสืบสานอายุพระพุทธศาสนา
โดยผ่านโครงการอบรมศีลธรรมให้แก่ยุวชน เยาวชนจนถึงผู้สูงอายุ เช่น
โครงการอบรมธรรมทายาท บรรพชาและอุปสมบทหมู่
ยุวธรรมทายาท / มัชฌิมธรรมทายาท / นักเรียนตำรวจ เตรียมทหาร / อุดมศึกษา
โครงการอบรมธรรมทายาทหญิง
โครงการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมแก่เยาวชน ระดับตั้งแต่ประถมศึกษา ถึงอุดมศึกษา
โครงการตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้า
โครงการอบรมข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและเอกชน
โครงการบรรพชาสามเณรแก้ว 13,842 รูป ในวาระ 70 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โครงการบวชอุบาสกแก้ว > 60,000 คน
โครงการบวชอุบาสิกาแก้ว 100,000 คน
โครงการสอนปริยัติธรรม ทั้งภิกษุ สามเณร สาธุชน ศึกษาพระพุทธวจนะ
โครงการมุทิตาสักการะ เปรียญธรรม ๙ ประโยค
โครงการถวายปัจจัยไทยธรรมเป็นสังฆทาน 30,000 วัด / 10,000 วั / 3,000 วัด
ฯลฯ
เผยแผ่ธรรมทานเพื่อสืบสานอายุพระพุทธศาสนา
โดยผ่าน
โครงการผลิตวารสารธรรมะ
โครงการผลิตเพลงธรรมะ มากกว่า 600 เพลงภาษาไทย จีนกลาง อังกฤษ สวีดิช อาหรับ ฯล
ให้ชาวไทยและชาวต่างชาติจึงซาบซึ้งพระธรรมคำสอน มากยิ่งขึ้น
โครงการจัดทำพระธรรมเทศนา จัดทำ vdo / slide multivision / vcd สารคดีธรรมะและการเทศน์สอน
กว่า 1,000 ชุดในรูปแบบ casettape / mp3 / cd เช่น มลคลสูตร ฆราวาสธรรม ชาดก Case study ฯล
รายการธรรมะทางสื่อสารมวลชน ทางวิทยุ และโทรทัศน์ ผ่าน DMC และโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
*** ดูเพิ่มได้ที่
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1770
.........
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำ ตรงไปตรงมาอย่างยิ่งยวด คือ
เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ เข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์
เพื่อให้มนุษย์ทุกคน ทุก เชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ ได้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน
แต่ต้องทำแบบอ้อมค้อม ผ่านโครงการบุญต่างๆมากมาย เพื่อให้เข้าถึงมนุษย์ที่มี
ระดับความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ ความศรัทธา
ระดับทิฎฐิ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสสนะต่างๆกัน
ดังนี้แล
2 ) ผมคิดว่า ท่านเป็นคน แบบว่า อ้อมค้อม แบบตรงไปตรงมา
หมายความว่า
ฉากหน้าท่านต้องอ้อมค้อม สร้างโครงการบุญต่างๆ เพื่อให้มนุษย์ได้โอกาสสร้างบุญบารมี
และเมื่อสั่งสมบุญกันเข้มข้นมากขึ้น
ระดับความรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อ ความศรัทธา
ระดับทิฎฐิ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสสนะ
ความสะอาดของใจ เห็น จำ คิด รู้ และธาตุธรรมภายใน อยู่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
ทุกๆคนจะเข้าใจได้เอง ว่า
ฉากหลัง คือ การเข้าถึงสันติสุขอันไพบูลย์ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ซึ่งเป็นการทำแบบอ้อมค้อม เพื่อหวังผลโดยตรง อย่างตรงไปตรงมา
ตรงหนทางพระนิพพานที่สุด คือ
ใจเราต้องฝึก ... หยุด ... อยู่ตรงที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ทั้งกลางวันและกลางคืน ทั้งหลับและตื่น
ทั้งอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน
สมดังสุนทรพ่อ
ให้ลูก หยุดนิ่งไว้ กลางกาย
พระไม่ถ้วน มากมาย ผุดซ้อน
ยิ่งหยุด ยิ่งขยาย ไม่หยุด
ต้นสุดมาร เร่าร้อน ออดอ้อน กลัวสลาย.
ท้ายนี้ขอน้อมนำบทกวีของสามเณรอภิญญา ที่ระลึกถึงพระเดชพระคุณดังนี้ครับ
พระ พ่อผู้ยิ่งใหญ่ ธ เกริกไกรในธาตุธรรม
ผู้ สั่งสอนแนะนำ ทางสุขล้ำกลางกายา
ชี้ ส่องในกมล เพื่อหลุดพ้นวนสังสาร์
ทาง เอกแห่งชีวา เป็นทางพาจนสุดธรรม.
*** แล้วคุณ ล่ะครับ คิดอย่างไร กับ คุณครูไม่ใหญ่ของเรา ?
#2
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 11:04 AM
เมือนึกถึงพระมหากรุณาทิคุณของท่านทีไร เป็นต้องกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ทุกที
ไม่รู้จะหาถ้อยคำอะไรมาบรรยายพระคุณของพ่อได้เพียงพอ.
love u หลายเด้อ. ปะป๋า
#3
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 03:24 PM
รักพ่อมากๆ เลยค่ะ
ถ้าไม่มีพ่อ คอยพร่ำสอนให้ทำความดี สารบารมี คงต้องไปท่องนรกหลายขุม
#4
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 05:25 PM
อาภรณ์ชุดสุดท้าย�����กาสายะ
ชีพสุดท้ายคือพระ������ผ่องแผ้ว
วิชชาสุดคือธรรมะ�����พุทธเจ้า
จารจรดใจไว้ลูกแก้ว���จักแคล้วบ่วงมาร
���������������������������������สุนทรพ่อ
Someday I'm gonna be free.
#5
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 07:20 PM
แต่บางทีลูกคนนี้ก็เข้าใจงานพ่อ
บางทีลูกคนนี้ก็ดื้อเหมือนกัน..
บางทีลูกคนนี้มันก็ไม่เอาไหนก็มี...
ข้อเสียยังมีอีกเยอะ ต้องคอยให้พ่อคอยพร่ำสอน
พ่อคงเหนื่อยน่าดูเลย
แต่ลูกก็จะพยายามต่อไปนะค่ะ...
ลูกจะพยายามเป็นลูกที่ดีที่สุดให้ได้
ต้องเป็นลูกที่เป็นเลิศให้ได้ไปทุกภพทุกชาติ
หากเป็นกองเสบียงก็ต้องให้ได้เป็นเลิศไม่เป็นสองรองใคร
แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่...อธิษฐานไว้เสมอ
หากเป็นพระ ก็ต้องเป็นพระที่ได้ธรรมกายที่ดีที่สุดละเอียดที่สุดให้ได้
#6
โพสต์เมื่อ 18 April 2006 - 08:01 PM
#7
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 09:25 AM
ท่านเป็นแสงสว่าง ส่องให้เห็นเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต
จะขอตามติดพ่อเรื่อยไปตราบกระทั่งวันเข้าถึงที่สุดแห่งธรรม
#8
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 10:59 PM
บุคคลผู้ซึ่งมีปัญญาอย่างจำกัดแล้ว ก็ยากที่จะพรรณนาถึงพระคุณของท่าน
แต่พอที่จะอุปมาอุปมัยได้แค่เพียงว่า
ท่าน.... เปรียบเหมือนพระอาทิตย์บนท้องฟ้า ....สุริยาในเตาไฟ
เป็นต้นบุญต้นแบบที่หาได้ยากยิ่งในโลกและจักรวาล
#9
โพสต์เมื่อ 19 April 2006 - 11:05 PM
ไม่คาดหวังได้พบอะไรใหม่
เป็นใจเพียงไม่อยากได้ต่อสิ่งใด
ก็จะได้ทุกสิ่งที่ต้องการ
#10
โพสต์เมื่อ 25 April 2006 - 08:35 AM
......ลูกไม่เคยเหนื่อย ลูกไม่เคยล้า
ในทุกๆเวลาที่ทำความดี
จดจำคำที่พ่อสอนให้ไว้ชุบชีวี
ให้ลูกได้มีเนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่
เพลงจะเต็มรูปแบบในเร็ววันนี้
#11
โพสต์เมื่อ 25 April 2006 - 11:50 AM
ก็ไม่เคยเห็นใครที่มีจิตใจดีงาม ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจอยากให้ทุกคนเข้าถึงธรรมอย่างท่านทั้งสองเลย
ท่านเองท่านก็สบายอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องมาเหนื่อยยากลำบากเล้ย ตอนตะก่อนนี้ท่านก็มีลูกศิษย์ลูกหาแยะแยะแล้ว ไม่อด ไม่ลำบาก อยู่เฉย ๆ คนเดียวท่านก็เอาตัวรอดกลับไปดุสิตบุรีของท่านเองได้
แหมแต่ท่านยังมาอดตาหลับขับตานอนพร่ำสอนพวกเรานี่ซิ (สอนตั้งแต่รุ่นพ่อของดิฉัน มาถึงตัวดิฉัน แล้วก้อคงจะถึงรุ่นลูกดิฉันด้วย) เฮ้อ เหนื่อยแทน ไม่รู้จะไปหาพระดีอย่างนี้ได้ที่ไหนอีก
ดีใจจังเกิดมาเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ และอยู่ในยุคที่มีพระดี ๆ อย่างนี้
#12
โพสต์เมื่อ 04 May 2006 - 04:42 PM
#13
โพสต์เมื่อ 27 June 2006 - 07:49 PM
ขอความปราถนานี้จงเป็นผลสำเร็จโดยพลัน เทอญ
...
#14
โพสต์เมื่อ 28 June 2006 - 07:34 AM
#15
โพสต์เมื่อ 22 February 2007 - 04:13 PM
#16
โพสต์เมื่อ 22 February 2007 - 05:15 PM