ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อยากปรึกษา พูดคุย เรื่อง วิชชาธรรมกาย กับเพื่อนๆ ทาง MSN ครับ มีใครพอให้คำแนะนำได้บ้าง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 26 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 cheterk

cheterk
  • Members
  • 314 โพสต์
  • Interests:พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ 22 July 2006 - 04:38 PM

อยากปรึกษา พูดคุย เรื่อง วิชชาธรรมกาย กับเพื่อนๆ ทาง MSN ครับ มีใครพอให้คำแนะนำได้บ้าง

msn ผมนะครับ [email protected]

#2 sam1

sam1
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 July 2006 - 04:55 PM

[email protected] สนใจเหมือนกันครับ..ตอนนี้กำลังพยายามศึกษาครับ.

#3 กระดิ่ง

กระดิ่ง
  • Members
  • 71 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 July 2006 - 10:15 PM

อยากพูดคุยด้วยเหมือนกันนะคะ แต่สมัคร MSN ไม่ได้สักทีคะ ถ้าอยากพูดคุยกับก็ส่ง E-mail มาคุยกันก็ได้นะคะ ที่ [email protected] ยินดีพูดคุยเรื่อง ธรรมะ ทุกเรื่องคะ (เข้าวัดมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบคะ)

ขอบุญ คุ้มครอง ผู้อยู่ในบุญ สา...ธุ


#4 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 10:34 AM

เลิกเลย เลิกๆๆ วิชชาธรรมกายไม่ควรที่จะเป็นหัวข้อในการพูดคุย หรืออื่นๆ
ถ้าเกิดพลาดไป วิบากกรรมมันแรงงงงงงง+ นะครับ

#5 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 05:47 PM

QUOTE
เลิกเลย เลิกๆๆ วิชชาธรรมกายไม่ควรที่จะเป็นหัวข้อในการพูดคุย หรืออื่นๆ
ถ้าเกิดพลาดไป วิบากกรรมมันแรงงงงงงง+ นะครับ

.................................................................

คงไม่ขนาดนั้นนะครับ

ถ้าเราพูดคุยกัน บนพื้นฐานที่มีศรัทธาที่มั่นคง ต่อมหาปูชนีย์ยาจารย์
และพูดคุยกันเพื่อปลูกฝังศรัทธา และแนวปฎิบัติจากผู้ที่มีประสบการณ์ภายใน
โดยเอามาเป็นฐานข้อมูลเพื่อฝึกการหยุด การนิ่ง ตามแนวทางคุณครูไม่ใหญ่
อย่างนี้จะเป็นบุญ เป็นกุศลมากครับ

แต่ถ้าพูดคุยกันบนพื้นฐานแห่งความลังเลสงสัย
และวิพากย์วิจารณ์ไปเพราะความไม่รู้
เพราะถูกอวิชชาครอบงำ อย่างนี้ลงมหานรกแน่นอนครับ...

โปรดใช้วิจารณญาณเลือกเอานะครับ

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#6 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 23 July 2006 - 11:35 PM

จริงๆแล้วเนี่ย ก็อยากให้ท่านที่เป็นผู้รู้น่ะค่ะ ให้คำปรึกษาในเรื่องนี้นะคะ คืออย่างตัวเองเนี่ยเป็นคนที่ยังใหม่มากสำหรับเรื่องนี้ เวลาสงสัยเนี่ย ไม่ทราบว่าจะถามใคร บางครั้งคนที่พูดก็อธิบายในสิ่งที่เค้าเข้าใจว่า "เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างนั้น" ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่า จริงๆแล้วเป็นอย่างไร ตอนนี้เริ่มเข้าวัด และโดยนิสัยเป็นคนอยากรู้ และเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ คือบางครั้งการทำอะไรก็ตามโดยยังมีความสงสัยปนอยู่ อาจทำให้เกิดความลังเล และจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่นะคะ ถ้าทำโดยที่รู้หรือเข้าใจผิดๆ ดังนั้น อยากให้ท่านที่อย่างน้อยก็รู้มากกว่า ชี้แนะ ในสิ่งที่ถูกต้องน่ะค่ะ

