ผู้หญิงกับการบวช
#1
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 02:34 PM
#2
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 03:00 PM
ตอบ ความจริงแล้วในสมัยพุทธกาล ผู้หญิงก็สามารถบวชเป็นภิกษุณีได้ แต่ การบวชภิกษุณีนั้น ต้องบวชจากคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่าย คือฝ่ายภิกษุและฝ่ายภิกษุณี ถึงจะบวชเป็นภิกษุณีได้แต่เนื่องจากหลังพุทธกาลเป็นต้นมาภิกษุณีเริ่มมีน้อยลงเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันนี้ภิกษุณีไม่มีเลย เมื่อไม่มีภิกษุณีแล้วก็ผู้หญิงก็บวชไม่ได้ เพราะ การบวชภิกษุณีต้องบวชจากคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่ายตามที่ได้บอกมาครับ._/|\_สาธุ
***************************************************
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
#3
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 03:52 PM
#4
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 04:38 PM
ไปละเมิดสิทธิมนุษยชน การอธิบายต้องให้ความเท่าเทียมระหว่างบุรุษและสตรีเป็นหลัก
ก่อนอื่นต้องบอกไปเลย ว่า ภิกษณีบวชได้ เท่าบุรุษ แต่หาอุปปัฌชาย์ ไม่ได้เพราะปัจจุบัน
ภิกษุณีไม่มีแล้ว ที่ไม่มีเพราะไม่มีใครมาบวชมาตั้งแต่หลังพุทธกาลมาเลย
#5
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 04:52 PM
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2731
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2732
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2735
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2743
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 05:05 PM
พระอานนท์ต้องอ้อนวอนขอถึง 3 ครั้ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาต
แต่ทรงให้เหตุผลเหตุที่ไม่อยากให้บวชไว้หลายข้อ ใครจำได้ช่วยบอกด้วยค่ะ..
โดยสรุปเท่าที่จำได้คร่าวๆว่า ในสมัยนั้น ผู้หญิงยังไม่ได้รับการยอมรับมากเท่าปัจจุบัน ทั้งยังอาจถูกรังแกได้ง่าย พระพุทธองค์ไม่ได้พยายามจะกีดกัน แต่ทรงเป็นห่วง ความเป็นอยู่ มากกว่าค่ะ
โดยส่วนตัวนั้น คิดว่าท่านคงเข้าใจอารมณ์ของผู้หญิง(ส่วนใหญ่) ว่ามักคิดเล็กคิดน้อย แปรปรวนง่าย (โดยเฉพาะ**วันนั้น**ของเดือน) อาจเป็นเหตุให้พระศาสนามัวหมองได้โดยไม่ได้ตั้งใจ จึงทรงบัญญัติศีลมากกว่าพระภิกษุ ฉนั้นผู้หญิงคนไหนอยากบวช ต้องตั้งใจมากจริงๆ และอดทนในการฝึกฝนตัวเอง
#7
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 05:57 PM
พรหมจรรย์ คือ พระศาสนาหรือสัทธรรมตั้งอยู่ไม่ได้ยั่งยืนจะมีอายุสั้นเข้าเปรียบเหมือนตระกูลที่
มีบุรุษน้อยมีสตรีมากถูกผู้ร้ายทำลายได้ง่าย หรือเหมือนนาข้าวที่มีหนอนขยอกลง หรือเหมือนไร่
อ้อยที่มีเพลี้ยลง ย่อมอยู่ได้ไม่ยืนนานพระองค์ทรงบัญญัติครุธรรม ๘ ประการ กำกับไว้ก็เพื่อเป็น
หลักคุ้มกันพระศาสนาเหมือนสร้างคันกั้นสระใหญ่ไว้ก่อน เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลล้นออกไป
(พระศาสนาจักอยู่ได้ยั่งยืนเช่นเดิม) และได้ทรงแสดงเหตุผลที่ไม่ให้ภิกษุไว้ภิกษุณีให้ภิกษุณีไว้ ภิกษุได้ฝ่ายเดียว เพราะนักบวชในลัทธิศาสนาอื่นทั้งหลาย ไม่มีใครไหว้สตรีกันเลย กล่าวโดยสรุปว่า หากถือเหตุผลทางด้านสภาพสังคมศาสนาแล้ว จะไม่ทรงอนุญาตให้สตรีบวชเลย แต่ด้วยเหตุผลในด้านความสามารถโดยธรรมชาติ จึงทรงอนุญาตให้สตรีบวชได้
เมื่อภิกษุณีสงฆ์ เกิดขึ้นแล้ว สตรีที่จะบวชต่อมาต้องเป็น สิกขมานา รักษาศีล ๖ ( คือ ๖
ข้อแรกในศีล ๑๐) ไม่ให้ขาดเลยตลอด ๒ ปีก่อน จึงขออุปสมบทได้ และต้องรับการอุปสมบท
โดยสงฆ์สองฝ่าย คือ บวชโดยภิกษุณีสงฆ์แล้ว ต้องบวชโดยภิกษุสงฆ์
ตัวอย่างภิกษุณีในกาลก่อนค่ะ
http://www.84000.org/one/2/index.shtml
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#8
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 08:52 PM
#9
โพสต์เมื่อ 11 May 2006 - 09:28 PM
ถ้าไม่มีพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะมีลูกได้อย่างไร ถ้าไม่มีพระอุปัชฌาย์ฝ่ายภิกษุณีจะบวชภิกษุณีได้อย่างไร ภิกษุณีเป็นวงศ์ที่ด้วนไปแล้ว สิ้นสุดไปแล้ว จะทำการบวชได้อย่างไรครับ ลองตอบฝรั่งตามนี้ก็ได้ เค้าจะได้หายสงสัยครับ เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องกฏ หรือเรื่องสิทธิมนุษยชนนะครับ แต่เป็นเรื่องของการไม่มีผู้ให้กำเนิดในทางธรรม ทำให้ปัจจุบันไม่สามารถทำการบวชภิกษุณีได้
แนะนำให้ไปอ่านลิงค์ด้านบนที่ผมทำไว้ให้นะครับ คำถามของทุกท่านมีคำตอบอยู่ในลิงค์ที่ผมเคยโพสเอาไว้ในหมวดธรรมกถึกครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#10
โพสต์เมื่อ 12 May 2006 - 02:18 AM
อุปมาได้ชัดเจนมากค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้ความกระจ่าง
น้าจี้
#11
โพสต์เมื่อ 12 May 2006 - 10:21 AM
ดังนั้น คุณ(หมายถึงคนที่รับการอธิบาย) ก็อย่ากังวลกับกฏระเบียบในตอนนี้ให้มากเลยนะครับ ถ้าชาตินี้คุณเป็นหญิง ขอแก้กฏระเบียบเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอชาติต่อๆไป คุณอาจจะมาเกิดเป็นชาย แล้วก็ไม่พอใจกฏระเบียบเดิมที่เคยแก้ไขก็ได้ครับ เป็นต้น
#12
โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 09:58 AM
บ้านไหนมีแต่ผู้ชาย บ้านนั้นโจรขโมยไม่กล้าเข้าใกล้
แต่...
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#13
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 11:14 PM
ลูกพระธรรม
#14
โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 01:39 PM