ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

...จุดจบแห่งสังสารวัฏ คือ จุดจบตามข้อความดังนี้ถูกต้องรึปล่าวค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:19 AM

ข้อมูลอ่านจาก "ชีวิตจะยุติได้อย่างไร"

..........................................................

เมื่อใดที่บุคคลนั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ขณะนั้นอกุศลมูลทั้ง ๑๒ อาสวะทั้ง ๔ รวมแล้วคือกิเลส ตัณหาต่างๆ ได้ถูกกำจัดไปอย่างหมดสิ้น เป็น ผู้ลอยบาปลอยบุญ หมายความว่า กรรมทั้งที่เป็นบุญ และบาปจะไม่เกิดกับท่านอีกต่อไป ต้นตอของวัฏฏะ คือ อวิชชา ตัณหา ถูกทำลายสิ้น เมื่อกิเลสไม่มี กรรมย่อมไม่เกิด แต่เมื่อยังต้องมีชีวิตอยู่ในชาตินั้นซึ่งเป็นภพชาติสุดท้าย ท่านจึงต้องเสวยวิบาก อันเป็นผลของกรรมเก่าที่ได้กระทำในอดีตชาติที่ผ่านๆ มา แต่เหตุปัจจุบัน คือ ตัณหา อุปาทาน กรรมภพ ที่จะต้องทำให้เกิดอนาคตผลนั้นไม่มีแล้ว ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านกระทำจึงล้วนเป็นกิริยาทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเป็นกริยาก็จะไม่มีผลอันเป็นวิบากได้อีกต่อไป ครั้นถึงเวลาที่ท่านต้องดับขันธ์ปรินิพพาน อำนาจที่จะทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นอีกจึงไม่มี เพราะถูกถอนรากถอนโคนหมดสิ้นแล้วทั้งตัณหา และอวิชชา ฉะนั้นทันทีที่จุติจิตของพระอรหันต์ดับลง ก็จะไม่มีจิตดวงต่อไปเกิดขึ้นได้อีก

นี่คือ... จุดจบแห่งสังสารวัฏ เป็นกาลอวสานของชีวิต ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของการมีชีวิตอย่างแท้จริง เพราะเป็นการจบสิ้นแล้วซึ่งการเกิดขึ้นของ จิต เจตสิก และกรรมชรูป ที่เคยมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน และเป็นชีวิตของผู้ที่หลุดพ้นแล้วซึ่งกองทุกข์ทั้งปวง

พระอรหันต์ จึงเป็นบุคคลประเภทเดียวที่พบสันติสุข และได้รับอมตสุขอย่างถาวรตลอดนิรันดร์กาล...


#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:22 AM

QUOTE
เมื่อใดที่บุคคลนั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ขณะนั้นอกุศลมูลทั้ง ๑๒ อาสวะทั้ง ๔ รวมแล้วคือกิเลส ตัณหาต่างๆ ได้ถูกกำจัดไปอย่างหมดสิ้น เป็น ผู้ลอยบาปลอยบุญ หมายความว่า กรรมทั้งที่เป็นบุญ และบาปจะไม่เกิดกับท่านอีกต่อไป ต้นตอของวัฏฏะ คือ อวิชชา ตัณหา ถูกทำลายสิ้น เมื่อกิเลสไม่มี กรรมย่อมไม่เกิด แต่เมื่อยังต้องมีชีวิตอยู่ในชาตินั้นซึ่งเป็นภพชาติสุดท้าย ท่านจึงต้องเสวยวิบาก อันเป็นผลของกรรมเก่าที่ได้กระทำในอดีตชาติที่ผ่านๆ มา แต่เหตุปัจจุบัน คือ ตัณหา อุปาทาน กรรมภพ ที่จะต้องทำให้เกิดอนาคตผลนั้นไม่มีแล้ว ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านกระทำจึงล้วนเป็นกิริยาทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเป็นกริยาก็จะไม่มีผลอันเป็นวิบากได้อีกต่อไป ครั้นถึงเวลาที่ท่านต้องดับขันธ์ปรินิพพาน อำนาจที่จะทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นอีกจึงไม่มี เพราะถูกถอนรากถอนโคนหมดสิ้นแล้วทั้งตัณหา และอวิชชา ฉะนั้นทันทีที่จุติจิตของพระอรหันต์ดับลง ก็จะไม่มีจิตดวงต่อไปเกิดขึ้นได้อีก

