ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ควรคิดอย่างไรเมื่อสร้างบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 12:57 PM

หลายท่านอาจจะมีอารมหรือความคิด ขณะที่สร้างบุญบารมีแตกต่างกันไป

1. สร้างบุญเพราะ เพื่อประกอบเหตุแห่งความสุขสบายในอนาคต เพื่อความสะดวกในการสร้างบุญยิ่งๆ ขึ้นไป
2. สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นฝึกการตัดกิเลสความตระหนี่ออกไปจากใจ
3. สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นหน้าที่ๆต้องสร้างสมบ่มบารมีให้มากเข้าๆไว้
4. สร้างบุญเพราะ เมตตาต่อผู้นั้นๆ หรือเห็นประโยชน์ต่อสิ่งนั้นๆ โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทน

ควรคิดอย่างไรครับ และอย่างไหนสำคัญที่สุด




#2 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 01:05 PM

สร้างบุญเพื่อให้ตัดกิเลสออกจากใจ
เพื่อจะได้ความสุขสบายในอนาคตเพราะมักน้อย
เมื่อมีความสุขสบาย มีชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่มีเรื่องเดือดร้อนใจก็จะสามารถสร้างบารมีได้ง่ายขึ้น
เมื่อเรารักที่จะสร้างบารมี เราย่อมเกิดเมตตาต่อสรรพสัตว์อื่น อยากให้เขาสุขเหมือนเรา อยากให้เพราะเรามีมากกว่า

สร้างบารมีเพื่อที่สุดแห่งธรรม
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#3 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 01:14 PM

ตอบข้อ ๒ ครับ เพราะเข้ากับเป้าหมายสูงสุดของชีวิตในทัศนะของพระพุทธองค์ คือ การบำเพ็ญบารมีเพื่อความสิ้นอาสวะกิเลสมุ่งไปสู่ฝั่งพระนิพพานครับ ซึ่งคำถามนี้สามารถตอบได้อีกสองข้อ คือ ข้อ ๓ และ ๔ เพราะจำเป็นสำหรับการสร้างบารมีในทุกระดับตั้งแต่ผู้บำเพ็ญบารมีเพื่อปรารถนาสาวกโพธิญาณ ปัจเจกโพธิญาณ และสัมมาสัมโพธิญาณ ดังนั้น สำหรับวงบุญของพวกเราต้องสร้างบารมีแบบ ๒ + ๓ + ๔ การสร้างบารมีจึงจะสมบูรณ์ บรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#4 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 02:19 PM

คงต้องประกอบด้วยทั้งสามข้อท้ายนะครับ

เพื่อเป้าหมายใหญ่ คือ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม นะครับ


#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 02:32 PM

ในการทำกิจกรรมต่างๆ นั้น ไม่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์หลักอย่างเดียว เราอาจมีวัตถุประสงค์ย่อยได้ครับ เช่น นอนตื่นสายประจำ อยากนอนตื่นเช้าโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อให้มีสุขภาพดีขึ้น และมีวัตถุประสงค์ย่อย หรือวัตถุประสงค์เสริม คือ เพื่อให้มีเวลามากขึ้น เพื่อให้ไปเรียนไปทำงานเช้าขึ้น ก็สามารถทำได้ครับ

การทำบุญก็เช่นกัน บางครั้ง เราก็ให้คนที่ด้อยกว่าเราเพราะสงสาร ที่เขาประสบเหตุเดือดร้อนต่างๆ เราเรียกว่า ให้เพื่ออนุเคราะห์
บางครั้งเราก็ให้คนรุ่นเดียวกับเรา ที่กำลังติดขัดทางการเงิน เราเรียกว่า ให้เพื่อสงเคราะห์
บางครั้งเราก็ให้พ่อแม่ ผู้มีพระคุณต่อเรา เราเรียกว่า ให้เพื่อบูชาคุณ
แต่ทุกๆ ครั้งที่ให้ออกไป เรารู้สึกว่า ได้สละความตระหนี่ออกไปจากใจ เราก็ได้ชื่อว่า ให้เพื่อขจัดกิเลส

ดังนั้น ก็ขอให้เรามีวัตถุประสงค์หลักไว้น่ะครับ ว่าให้เพื่อขจัดกิเลส (ความตระหนี่) ออกจากใจ ดังที่ที่วัดพระธรรมกาย จะสอนให้อธิษฐานก่อนให้ทานเสมอๆ ว่า
"สุทินัง วัตตเมธานัง อาสวขยาวหัง โหตุ" "ขอผลแห่งทานที่ข้าพเจ้าให้ดีแล้วหนอ จนเป็นเครื่องกำจัดอาสวกิเลสออกไปจากใจของข้าพเจ้าด้วยเทอญ"

นี่คือ วัตถุประสงค์หลัก ซึ่งก็สามารถมีวัตถุประสงค์ย่อยๆ ว่าจะให้เพื่ออนุเคราะห์ สงเคราะห์ บูชาคุณ หรือ อะไรก็แล้วแต่(ที่เป็นเจตนาที่ดี) ก็ได้ ไม่มีปัญหาน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 02:45 PM

ตอบ...

2. สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นฝึกการตัดกิเลสความตระหนี่ออกไปจากใจ

4. สร้างบุญเพราะ เมตตาต่อผู้นั้นๆ หรือเห็นประโยชน์ต่อสิ่งนั้นๆ โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทน

แล้วก็...ถ้าตอบว่า "เห็นสถานะการณ์ร้าย ๆ ชาติปัจจุบันแล้วกลัว ไม่อยากเป็นแบบนี้อีก"...ได้มั๊ยค่ะ dont_tell_anyone_smile.gif

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 04:48 PM

ได้ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 05:53 PM

_/\_
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#9 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 06:08 PM

สร้างบุญเพื่ประโยชน์ทั้งสี่ข้อเลยค่ะ

QUOTE
1. สร้างบุญเพราะ เพื่อประกอบเหตุแห่งความสุขสบายในอณาคต เพื่อความสะดวกในการสร้างบุญยิ่งๆขึ้นไป

เมื่อพร้อมทุกอย่าง ทั้ง รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ การสร้างบารมีก็สะดวกง่ายดาย ทำได้ทับเท่าทวี ทำบุญทำทานได้
อย่างเต็มที่เต็มใจ

QUOTE
2. สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นฝึกการตัดกิเลสความตระหนี่ออกไปจากใจ

อันนี้สำคัญ ละกิเลสเพื่อความบริสุทธิ์ ใกล้หนทางสู่นิพพาน

QUOTE
3. สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นหน้าที่ๆต้องสร้างสมบ่มบารมีให้มากเข้าๆไว้

เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี อย่างที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านสอน จะได้ติดตามท่าน ไม่ตกไม่หล่น

QUOTE
4. สร้างบุญเพราะ เมตตาต่อผู้นั้นๆ หรือเห็นประโยชน์ต่อสิ่งนั้นๆ โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทน

ความเมตตาเป็นหัวใจของกัลยาณมิตร ที่หวังให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ พบสุข เมื่อจะไปกันเป็นหมู่คณะ จึงต้องเห็นประโยชน์
ตนและประโยชน์ท่านด้วย

ส่วนข้อที่สำคัญที่สุด ตอบข้อ 2.สร้างบุญเพราะ เพื่อเป็นฝึกการตัดกิเลสความตระหนี่ออกไปจากใจ
เพราะเป็นหนทางตรง มุ่งสู่นิพพาน เริ่มที่ตัวเราก่อน แล้วขยายสู่ผู้อื่นค่ะ






#10 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 04 July 2006 - 08:47 PM

สร้างบุญเพื่อตัวเอง

#11 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 12:12 AM

1+2+3+4 คิดเพื่อจะได้ สร้างบุญ
เมื่อกำลังจะทำบุญก็ คิดข้อ 2 และอธิษฐานจิตเพิ่มเติม (ตามบทอธิษฐานจิต) หลักๆ คือกำจัดกิเลสให้น้อยลง
...................................
แล้วอย่าลืมทำใจใสๆ 3 เวลา คือ ก่อนทำบุญ - ขณะทำบุญ - หลังทำบุญ
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#12 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 12:45 AM

QUOTE
1. สร้างบุญเพราะ เพื่อประกอบเหตุแห่งความสุขสบายในอนาคต

nerd_smile.gif ทีแรกที่ผมไม่ตอบข้อนี้ ก็เพราะข้อความในประโยคมีอยู่เพียงเท่านี้ (ผมจำแม่นนะครับ) ซึ่งถ้ามีเพียงเท่านี้ผมก็จำต้องตัดประเด็นแรกออกไป เนื่องจากเป็นธรรมชาติของพลังบุญอยู่แล้วที่ย่อมอำนวยผลให้เกิดสุขทั้งในภพนี้และภพหน้าแก่ผู้สั่งสมอยู่เนืองนิจ แม้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบังเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม หากมนุษย์ผู้นั้นมีจิตตั้งมั่นอยู่ในทางแห่งกุศลกรรมเต็มตลอดอายุขัย เมื่อละจากอัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ว่ามนุษย์ผู้นั้นจะทราบหรือไม่ทราบว่าโลกนี้ โลกหน้ามีจริงหรือไม่ก็ตาม ด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้นย่อมยังกายเทพในสุคติภพให้บริบูรณ์ เพราะเหตุนี้ เวลาทำบุญผมจึงไม่คิดว่า ตายแล้วต้องได้ไปอาศัยใช้สอยผลแห่งบุญนั้น และไม่ได้คิดว่าทำบุญอย่างนี้จะส่งผลให้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นนี้ชั้นนั้น เพราะความคิดทั้ง ๒ ประการดังกล่าว เป็นความทะยานอยาก/เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้จิตของเราไปหน่วงเหนี่ยวในเรื่องของผล/อานิสงส์แห่งบุญมากจนเกินไป แต่ถ้าหากเพิ่มความในประโยคว่า "เพื่อความสะดวกในการสร้างบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป" แล้วล่ะก็ การสร้างบารมีนั้นจะสมบูรณ์แบบ บรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ต้องประกอบไปด้วยปัจจัย 1+2+3+4 โดยลำดับความสำคัญจากมากไปหาน้อยดังนี้; 2>4>3>1
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#13 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 09:42 AM

เห็นด้วยกับ คุณขุนศึกฯ ไปตอบไว้ โพสต์ #๑๒

เราต้องไม่ลืมจุดประสงค์หลัก และข้อสุดท้ายนั้นคือผลพลอยได้

อนุโมทนาด้วย สาธุ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#14 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 11:40 AM

QUOTE
1. สร้างบุญเพราะ เพื่อประกอบเหตุแห่งความสุขสบายในอนาคต


คือจริงๆแล้วผมอาจเขียนสั้นไปหน่อย ทำให้หลายท่านเข้าใจความหมายสั้นไป ต้องขอโทษที ผมก็เลยมาขยายความโดยการต่อท้ายว่า " เพื่อความสะดวกในการสร้างบุญยิ่งๆ ขึ้นไป"






#15 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 July 2006 - 08:44 PM

ขอรวบทั้ง 4 ข้อเลยค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#16 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 30 September 2006 - 06:34 AM

สร้างบุญเพื่อให้ได้บุญได้ทรัพย์ ได้บารมี เพื่อที่จะสร้างบุญได้มากๆ ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นหาทางสู่พระนิพพานครับ