ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ขอความกระจ่างหน่อยจ้า


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 KATCH

KATCH
  • Members
  • 105 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 09:44 PM

เห็นชาววัดบางท่านที่เป็นนักมังสวิรัติ นักกินเจ พอเขามาวัดแล้ว เมื่อถึงช่วงกินข้าว เขาจะไปสำรวจดูอาหารที่วัดจัดเตรียมไว้ แล้วก็เลือกกิน พอเห็นกับข้าว เขาก็บอก อันนั้นก็กินไม่ได้ อันนี้ก็กินไม่ได้ เพราะมีแต่เนื้อ เขาบอก มันไม่สะอาด ( เราฟังแล้ว ประมาณว่าเรา โน่นๆ อยู่หลังเขาเลย ) เลยรู้สึกว่า เอ ทำไมมันกินยากจัง....ะ จะกินอะไรแต่ละที ต้องมาถามว่า อันนี้ใส่เนื้อหรือเปล่า ใส่โน่นนี่หรือเปล่า บางพวกเคร่งๆ ไข่ก็กินไม่ได้ ผักบางอย่างก็กินไม่ได้

จึงมีคำถามว่า...

1. พวกนี้เขามีความคิดอย่างไรจึงทำให้เป็นแบบนี้ ? ( ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นคนวัดนะ มาวัด มานั่งสมาธิ มาร่วมกิจกรรม รักบุญ แต่มาติดเรื่องอาหารนี่แหละ ที่ว่ามันเป็นการเพิ่มภาระให้คนจัดอาหาร บางทีต้องวิ่งหาของกินที่เขากินได้ให้ )

2. การจุกจิกหรือติดเรื่องอาหาร อย่างนี้จะทำให้การปฏิบัติธรรม หรือการสร้างบารมีอย่างอื่นเขาจะเป็นอย่างไร ?

3. อย่างนี้เขาจะทำให้คนกลุ่มใหญ่รวนหรือไม่ ? ( เพราะคนที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกสงสาร + อึดอัดเหมือนกัน เห็นเขากินได้แต่ข้าวเปล่า ... dont_tell_anyone_smile.gif เวรกรรม )

4. วิถีการกินแบบนี้ทำให้เกิดทิฏฐิในตัวหรือเปล่า ?

5. อยากทราบที่มาของการกินเจ หรือกินมังสวิรัติ สมัยพุทธกาล ?

ความจริงหากจะดูแลสุขภาพ น่าจะใช้หลักโภชนาการเขามาจับ คือ กินเนื้อให้น้อย กินผักให้มาก ดีกว่าการเปลี่ยนวิถีไปเป็นพวกกินเจ หรือนักมังสวิรัติ ยิ่งมีการตั้งชมรมเจ - มังสวิรัติ ยิ่งหนักข้อเข้าไปใหญ่ เดี๋ยวนี้มีการจำหน่ายอาหารที่ทำขึ้นเพื่อเจโดยเฉพาะ ก็ไม่รู้ถูกหรือแพง
บวกกับสารที่ปรุงแต่งในอาหาร เป็นอันตรายหรือเปล่าก็ไม่รู้ )

อยากจะอธิบายให้เขาฟังเหมือนกัน ว่า มาวัดไม่ควรเลือกกิน ควรจะเป็นผู้อยู่ง่าย เลื้ยงง่าย ไม่ควรสร้างภาระให้คนเตรียมอาหาร ( การไม่ชอบเนื้อสัตว์ น่าจะเป็นการชอบส่วนตัว ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องตัก ) อ้อออ...แม้น้ำซุปเขาก็ไม่กิน ของบางอย่าง มีน้ำปลา ก็ไม่เอา แต่พอเห็นเขาทิฏฐิในเรื่องอาหารมากขึ้น เลยไม่ยุ่งดีกว่า ( ดูพวกนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เหมือนไม่ค่อยมีแรง ผิวพรรณก็ซีดเซียว แต่เขาก็ภูมิใจว่าเขาสะอาดขึ้น โอ๊ะ อมิตภะ mad.gif )

#2 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 10:52 PM

โห ถามเยอะจัง ขอตอบง่ายๆละกันนะคะ

หลวงพ่อทัตตะท่านเคยกล่าวเอาไว้แบบกำปั้นทุบดินค่ะว่า...

