ไปที่เนื้อหา


- - - - -

แสดงความเห็นผังรายการแบบภาพรวม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 *balloon*

*balloon*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 06 April 2005 - 02:00 PM

ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามรายการดาวธรรมอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่ามักจะดูอยู่รายการเดียวเท่านั้นคือฝันในฝัน นอกนั้นไม่ได้เปิดดูเลย
ก่อนอื่นต้องออกตัวว่า คำแนะนำนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีหลักวิชาการใดมาสนับสนุนนะครับ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนักนะครับ

1. จะทำรายการให้ใครดู
ผมคิดว่าการที่จะขายของ เราต้องรู้ว่าใครคือลูกค้าของเราบ้าง แล้วมีพฤติกรรมอย่างไร ดังนั้นต้องวิเคราะห์ว่า ใครคือลูกค้าที่จะชมรายการในแต่ละช่วงเวลาบ้าง
ในความคิดผมคิดว่าลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ลูกค้าที่เป็นคนวัดมากๆ รักการฝึกตัว มีเป้าหมายในการสร้างบารมีที่ชัดเจน จะดูแต่ช่องนี้ช่องเดียว ไม่เปิดดูช่องอื่นเลย และลูกค้าที่ไม่ใช่คนวัดสุดๆ ก็จะเปิดดูโทรทัศน์ทางโลกด้วย
คนกลุ่มแรก ทำอะไรมาก็น่าจะดูนะ เพราะเค้าไม่อยากไปดูเรื่องหยาบๆ ทางโลก
แต่กลุ่มที่ 2 ซึ่งน่าจะมีมากกว่ามากๆ เค้ามีตัวเลือกที่จะดูช่องทางโลกได้นับไม่ถ้วน ซึ่งถ้าวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่มนี้แล้ว ก็มักจะชอบรายการที่กระตุ้นกิเลสมากกว่า รายการที่ระงับกิเลสนะ
ดังนั้นการทำรายการถ้ามุ่งเน้นที่กลุ่มแรกเป็นหลัก ก็ไม่ต้องคิดมาก ทำรายการธรรมะดีๆ ใจใสๆ ออกมาเค้าก็ดูกันแล้ว แต่ถ้าเน้นกลุ่มหลังคงต้องวางแผนให้มากขึ้น

2. จะทำรายการอย่างไรกับคนกลุ่มที่ 2
ผมคิดว่าการที่จะทำรายการให้คนใหม่ดูนั้น น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญนะครับ เพราะรายการนี้ต้องการให้คนใหม่ดู แล้วติดตามดูรายการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พัฒนามาเป็นคนวัดในอนาคต หรือไม่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรมมากขึ้น ซึ่งคงต้องอาศัยการติดตามอย่างต่อเนื่องเพื่อขัดเกลากิเลสที่สั่งสมเพิ่มขึ้นทุกวัน
ดังนั้นการทำรายการต้องเน้นให้ลูกค้าติดตามอย่างต่อเนื่องให้ได้ อย่างน้อยก็ติดตามให้ทุกวัน แต่ถ้าทำได้ ก็ควรทำรายการให้เค้าติดตามได้ทั้งวัน ซึ่งจะทำให้รายการอื่นๆ ทำมาไม่เหนื่อยเปล่าเนื่องจากไม่มีคนดู
ความเห็นของผมเห็นว่า จานดาวธรรม เป็นจานที่คนทุกคนเข้าใจชัดเจนมากๆ ว่าเป็นรายการธรรมะ เป็นรายการที่สอนเรื่องการทำความดี เว้นความชั่ว ดังนั้นจึงเป็นการตีกรอบของรายได้ให้แคบขึ้น ซึ่งก็มีข้อดีคือทำให้ผู้ทำรายการกำหนดรายการได้ง่ายขึ้น ผู้ชมเข้าใจอยู่แล้วว่าช่องนี้จะมีวัตถุประสงค์อย่างไร ดังนั้นถ้าเค้าตัดสินใจติดจานแล้ว ก็แสดงว่าเค้ายอมรับได้ที่จะดูรายการธรรมะ ตอนนี้ก็เหลืออย่างเดียวคือ จะทำรายการธรรมะอย่างไรให้น่าสนใจ น่าติดตาม ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังคือ ได้เรียนรู้ธรรมะและน่าติดตาม
ปัจจุบันรายการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั้งจากคนเก่า คนใหม่ คือรายการฝันในฝัน เพราะเป็นรายการที่ให้ความรู้เรื่องธรรมะในสิ่งที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน มีเรื่องราวใหม่ๆ ทุกวันให้น่าติดตาม ซึ่งเป็นรายการที่นำเสนอสิ่งที่ชาวโลกเค้าไม่รู้แต่อยากรู้ ได้อย่างทันสมัย และไม่จำเจ (แต่ต้องยอมรับว่า รูปแบบรายการก็ยังมีบรรยากาศนิ่งๆ เป็นหลัก คนดูก็ต้องปรับอารมณ์กันหน่อย)
ที่พูดถึงรายการนี้จะเห็นว่า ทำได้ตรงกับสิ่งที่คนทางโลกอยากรู้ และอีกรายการที่น่าสนใจคือ ชีวิตในสังสารวัฎ ก็เป็นรายการที่มีแนวเดียวกัน