นี่คือ... จุดจบแห่งสังสารวัฏ เป็นกาลอวสานของชีวิต ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของการมีชีวิตอย่างแท้จริง เพราะเป็นการจบสิ้นแล้วซึ่งการเกิดขึ้นของ จิต เจตสิก และกรรมชรูป ที่เคยมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน และเป็นชีวิตของผู้ที่หลุดพ้นแล้วซึ่งกองทุกข์ทั้งปวง

พระอรหันต์ จึงเป็นบุคคลประเภทเดียวที่พบสันติสุข และได้รับอมตสุขอย่างถาวรตลอดนิรันดร์กาล...

nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif ถูกต้องนะคร้าบ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#3 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 11:37 AM

จุดจบแห่งสังสารวัฏ = ที่สุดแห่งธรรม

ไม่ช่ายหรอครับ

#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 11:45 AM

nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif สรุปว่า ถ้าจะให้เนื้อความสัมพันธ์กับหัวข้อของกระทู้ต้องบอกว่า "จุดจบของชีวิตในสังสารวัฏ" ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#5 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 12:12 PM

ขอบคุณ...คุณขุนศึกผู้พิชิตหงสา...ค่ะ

#6 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 02:05 PM

QUOTE
จุดจบแห่งสังสารวัฏ = ที่สุดแห่งธรรม

ไม่ช่ายหรอครับ

ขึ้นอยู่ว่าจบแบบไหนค่ะ ถ้าจบเฉพาะตัวเรา นิพานก็ถือว่าจบ คือไม่เวียนว่ายตายเกิดแล้ว
ถ้าจบแบบ ถอนรากถอนโคน คือรื้อโปรแกรมของสังสารวัฏ ก็ที่สุดแห่งธรรมค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#7 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 04:22 PM

จุดจบแห่งวัฏฏสงสารไม่ใช่ข้อความครับ อย่าไปทำความสำคัญกับความหมายของคำมากไปก็แล้วกันครับ บางทีคนอ่านอาจจะไม่ได้เข้าใจตามที่ผู้พูดกล่าวก็ได้ เพราะบางคำเขาก็พูดออกมาเฉพาะกาลครับ ถ้าจะศึกษาจากข้อความ ขอให้หมั่นทำความเข้าใจให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับ เพราะลำพังข้อความนี้ คนที่จะเข้าใจได้อย่างถูกต้องมีน้อยครับ

#8 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 04:28 PM

เฮ้อ...
แต่จุดอยู่ที่ว่า แม้จะจบชีวิต แต่ก็ยังไม่ใช่จุดจบสังสารวัฏฏ์ค่ะ


#9 paiboon

paiboon
  • Members
  • 17 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 06:48 PM

อนุโมทนาครับ พระอรหันท่าน วางกาย และจิตไว้กับโลก ไม่นำไปด้วย ท่านจึงพ้นโลกเข้าพระนิพพาน

#10 victory

victory
  • Members
  • 56 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 12:55 PM

จูดจบของสังสารวัฏ คือทุกชีวิตใน ภพทั้ง 3 นี้ เข้าสู่พระนิพพาน... ไม่มีภพ 3 นี้ต่อไป จบสิ้นกันที....

#11 JK564

JK564
  • Members
  • 121 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 05:54 PM

มันยิ่งกว่าจะจินตนาการครับ

#12 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 09:48 PM

ความรู้ใหม่ สำหรับผมอีกแล้วครับ

#13 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:43 PM

สาธุ

#14 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:48 PM

สาธุ ด้วยคน
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก