ช่วยฟันธงหน่อยครับเรื่องศีล8-ปานะ
#1
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 03:19 PM
ค้นข้อมูลจากทางอินเตอร์เนต มีหลายกระแส จึงสับสน
เรื่องวิกาลโภชนาฯ
ปกติเวลาถือศีล8 ตอนเย็นก็จะดื่มน้ำปานะ ในที่นี้เข้าใจว่ารวมถึง
น้ำนมโค นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง โอวันติน-ไมโล กาแฟ ไอศกรีม
แต่พอค้นทางเนต เห็นก็มีคนตอบทำนองว่า
ถ้ายึดตามพระวินัยแล้ว จะดื่มน้ำนมโค หรือนมถั่วเหลืองไม่ได้
แต่โดยปกติเราก็เห็นทางวัดหลายแห่งเองก็ยังแจกนม นมถั่วเหลืองสำหรับคนถือศีล8
เลยอยากให้ฟันธงว่า ความจริงคืออย่างไร? เพราะตั้งใจจะรักษาศีล
จากที่อ่านเวบบอร์ดที่DMC ค้นกระทู้เก่าก็มีคำตอบว่า
สามารถดื่มน้ำนม นมถั่วเหลือง ชอคโกแลต โยเกิตที่ไม่มีผลไม้-วุ้น
โดยอ้างจาก
ข้อสงสัยเกี่ยวกับศีล 8 http://www.dmc.tv/fo....php/t2737.html
น้ำปานะ http://www.dmc.tv/fo...ter&f=31&t=2993
กระทู้เกี่ยวข้อง
น้ำปานะ??? คือ อะไรบ้างค่ะ http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=398
ปัญหาคาใจในการรักษาศีลแปด http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=328
ศีล ๘ และอุโบสถศีล http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=616
ส่วนในลานธรรม ค่อนข้างจะเห็นไปทางเดียวกันว่า
น้ำนม น้ำนมถั่วเหลืองนั้น ไม่เป็นปานะที่สามารถดื่มหลังเที่ยงได้
ศีล 8 มีอะไรบ้าง http://larndham.net/...opic=15502&st=0
ที่เกี่ยวข้อง
สงสัยเรื่องน้ำปานะ http://larndham.net/...opic=15647&st=0
ว่าด้วยการถือศีล 8 http://larndham.net/...opic=17207&st=0
อุโบสถศีล http://larndham.net/...pic=13827&st=12
--------------------------------------------------------
- คำถามที่อยากให้ช่วยฟันธง คือ หลังเที่ยงทานของเหล่านี้ได้หรือไม่
- และข้อปฏิบัติ ศีล ข้อวิกาลโภชนา ระหว่างฆราวาสและภิกษุ ต่างกันหรือไม่
1.น้ำนมถั่วเหลือง
2.น้ำนมโค
3.ชอคโกแลตที่มีนม/ไม่มีนมเป็นส่วนประกอบ และไม่มีถั่ว-ผลไม้ประกอบ(จัดเป็นของเคี้ยวหรือไม่)
4.โยเกิร์ตที่ไม่มีเนื้อผลไม้และวุ้น
5.นมเปรี้ยว
6.โอวันติน,ไมโล,โกโก้ ใส่นม/ไม่ใส่นม
7.เครื่องดื่ม/ลูกอมที่มีนมเป็นส่วนประกอบ
8.ไอศกรีมที่ไม่มีถั่ว, ผลไม้ และแป้ง
-------------------------------------------------------------
ผมไม่กระจ่างตามข้อธรรมนี้ครับ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๑
ขุททกนิกาย มหานิทเทส
ขนมกุมมาส สัตตู ปลา เนื้อ คำว่า น้ำ ได้แก่
ปานะ ๘ อย่าง คือ น้ำผลมะม่วง น้ำผลหว้า
น้ำผลกล้วยมีเมล็ด น้ำผลกล้วยไม่มีเมล็ด น้ำผลมะซาง น้ำผลจันทน์ น้ำรากบัว น้ำผลลิ้นจี่.