อาทิตย์ที่แล้วไปเดินร้านหนังสือเก่ามาค่ะ เจอหนังสือเล่มนึงชื่อว่า "ปราบมาร เล่ม 3" หน้าปกเป็นรูปของหลวงปู่ เขียนโดย นายการุณย์ บุญมานุช อดีตผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี ปกในเขียนว่า ถ้าเราปราบ เรามีทางชนะ ถ้าไม่ปราบ มีแต่แพ้สถานเดียว หน้าแรกเป็นรูปหลวงปู่เขียนบรรยายใต้ภาพว่า พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) ผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย ผู้แรกเริ่มทำวิชาปราบมาร หน้าถัดมา เป็นรูป ดวงแก้วใสวางบนฐานไม้ มีคำบรรยายใต้ภาพว่า ดวงกายสิทธิ์ (ต้นปราบ) กายสิทธิ์ดวงนี้ เป็นที่ประทับอาศัยของจักรพรรดิภาคปราบ ทรงพระนามว่า "ต้นปราบ" พร้อมด้วยจักรพรรดิ "ตรีภพ" และ "หยกชมพู" และจักรพรรดิสำคัญอื่นๆ เป็นกองทัพปราบมาร

ในเล่มพูดถึง (ยกตัวอย่างเช่น)
วิชาปราบมาเป็นวิชาธรรมกายชั้นสูง
คุณของจักรพรรดิ
กายธรรมของหลวงพ่อ (หลวงปู่)
งานปราบมาร
หลักสูตรปราบมาร
การเดินวิชา
เป้าหมายของการเดินวิชา
และอื่นๆอีกมากมายค่ะ

อ่านไปได้นิดหน่อย ไม่กล้าอ่านต่อ เพราะไม่มั่นใจไงคะ เพราะไม่รู้ว่า "ควรอ่านหรือไม่"

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ่านไปจนถึงตรงที่ว่า

การเดินวิชานั้นเดินอย่างไร เพราะมารมันหลอกได้เสมอ "เห็นอะไรแล้วอย่าเชื่อ ให้ตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน" เห็นหลวงพ่อก็อย่าเชื่อ เห็นพระพุทธองค์ก็อย่าเชื่อ เพราะมารเขาจำแลงกายมาให้เห็น เขาหลอกเราอย่างนี้มานับชาติไม่ถ้วนแล้ว เรานับถือใคร เขาจะเอาคนนั้นมาให้เห็น เราระลึกถึงใครเขาจะเอาผู้นั้นมาให้เห็น เราเกี่ยวข้องกับใครเขาจะเอามาให้เห็น
วิธีทำของเขาก็คือ เขาสอดละเอียดมาหยุดนิ่งที่ เห็น จำ คิด รู้ ของผู้นั้น แล้วเขาก็เอากายของเขาไว้ข้างใน เห็น จำ คิด รู้ ของผู้ใด ก็จะเป็นรูปร่างของเขาผู้นั้น ความรู้เรื่องนี้มีอยู่ว่า เห็น จำ คิด รู้ ทั้ง 4 นี้ รวมกันเข้าเป็นกาย 1 กาย เห็น จำ คิด รู้ ของใคร ก็เป็นกายของเขาผู้นั้น
วิธีตรวจสอบก็คือ เราพุ่งกายของเราเข้าไปในกายที่เราพบที่เราเห็น อธิษฐานเครื่องแลบ ลั่น ย่อย แยก ดับ ละลาย ไปจนสุดกายหยาบสุดกายละเอียด ถ้าเป็นของจริง กายที่เราพบเห็นจะขาวใส แต่ถ้าเป็นกายที่มารเขาหลอกเรา เราเดินวิชาไปไม่ทันสุดละเอียด กายนั้นจะหายไปเฉยๆ เราก็รู้ว่า นี่มารเขาหลอก..........

แล้วก็เป็นขั้นตอนการเดินวิชาตรวจสอบซึ่งยากมากๆอ่านแล้ว..............???????
แล้วจะยังไงดีล่ะคะทีนี้ แต่ก็ยังคงนั่งสมาธิต่อไปอยู่นะคะ ไม่ได้คิดกลัวว่าจะไปเข้าทางของใคร ที่มาดักไว้เพื่อหลอกให้เราหลงไหลกับกายที่จำแลงมาให้เราดีใจว่าเห็นนั่นเห็นนี่ แล้วอย่างนี้จะขอความรู้จากท่านผู้รู้ได้มั๊ยคะว่าเรื่องที่อ่านมาเนี่ย ใช่หรือเปล่าคะ จะได้ระวังไม่ดีใจเกินไปหากนั่งแล้วเห็นอะไรที่เราอยากเห็น
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#7 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 08:16 AM