ดังนั้น รายการอื่นๆ ก็เช่นกัน คงต้องวางแผนผังรายการทั้งวันแบบภาพรวมและพยายามให้ตอบสนองความต้องการเดียวกันกับสองรายการเบื้องต้นเป็นหลัก แต่ก็ต้องมีผ่อนคลายด้วยรายการเบาๆ บ้างเพื่อไม่ได้หนักเกินไป และรายการที่ควรเน้นเป็นรายการเบาๆนั้น ควรเป็นรายการในลักษณะแบบให้ก่อน ไม่ใช่ทำรายการแบบอยากได้อย่างเดียว คือ เป็นรายการที่ให้ความรู้เรื่องธรรมะ หรือความสนุกสนานอย่างเดียว ไม่ใช่ทำเพื่อโปรโมทชมรม หน่วยงาน หรือชักจูงเข้าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นหลัก ซึ่งจากผังรายการปัจจุบัน เป็นเป็นการให้แต่ละหน่วยงานทำรายการ จึงมีแต่ภาพเฉพาะของหน่วยงาน ซึ่งคนใหม่ส่วนใหญ่เค้าไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจหรอก และจำนวนรายการก็มากซะด้วย ทำให้น่าเบื่อเกินไป เหมือนมีแต่ขายของอะไรทำนองนี้ ซึ่งถ้าเราดูรายการขายของในช่องทางโลก ก็จะมีเฉพาะตอนดึกๆ ไม่กี่ชั่วโมงเอง
สรุปก็คือการทำรายการคงต้องมองผังรายการภาพรวมให้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานใดอยากทำก็ปล่อยให้ทำ มันสะเปะสะปะ ไปหมด ไม่มีจุดเด่นเลย และควรเน้นรายการที่เป็นจุดขายหลักของช่อง DMC เป็นหลักซักประมาณ 60% รายการผ่อนคลายเบาสมอง (เช่น ละครธรรมะ, ข่าว, รายการเด็ก, รายการบันเทิงฯลฯ) อีกซัก 30% ส่วนอีก 10% ก็เป็นรายการเฉพาะหน่วยงาน (รายการเฉพาะกลุ่ม) ก็น่าจะดูชัดเจนมากขึ้น