ถ้ากินแต่ผักแต่หญ้าแล้วไปนิพพาน "ควาย" มันก็ไปนิพพานหมดแล้วสิ

ประโยคนี้ประโยคเดียว ไม่ต้องคิดอะไรอย่างอื่นต่อแล้วค่ะ ปาณาติบาต ก็บอกอยู่แล้ว ว่างดเว้นจากการฆ่า ถึงแม้เราจะบริโภคเนื้อ ซึ่งฆ่ามาให้เรา แต่เราไม่รู้ นี่ก็ไม่เข้าข่ายปาณาติบาต เขาฆ่ามาแล้ว มันคือซากศพ เรากินซาก เราไม่บาปค่ะ

ทางที่ดี บอกให้เขาหาอาหารเจหรือมังสวิรัตห่อจากบ้าน มาทานเองที่วัดดีกว่านะคะ ใจไม่หมองทั้งคนกิน คนหา นั่งธรรมะก็ไม่ติดในอาหาร การมาวัด ก็คือการใช้ชีวิตสมถะ อยู่ง่ายกินง่าย ต้องดูพระที่ท่านบวชเอาชีวิตเป็นเดิมพันเป็นตัวอย่างนะคะ ท่านอยู่ได้ด้วยบาตรอันเดียว เลี้ยงชีวิต ใครใส่บาตรอะไรมา ก็ต้องฉัน

จบ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#3 danaiporn

danaiporn
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 11:03 PM

1. มันเป็นความคิดเก่า มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แล้วเรื่องทานมังสะวิริติ ไม่ทานเนีอสัตว์ แต่พระพุทธเจ้า ก็ไม่ได้ห้าม ให้พระต้องไม่ทานเนื้อสัตว์ มันทำให้พระลำบาก เพราะว่าญาติโยมต้องถวายแต่อาหารไม่มีเนี้อสัตว์ ซึ่งบางพื้นที่ในโลก ก็หาได้ยาก
2. ก็คล้ายกับคนที่ติดอาหาร ถ้าไม่มีไข่เจียว ก็ทานไม่ได้ ถ้าไปยุโรป เป็นไข่เจียวแบบฝรั่ง และมีเฉพาะมื้อเช้า ก็ลำบากตัวเอง
3. คนรอบข้าง ก็สงสาร เท่านั้นเอง อย่าไปว่าอะไรเลย
4. บางคนก็มี บางคนก็ไม่มี
5. เป็นวัฒนธรรม ของทางอินเดีย โดยเฉพาะทางตอนใต้ของอินเดีย ซึ่งคงอยู่ถึงปัจจุบัน ถ้ามีโอกาสได้ไปทางตอนใต้ ของอินเดีย จะเป็นอาหารมังสะวิรัติ เป็นหลัก น่าจะมีมาก่อนสมัยพุทธกาล
6. เห็นด้วย ทำตัวให้เลี้ยงง่ายดีกว่า
7. แนะนำให้เตรียมอาหารมาเอง ดีกว่า ถ้าหากว่ามีปัญหาในเรื่องอาหารการกิน ในอินเดีย เขาไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ทานนม และ เนย ทำให้ได้รับ โปรตีน พอสมควร ถ้าเป็นเจ แบบจีน ก็ทานเต้าหู้ ให้ได้รับ โปรตีน ถ้าทานแบบผสมไม่ทานถั่วเหลืองและนม ก็จะไม่ค่อยแข็งแรง ควรจะทำความเข้าใจเรื่องสุขภาพให้มาก ๆ นะครับ

#4 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 11:07 PM

ความจริงไม่ว่าจะเป็นแนวคำสอนไหนถ้าสอนให้มนุษย์เราทุกคนละชั่วทำดี ทำจิตให้ผ่องใสก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ
เรื่องการกินเจ หรือมังสวิรัตินั้น ผมเองก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับถ้าใครจะสามารถทำแบบนั้นได้ก็ทำไปเถอะครับ
ถือเป็นการเพิ่มจำนวนคนที่ไม่ส่งเสริมการฆ่าสัตว์ก็จะได้กุศลจริงๆ ไปอีกทางหนึ่งครับ

หลักง่ายๆ หรือเหตุผลง่ายๆ ของคนที่ไม่กินเจก็คือ ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ใดๆ ที่เกิดมาร่วมโลกล้วนแล้วเคยเกิดเป็นญาติ
บ้างก็เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ น้อง สามี ภรรยา เพื่อนสนิท ของเราในอดีตชาติทั้งสิ้น เรากินเนื้อเขาก็เท่ากับเรากำลังกินเนื้ออดีตคนที่เราเคยรัก เคยรู้จักนั่นเองครับ