คุยกันเรื่องนี้แล้วอธิบายยากจังเลย แต่ในโลกนี้ใคร ๆ เราก็เชื่อไม่ได้ 100% หรอกครับ เพราะทุกคนตกอยู่ในฐานะเดียวกันหมด จะอ้างว่าเป็นอาจารย์เรา เป็นเพื่อนเรา เป็นคนรู้จัก หรือจะอ้างอย่างอื่นก็ได้ บางคนเขาก็อ้างว่าเป็นพระศรีอริยเมตไตรยมาเกิด ฉะนั้น เรื่องพวกนี้เราอย่าไปทำความสำคัญมากเลยครับ ขอให้จำไว้ว่า แม้ใครจะดูน่าเชื่อเพียงไหน แต่เราก็ต้องทำตัวเองให้น่าเชื่อ คือ เอาตัวเองพิสูจน์ เอาตัวเองศึกษา เอาตัวเองปฏิบัติ ให้เข้าถึงความจริงให้ได้ ให้ประจักษ์แก่ตัวเองให้ได้ อย่าหลอกตัวเอง อย่าหลงว่าตัวเองรู้แล้วแจ้งแล้ว เพราะใคร ๆ อื่นเขามาหลอกเรายังไม่เท่าเราหลอกตัวเอง ถ้าลงว่าเราไม่หลอกตัวเองแล้ว ทำให้คุณธรรมบังเกิดกับตัวได้จริง ทำให้สัจธรรมปรากฏกับตัวเองได้จริง ใคร ๆ ก็จะมาหลอกเราไม่ได้ครับ คนส่วนมากหลอกตัวเองก่อนแล้วจึงไปหลอกคนอื่น ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าโดนหลอกกันซ้ำซ้อน

เหมือนที่เจ้าชายสิทธัตถะแสวงหาสัจธรรมในสำนักอาจารย์ต่าง ๆ พระองค์ก็ไม่ได้มีอคติว่าสำนักนั้น สำนักนี้ พระองค์ทรงลองทุกวิถีทางและลองอย่างสุด ๆ คือไม่มีใครในสำนักนั้น ๆ ทำได้มากกว่าพระองค์อีกด้วย แต่เพราะความที่พระองค์เป็นคนจริง มีความตั้งใจที่จะหาของจริง ไม่ได้หลงติดกับทางเหล่านั้นว่าตัวเองทำได้ดีแล้วเลยไม่ยอมแสวงหาต่อ พระองค์ยังคงเห็นว่านั่นยังไม่ใช่ทาง และแสวงหาต่อไปจนเจอในที่สุด ทางที่ไม่มีทางอื่นอีกต่อไป ทางสายเอกสายเดียวคือทางสายกลางนั่นเองครับ

เส้นทางเดินมีแล้ว แต่เรายังขาดความตั้งใจจริงกันอยู่ ทำแบบทีเล่นทีจริงเลยไม่ได้อะไร เบื่อ ๆ อยาก ๆ แล้วก็เลยอยากหาอะไรใหม่ ๆ ไม่เคยทำจริงสักที ชีวิตนี้เลยเอาดีอะไรไม่ได้ หลวงปู่วัดปากน้ำบอกว่า ต้องจริงแค่ชีวิตครับ

#8 Wuddy ลูกพระธัมฯ

Wuddy ลูกพระธัมฯ
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 09:37 AM

หยุดเป็นตัวสำเร็จครับ

อย่างที่คุณยายอาจารย์เคยฝากไว้กับบางท่าน
"คุณไปทำหยุดทำนิ่งให้ได้ก่อนเถอะ"

ครูไม่ใหญ่เสริมว่า ถ้าหยุดใจยังไม่ได้มันจะเลอะ ๆ เทอะ ๆ ครับ

จะเรียน Advance
Basic ต้องแน่น และให้ได้ก่อนครับ ไม่ต้องใจร้อน

Basic = การหยุดใจ
Advance = วิชชาธรรมกาย

#9 ใสๆ

ใสๆ
  • Members
  • 95 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 09:40 AM

ขอแนะนำว่าไม่สนับสนุนให้อ่านหนังสือ "ปราบมาร"เล่มต่างๆที่ออกวางขายในท้องตลาด เพราะมันเสี่ยงที่จะทำให้เข้าใจอะไรต่างๆผิดเพี้ยนไป
.
.
.

ในสมัยหลวงปู่วัดปากน้ำยังมีชีวิต ท่านก็ไม่ได้เอาตำราออกมาเผยแพร่แบบโจ่งครึ่ม
.
.
.