3. บุคลากรมีน้อยก็น่าจะทำรายการให้ดีได้ ถ้าทำรายการแบบมองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
ผมคิดว่าการที่มีคนน้อย แล้วจะทำรายการไม่ได้คุณภาพนั้น ก็เป็นปัญหาหนึ่ง แต่ผมมองว่า การที่ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างคิด น่าจะเป็นปัญหาที่ทำให้เหนื่อยกันแบบไม่น่าเหนื่อยฃ
ถ้าคณะกรรมการสื่อกลาง มองภาพรายการให้ชัด และรู้ว่าจะช่วงเวลาไหนจะลงรายการแบบใดสู้ช่องทางโลก ช่วงเวลาไหนควรลงรายการที่เลียนแบบ ช่วงเวลาใดควรเป็นรายการเฉพาะกลุ่ม และกำหนดรูปแบบรายการให้กลุ่มคนที่ทำงานอยู่ในปัจจุบันให้ชัดเจน ก็จะไม่ทำงานเหมือนแย่งเรตติ้งกันเองแบบนี้ แต่เป็นการเสริมกันและกันมากกว่า ดังนั้นคณะกรรมการควรให้ความใส่ใจเรื่องนี้มากๆ และควรสละเวลาในการศึกษาช่องทางโลกให้มากขึ้นด้วย เพื่อประเมินจุดแข็งของเราได้ว่า รายการของเราจะพอเป็นจุดเด่น ให้ลูกค้าเลือกดูเรา แทนที่จะเลือกไปช่องอื่นได้หรือไม่ อย่ามองว่าจะหาประโยชน์เข้าองค์กรจากดาวธรรมได้อย่างไร แต่ต้องมองกลับกันว่าจะให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากดาวธรรมให้มากที่สุดได้อย่างไร ให้มองความต้องการลูกค้าเป็นสำคัญ รายการก็จะน่าจะมีความน่าสนใจมากขึ้น

4. จะหวังพึ่ง DMC ในการปลูกฝังคุณธรรมอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้

รายการทีวี โดยเฉพาะรายการธรรมะ เป็นรายการที่ค่อนข้างสงบ ไม่หวือหวา ดังนั้นการที่จะให้คนใหม่ดูรายการนี้แล้วติดตามเป็นประจำ น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะกิเลสของคนทางโลก ก็ถูกเพิ่มขึ้นทุกวัน เมื่อใจหยาบขึ้นเรื่อยๆ แต่รายการ DMC นิ่งเหมือนเดิม อีกหน่อยเค้าคงไม่ค่อยได้ดู ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายติดตั้งจานดาวธรรม สิ่งที่เห็นคือพอติดเดือนแรกๆ จะดูกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ดูอีก นานๆๆๆ จะเปิดมาดูซักที ดังนั้นถ้า DMC จะทำให้น่าติดตามก็ต้องเพิ่มความหวือหวา ไปกระตุ้นกิเลสคนบ้าง แต่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการที่จะให้คนดู DMC แล้วติดตามต่อเนื่อง คนเหล่านี้ต้องถูกปรับเป้าหมายชีวิตให้ถูกต้องก่อนว่าเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน บุญบาปเป็นอย่างไร แล้วเค้าจะรู้ว่าไม่มีช่องไหนให้เป้าหมายเค้าเป็นจริง เท่าช่องนี้ แล้วเค้าจะยอมปรับตัวเองมาดูอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นการติดตามผู้ที่ติดดาวธรรมไปแล้ว ให้ขึ้นปฏิบัติธรรมจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ปัจจุบันการประชาสัมพันธ์เรื่องการปฏิบัติธรรม ก็ค่อนข้างมั่วไปหมด โฆษณากันเหมือนไม่ได้เป็นทีมเดียวกันซักเท่าไหร่ หน่วยงานใดจัดก็โฆษณากันไป มันน่าจะมีการทำเป็นภาพรวมให้ได้เลือก เพราะคนทางโลกเค้าก็มีความคิดอยากไป แต่ไม่ว่าง ก็ต้องเลือกกันหน่อย แต่พออยากไป ก็ไม่มีโฆษณา อะไรทำนองนี้ และน่าจะมีในอินเตอร์เนท www.dmc.tv ด้วย
แต่ผมเห็นว่าการชวนปฏิบัติธรรมแบบส่วนกลางประกาศทางเดียว ไม่น่าจะชักชวนให้คนใหม่ส่วนใหญ่ไปได้ทั้งหมดนะครับ ก็เป็นคนที่ดูประจำก็ตัดสินใจง่ายหน่อย แต่คนไม่ได้ดูประจำก็ยากหน่อย ดังนั้นผมคิดว่าอีกวิธีหนึ่งในการปรับเป้าหมายอุดมการณ์ของคนติดจานใหม่คือ
การสร้างสังคมของคนวัดที่ติดดาวในแต่ละพื้นที่ เป็นการชวนเค้าเข้ามาร่วมกิจกรรม มาร่วมเข้าสังคมของเรา แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับ มันต้องให้เค้าก่อนจะรับด้วย แต่ส่วนใหญ่มักจะชวนเค้าเข้าสังคมเราแบบมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป้าอะไรซักอย่าง ทำให้เค้าตั้งกำแพงกั้นตัวเอง