สิกขาบทข้อแรกเรื่องศีลข้อที่ 1 ห้ามฆ่าสัตว์ นั้นครอบคลุมถึงไม่ฆ่าสัตว์นั้นเอง ไม่ใช้ให้คนอื่นฆ่า และไม่ส่งเสริมหรือยินดีที่ผู้อื่นกำลังฆ่าสัตว์นั้นครับ

ปกติถ้าใครกินเจชนิดเคร่งเขาจะทราบด้วยตนเองว่าอาหารข้างนอกนั้นมีแต่เนื้อหากินยากเขาจะต้องเตรียมอาหารมากินเองเสมอครับ ก็ไม่น่าจะไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนนะครับ ปากท้องก็ของเขา ๆ หิวเขาอดก็ปากท้องเขา อย่างกังวลใจแทนปากท้องเขาเลยครับ เอถ้าเมตตาสงสารเพื่อนคนนี้มากก็ออกไปซื้อาหารเจมาเลี้ยงเพื่อนเลยสิครับ ได้บุญอีกด้วยสบายเลยมีเหยื่อมาให้เราทำบุญอีกแล้วครับ 555+

QUOTE
1. พวกนี้เขามีความคิดอย่างไรจึงทำให้เป็นแบบนี้ ?

ตอบ มีความคิดในทางกุศลถือว่าดีมากครับ

QUOTE
( ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นคนวัดนะ มาวัด มานั่งสมาธิ มาร่วมกิจกรรม รักบุญ แต่มาติดเรื่องอาหารนี่แหละ ที่ว่ามันเป็นการเพิ่มภาระให้คนจัดอาหาร บางทีต้องวิ่งหาของกินที่เขากินได้ให้ )

ตอบ กรรมจริงๆ นักกินเจมือใหม่ยังอ่อนประสบการณ์ในการกินหนะครับ เลยก่อภาระให้คนอื่นต้องค่อยๆ ชี้แจงให้เขาเข้าใจครับว่า ถ้าเรารักจะกินเจเราก็ต้องเตรียมอาหารของเรามาเองอย่าให้คนอื่นเดือดร้อนครับ เลี้ยงปากท้องตัวเองแค่นี้ถ้าเราเลี้ยงไม่ได้จะมารอให้ใครที่ไหนเขามาเลี้ยงเราหละครับ

QUOTE
2. การจุกจิกหรือติดเรื่องอาหาร อย่างนี้จะทำให้การปฏิบัติธรรม หรือการสร้างบารมีอย่างอื่นเขาจะเป็นอย่างไร ?

ตอบ ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะปฏิบัติได้ถูกต้องร่องรอยตามแนวที่พระพุทธเจ้าได้วางไว้หรือไม่ครับ
ถ้าปฏิบัติถูกต้องและตรงก็มีความก้าวหน้าได้ดีครับ แต่ถ้ากินเจแล้วไม่นั่งสมาธิไม่ลดกิเลสตัณหา ก็จะได้ศีลข้อที่ 1 เข้มข้นดีครับ กล่าวคือ แม้เขาจะกินไม่เหมือนคนอื่นแต่ถ้าเขาวางใจได้เหมือนนักกรรมฐาน คือ หยุด นิ่ง ใส ได้ก็ก้าวหน้าได้เช่นกันครับ

QUOTE
3. อย่างนี้เขาจะทำให้คนกลุ่มใหญ่รวนหรือไม่ ?

ตอบ ไม่รวนหรอกครับ เพราะปกติมีแต่คนกินเนื้อต้องเสียเงินเสียทองมากมายเลี้ยงข้าวเลี้ยงเนื้อสาธุชน ถ้ามีคนกินเจซัก 1 แสนคนก็สบายเลยประหยัดตังส์ค่าอาหารไปเยอะครับ ยิ่งกินเจหมดซัก 1 ล้านคนกินแต่ผักเหมือนตามโรงเจศาลเจ้ายิ่งดีใหญ่เลยครับ ประหยัดจังประโยชน์สูงมีโฟเลตด้วยครับ 555+

QUOTE
4. วิถีการกินแบบนี้ทำให้เกิดทิฏฐิในตัวหรือเปล่า ?