เพราะผู้ที่มีพื้นฐานความรู้ที่ไม่แน่นพอ ไปอ่านแล้วอาจจะเกิดความไขว้เขว หรืองุนงงได้

.
.
.
ที่สำคัญหนังสือปราบมารที่ออกวางขายตามท้องตลาดนั้นท่านผู้รู้จริงไม่รับประกันความถูกต้อง (ไม่อยากใช้คำว่าเพี้ยน)
....อนุบาลฝันในฝันวิทยา แหล่งความรู้ที่ล้ำหน้ากว่าฮาร์วาร์ด....

#10 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 09:45 AM

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ เพราะจริงๆแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าอ่านต่อหรอกค่ะ ก็จะได้ไม่ต้องอ่านอีก
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#11 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 11:28 AM

ถ้าต้องการศึกษาเรื่องนี้ ขอเสนอให้ อ่านหนังสือ
"63 กัณฑ์หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ" (ของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ)
ถ้ารู้สึกว่าเล่มหนาไปสำหรับการเริ่มอ่าน ก็อ่าน
หนังสือรวมรวมคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ , หนังสือประวัติหลวงพ่อวัดปากน้ำ ฯ
ที่ทางมูลนิธิธรรมกายได้จัดพิมพ์มาหลายเล่มแล้วค่ะ

คำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านสอนให้ "หยุด เป็นตัวสำเร็จ"
เริ่มจากการนั่งสมาธิ ปฏิบัติด้วยตนเอง
วางใจที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 วางใจสบายๆ พร้อมสติ
หยุด นิ่ง เฉยไปเรื่อยๆ
เมื่อประกอบเหตุสมบูรณ์ ผลก็จะบังเกิดขึ้นมาเอง
เหมือนปลูกต้นกล้วย ย่อมได้ผลกล้วย, ปลูกต้นมะม่วง ย่อมได้ผลมะม่วง
......................................................
ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องอยากรู้ไปก่อน โดยการไปค้นอ่านหนังสือที่เล่าเรื่องที่ละเอียดเกินไป
เพราะการกระทำแบบนี้มักส่งผลให้ผู้อ่านอ่านแล้วเกิดความคาดคิด คาดหวัง

นั่งสมาธิ ก็จะนั่งไปนึกไป โดยกะว่า น่าจะเห็นอย่างนั้น อย่างนี้ เลยทำให้ใจไม่ใส เพราะมีความอยากอยู่ภายใน ใจเลยไม่สงบ
พอใกล้จะรวมก็นึกอีกแล้ว ว่าเดี๋ยวเราต้องเห็นอย่างนี้อย่างนั้น ....เอ๊ะ ทำไมไม่เห็นเรานั่งผิดวิธีหรือเปล่า
เอ๊ะ ทำไมเห็นอย่างนี้ละ หรือ...เอ...ทำไมไม่เห็นอะไรเลย
ถ้านั่งไปอย่างนี้ไปหลายวัน หลายสัปดาห์ หลายเดือน หลายปี อาจไม่ก้าวหน้า
ต้องหยุดอยากทุกอย่าง (รวมทั้งความอยากรู้) นั่งสมาธิอย่างถูกวิธี ปล่อยไปตามธรรมชาติของการนั่งสมาธิ

เด็กหลายคน เป็นเด็กในครอบครัวต่างศาสนา อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่พุทธเลย พระคือใคร ไม่รู้จัก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เด็กก็ไม่รู้จัก วิชชาคืออะไรไม่รู้จักมาก่อน(เรื่องเหล่านี้ผู้ใหญ่บางคนจะยังไม่สอนเด็กก่อน)
ตรงข้าม เด็กๆ กลับนั่งสมาธิได้ดี ได้ผลการปฏิบัติธรรมที่ดี
โดยที่ไม่เคยอ่านหนังสือพุทธศาสนา ไม่เคยอ่านหนังสือธรรมะ สวดมนต์ไม่เป็น

