โลกุตรธรรมเก้า
#1
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 12:51 PM
#2
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 04:32 PM
ขยายความคือ อริยมรรค 4 อริยผล 4 นิพพาน 1
ขยายความต่ออีกคือ พระโสดาปฏิมรรค พระสกิทาคามีมรรค พระอนาคามีมรรค พระอรหัตมรรค รวมเป็น 4
พระโสดาปฏิผล พระสกิทาคามีผล พระอนาคามีผล พระอรหัตผล รวมอีก 4
และนิพพาน 1
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#3
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 04:41 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#4
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 05:39 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#5
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 05:58 PM
จากพระโสดาบัน เห็นอริยสัจ 4 รอบที่ 2 คือ ทุกข์ ... หนทางแห่งการดับทุกข์ (เห็นจริงๆ นะครับ ไม่ใช่คิดไปเอง) ก็จะได้เป็นกิจ 8 แล้ว ผลก็คือ จิตจะหลุดพ้น ได้เป็นพระสกิทาคามี
จากพระสกิทาคามี เห็นอริยสัจ 4 รอบที่ 3 ก็จะได้เป็นกิจ 12 แล้ว ผลก็คือ จิตจะหลุดพ้น ได้เป็นพระอนาคามี
จากพระอนาคามี ใช่แล้วครับ เห็นอริยสัจ 4 รอบที่ 4 คราวนี้จะกลายเป็นกิจ 16 นั่นเอง ผลก็คือ จิตจะหลุดพ้นได้เป็นพระอรหันต์ หมดกิเลส มีนิพพานเป็นที่ไป ไงล่ะครับ
สรุป กิจ 16 คือ การเห็นอริยสัจ 4 ครบ 4 รอบ นั่นเอง
#6
โพสต์เมื่อ 17 May 2006 - 07:57 PM
#7
โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 09:17 AM
แล้ว กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ล่ะค่ะ
อันเดียวกันหรือเปล่าค่ะ
สงสัยมาก
ผู้รู้ช่วยตอบให้ทีน๊ะค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 11:39 AM
1. ทุกข์ ก็คือ ทุกข์น่ะครับ คงไม่ต้องอธิบาย
2. สมุทัย ก็เหตุแห่งทุกข์
3. นิโรธ ความดับทุกข์ หรือ หยุด
4. มรรค หนทางแห่งความดับทุกข์ ซึ่งท่านขยายความว่า คือ อริยมรรคมีองค์ 8
มาดูกันเรื่องมรรค นะครับ อริยมรรค มีองค์แปด คือ หนทางอันประเสริฐในการดับทุกข์ มี 8 ประการได้แก่
1. มีความเห็นชอบ
2. มีความคิดชอบ
3. มีการพูดชอบ
4. มีการกระทำชอบ
5. มีการเลี้ยงชีพชอบ
6. มีความเพียรชอบ
7. มีการระลึกชอบ
8. มีการปฏิบัติสมาธิชอบ
การหมั่นพิจารณาสติปัฐฐาน 4 คือ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ก็คือหัวข้อ 7 กับ 8 ในเรื่องของอริยมรรค คือ มีสติ กับสมาธิ ชอบไงล่ะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 18 May 2006 - 08:00 PM
สาธุๆ
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#10
โพสต์เมื่อ 24 May 2006 - 09:09 AM
ขอชื่นชมในความรอบรู้ ของคุณหัดฝัน และทุกๆคนที่พยายามหาความรู้มาตอบด้วยน๊ะค่ะ
รู้ไม่รู้เปล่า....แถมยังเอาความรู้มาช่วยให้ความกระจ่างแก่ผู้อื่นด้วย
หยั่งงี้ซิ.....ถึงเรียก เก่ง และ ดี
#11
โพสต์เมื่อ 13 June 2006 - 08:45 PM
#12
โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 04:15 PM