ตอบ เป็นสัมมาทิฐิครับ เพราะเจตนากินเพื่อจะไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นที่เป็นเหมือนญาติผู้ร่วมโลกในวัฎฎะสงสารเป็นทิฐิที่ดีมากครับ

QUOTE
5. อยากทราบที่มาของการกินเจ หรือกินมังสวิรัติ สมัยพุทธกาล ?

ตอบ ถามแบบนี้แสดงว่าน้องเคยอ่านประวัติพระเทวทัต เรื่องที่เทวทัตทูลขอวัตถุ 5 ประการกับพระพุทธองค์มาแน่เลยครับ

***วัตถุ 5 ประการ***

พระเทวทัตต์กล่าวว่า มาเถิด อาวุโสทั้งหลาย พวกเราจักเข้าเฝ้าพระสมณโคดม ทูลขอวัตถุ ๕ ประการว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคทรงสรรเสริญคุณแห่งความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ วัตถุ ๕ ประการนี้ เป็นไปเพื่อความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานพระวโรกาส
๑. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่ป่าตลอดชีวิต ภิกษุใดอาศัยบ้านอยู่ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
๒. ภิกษุทั้งหลายควรเที่ยวบิณฑบาตตลอดชีวิต ภิกษุใดยินดีการนิมนต์ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
๓. ภิกษุทั้งหลายควรถือผ้าบังสุกุลตลอดชีวิต ภิกษุใดยินดีผ้าคหบดี โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
๔. ภิกษุทั้งหลายควรอยู่โคนไม้ตลอดชีวิต ภิกษุใดเข้าอาศัยที่มุงบัง โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
๕. ภิกษุทั้งหลายไม่ควรฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต ภิกษุใดฉันปลาและเนื้อ โทษพึงถูกต้องภิกษุนั้น
............
ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงติเตียนพระเทวทัตต์ โดยอเนกปริยายดังนี้แล้ว ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความกำจัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียร โดยอเนกปริยาย แล้วทรงกระทำธรรมีกถา ที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะสมแก่เรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ
1.เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์
2.เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์
3.เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก
4.เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
5.เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน
6.เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต
7.เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส
8.เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว
9.เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม
10.เพื่อถือตามพระวินัย

ที่มา : http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.ph...;าร

จะเห็นได้ว่าข้อที่ห้ามภิกษุไม่ให้ฉันเนื้อปลาและเนื้อนั้นดูไปแล้วความจริงแล้วดี แต่ไม่ดีตรงที่ "ภิกษุเป็นผู้ยังชีพเลี้ยงอัตภาพด้วยการภิกขาจาร หรือการขอ ไม่ควรทำตัวเลี้ยงยาก ไม่ควรทำตัวให้ชาวบ้านที่ยังไม่ศรัทธา หรือศรัทธาแล้วลำบากในการหาอาหารมาใส่บาตร ภิกษุพึงเป็นผู้เลี้ยงง่ายนั่นเอง"

ถามว่าพระพุทธองค์ส่งเสริมอยากให้คนกินเนื้อหรือไม่กินเนื้อ ก็ให้กลับไปดูสิกขาบทศีลข้อที่ 1 ใหม่ครับ
จะพบว่าถ้ามหาชนหรือคนทั้งโลกถือศีลกันหมด ไม่ฆ่าสัตว์เอง ไม่ใช้ให้คนอื่นฆ่า และไม่ยินดีในการฆ่าสัตว์นั้น อาหารที่สาธุชนจะนำมาใส่บาตรก็ย่อมจะไม่มีเนื้อสัตว์ เป็นอาหารเจไปเอง แต่เนื่องจากพุทธองค์ทรงทราบว่าสัตว์ในโลกนี้ยังมีเชื้อของการฆ่า เบียดเบียนกัน แม้แต่สัตว์เดียรัจฉานก็ยังเป็นสัตว์กินสัตว์ มนุษย์ก็ยังกินสัตว์มาช้านานแล้วจะบอกห้ามไม่ให้ทำคงจะไม่ง่ายนัก ดังนั้นถ้าใครสมัครใจละถือศีล จะพึงละเว้นการฆ่า ไม่ส่งเสริมการฆ่า ก็จะเป็นบุญติดตัวเขาคนนั้นไปครับ