แต่พวกเขาเรียนรู้เรื่องราวธรรมด้วยการปฏิบัติธรรมจากภายใน
พวกเขาพบคำตอบ จากในกลางของตนเอง จากองค์พระภายในตัวของพวกเขา
รู้ได้โดยไม่ต้องอ่านหนังสือเหล่านั้น
......................................................
ยกตัวอย่างเรื่องจริง... เด็กหญิงคนหนึ่งประมาณ 4-5 ขวบ คุณยายมานั่งสมาธิประจำ
แต่วันนี้พ่อแม่และพี่เลี้ยงไม่อยู่เลยพาเด็กมาฝากคุณยายเลี้ยงในวันนี้ แล้วคุณยายก็เลยพาหลานมาวัดด้วย
เด็กเอาแต่ติดเล่น เล่นกอดตุ๊กตาที่เอามาด้วย
เธอมาวัดครั้งแรก ไม่คุยกับคนแปลกหน้า ไม่ยอมร่วมพิธี เอาแต่โกรธและร้องอยากกลับบ้าน ทำท่าก้าวร้าว
ร้องเสียงดังจนต้องพาไปนั่งห่างจากที่เขาปฏิบัติธรรมกัน
สงสารเด็ก เลยไปถามเด็กว่า "ดวงแก้วนี่นะ" (หยิบให้ดู) "ดูแล้วจำได้ไหม"
เด็กมองนิดนึงแล้วบอกว่า "ได้"
ก็พูดว่า "จำได้นะ เอางี้ นึกลูกแก้วนี้ไว้ในท้อง ทำได้ไหมล่ะ"
ชี้ไปที่ท้องเด็ก "นึกไว้ข้างในท้องน่ะ นึกไว้เรื่อยๆเลยนะ"
ทำท่าให้เด็กดู หลับตา เอามือประสานกัน แล้วชี้ไปที่ท้อง
(เด็กคงเบื่อๆ ที่นั่งอยู่คนเดียว เหมือนถูกทิ้ง พอมีคนมาคุยด้วยก็เลยทำตาม เด็กก็เลยนั่งที่เก้าอี้ หลับตา)
คนพูดก็เลยสบายแล้ว เด็กไม่ร้องรบกวนคนนั่งสมาธิแล้ว ก็เดินไปทำธุระแวบนึง
ผ่านไป 7-8 นาที แล้วเดินกลับมาดูว่าเด็กเดินไปที่ไหนหรือเปล่า
เห็นเด็กนั่งนิ่งๆ ลืมตาอยู่ที่เก้าอี้ พอเข้าไปถาม เป็นไงบ้าง
เด็กก็พูดคุยแบบสงบกว่าเมื่อก่อนนั่งสมาธิ แต่คราวนี้ลืมตาแล้ว
เด็กก็บอกว่า เห็นตัวเองตัวใหญ่มากเลย เอามือทำใหญ่ๆ เมื่อยิ้มให้เธอ เธอก็ยิ้มตอบ
"จริงเหรอ เธอตัวแค่นี้จะไปตัวใหญ่ได้ไง" เธอก็ตอบว่า "จริงๆนะ สูงขนาดนี้ " ชี้ไปที่ข้างบน
"แล้วก็เห็นพระ อายุมากแล้ว" เธอบรรยายลักษณะนักบวช "ชุดสีเหลืองๆ" "นั่งสมาธินิ่งๆ แต่ใหญ่กว่าตัวหนู หนูอยู่ในพระองค์นั้น"
ถามเธอว่า "พระองค์นั้น เธอรู้จักไหม"
เธอก็บรรยายแล้วก็บอกว่า "หน้าตาไม่เหมือนพระที่เธอเห็นในวันนี้ ใส่ชุดสีเหลืองเหมือนกัน แต่หน้าตาไม่เหมือนกัน"
เธอก็บอกว่า "เมื่อกี้นั่งนิ่งๆ แล้วมีความสุขมากเลย ดีค่ะ"
หน้าตาท่าทางเธอดูสงบอย่างที่เธอพูด ราวกับโตขึ้นอีก 5 ปี คือดูเรียบร้อยขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
เธอหันมองไปทางโน้น ทางนี้ แล้วเธอก็เดินไปดูตรงโน้นตรงนี้
ที่มีสื่อธรรมะ รูปหลวงพ่อธัมมชโย รูปบวชพระ หนังสือธรรมะต่างๆ
เธอชี้ไปที่ภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ "โอ นี่ไง นี่คือพระที่เห็นตอนนั่งหลับตาเมื่อกี้นี้ "
ถามเธอว่า "รู้จักไหม" เธอก็ส่ายหัว "ไม่รู้จัก" เธอก็ถามต่อว่า "พระองค์นี้อยู่ที่วัดนี้หรือเปล่าคะ"......
แล้วเธอก็ขอไปนั่งสมาธิกับคุณยายของเธอ
...............................................
เด็กๆ ที่มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี จะรักการนั่งสมาธิ
และจะพูดบรรยายถึงสมาธิได้เอง ดีอย่างไร โดยไม่มีใครไปบอกบทให้พูด
เด็กๆ พูดได้อย่างชัดเจน ไม่อ้อมค้อม เด็กไม่โกหกความรู้สึกของตัวเอง
ความใส ความอินโนเซ้นท์ ความที่ไม่มีข้อมูลใส่ตัวมาก่อน กลับทำให้เด็กนั่งสมาธิได้ดี
เพราะเด็กไม่ได้คาดหวังอะไร .....นึกดวงก็คือนึกดวง, นึกองค์พระก็คือนึกองค์พระ,
สบาย ก็คือสบาย, เฉยๆ ก็คือเฉยๆ ง่ายๆ แค่นี้เท่านั้น
..............................................
ธรรมะ คือของจริง ต้องปฏิบัติจริง จึงจะรู้ได้
หนังสือหรือเรื่องราวที่เล่าขาน อาจมีที่ถูก อาจมีที่ผิด
อาจผิดเพี้ยน ด้วยเพราะการรับรู้, เข้าใจ, การเล่า, การเรียบเรียง, การบันทึก, การผลิตพิมพ์ ที่บกพร่อง หรือด้วยเจตนาใดๆ ก็ตาม

