พระมหาสิริราชธาตุ
#1
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 04:17 PM
#2
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 04:22 PM
DMC The only one
ประกอบเหตุ สังเกตผล ทนเอาเถิด ประเสริฐนัก
ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี้แหละเป็นตัวสำเร็จ
ผลไม้ดกนกชุม น้ำเย็นปลาชอบอาศัย
คติธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 04:32 PM
อย่าหวั่นไหวไปเลยครับ
เพราะความจริง ก็คือความจริง
แต่ถ้าคิดว่า อยากอ่านสิ่งใด ที่อ่านแล้วสบายใจ
ก็อ่านที่ลิ้งค์นี้ดีกว่าครับ
http://kalyanamitra....ex_anuphap.html
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#4
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 05:00 PM
#5
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 05:05 PM
ช่วยให้พ้นอันตรายไฟไหม้ ช่วยให้ทำมาค้าขายได้ดี
ช่วยให้หายจากโรคภัยอัศจรรย์
#6
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 05:40 PM
ถาม - การทำบุญแล้วมีการมอบพระบูชา เช่น พระมหาสิริราชธาตุ เป็นการทำให้คนติดในวัตถุมงคลหรือไม่
ตอบ
ผู้คนในโลกมีจริตอัธยาศัยต่างๆ กัน บางคนก็พุทธิจริตเอาปัญญานำหน้าไม่สนใจเรื่องอื่นๆ จะเอาเนื้อหาธรรมะคำสอนเป็นหลัก พระพุทธรูปต่างๆ ก็ไม่สนใจไม่มีความจำเป็น แต่คนประเภทนี้มีน้อย คนส่วนใหญ่ยังต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจต้องการกำลังใจในการทำความดีแล้วค่อยๆ ยกระดับใจสูงขึ้นเป็นชั้นๆ เมื่อใดเข้าถึงธรรมหมดกิเลส วัตถุเครื่องยึดเหนี่ยวใจภายนอกก็หมดความจำเป็น ปู่ย่าตายายของเรา ท่านเข้าใจธรรมชาติ ของคนตรงนี้ดี จึงมีการสร้างพระเครื่อง มอบให้ชาวพุทธได้ติดตัวไว้บูชาเป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย เตือนสติไม่ให้ทำชั่ว แต่ให้มีกำลังใจในการทำความดี
พระเครื่องที่สร้างโดยพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ได้รับความเชื่อถือกันว่า มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองผู้ที่ตั้งใจบูชา ก็ยิ่งเป็นกำลังใจในการสร้างความดีของ ผู้มีไว้ครอบครอง หากผู้ใดได้พระเครื่องไปบูชาแล้วเชื่อในอำนาจศักดิ์สิทธิ์ เช่น หนังเหนียวแล้วไปอวดเบ่งเป็นนักเลง ตีรันฟันแทง ผู้นั้นทำผิด แต่ผู้ใดได้พระไปบูชาแล้ว เชื่อมั่นในอำนาจพุทธคุณ พระเครื่องนั้นเป็นประดุจสัญลักษณ์ตัวแทนของพระรัตนตรัย ที่อยู่ประจำตน ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ มีกำลังใจ ในการทำความดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
การบูชาพระพุทธรูปอย่างนั้น จึงเป็นการกระทำที่เป็นประโยชน์เปรียบเหมือนคนลงน้ำใหมๆ ยังว่ายน้ำไม่เป็น ก็ต้องใช้ขอนไม้เกาะไว้ก่อน เพื่อพยุงตัวไม่ให้จมต่อเมื่อว่ายน้ำแข็งแล้ว ก็ไม่ต้องอาศัยวัตถุอื่นมาพยุงตัวต่อไป สามารถว่ายน้ำตัดตรงขึ้นฝั่งได้เลย
........................................................................
สมัยผมบวช ผมได้มีโอกาสเข้าไปในวิหารหลวงปู่ ได้ไปดูรัตนบัลลังค์ ในวิหารหลวงปู่ เป็นอะไรที่ผมไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้เลยครับ นึกถึงทีไร มีปิติสุขใจ ปลื้มทุกครั้งครับ เข้ามาวัดทีไรต้องยกมือน้อมเกล้าสักการระทุกครั้ง
เป็นที่พึ่งที่ระลึกทางจิตวิญญาณของผมครับ....