QUOTE
กินเนื้อให้น้อย กินผักให้มาก ดีกว่าการเปลี่ยนวิถีไปเป็นพวกกินเจ หรือนักมังสวิรัติ ยิ่งมีการตั้งชมรมเจ - มังสวิรัติ ยิ่งหนักข้อเข้าไปใหญ่ เดี๋ยวนี้มีการจำหน่ายอาหารที่ทำขึ้นเพื่อเจโดยเฉพาะ ก็ไม่รู้ถูกหรือแพง บวกกับสารที่ปรุงแต่งในอาหาร เป็นอันตรายหรือเปล่าก็ไม่รู้

ตอบ อาหารเจแพงกว่าอาหารเนื้อมากๆ ในภัตตาคาร แต่จะถูกกว่าเนื้อมากๆ ถ้ารู้จักทำกับข้าวกินเองเป็นครับ 555+
ผมปกติเป็นคนสงเสริมหรือยินดีที่มีคนทำความดีครับ ไม่เคยคิดว่าคำสอนของศาสนาไหนที่แตกต่างจากเราแล้วไม่ดีนะครับ ผมนิยมคำสอนที่สอนให้คนละชั่ว ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

คนกินเจ อย่างน้อยเขาก็ได้ศีลข้อที่ 1 ถ้าไปฟังธรรม หรือเป็นญาติธรรมเผยแผ่ธรรมะก็ได้ ธรรมะเสวนามัย เจริญปัญญาอีกทางหนึ่ง มีจิตหวังเข้าถึงอมิตาภะ แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้มีแสงสว่างนะครับ ก็ได้พุทธานุสติ อย่าคิดมากเลยครับเขาทำความดีแม้จะไม่ถูกใจเราซะหมดก็ควรโมทนายินดีกับการทำดีของเขาครับ อนุโมทนาบุญยังได้บุญดีกว่ามองตาขวางๆ เยอะนะครับ 555+

QUOTE
7. อยากจะอธิบายให้เขาฟังเหมือนกัน ว่า มาวัดไม่ควรเลือกกิน ควรจะเป็นผู้อยู่ง่าย เลื้ยงง่าย ไม่ควรสร้างภาระให้คนเตรียมอาหาร

ตอบ แนะนำให้เขาเตรียมอาหารมาเองครับดีที่สุด

QUOTE
ดูพวกนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เหมือนไม่ค่อยมีแรง ผิวพรรณก็ซีดเซียว แต่เขาก็ภูมิใจว่าเขาสะอาดขึ้นโอ๊ะ อมิตพระ

ตอบ อาหารเจเป็นโปรตีนเกษตร ทำจากถั่วเหลือง ถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมากกว่าเนื้อนะครับ และที่สำคัญปลอดจากกรดซิตริกที่มีในเนื้อสัตว์ ซึ่งกรดชนิดนี้ในสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าจะมีกรดชนิดนี้สูงมาก เป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งนะครับ ในเนื้อหมูมีสารเร่งเนื้อแดง และสารเคมีเพิ่มไขมันให้หมูอ้วน โตไว ในสัตว์ปีกถ้าโชคร้ายก็เจอไข้หวัดนก ในวัวถ้าโชคร้ายกินสเต็คมิเดียมแล้วเจอเชื้อแอนแทรกเข้าก็ซวยบอกไม่ถูกเลยครับ ในผักระวังข้อเดียวคือล้างผักให้สะอาดระวังยาฆ่าแมลงครับ 555+

#5 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 11:29 PM

คุณครูไม่ใหญ่ท่านเคยกล่าวไว้ว่าถึงแม้จะกินเจหรือไม่กิน ถ้าไม่ได้ประกอบเหตุในการสร้างความดีให้เกิดทางมาแห่งบุญ หรือที่เรียกว่าบุญกริยาวัตถุ 10 ประการ บุญก็ไม่เกิดครับ.