แต่ถ้าเรานั่งสมาธิ ของเราเอง ศึกษาธรรมะด้วยตัวของเราเอง ดูภายในตัวของเรานี่ละ
(ครบสูตร กาลามสูตร เลย)
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#12 eq072

eq072
  • Members
  • 504 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 12:14 PM

มีคำของพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านให้ไว้ว่า

มากนักใหญ่โตมโหฬาร พูดหยุดให้ได้เสียก่อน

สรุปว่า ท่านให้หยุดใจให้ได้ก่อน
เป้าหมายขั้นแรก ดวงปฐมมรรคใส ๆ

#13 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 03:00 PM

ผมขอบอกสั้นๆว่า "อย่าอ่านครับ" วิชชาธรรมกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชชาชั้นสูงนั้น ไม่ใช่วิชชาที่ใช้การพูดคุยหรือการอ่านนะครับ แต่เป็นวิชชาที่ใช้การหยุดการนิ่ง เพราะฉะนั้น วิชชาธรรมกายชั้นสูง จึงไม่ใช่เรื่องที่เอามาพูดคุยกันนะครับ สมัยพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านสั่งห้ามเด็ดขาด เรื่องเอาวิชชาชั้นสูงไปพูดนอกโรงงานทำวิชชา นี่เป็นเหตุว่า ทำไมสมัยพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ จึงไม่มีตำราต่างๆออกมา ยกเว้น คู่มือสมภาร ที่เป็นการเดินวิชชาพื้นฐานขั้นต้น เท่านั้น เรื่องวิชชาชั้นสูงที่ท่านห้ามพูดเด็ดขาด ท่านห้ามพูดขนาดไหนรู้ไหมครับ ท่านห้ามพูดขนาดที่ว่า แม้ในวัดปากน้ำ หรือผู้ที่ได้ธรรมกายท่านอื่นๆ แต่ไม่ได้อยู่ในโรงงาน ไม่มีใครรู้เรื่องวิชชาชั้นสูงในโรงงานเลยสักคน พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ท่านเคยเทศน์ไว้ว่า "ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ในวัดปากน้ำ มีเท่าไหร่ ไม่มีใครรู้เลย ว่าสมภารวัดปากน้ำกำลังทำอะไรอยู่ รู้ก็นิดๆหน่อยๆ รู้จริงจังเป็นไม่มี จะมีรู้จริงจัง ก็แค่พวกที่ทำวิชชาอยู่ในโรงงานด้วยกันเท่านั้น"

ดังนั้น ก็คิดเอาเองละกันนะครับ ว่าไอ้ตำราต่างๆ ที่มีที่เห็น วางขายกันตามท้องตลาดน่ะ มันควรอ่านหรือไม่ และความถูกต้องมันมีแค่ไหน พิจารณาเอาเองครับ ผมเองบอกและเตือนได้เท่านี้แหละ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#14 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 03:44 PM