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#7
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 06:13 PM
Link ที่เกี่ยวข้องครับ..
http://www.geocities...418/siriraj.htm
http://www.geocities...hamma/gift.html
http://www.kalyanami...hap/2/owart.htm
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#8
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 08:30 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#9
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 10:48 PM
ขอให้สะสมบุญต่อไปนะครับ
อนุโมทนา สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 16 June 2006 - 10:52 PM
ขอให้สะสมบุญต่อไปนะครับ
อนุโมทนา สาธุ
ทั้งพระธรรมกายและพระมงคลเทพมุนีสิริราชธาตุตอนนี้ไม่มีแล้วครับ ถ้าจะมีก็มีแต่เหรียญพระธรรมกายล้อมเพชรเป็นของที่ระลึกน่ะครับ
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#11
โพสต์เมื่อ 17 June 2006 - 06:50 AM
ถูกต้องครับ ตอนนี้ไม่มีทั้งที่เป็นรูปพระธรรมกายและทั้งรูปพระมงคลเทพมุนี สรุปก็คือไม่มีพระของขวัญที่ทำมาจากเนื้อมหาสิริราชธาตุแล้วครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#12
โพสต์เมื่อ 17 June 2006 - 07:23 AM
ผมทราบจากผู้ประสานงานเมื่อตอนงานบุญใหญ่อาทิตย์ต้นเดือนที่ 4 มิย 49...
ตอนนี้ยังมีพระของขวัญที่ทำจากเนื้อมหาสิริราชธาตุมอบให้แด่ผู้มีบุญอยู่ครับ
(ร่วมบุญสร้างสิ่งที่ท่านให้สร้างตอนนี้) รายละเอียดสอบถามผู้ประสานงานดูนะครับ.
ปล. ผมทราบจากผู้ประสานงานภาค 4
#13
โพสต์เมื่อ 17 June 2006 - 07:36 AM
อ้อ...ขอโทษครับ ผมบอกรวบรัดไปนิดนึง สำหรับบุญอื่นอาจจะมีแจกแล้วแต่โอกาส แต่สำหรับการสร้างพระธรรมกายประจำตัว ไม่มีแจกให้แล้วครับ สำหรับพระของขวัญที่ทำมาจากมหาสิริราชธาตุ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 17 June 2006 - 12:23 PM
ใ ค ร มี ก็ เ ก็ บ รั ก ษ า ท่ า นไ ว้ ใ ห้ ดี น๊ า
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#15
โพสต์เมื่อ 18 June 2006 - 05:25 PM
"ผู้คนในโลกมีจริตอัธยาศัยต่างๆ กัน บางคนก็พุทธิจริตเอาปัญญานำหน้าไม่สนใจเรื่องอื่นๆ จะเอาเนื้อหาธรรมะคำสอนเป็นหลัก พระพุทธรูปต่างๆ ก็ไม่สนใจไม่มีความจำเป็น แต่คนประเภทนี้มีน้อย"
ความจริงเป็นเช่นดังที่คุณเถลิงเกียรติ พูดมา แต่สิ่งที่จะบอกเพิ่มเติมคือ พวกนี้เข้าใจว่าตนเองฉลาด แต่หารู้ไม่ว่า เป็นความฉลาดผิดทาง เป็นเพราะพวกนี้ศึกษาพระพุทธศาสนาเพียงบางส่วนแล้วตีความเอง หาได้ศึกษาอย่างถ่องแท้ ไม่ได้ศึกษาปฏิปทาของพระอริยบุคคล ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ว่าท่านให้ความเคารพศรัทธาในสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าเพียงใด ท่านไม่ได้มองว่า เป็นอิฐหินปูนทรายใดๆ ดังที่พวก(พุทธิจริต)นี้มอง
แม้พระอรหันต์ เช่นพระสารีบุตร ทุกคืน ท่านจะนั่งสมาธิตรวจดูว่า อาจารย์ท่าน พระอสัชชิถูกทิศไหน แล้วท่านก็จะไหว้ทิศนั้น โดยไม่สนใจว่า ตรงหน้าท่าน คือ ประตูหน้าต่าง หรืออะไรก็ตาม แต่ท่านไหว้ทิศที่พระอสัชชิอยู่เพราะระลึกถึงพระคุณที่พระอสัชชิเคยเทศน์ให้ท่านเข้าถึงธรรม
ต่างจากที่พวกพุทธิจริตเหล่านี้คิดคือ คิดว่า ทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมุติไม่จีรัง ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่นอะไร แม้แต่รูปเคารพของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นโมหะ (หลงผิด) อย่างหนึ่งน่ะครับ
#16
โพสต์เมื่อ 19 June 2006 - 08:38 PM
#17
โพสต์เมื่อ 19 June 2006 - 08:54 PM
แล้วจะสมปรารถนาครับ
#18
โพสต์เมื่อ 20 June 2006 - 01:16 PM
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#19
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 07:35 AM
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยค่ะ
บทสวดสรภัญญะสรรเสริญมหาสิริราชธาตุ
http://www.kalyanami...irirachatad.wma
อนุโมทนาบุญครับ
#20
โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 01:16 PM