#6 KATCH

KATCH
  • Members
  • 105 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 01:11 AM

ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ช่วยกันตอบ
( แฮ่ะๆ แต่ก็ต้องขออภัย ที่ถามเยอะไปหน่อย )

เข้าใจแย้วววววววค่า

^_______^

#7 BOG-BOG

BOG-BOG
  • Members
  • 293 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 09:26 AM

คำว่า "มังสวิรัติ" มาจากคำว่า "มังสะ" แปลว่าเนื้อสัตว์ "วิรัติ" แปลว่า การงดเว้น มังสวิรัติจึงแปลว่า การงดเว้นเนื้อสัตว์ ซึ่งหมายถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า เวเจเทเรียนนิซึม (Vegetatianism) มีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินคือ เวเจตัส (Vegetus) แปลว่า สมบูรณ์ดีพร้อม สดชื่น เบิกบาน หรือมีความหมายว่า ผู้ซึ่งละเว้นจากการนำสัตว์ทุกชนิดมาเป็นอาหาร ทั้งนี้อาจรวมหรือไม่รวมถึงไข่และผลิตภัณฑ์จากนม


มังสวิรัตินั้น มีผู้ถือปฏิบัติกันมาเป็นเวลาช้านาน และกลายเป็นแนวปฏิบัติ ทางศาสนาสำหรับหลายศาสนา ในตะวันออกกลางมาเป็นเวลาหลายพันปี แล้วเช่น ศาสนาเชน ศาสนาฮินดู ศาสนาโซโรแอสเตอร์ ศาสนาพุทธ และศาสนาอื่นๆ


มังสวิรัติ อาจแบ่งได้เป็น 8 ประเภท คือ
มังสวิรัติแบบแมคโครไบโอติก (Macrobiotig) งดเว้นผลิตภัณฑ์จาก สัตว์ และยึดถือหลักหยิน-หยาง
มังสวิรัตินม-ไข่ (Lacto Ovo Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินนม ผลิตภัณฑ์จากนม และกินไข่
มังสวิรัติไข่ (Ovo Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินไข่
มังสวิรัตินม (Lacto Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินนม และผลิตภัณฑ์จากนม
มังวิรัติแบบเจ (J-Chinese Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมทั้งพืชที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ หอม กระเทียม คึ่นฉ่าย ใบยาสูบ และหลักเกียว (กระเทียมโทนจีน)
มังสวิรัติบริสุทธิ์ (Pure Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์
มังสวิรัติพืชสด (Raw Food Eater) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และกินพืช ผัก ผลไม้ที่สดดิบ ไม่ผ่านขบวนการหุงต้มใดๆ
มังสวิรัติผลไม้ (Fruitarian) กินแต่ผลไม้และถั่ว

บทความพิเศษ เรื่อง เหตุใดจึงต้องเป็นมังสวิรัติ โดย อนุตตราจารย์ชิงไห่ ผู้ถ่ายทอด ธรรมวิถีกวนอิม



จ๊าค เดอ มาเควต (JACQUES DE MARQUETTE) ผู้ก่อตั้งสมาคมครอบครัวสากล ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะทำงานเพื่อส่งเสริมมนุษยชาติ ธรรมชาติและบุคลิกภาพ ให้เหตุผลของการกินอาหารมังสวิรัติไว้ 12 ข้อ สรุปได้ดังนี้

เพื่อร่างกายที่สะอาด บริสุทธิ์

เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจ

เพื่อความอยู่ดีมีสุขของคนในสังคม

เพื่อความรัก อันปราศจากความหลงในเมถุน

เพื่อจิตใจที่เข้มแข็ง

เพื่อความสมดุลย์ทางเศรษฐกิจและสังคม

เพื่อการพัฒนาทางปัญญา

เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ

เพื่อเหตุผลทางด้านศีลธรรมและความไม่เบียดเบียน

เพื่อเป็นรากฐานของสันติภาพ

เพื่อเหตุผลทางด้านศาสนา

เขาเชื่อว่าอาหารมังสวิรัติ "เป็นกุญแจที่จะเปิดประตูทุกบาน" และเป็นหลักประกันของสุขภาพอันสมบูรณ์ ความเจริญทางวัตถุ ความสมดุลย์ทางปัญญา ความบริสุทธิ์ ความดี ความเมตตาต่อสัตว์และมนุษย์ ในยุคแห่งความหลงอวิชชา ความบ้าเลือด และความทุกข์ทรมาน








คนดีชอบแก้ไข คนจัญไรชอบแก้ตัว คนชั่วชอบทำลาย คนมักง่ายชอบทิ้ง คนจริงชอบทำ คนระยำชอบติ !!!!