ขอแนะนำให้ปฏิบัติก่อนนะค่ะ ถ้าใหม่มากๆ แนะนำให้อ่านการทำสมาธิเบื้องต้นค่ะ อย่างอื่นเอาไว้ที่หลัง อ่านไปก็ไม่เกิดประโยชน์ตอนนี้นะค่ะ ตอนนี้อย่าเพิ่งไปสนใจเลย เอานั่งธรรมะ แบบกำหนดลูกแก้วหรือองค์พระ พอให้ได้ดวงใสๆก่อนนะค่ะ
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#15 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 July 2006 - 08:05 PM

ขอบพระคุณทุกท่านมากๆ เลยค่ะ ที่ให้คำแนะนำ เอาเป็นว่า จะเชื่อคำแนะนำของทุกท่าน และปฏิบัติตามค่ะ "หยุด นิ่งๆ เฉยๆ" ดีที่สุด ชัวร์ที่สุด ใช่มั๊ยคะ
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#16 sage_072

sage_072
  • Members
  • 271 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:นครราชสีมา
  • Interests:ต้องการเรียนรู้กฏแห่งกรรม และสนทนาธรรมกับเพื่อนกัลยาณมิตร

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 02:21 PM

เมื่อความคิดเห็นต่างๆเข้ามา
สุดท้ายเราก็จูงมือกันไปฝึก
วิชชาธรรมกายจากพระอาจารย์ผู้รู้

thamma_072.p

#17 arunrat

arunrat
  • Members
  • 36 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 11:09 PM

ก็ดีนะคะ [email protected] ขอคุยเรื่องบุญคะ ช่วงนี้หาเวลานั่งธรรมะ เฉลี่ยแล้ว 20 นาที ต่อวัน ม่าย ด้าย ม่าย ด้าย

#18 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2006 - 04:54 PM

หนังสือ "ปราบมาร" และทุกเล่ม ที่ศึกษาการุณย์เขียน ผู้รู้เคยบอกให้เอาไปเผาให้หมด

ถ้าดีจริง วัดคงพิมพ์แจกไปแล้ว

#19 Kotcha...

Kotcha...
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 11:23 AM

เคยอ่านครับ ตอนนั้นเพิ่งเข้าวัดใหม่ ๆ อ่านแรก ๆ ก็ มันส์ดีครับ แต่อ่านไปเริ่มสงสัยและไม่ดีต่อการนั่งธรรมะเลยครับ เลยเอามาให้พี่ที่วัดดูสรุปว่าอย่าไปสนใจเลย ฟังคำสอน คำแนะนำของครูบาอาจารย์เราดีกว่า ดีที่สุด ชัวร์ที่สุด แน่นอนที่สุดครับ.....พรรษานี้เข้าถึงองค์พระกันทั้งชั้นเลยนะครับ..สาธุ

#20 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 09:32 PM

dmcขอaddคุยธรรมะด้วยครับ [email protected]
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv

#21 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 09:38 PM

พูดสั้น ๆ ง่าย ๆ นะครับ หยุดเป็นตัวสำเร็จ

ครอบคลุมทุกอย่างแล้วครับ

#22 พบวิชา

พบวิชา
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 08:14 PM

อ่านไปเถอะครับ ความรู้ชั้นสูงแบบนี้ อ่านได้ไม่มีใครว่า พวกที่ไม่อ่าน จะรู้อะไร ผู้รู้ที่ท่านไปถาม จะรู้จริงหรือเปล่าไม่รู้ สมัยหลวงพ่อสดอยู่ ท่านเล่าวิชาชั้นสูงให้หลวงปู่ชั้วฟัง ก่อนที่หลวงปู่ชั้วจะเห็นธรรมกายเสียอีก แค่นี้ก็ยืนยันได้ว่า วิชาชั้นสูงสามารถศึกษาได้ พระไตรปิฎก ยังไม่มีสูตรไหนห้ามอ่าน วิชาธรรมกายก็เช่นกัน ถ้าเป็นบัณฑิต ก็ศึกษาแบบบัณฑิต ตรวจสอบรู้ญาณของตนเอง การที่ใครบอกเอาตำราปราบมารไปเผาไปเผา จุดประสงค์คืออะไร สมัยก่อนมีคนเอาคู่มือสมภารไปเผา พอเอาไปเผา เราจะไปเอาความรู้จากไหนมาเดินวิชา

วิชาธรรมกายเป็นของกลาง ไม่จำกัดเฉพาะที่วัดนะครับ ความรู้ทำให้คนแตกต่างกัน หยุดในหยุด เดินวิชาต้องหมั่นทบทวนตำรา ความยากมันอยู่ตรงนี้ ไม่ทบทวนความรู้ก็เพี้ยน ใครเพี้ยนไม่เพี้ยน เถียงกันตายเลย

