มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[หรรษา]

อยากดำรงความดีเอาไว้ แต่ถ้ามีคนมาเอาเปรียบเรา มีคนมาทำร้ายเรา
การปฏิบัติทางโลกก็ต้องป้องกันตัว ทำร้ายกลับบ้าง
แต่ถ้าเราต้องการดำรงความดีเอาไว้ต้องยึกหลักไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
รู้สึกว่าขัดๆกันน่ะคะ เพื่อนๆมีวิธีปฏิบัติอย่างไรบ้างคะ

[หัดฝัน]

บางทีเราต้องเปรียบเทียบกันสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย แล้วเราก็จะได้คำตอบครับ ผมสมมุติว่า ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีคนสามคนกำลังเดินเข้าไปในป่าแห่งนี้

คนที่ 1 เขาเดินมาถูกทางอยู่ ทำให้อาหารการกินระหว่างทางก็อุดมสมบูรณ์ เส้นทางเดินก็ค่อนข้างปลอดภัยไม่ค่อยมีอันตราย ดังนี้นเขาก็กินอาหารได้อย่างสบายใจ เดินไปอย่างไม่กังวล

คนที่ 2 เขาเดินมาผิดทาง เพราะนึกว่า ทางนั้นทางลัด เลยเดินเข้าไป ผลก็คือ เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยผลไม้มีพิษ ทางเดินก็เต็มไปด้วยอันตราย จะย้อนกลับไปก็จำทางไม่ได้แล้ว เขาจึงเลือกมุ่งหน้าต่อไป พอหิวเขาก็ไม่สนใจ ผลไม้มีพิษ เขาก็กินเข้าไป ผลก็คือ เขาอิ่มแล้วต่อมาเจ็บปวดทรมาณเพราะผลไม้เป็นพิษเดินไม่ไหว และตายในที่สุด

คนที่ 3 เขาเดินผิดทางแบบคนที่ 2 ตอนนี้เขาหิวมากแล้ว แต่เขาพอจะมีความรู้เรื่องป่าอยู่บ้าง เขาจึงพยายามเลือกหาผลไม้ที่ไม่มีพิษ แต่ถ้าหาไม่ได้ เขาก็เลือกที่มีพิษน้อยที่สุด และหาแหล่งน้ำดื่มตามมากๆ และแล้ว เขาก็ออกจากแหล่งอันตรายมาได้

พอจะได้ข้อคิดอะไรบ้างหรือยังครับ
คนที่ 1 ก็เปรียบเสมือนคนที่ในอดีตชาติตั้งใจทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ชักชวนคนทำความดีมาอย่างดี เหมือนคนที่เดินถูกทางมาตลอด ชาตินี้เขามักจะมาเกิดในสิ่งแวดล้อมที่ดี สนับสนุนให้เขาได้ทำสิ่งดีๆ ยิ่งๆ ขึ้นไป

คนที่ 2 และ 3 เปรียบเสมือนคนที่พลาดพลั้งผิดศีลบางข้อหรือทุกข้อมาในอดีต ชาตินี้เกิดมาจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย มีโอกาสผิดศีลได้ง่าย แต่คนที่ 2 ผิดแล้ว ก็มาผิดต่อไปอีกในชาตินี้เขาย่อมทนทุกข์ครับ แม้ตอนแรกจะดูเหมือนแก้ปัญหาได้ (กินผลไม้แล้วอื่ม) แต่เมื่อบาปส่งผล ก็ทุกข์มหันต์ (พิษสำแดงเดช)
ส่วนคนที่ 3 รู้ว่าพลาดมาแล้ว ชาตินี้ไม่ขอพลาดอีก ถ้าไม่ทำผิดศีลได้ จะเลือกไม่ขอผิดศีล แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ จะเลือกที่มีผลน้อยที่สุด แล้ว รีบสร้างบุญเยอะๆ (ดื่มน้ำเจือจางพิษมากๆ) เพื่อตัดรอนผลของบาปนั้นครับ พร้อมกับตั้งใจอธิษฐานขออย่ามาเกิดในสภาพแวดล้อมที่ผิดศีลง่ายอย่างนี้อีก เหมือนคนที่ 3 ที่รีบหาทางออกจากป่าที่หลงนั้นโดยเร็วครับ
พอเห็นภาพบ้างมั้ยครับ