ปานะ ๘ อีกอย่างหนึ่ง คือน้ำผลสะคร้อ น้ำผลเล็บเหยี่ยว น้ำผลพุทรา ปานะที่ทำด้วยเปรียง
น้ำมัน น้ำข้าวยาคู น้ำนม ปานะที่ทำด้วยรส.
คำว่า ของควรเคี้ยว ได้แก่ของควรเคี้ยว ที่ทำ
ด้วยแป้ง ของควรเคี้ยวที่ทำเป็นขนม ของควรเคี้ยวที่ทำด้วยเหง้าไม้ ของควรเคี้ยวที่ทำด้วยเปลือกไม้
ของควรเคี้ยวที่ทำด้วยใบไม้ ของควรเคี้ยวที่ทำด้วยดอกไม้ ของควรเคี้ยวที่ทำด้วยผลไม้.
คำว่า ผ้า ได้แก่จีวร ๖ ชนิด คือ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าป่าน ผ้าที่ทำด้วยเปลือกไม้
เป็นต้นเจือกัน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ข้าวก็ดี น้ำก็ดี ของควรเคี้ยวก็ดี ผ้าก็ดี.
http://84000.org/tip...item/r.ph...;นะ
*********************
สรุปว่าปานะมี8+8=16อย่าง รวมถึงนมด้วยเหรอครับ
เพราะเวลาพูดถึงปานะ มักจะอ้างจากธรรมข้อนี้
อัฏฐบาน หรือ น้ำอัฏฐบาน (ปานะ ๘ อย่าง)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
ปานะ เครื่องดื่ม, น้ำสำหรับดื่ม ที่คั้นจากลูกไม้ (น้ำคั้นผลไม้) จัดเป็นยามกาลิก
ท่านแสดงไว้ ๘ ชนิด คือ
๑. อมฺพปานํ น้ำมะม่วง
๒. ชมฺพุปานํ น้ำชมพู่หรือน้ำหว้า
๓. โจจปานํ น้ำกล้วยมีเม็ด
๔. โมจปานํ น้ำกล้วยไม่มีเม็ด
๕. มธุกปานํ น้ำมะทราง (ต้องเจือน้ำจึงจะควร)
๖. มุทฺทิกปานํ น้ำลูกจันทร์หรือองุ่น
๗. สาลุกปานํ น้ำเหง้าอุบล
๘. ผารุสกปานํ น้ำมะปรางหรือลิ้นจี่
นิยมเรียกว่า อัฏฐบาน หรือ น้ำอัฏฐบาน (ปานะ ๘ อย่าง)
วิธีทำปานะที่ท่านแนะไว้ คือ ปอกหรือคว้านผลไม้เหล่านี้ที่สุก เอาผ้าห่อ บิดให้ตึงอัดเนื้อผลไม้ให้คายน้ำออกจากผ้า เติมน้ำลงให้พอดี (จะไม่เติมน้ำก็ได้เว้นแต่ผลมะทรางซึ่งท่านระบุว่าต้องเจือน้ำจึงควร) แล้วผสมน้ำตาลและเกลือเป็นต้นลงไปพอให้ได้รสดี
ข้อจำกัดที่พึงทราบคือ
๑. ปานะนี้ให้ใช้ของสดห้ามมิให้ต้มด้วยไฟ
(ข้อนี้พระมติสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรสว่าแม้สุกก็ไม่น่ารังเกียจ)
๒. ต้องเป็นของที่อนุปสัมบันทำ จึงควรฉันในเวลาวิกาล
(ถ้าภิกษุทำถือเป็นเหมือนยาวกาลิก เพราะรับประเคนมาทั้งผล)
๓. ของประกอบเช่นน้ำตาลและเกลือ ไม่ให้เอาของที่รับประเคนค้างคืนไว้มาใช้
(แสดงว่ามุ่งให้เป็นปานะที่อนุปสัมบันทำถวายด้วยของของเขาเอง)
http://84000.org/tip...eek.php?t...;นะ
-------------------------------------
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ[b]
#2
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 03:33 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 03:58 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#4
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 04:40 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 05:52 PM
ข้าวเย็นซักชามดีมั๋ยครับ (อะล้อเล่น... )
อย่ากังวลว่าอะไรทานได้หรือไม่เลยนะครับมุ่งทำแก่นของศีล8ให้บริสุทธิบริบูรณ์ คือมุ่งสลัดตนออกจากกามสุข การไม่ทานข้าวเย็นจุดประสงค์เพื่อตัดพลังงานมื้อส่วนเกิน(มื้อบำรุงกาม)ออกไป และไม่ต้องเสียเวลากับการหุงหา,การทานที่ยาวนาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เร่งรีบ จะได้มีเวลาเหลือไปเจริญภาวนานะครับ
...........อนุโมทนากับการตั้งใจรักษาศีล8ด้วยครับ.....สาธุ...........
