มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[มองอย่างแมว]

ทำไมเป็นผู้หญิงถึงบวชไม่ได้ค่ะ ในสมัยพระพุทกาลก็ยังมีภิกษุณีเลย

เพราะตามพระวินัยแล้ว ภิกษุณีต้องบวชในสงฆ์สองฝ่ายคือทั้งภิกษุและภิกษุณี
แต่ภิกษุณีนั้นได้สูญหายไปเมื่อหลังพุทธกาลเพียงไม่กี่ร้อยปี
ดังนั้น ถึงแม้ยังมีใครอยากจะบวชเป็นภิกษุณี ก็ทำไม่ได้แล้วเนื่องจากพระวินัยได้กำหนดไว้ดังกล่าว
(สรุปว่า ถ้าอยากจะบวชเป็นภิกษุณี ก็ต้องหาภิกษุณีให้ได้ก่อน ซึ่งมันหาไม่ได้แล้ว...)

ทำไมถึงต้องเป็นชายเพียงอย่างเดียวหรือถึงจะสามารถถึงพระนิพพานได้

อันนี้ไม่เกี่ยว เป็นความเจ้าใจผิดของเจ้าของคำถามเอง
การเข้าถึงพระนิพพาน ไม่มีข้อจำกัดด้านเพศ

หากพระนิพพานเป็นของสากล ไม่ว่า อายุ วรรณะ เพศ ถือศาสนาใด ก็น่าจะสามารถเข้าถึงธรรม และเข้าถึงพระนิพพานได้ซิ

ตอบเหมือนข้างบน

[มองอย่างแมว]

จะว่ากันจริงๆแล้วทางมหายานก็ยังมีภิกษุณีอยู่เหมือนกันนะครับ
แต่ทางหินยานถือว่าหมดแล้วครับ ไม่มีต่อ
รู้สึกว่ามีท่านที่อยากเป็นภิกษุณี ก็มีไปบวชกับทางมหายานเหมือนกัน

กฏเกณฑ์อะไรที่ไม่ทันสมัยแล้ว น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ หรือไม่? เช่นรู้ว่าไม่มีภิกษุณีแล้ว ก็ปรับปรุงกฏเกณฑ์เพื่อให้มีภิกษุณีมาช่วยกันทำให้พระพุทธศาสนาได้ดำรงอยู่และเผยแพร่ธรรมบ้างซิค่ะ

หะๆๆ เล่าให้ฟังจะโกรธกันมั้ยเนี่ย
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ไม่อยากให้มีภิกษุณีครับ เพราะำทำให้อายุพระุพุทธศาสนาสั้นลง
พระองค์ถึงกับปรารภกับพระอานนท์เลยแหละครับ (จำำ wording ไม่ได้แล้วว่าพระองค์ตรัสว่าอย่างไร)

อย่างนี้ก็ไม่ต้องบวชก็ถึงพระนิพพานได้หรือค่ะ

ครับผม มีพระอรหันต์หลายรูปที่บรรลุตั้งแต่ตอนเป็นคฤหัสครับ

[หัดฝัน]

เหตุที่มหายานมีภิกษุณี เพราะก่อนปรินิพพาน พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสว่า ธรรมวินัยใดไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมหรือ ยุคสมัย ให้ปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งฝ่ายมหายานได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง จนมีหลายรูปแบบมากมายในปัจจุบัน เช่น พระมหายาน มีลูกเมียได้ ดื่มเหล้าได้ ฯลฯ แต่ฝ่ายหินยานเห็นว่า พระองค์ไม่ได้บอกลงไปว่า ข้อไหนปรับเปลี่ยนได้ จึงเห็นว่า อย่าเปลี่ยนเลย รักษาไว้ครบทุกข้อดีกว่า
เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ เพราะปรับเปลี่ยนมากเกินไปมันก็เลยเถิดครับ หลายๆ เรื่องไม่ใช่ทันสมัยนะครับ แต่จะเข้าสู่วิกฤติสมัยมากกว่า

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