[หรรษา]

กระจ่างขึ้นคะ อืม แสดงว่าชาติก่อนมานี้ยังทำกรรมไว้เยอะ แน่เลยเรา
แล้วคราวนี้เลยสงสัยต่อเนื่องคะว่า
"ทำไมบางคนก็เกิดมาในครอบครัวที่ดี มีสิ่งแวดล้อมให้ผิดศีลน้อยกว่าเรา แต่เขากลับไม่นับถือศาสนาพุทธ
หรือไม่ก็ไม่เชื่อในเรื่องชาติหน้าการเวียนว่ายตายเกิดอย่างจริงจังละคะ"
แสดงว่าเรากับเขาต้องมีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนกันที่ทำให้นำเราเข้าสู่หนทางที่ถูกต้องได้
ทำอย่างไรให้เราทางหนทางนี้ได้อีกในชาติต่อๆไปคะ

[หรรษา]

ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณ alice คะ
แนะนำได้ตรงประเด็นดีมากๆ แต่แบบนี้เห็นว่าต้องใช้กำลังใจเยอะมากๆเลย
เพื่อเอาชนะความโกรธ ความแค้นได้ อืม ต้องพยายามคะ จะพยายามมีสติควมคุมตนเองด้วยคะ
ขอบคุณคะ

[หัดฝัน]

ตอบคุณหรรษา
เป็นเพราะผลบุญก็ทำงานตามหน้าที่ของบุญนั้นๆ ครับ คือ ทำทานจะช่วยให้รวย แต่ไม่สนว่าจะรวยด้วยวิธีการใด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเกิดมารวย สวย ฉลาด แต่ไม่สนใจพระพุทธศาสนา ซึ่งถ้าจะให้สนใจพระพุทธศาสนา จะต้องทำความดีอีกอย่างกำกับเพิ่มเข้าไปครับ (นี่เป็นแบบหนึ่งนะครับ แต่ถ้าจะตอบให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบทุกๆ แบบคงจะเยอะ เอาเป็นว่า ผมจะตอบสักแบบหนึ่งก็แล้วกันนะครับ) เช่น
คนที่ทำทานในศาสนาของเขาเอง สร้างสาธารณะประโยชน์ สงเคราะห์ญาติ พื้นฐานจิตใจของเขาดีพอสมควร (พูดเฉพาะเรื่องทานยังไม่พูดเรื่องศีล ภาวนา) แต่เนื่องจากไม่รู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้น จึงไม่ได้อธิษฐานว่า ขอให้ได้บรรลุธรรมครับ ดังนั้น เมื่อถึงคราวบุญส่งผล ก็จะร่ำรวย มีพวกพ้องเต็มที่ แต่ไม่มีทิศทางชีวิตครับ ถ้าชาตินี้รวยด้วยสัมมาอาชีวะ เช่น บิลเกรต ก็โชคดีไป แต่ถ้ารวยด้วยมิจฉาอาชีวะ เช่น ผลิตเหล้าขายจนรวย บุญทำงานเต็มที่แล้ว ก็ถึงคราวบาปทำงานบ้างล่ะครับ
สรุปทำบุญต้องทำให้ครบครับ ทั้งทานบารมี ศีลบารมี....ทั้ง 10 ทัศ และที่สำคัญคือ อธิษฐานบารมีครับว่าเกิดครั้งใดขอให้เกิดในร่มงมพระพุทธศาสนา เป็นสัมมาทิฐิ จนกระทั่งบรรลุธรรม ซึ่งจะเป็นเหมือนหางเสือกำกับทิศทางชีวิต ให้มาทำดีต่อไปจนถึงจุดหมายแหละครับ
นี่เป็นแค่แบบหนึ่งในหลายๆ แบบนะครับ

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

รวย แต่ยังไม่เป็นสัมมาทิษฐิก็อันตราย เพราะในกาลภายภาคหน้า จะเป็นอย่างไร เพราะว่าชาตินี้ยังไม่ทราบทางเ้ดินที่ถูกต้อง กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