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#6
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 05:53 PM
ขอบุญ คุ้มครอง ผู้อยู่ในบุญ สา...ธุ
#7
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 08:40 PM
ก็ดื่มแต่ น้ำอัฏฐบาน (ปานะ ๘ อย่าง) ที่มีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก
ของอย่างอื่นที่ดื่มกัน นั้นถือว่าเป็นปานะแบบอนุโลม ตามยุคสมัยปัจจุบันที่มีเครื่องดื่มเกิดใหม่มากมาย ซึ่งสอบถามจากพระอาจารย์ได้
ไอติมกะทิกินไม่ได้ โอวัลตินที่ใส่ไข่ผงก็กินไม่ได้
..........................
ถือศีล8 : ให้พิจารณาว่า เมื่อจะกินอะไร ถ้ากังวลสงสัยว่ากินได้หรือไม่ อย่ากินค่ะ
เพราะเมื่อเอาเข้าปากไปแล้ว จะเกิดอาการกินแหนงแคลงใจ ใจก็ไม่ใส
#8
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 09:11 PM
ทางเจ้าหน้าที่ จัดปานะ เป็น นมเปรี้ยวให้ ทานได้นะครับ
คราวนี้ แนวทางการปฏิบัติศีลแปดของวัดต่าง ๆ อาจแตกต่างกันในรายละเอียด
บางวันอาจไม่อนุโลมให้ดื่มนมเปรี้ยวนะครับ
กรณีเรา ก็ แล้วแต่เรานะครับ ถืออนุโลมได้นะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 11 July 2006 - 09:44 PM
เรียนดังนี้นะครับ ยังไงดีหละครับ...
ความจริงตามธรรมชาติ นั่น คือเป็นความจริงแม้เราจะรู้หรือไม่ก็ตาม จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม
เช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในสัมมาทิฐิ ย่อมเชื่อว่า บุญ-บาป กฎแห่งกรรมนั้นมีอยู่จริงและส่งผล
แม้ว่าบุคคลใดๆ จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม จะรู้หรือไม่ก็ตาม
ทำนองเดียวกัน
หากการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ด้วย กาย วาจา ใจ ก็ต้องเชื่อว่าจะส่งผลแม้เราจะรู้หรือไม่ก็ตาม
หมายความว่า เรื่องปานะ ที่ผมถาม หากเราถือมุ่งละกามสุขเป็นสำคัญ
การดื่มนมก็เหมือนดื่มปานะทั่วๆไป หากยินดี ยึดติด ในอาหารก็ไม่ใช่จุดมุ่งหมายของศีลข้อนี้
ดังนั้น ผมจึงดื่มนมด้วยละความยินดีในกาม ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ผมไม่แน่ใจว่าคิดอย่างนี้ จะทำให้ศีลบริสุทธิ์ได้หรือไม่ เพราะว่าเราจะรู้หรือไม่ก็ตาม
ถ้าหากวินัย บัญญัติว่า การดื่มนมนั่นไม่เข้ากับศีลข้อวิกาลโภชนา ศีลย่อมด่างพล้อย
แม้เราจะรู้หรือไม่ก็ตาม แม้ว่าเราจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม แม้ว่าเราจะคิดดีก็ตาม