ทั้งหมดนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ที่ไม่ใช่วิชาการอะไร ก็ลองอ่านดูนะครับว่า ความคิดเห็นของคนคนหนึ่ง อาจจะช่วยพัฒนาการเผยแผ่ธรรมะผ่านจานดาวธรรมได้บ้าง
สุดท้ายนี้ผมก็ขอชื่นชมและอนุโมทนาบุญกับทุกคนที่ได้ทุ่มเทสร้างสรรค์งาน สร้างคนให้เป็นคนเก่งและดี ซึ่งมาถึงวันนี้ได้ ก็เรียกว่าอัศจรรย์จริงๆ ครับ[/u]

#2 *ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก*

*ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 06 April 2005 - 06:33 PM

ไม่เอาน่าอย่าคิดมาก ไม่อ้าวน่าอย่าคิดไปกันใหญ่

#3 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 06 April 2005 - 08:49 PM

เห็นด้วยค่ะว่าเป็นสิ่งที่น่าคิด ปล่อยให้ทำแบบไร้จุดหมายจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรนัก น่าจะหยุดเพื่อวิเคราะห์กันได้แล้ว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ปล่อยไปตามลม

การวิเคราะห์ผู้ฟัง ซึ่งในที่นี้เปรียบเสมือนเป็นลูกค้าของเรา เพื่อให้เข้าใจถึงคุณลักษณะของเขา ความต้องการของเขา และนิสัยในการชมรายการหรือการบริโภคสินค้าและบริการ (assessing customer profile, customer needs and customer behaviour) เป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกองค์กร ทั้งที่หวังและไม่หวังผลกำไรจะต้องทำ (ไม่ใช่แค่ควรทำ) เพื่อให้สามารถผลิดสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

แล้วลูกค้าเหล่านั้นจะเป็นลูกค้าที่มีความซื่อสัตย์ (royalty) ต่อเรา



เรื่องนี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นขั้นตอนแรกที่จะต้องทำในการวางแผนกลยุทธ์ (strategic planning) เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน (sustainable) ไม่งั้นซักพักก็คงเบื่อไม่มีใครดูกัน ถ้าไม่มีใครดูแล้วจะทำทำไม เปลืองทรัพยากร เอาเงินบริจาคไปใช้ทำอย่างอื่นที่ได้รับประโยชน์มากกว่าซะจะดีซะกว่า


การนำหลักวิชาการสากลที่ดูเข้าท่านั้นมาประยุกต์ใช้กับงานพระพุทธศาสนาน่าจะมีประโยชน์ ไม่งั้นเราก็คงคร่ำครึ ล้าหลัง อีกหน่อยคนคงหันไปถือศาสนาอื่นกันหมดเพราะความคร่ำครึนั่นเอง


ลงทุนตั้งมากตั้งมาย ใช้ความพยายามของคนจำนวนมาก อย่าให้ความพยายามเหล่านั้นสูญเปล่า
ถ้าสักแต่ว่าทำรายการไปเรื่อย ๆ คิดว่าคงมีคนดู ก็ขนาดเรายังดูเลย เราก็คงรายการมันก็คงดึงดูดได้แต่คนที่คิดอย่างเรา ชอบอย่างเรา ซึ่งในโลกนี้ก็คงมีซัก 2 - 3 คนเท่านั้นเอง แล้วจะเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปให้ไกล ได้ อย่าง ไร

ฝากคิดด้วย

#4 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 07 April 2005 - 12:37 AM

ดีครับ ใครมีคำแนะนำดีๆ ก็ช่วยๆกัน
ใครไปช่วยงานได้ก็ไปช่วยกันครับ
เห็นว่าทางวัดยังขาดบุคลากรอีกมาก
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#5 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 09 April 2005 - 12:27 PM

DMC NEWs ชอบแย่งกันพูด ฟังไม่รู้เรื่อง อย่าแย่งกันพูดซิจ๊ะ คนนึงยังพูดอยู่อีกคนก็แทรกมา เหมือนเพื่อแสดงความเห็นส่วนตัว ฟังแล้วปวดหัวมาก

