![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/b21fa8ab6abc43ec3a7decef94775948?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
บุญหรือกรรมอะไร ที่ทำให้คนเราเกิดมาหน้าตาดีและไม่ดีแตกต่างกันครับ
#1
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 12:36 PM
#2
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 12:42 PM
จริงครับ ไม่เชื่อก็ลองดูตอนที่เราโกรธสิครับ หน้าตาเราบูดบึ้งดูไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ สรุปว่าจิตใจของคนเรานั้น สามารถกำหนดรูปลักษณ์/บุคลิกที่ปรากฏออกมาภายนอกได้ครับ
#3
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 12:50 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#4
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 01:44 PM
ค่ะ นอกจากทำให้เราหน้าตาบูดบึ้งในภพชาติปัจจุบันและหล่อสวย (ไม่เสร็จ) ในภพชาติต่อไปแล้ว การที่คนอารมณ์บูด สภาวะแวดล้อมรอบตัวก็จะร้อนไปด้วย เพราะลมหายใจและคลื่นรังสีแห่งความร้อนและความไม่สบายใจจะครอบคลุมตัวเราไว้ ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ค่ะ
ถ้าอยากสวยอยากหล่อ ตอนทำบุญหรือชวนคนทำบุญต้องทำด้วยหน้าตายิ้มแย้มค่ะ นอกจากจะหล่อด้วยตัวเองแล้ว บริวารของเราก็จะหล่อจะสวย มีแต่ของสวยๆ งามๆ รอบตัว มองแล้วสบายใจ จะได้เอาใจใสๆ ไปเป็นบุญใสๆ ต่อบุญใสๆ ไปอีกทับทวีค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 02:11 PM
กาลครั้งหนึ่ง มีสามีภรรยาคู่หนึ่งเดินทางไกลมาเหนื่อยยากขาดอาหารและน้ำ มาเจอบ้านหลังหนึ่ง สามีภรรยาคู่นี้จึงขออาหารและน้ำจากเจ้าของบ้าน ทันใดนั้นเจ้าของบ้านได้นำเนื้ออย่างดี นำมาให้หมาตัวหนึ่งกิน
ด้วยความที่สามีอดอยากมานานเลยมีอุปาทานจิตคิดว่า "เออเป็นหมาท่าจะดีนะ ได้กินอาหารดีกว่าเราเสียอีก" ทันใดนั้นด้วยความที่อดอาหารมานานและบริโภคเข้าไปซะเต็มคราบทำให้กระเพาะปรับตัวไม่ทัน อาหารไม่ย่อยทำให้สามีของนางได้ตายลง และไปบังเกิดเป็นลูกสุนัข ในบ้านหลังนั้นนั่นเอง (เล่าย่อๆ ครับ หุหุหุ)
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อุปาทานความยึดมั่นถือมั่นยังให้จิตไปเกิดเป็นรูปหรืออัตภาพใดๆ ที่ไม่ใช่อัตภาพกุศลได้ด้วยอำนาจของอุปาทานนั่นเองครับ
จากนิทานเราจะสังเกตได้ว่า
คนเลี้ยงไก่ถ้ามีจิตอุปาทานยึดมั่นในไก่มาก หน้าตาก็จะละม้ายคล้ายไก่ คนจิตยึดมั่นในหมามากหน้าก็คล้ายหมา ยิ่งจิตยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดด้วยอำนาจของกิเลสและตัณหา หน้าตาก็จะได้ความงดงามตามที่จิตเข้าไปยึดเกาะ เช่น หมาย่อมเห็นหน้าหมาด้วยกันย่อมรู้ว่าหน้าแบบไหนของพวกมันที่เรียกว่าหล่อ ที่เรียกว่าสวย ถ้าจิตเข้าไปยึดก็จะทำให้ได้อัตภาพหล่อ-สวยของหมามานั่นเองครับ
แต่ถ้าบุคคลใดตั้งมั่นในทาน ศีล ภาวนา ฝึกละวางความยึดมั่นถือมั่นในตนอยู่เสมอๆ มีจิตเป็นสมาธิอยู่ในฌานจิตเป็นอย่างน้อย เขาผู้นั้นย่อมเข้าถึงรูปร่างหน้าตาของพระพรหม ซึ่งใกล้เคียงกับกายมหาบุรุษเข้าไปทุกทีแล้วนั่นเองครับ
#6
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 02:33 PM
#7
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 03:11 PM
#8
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 05:17 PM
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#9
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 08:27 PM
#10