#8 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 09:41 AM

โดยส่วนตัวแล้วผมก็เป็นคนรับประทานมังสวิรัติเหมือนกันนะครับ แต่จะรับประทานเป็นช่วงๆ (ไม่ใช่หมีแพนด้านะ) เป็นครั้งคราวไป ก็ไม่ได้นึกว่าได้บุญได้กุศลดอก แต่ผมคิดว่าผมต้องดูแลรักษาสรีระยนต์นี้ให้ใช้งานได้นานที่สุด อีกอย่างการบริโภคเนื้อสัตว์มากจนเกินไปนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี เนื่องจากว่าโดยปกติร่างกายของเรานั้น ไม่สามารถขับถ่ายเอาของเสียเหล่านี้ได้หมด ยิ่งคนที่ไม่ชอบรับประทานอาหารที่มีเส้นใยแล้ว ไม่ต้องแล่งกัน คนกลุ่มนี้จะมีของเสียที่เป็นพิษติดกันเป็นพืด เป็นคราบ อยู่ที่บริเวณลำไส้ใหญ่ และของเสียเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุของการทำให้เซลล์เยื่อบุผนังบริเวณลำไส้เกิดการความผิดปกติ จนกระทั่งกลายเป็นเซลล์เนื้อร้ายได้ในที่สุด ดังนั้นผมคิดว่า ในชีวิตนี้ หากจะรับประทานมังสวิรัติเสียบ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรดอกครับ เพราะอาหารมังสวิรัติบางอย่างเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ ผมคงไม่รอที่จะให้โรคร้ายทั้งหลายเกิดขึ้นกับตัวผมก่อน แล้วค่อยมาตามแก้ทีหลังหรอกนะครับ เพราะหากรอให้ถึงวันนั้น อาจสายเกินแก้
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#9 wir

wir
  • Members
  • 290 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 10:38 AM

ชอบทานมังสวิรัติเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้ทานทุกวัน แล้วแต่โอกาส หรือยากทานก็ทำเอง ประโยชน์เรื่องสุขภาพได้ดีค่ะ

ทุกวันนี้ถ้ามีเวลาต้องเตรียมอาหารไปวัดเองอยู่แล้ว เพื่อช่วยประหยัดงบให้กับวัดบ้างไม่มากก็น้อย เพราะเราเองยังมีโอกาสหารายได้เองได้วัดจะได้มีงบพอสำหรับเลี้ยงผู้มีรายได้น้อย ที่ไปฝึกตนสร้างบารมี

สาธุ..ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เขียนมาให้ได้ประโยชน์มากๆเลยค่ะ มีโอกาสขอนำไปขยายต่อนะค่ะ



#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 01:40 PM

เดี๋ยวนี้ก็หันมาทานผัก ผลไม้มากขึ้น ลดปริมาณเนื้อสัตว์ลง ด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ เช่นเดียวน้องขุนศึก (เรียกตามชื่อใหม่) ด้วยเหมือนกันครับ

หลังจากเริ่มเปลี่ยนนิสัยการทานอย่างนี้มาระยะหนึ่ง สังเกตุว่า ตนเองสดชื่นขึ้น (ไม่เพลียง่ายๆ ในตอนเช้า อาจเพราะอาหารย่อยง่ายขึ้น) และท้องไม่ผูก ซึ่งเป็นผลดีมากๆ เลย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 09:20 PM

แฟนก็ทานมังสวิรัติค่ะ ไม่ใช่เพราะความเชื่อทางศาสนา แต่เพราะว่าทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์แล้วไม่ย่อย ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ต้องเอาออกทางที่เอาเข้าอะไรทำนองนี้ เธอก็เลยเป็นมังสวิรัติไปโดยปริยาย แต่ประกอบกับชอบกินผักอยู่แล้วก็เจ้าตัวเขาก็เลยไม่มีปัญหา

ส่วนตัวเราก็ไม่ว่าอะไร อร่อยดี ไปไหนก็ไปกินผักกันสองคนสบายท้อง สบายกระเป๋า


อย่างนี้ใครพอทราบบ้างค่ะว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากวิบากกรรมอันใด

#12 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 16 May 2006 - 10:35 PM

QUOTE
การปฏิบัติไม่สำคัญเท่าจิตใจหรอกครับ ถ้าจิตเราคิดว่าเป็นบุญมันก็คือบุญ

ที่คุณบอกว่าสำคัญที่จิตใจมันก็ถูกนะครับ และถูกด้วยที่ว่าบุญเกิดนับแต่เริ่มที่ใจคิด (เป็นกุศลมโนกรรม) แต่ว่าสิ่งที่กระทำลงไปจะเป็นบุญจริงแท้หรือไม่นั้น ต้องหยิบยกเอาหลักของบุญกิริยาวัตถุ ๑o ขึ้นมาประกอบการพิจารณาด้วยครับ

QUOTE
ไม่ คำตอบเหมือนข้อ 2

ข้อนี้ไม่แน่นะครับพี่ ถ้าคนๆ นั้น เป็นคนเจแค่ปาก แต่ใจไม่เจ

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#13 wera

wera
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 04:07 PM

Sawaddeekha..