ลองดูสรยุทธ์ กับกนก ซิ เขารอให้อีกฝ่ายพูดจบก่อน หรือรอให้อีกฝ่ายหยุดพูด ก่อนจะพูดแย้งนะหรือสนับสนุน

ขอบคุณค่ะ

#6 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 09 April 2005 - 12:28 PM

อุ้ย ขอโทษค่ะ post ผิดหัวข้อ
ขอบคุณค่ะ

#7 *signal*

*signal*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 15 April 2005 - 11:02 PM

คงต้องถามกันละครับว่า วัตถุประสงค์ของ dmc ต้องการอะไรกันแน่ครับ

#8 *balloon*

*balloon*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 16 April 2005 - 08:10 PM

อยากฝากไว้ครับว่า ทุกคำแนะนำ เป็นความหวังดี และพยายามไม่ใส่อารมณ์ เป็นคำพูดเชิงแนะนำ ไม่ได้ตำหนิ เพราะอยากให้ดาวธรรมของเรา เป็นเครื่องมือที่มีอานุภาพ สร้างความพอใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้
เราทำรายการให้คนหลากหลายทัศนคติดู โดยมุ่งหมายอยากให้ดาวธรรมสามารถสร้างความเห็นที่ถูกต้องของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ให้กับผู้ชมทุกกลุ่มทัศนคติดได้ ดังนั้นการทำรายการผมเห็นว่า คงต้องใส่ใจเรื่องนี้มากๆ เพื่อให้รายการมีประสิทธิภาพ ทำแล้วมีผลลัพธ์เป็นบวกมากขึ้น ความเหนื่อยที่ลงไป ก็จะได้ผลดี ไม่เหนื่อยฟรีครับผม อนุโมทนากับผู้ที่เหนื่อยสร้างบารมีทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 April 2005 - 08:27 PM

ดีครับ ใครมีกำลัง ความคิดใดๆ ก็แนะนำกันมา จะช่วยให้สันติสุขที่แท้จริงเกิดขึ้นกับโลกโดยเร็ว

"เมื่อใด นกประหลาด ส่งเสียงออกมาจากท่อ ร้อง บัดนี้ บัดนี้ เมื่อนั้นสันติสุขที่จริง จะเกิดขึ้นกับโลก" จากนอสตราดามุส
นกประหลาดนั้นก็คือ จานดาวธรรม
ร้อง บัดนี้ บัดนี้ คือ บัดนี้ ถึงเวลาธรรมกาย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 16 April 2005 - 08:43 PM

"นกประหลาดนั้นก็คือ จานดาวธรรม
ร้อง บัดนี้ บัดนี้ คือ บัดนี้ ถึงเวลาธรรมกาย"

เปรียบเทียบได้ดีค่ะ เห็นภาพจานดาวธรรมบินเลยค่ะ

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 April 2005 - 08:53 PM

ประโยคนี้ไม่ใช่คำเปรียบเทียบหรอกครับ แต่เป็นคำพูดจริงของนอสตราดามุส นักพยากรณ์เอกของโลก ที่พูดไว้หลายร้อยปีก่อน เช่นเดียวกับ คำพูดอื่นๆ เช่น
คำพูดว่า ผู้นำศรัทธาใหม่นั้น พยางค์ที่สองของชื่อ มีนามคล้ายดั่งพระจันทร์ (สด จันทร์สโร)
หรือ ร่างของท่าน (ผู้นำศรัทธาใหม่) จะถูกเหล่าสาวก หล่อด้วยทองคำ (หลวงปู่ทองคำ)
หรือ ท่านจะเห็นภาพในดวงจิต เปล่าเสียงออกมาจากปากที่ปิดสนิท (ทำสมาธิ)
ประโยคเหล่านี้ไม่มีใครรู้เลยว่า หมายถึงใคร แต่ปัจจุบันเริ่มรู้แล้ว รวมทั้งประโยคนกประหลาดนั่นด้วย ปัจจุบัน ชาวโลกยังไม่รู้ว่า นอสตราดามุส เขาจงใจหมายถึงอะไร
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 30 January 2007 - 03:41 PM

ต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้น ว่าจะจริงจะ** อย่างไร กราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่า่นด้วยนะครับ สาธุ