ไม่มีผู้ใดที่จับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโยนได้
#1
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 06:51 PM
#2
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 07:46 PM
ตอบ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ๆ พญามารได้มาอาราธนาให้พระพุทธเจ้าปรินิพพานเป็นครั้งแรกแล้ว แต่พระพุทธเจ้าตรัสตอบกับพญามารไปว่า ตราบใดที่พุทธบริษัทยังไม่เกิดขึ้นและมั่นคง ตราบนั้นตถาคตจะยังไม่ปรินิพพาน มารจึงกลับไป ในกาลต่อมาเมื่อพุทธบริษัทรวมกันเป็นปึกแผ่นแล้ว พญามารจึงมาถวงคำสัญญาที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ โดยอ้างว่า ตอนเมื่อพระองค์ตรัสรู้ใหม่ๆพระองค์เคยตรัสไว้ว่า ตราบใดที่พุทธบริษัทยังไม่เกิดขึ้นและมั่นคง ตราบนั้นตถาคตจะยังไม่ปรินิพพาน บัดนี้พุทธบริษัทรวมกันเป็นปึกแผ่นแล้วขอพระองค์จงทรงดับขันธปรินิพพานเถิด พระพุทธเจ้าจึงจำเป็นต้องทำตามสัญญา หลังจากมารทูลอาราธนาให้ดับขันธปรินิพพานเป็นครั้งที่สองแล้ว พระองค์จึงปลงอายุสังขาร และตรัสบอกกับพระอานนท์ว่า ต่อจากนี้ไปอีก๓เดือนตถาคตจะปรินิพพาน ยังความสลดโศกเศร้าเสียใจให้เกิดขึ้นกับพระอานนท์ เพราะ ก่อนหน้าที่พญามารจะมาอาราธนาเป็นครั้งที่ ๒ พระพุทธเจ้าได้ตรัสให้นัยยะเรื่องการดำรงชีวิตอยู่ด้วยอิทธิบาท๔ ไว้กับพระอานนท์แล้ว แต่พระอานนท์ไม่ได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์อยู่โปรดสัตว์ต่อ พระพุทธเจ้าจึงจำเป็นต้องดับขันธปรินิพพานตามที่ได้เคยตรัสไว้กับพญามาร_/\_
****************************************************
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .
#3
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 08:00 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#4
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 08:46 PM
น้าจี้
#5
โพสต์เมื่อ 15 July 2006 - 10:17 PM
พระพุทธเจ้าได้...แถมยังพูดกับพระพุทธเจ้าได้อีก...
จริงๆก็อยากจะถามว่าหน้าตาพญามารเป็นอย่างไรมีตัวตนจริงๆไหมแต่คงได้คำตอบว่า
คือกิเลสในตัวเรา ..หรือป่าว... คือเวลาโดนถามจากเพื่อนๆตอบไม่ถูกเรื่องพญามาร
บางครังมาเป็นตัวหรือความคิดกันแน่.....เคยตอบว่าเป็นกิเลสของตัวเราเอง เขาไม่เข้าใจครับ
ตัวผมเองก็ไม่มั่นใจในคำตอบ..ขอบพระคุณมากครับ
#6
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 02:58 AM
#7
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 03:55 AM
มีทั้งที่เป็นแบบกิเลส กับแบบที่มีตัวตนจริงๆ
จะเป็นแบบไหนก็ต้องดูกันที่บริบทหละครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#8
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 07:10 AM
เห็นด้วยครับ อยากให้เสนอความเห็นกันแบบอ้างอิงจากพระไตรปิฏกด้วยนะครับ สำหรับความรู้จากธรรมะที่ได้จากภาคปฎิบัติ เราก็คิดว่าเป็นความรู้เสริมละกันครับ เอาไว้ถ้าเราปฏิบัติได้ ไปรู้ไปเห็นเองเมื่อไหร่ก็เข้าใจเมื่อนั้นดีกว่าครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#9
โพสต์เมื่อ 16 July 2006 - 08:45 PM
http://www.dhamma.ne...mma/Mara/0.html
Someday I'm gonna be free.
#10
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 12:10 AM
#11
โพสต์เมื่อ 17 July 2006 - 12:27 PM
ดังที่คุณรักบุญอธิบายไว้ ตามพระไตรปิฎกว่า พระพุทธเจ้าท่านสัญญากับ เทวบุตรมาร ไว้อย่างนั้นจริงครับว่า ถ้าพระพุทธศาสนาเป็นปึกแผ่นแล้ว ก็จะปรินิพพาน ทีนี้คุณอาจจะสงสัยต่อว่า เอ้าแล้วถ้าเกิดพระอานนท์อาราธนา ให้พระองค์อยู่ต่อๆ จริง งั้นไม่ผิดคำพูดหรือ
ตอบว่า ไม่ผิดครับ เพราะถ้าพระอานนท์อาราธนาให้พระพุทธองค์อยู่ต่อ ก็เปรียบเสมือนสัญญาณว่า พระพุทธศาสนายังไม่เป็นปึกแผ่นไงครับ ถ้าเป็นปึกแผ่นสมบูรณ์แล้ว จะต้องไม่มีใครอาราธนาให้พระพุทธองค์อยู่ทำหน้าที่ต่อไปใช่มั้ยครับ ดังนั้น ถ้าพระอานนท์อาราธนา ก็อยู่ต่อได้
แต่สุดท้ายพระอานนท์ก็ไม่ได้อาราธนาไว้น่ะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 03:10 PM
บางอย่างรู้ไปก็เท่านั้น เพราะเป็นแค่รู้จำ
ให้ไปรู้จริงและรู้แจ้งด้วยตัวเองจะดีกว่าค่ะ
ครูบาอาจารย์ท่านกรุณามาบอกเล่าสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นด้วยตัวเราก็ดีแล้วค่ะ
ฟังไว้ติดแข้งติดขา...อย่างคุณครูท่านว่า ดีกว่าค่ะ
หรือรอให้ท่านกรุณามาเล่าต่อเมื่อถึงสมควรนะคะ
#13
โพสต์เมื่อ 18 July 2006 - 08:27 PM
แหมอย่าไปคิดมากครับ ก็ยุคนี้มนุษย์ตัวเล็ก กำปั้นท่านก็ต้องเล็กไปตามส่วนจริงไหมครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 23 August 2006 - 10:01 PM
#15
โพสต์เมื่อ 06 October 2006 - 11:23 PM