ฉะนั้น จึงมีพระวินัยบัญญัติธรรมต่างๆ เพราะเป็นกรอบปฏิบัติ ไม่ให้ยึดถือเอาเอง
ว่าควรจะเป็นอย่างนั้น ว่าควรจะเป็นอย่างนี้ ก็เป็นการล้อมรอบ ให้เข้าใจตรงกันให้เราๆท่านๆ ที่ยังไม่ได้บรรลุอริยมรรค
โดยพระอริยบุคคลความประพฤติย่อมบริสุทธิ์โดยธรรมชาติ เป็นปกติอยู่แล้ว แต่เราไม่ใช่ควรจะมีกรอบปฏิบัติ
----------------------------------------
แนวทางที่น่าจะปลอดภัยที่สุด คือ ทำในสิ่งที่แน่ใจ
แต่เรื่องที่ไม่แน่ใจ ก็ยังอยากจะถาม ในรายการ 8 ข้อ ดังกล่าว
รวมถึงนมโค และนมถั่วเหลืองด้วย เผื่อความกระจ่าง และปฏิบัติได้ถูกต้อง
ซึ่งผมว่าควรจะมีคำตอบชัดเจน ว่าได้หรือไม่ได้ ฟันธง! ตามหลักการ
- อย่างการฟังเพลง ถ้าเป็นไปโดยอยู่ในธรรมนั้นได้ อันนี้ผมพอเข้าใจ ดูตามจุดประสงค์
แต่เรื่องปานะ น่าจะมีบัญญัติไว้ชัดเจน ว่านม หรือน้ำนมถั่วเหลือง นั้นดื่มได้หรือไม่ -
ขอกราบอนุโมทนาอีกครั้งครับ สาธุ สาธุครับ
#10
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 12:33 AM
ถ้าไม่ได้คั้นกินเอง คงไม่รู้จะไปหาซื้อที่ไหน
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#11
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 05:01 PM
1.นั่งสมาธิทุกวัน
2.ชวนคนมาสร้างบารมี โดยอธิษฐานจิตให้เจอผู้มีบุญ ที่เคยสร้างบารมีร่วมกันมา
3. ทำบุญทุกวันเต็มกำลัง เท่าที่ทำได้
4.เลิกสิ่งที่ไม่ดี 1 อย่าง
#12
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 06:09 PM
ปานะ ๘ อีกอย่างหนึ่ง คือน้ำผลสะคร้อ น้ำผลเล็บเหยี่ยว น้ำผลพุทรา ปานะที่ทำด้วยเปรียง
น้ำมัน น้ำข้าวยาคู น้ำนม
#13
โพสต์เมื่อ 12 July 2006 - 06:22 PM
ยังเป็นฆราวาสอยู่ ไม่ต้องเคร่งครัดจนถึงกับเคร่งเครียด
รักษาศีลด้วยใจที่ใสๆสบายๆ เถอะครับ จะได้รักษาศีลอย่างมีความสุข
#14
โพสต์เมื่อ 13 July 2006 - 01:23 PM
สมัยนี้ท่าจะหายากนะคะ
โดยส่วนตัวนะคะ เวลาถือศีล 8 ก็จะดื่มนมเปรี้ยว หรือทานโยเกิตบ้าง
หรืออาจจะดื่มน้ำผลไม้เป็นกล่องๆ
เพราะอย่างนี้สะดวกดี สำหรับคนที่ไม่มีเวลาทำน้ำปานะเองค่ะ
แต่ในวันที่ไม่รู้สึกหิวเป็นพิเศษ ก็จะดื่มแค่น้ำเปล่าเท่านั้น
ถือศีล 8 อย่างฆราวาส แค่ตั้งใจ และมีความพยายาม
รวมทั้งทำให้สำเร็จ ก็น่าชื่นชมแล้วค่ะ อนุโมทนาบุญนะคะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#15
โพสต์เมื่อ 08 March 2007 - 02:05 PM