Saddhu!!..Mr/Ms Xlmen..I really like your task..it is very strong and very clear task for references to everybody in practice dhamma..(means avoid killing or support those who kill whether u see or not but everybody knows "eating meat/fish" is one of the "strong way" to support in "killing")...this information make me stronger to be one of the vegeterian( i'm trying nowdays)..I agree with u in every words..Bog-Bog too..yours also not bad..

Actually..what is in my mind is exactly same with both of u..so that I don't need to give my opinion here.."just to be agreed"..exactly similar mind!!..saddhu!!

But as Demo said.."Practical is not important as long as our mind feel BUUN"..I don't agree..how come if practical not right but individual thinking feel correct/Buun/happy..but others suffer..i don't think so..
My opinion is.."The right practical lead to clean mind (Buun) appear"..

I'm sorry if any of my word make somebody touching..

Saddhu!!

#14 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 11:02 PM

มังสวิรัติ อาจแบ่งได้เป็น 8 ประเภท คือ
มังสวิรัติแบบแมคโครไบโอติก (Macrobiotig) งดเว้นผลิตภัณฑ์จาก สัตว์ และยึดถือหลักหยิน-หยาง
มังสวิรัตินม-ไข่ (Lacto Ovo Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินนม ผลิตภัณฑ์จากนม และกินไข่
มังสวิรัติไข่ (Ovo Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินไข่
มังสวิรัตินม (Lacto Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่กินนม และผลิตภัณฑ์จากนม
มังวิรัติแบบเจ (J-Chinese Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมทั้งพืชที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ หอม กระเทียม คึ่นฉ่าย ใบยาสูบ และหลักเกียว (กระเทียมโทนจีน)
มังสวิรัติบริสุทธิ์ (Pure Vegetarian) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์
มังสวิรัติพืชสด (Raw Food Eater) งดเว้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และกินพืช ผัก ผลไม้ที่สดดิบ ไม่ผ่านขบวนการหุงต้มใดๆ
มังสวิรัติผลไม้ (Fruitarian) กินแต่ผลไม้และถั่ว

บทความพิเศษ เรื่อง เหตุใดจึงต้องเป็นมังสวิรัติ โดย อนุตตราจารย์ชิงไห่ ผู้ถ่ายทอด ธรรมวิถีกวนอิม



จ๊าค เดอ มาเควต (JACQUES DE MARQUETTE) ผู้ก่อตั้งสมาคมครอบครัวสากล ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะทำงานเพื่อส่งเสริมมนุษยชาติ ธรรมชาติและบุคลิกภาพ ให้เหตุผลของการกินอาหารมังสวิรัติไว้ 12 ข้อ สรุปได้ดังนี้

เพื่อร่างกายที่สะอาด บริสุทธิ์

เพื่อเหตุผลทางเศรษฐกิจ

เพื่อความอยู่ดีมีสุขของคนในสังคม

เพื่อความรัก อันปราศจากความหลงในเมถุน

เพื่อจิตใจที่เข้มแข็ง

เพื่อความสมดุลย์ทางเศรษฐกิจและสังคม

เพื่อการพัฒนาทางปัญญา

เพื่อความกลมกลืนกับธรรมชาติ

เพื่อเหตุผลทางด้านศีลธรรมและความไม่เบียดเบียน

เพื่อเป็นรากฐานของสันติภาพ

เพื่อเหตุผลทางด้านศาสนา

เขาเชื่อว่าอาหารมังสวิรัติ "เป็นกุญแจที่จะเปิดประตูทุกบาน" และเป็นหลักประกันของสุขภาพอันสมบูรณ์ ความเจริญทางวัตถุ ความสมดุลย์ทางปัญญา ความบริสุทธิ์ ความดี ความเมตตาต่อสัตว์และมนุษย์ ในยุคแห่งความหลงอวิชชา ความบ้าเลือด และความทุกข์ทรมาน

ลูกพระธรรม

#15 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 02:29 PM

happy.gif