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 08:41 PM
ขันติ คือ ความอดทน
โสรัจจะ คือ อะไรเหรอครับ
#11
โพสต์เมื่อ 05 May 2006 - 08:45 PM
ความสงบเสงี่ยมเรียบร้อยครับผม
#12
โพสต์เมื่อ 06 May 2006 - 01:34 AM
เห็นด้วยกับคูณXLmenค่ะ การที่เรารักษาจิตแห่งพรหม หรือจิตฌาณได้นั้นจะมีรูปที่งามใกล้เคียงกายมหาบุรุษ จะไม่ออกมาทางกามราคะเลย บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น กว่าสวยงามเยี่ยงเทพยดาทั้งหลาย
ความมีรูปสมบัติอันครบพร้อมนั้น ประกอบด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ด้วยทาน+ศีล+ภาวนา
(สรุปมาจาก http://dungtrin.com/whatapity/05.htm)
๑) ทำทานด้วยศรัทธา
นอกจากจะทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะมาก และเป็นผู้มีรูปงามชวนพิศ น่าเลื่อมใส ผิวพรรณงามยิ่ง
๒) รักษาศีลได้สะอาดครบ
มีผิวพรรณผุดผ่อง รูปร่างหน้าตาสมส่วนหมดจด มองจากมุมไหนก็ดูดีไปหมด
ศีลแต่ละข้อจะก่อให้เกิดความรู้สึกทางใจดังนี้
๒.๑) อยากปกป้องชีวิตสัตว์ ทำให้หน้าตาใจดี เห็นแล้วสงบเย็น
๒.๒) ไม่เพ่งเล็งอยากได้ ทำให้หน้าตาน่าไว้ใจ เห็นแล้วเชื่อถือ
๒.๓) ซื่อสัตย์กับคู่ครอง ทำให้หน้าตามีเสน่ห์ชวนอบอุ่นใจ เห็นแล้วอยากเป็นคู่ด้วย
๒.๔) ไม่คิดปั้นคำลวง ทำให้หน้าตาใสซื่อ เห็นแล้วนึกเอ็นดู
๒.๕) ไม่เกลือกกลั้วสิ่งเสพย์ติดมึนเมา ทำให้หน้าตาดูเป็นคนมีสติปัญญาดี เห็นแล้วเชื่อว่าไม่ใช่พวกคิดอ่านฟุ้งซ่านเหลวไหล
๓) ภาวนาจิต หรืออาการทางใจและวิธีคิดที่ดีและสร้างสรรค์เป็นกุศล
เป็นผู้ที่มีรูปงามอันมีเสน่ห์ ก่อให้ใจรู้สึกดี อยากรู้จัก น่าเข้าใกล้ โน้มน้าวใจ
สรุปว่ากรรมหลักๆที่ทำให้สวยหล่อบาดตาบาดใจกันจริงๆ หรือมีรูปงามเกินใจใครต้านทานนั้น มาจากการเป็นคนที่หมั่นทำทานด้วยศรัทธา มีศีลสะอาดบริสุทธิ์หมดจด และมีอาการทางใจกับวิธีคิดที่เป็นบวกอยู่เสมอๆ คือไม่เป็นคนมักโกรธ ไม่คิดอกุศลหรือติดใจความคิดอัปมงคลจนปล่อยใจให้ไหลไปกับเรื่องต่ำๆ
ผู้ทำกรรมในแบบที่จะส่งผลเป็นความสวยหล่อถึงขีดสุดดังกล่าวนี้ จะมีความงามออกมาจากภายในตั้งแต่ชาติปัจจุบัน เห็นแล้วรู้สึกดีด้วยเป็นอย่างยิ่ง และในความเป็นมนุษย์ชาติถัดไป ก็จะเป็นผู้งามวัย วัยเด็กก็น่ารักแบบเด็ก วัยหนุ่มสาวก็หล่อสวยแบบหนุ่มสาวตามค่านิยมของยุคนั้นๆ และถ้าล่วงเข้าวัยชราก็ยังชวนพิศแบบผู้สูงอายุที่ดูไม่จืดตา
ตัวอย่าง ความไม่สมบูรณ์แบบในความมีรูปงาม
คนเป็นผู้มีนิสัยหนักไปทางรักษาศีลพอประมาณมากกว่าทำทานด้วยศรัทธา หรือบางทีไม่ค่อยได้ทำทานเอาเลย ชาตินี้จะดูสมส่วน เครื่องหน้าทุกชิ้น อวัยวะใหญ่น้อยทั้งหลายดูเข้ารูปรับกันไปหมด แต่กลับสวยหล่อแบบเรียบๆ ไม่หวือหวาสะดุดตานัก
ผู้มีนิสัยหนักไปทางทำทานด้วยศรัทธามากกว่ารักษาศีลให้สะอาดหมดจด ชาตินี้จะดูรูปงามชวนชมเมื่อมองผาด แต่พอมองพิศแล้วเห็นความไม่ค่อยสมส่วนสักเท่าไหร่ หรือผิวพรรณไม่ดีนัก
บางคนรูปร่างหน้าตาดี แต่กลับขาดเสน่ห์ เพราะปล่อยตัวปล่อยใจให้ง่วงเหงาหาวนอน หรือหดหู่ทอดอาลัยตายอยาก จมอยู่กับความเศร้าชั่วนาตาปี อย่างนี้ก็ขาดความชวนชมได้เหมือนกัน เพราะแม้ตาคนเขาจะเห็นรูปโฉมดีๆภายนอก แต่ใจเขาก็จะรู้สึกแย่กับกระแสความหดหู่หรือคลื่นความปั่นป่วนในภายในจนอยากเมินมากกว่าอยากพิศให้นาน
#13
โพสต์เมื่อ 06 May 2006 - 08:47 AM
ศีล - ทำให้เป็นมนุษย์ รูปร่างหน้าตาดี
ภาวนา - ทำให้เป็นคนมีสติปัญญาเฉียบแหลม
จะตรงข้ามกับ - กิเลส โมหะ โทสะ
#14
โพสต์เมื่อ 06 May 2006 - 03:52 PM