ไม่สังเกตบ้างเหรอ ว่าเป็นวิชาธรรมกายเหมือนกัน ทำไมรู้เห็นไม่เหมือนกัน เคยหาคำตอบไหม

ผมเข้าวัดมานาน ศึกษาไปเรื่อยๆ จนวันนี้ ยังศึกษาไม่หมดเลยครับ



#23 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 30 July 2006 - 07:48 PM

ควรเอาปัญญาที่เกิดจากทางทั้ง3มาประกอบกัน ครับ..... (ประกอบจิกซอลธรรม)
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv

#24 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 August 2006 - 03:30 PM

1.MSM เรื่องวิชชาธรรมกาย น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ เพราะเสมือนแก้ปัญหา หรือเรียนรู้กันสดๆ แต่ขอให้อยู่ในศีลนะครับ
2.เรื่องหนังสือปราบมาร ของท่านศึกษาการุณย์เขียน ผมได้อ่านทั้ง 5 เล่มแล้วครับ( อ่านจาก http://www.###### ครับ)
2.1 สำหรับผมแล้ว ไม่ต้องการให้ผู้ศึกษาวิชชาธรรมกายแตกแยกกันเลยครับ ไม่อยากให้แบ่งฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ เพราะเราทุกคนกำลังเรียนตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน หรือเรียนรู้และปฏิบัติตามที่ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย(หลวงปู่สด)ท่านสอนไว้
2.2 ส่วนการปฏิบัติ ผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร จะเหมือนหรือแตกต่างแบบไหน เมื่ออาจารย์ไม่อยู่แล้ว ผมไม่เห็นด้วยที่ศิษย์จะมาทะเลาะกัน
2.3 สำหรับผมในเรื่องหนังสือปราบมารทั้ง 5 เล่มนั้น อยู่เหนือขอบเขตปัญญาของตนในตอนนี้ โดยพยายามศึกษาให้ส่วนดีปรากฎ อธิบายส่วนไม่ดี ไม่ควร กำกับหรือแก้ไขไว้ เพื่อให้ผู้เป็นบัณฑิตที่ศึกษาในภายหลังต้องระวัง
2.4 สำหรับท่านอื่นที่ต้องการศึกษา ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และมีสติให้มากนะครับ

#25 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 04:44 PM

สาธุ

#26 ลูกหลานหลวงปู่

ลูกหลานหลวงปู่
  • Members
  • 100 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 September 2007 - 07:59 PM

ในฐานะเราเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มีคุณครูไม่ใหญ่เป็นครูบาอาจารย์ ทำไมเราไม่ฟังคำตอบคุณครูของเรากันครับ (เขียนซะซ๊เรียสเลยครับ)

คำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ประโยคหนึ่ง" บุคคลประเภทที่ไม่รู้จริง แล้วเอาธรรมะละเอียดมาอวดอ้าง เช่น ผู้ที่เขียนหนังสือ “ปราบมาร” จนทำให้อดีตสามเณรผู้อ่านหลงผิดนั้น จะทำให้มีวิบากกรรม คือ จะมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ,
จิตจะวิปลาสแปรปรวนถึงขั้นเป็นจิตประสาท เมื่อตายแล้วก็จะไปอยู่ภพพิเศษที่ทุกข์ทรมานมากกว่าโลกันตนรกจ๊ะ "

อ้างอิงจาก
http://www.dmc.tv/pa...2549-08-28.html


#27 yama

yama
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 July 2008 - 12:22 PM

อย่าเพิ่งไปเชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าไม่อ่านแล้วจะรู้เรื่องได้ไง ใครที่ห้ามคนอื่นอ่านแปลว่าปิดกั้นปัญญาของเขา คนเขียนเขาบอกว่า เขาทำให้อ่านเพราะมารไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องของมาร แต่ผู้เขียนเขาฝืนคำสั่งมาร คนที่ห้ามคนอื่นอ่านก็คือทำตามที่มารต้องการหรือเปล่า ให้ไปคิดกันเอาเอง ไม่ต้องกลัว ถ้ากลัวก็มีแต่อัปปัญญา คนเราจะรู้ความจริงสำคัญที่ตนเอง ไปเชื่อคนอื่นทำไม ถ้าหนังสือเขาเขียนดีมีเหตุผลคนอ่านก็รู้ได้เอง ถ้าเขาเขียนไม่ดีคนอ่านก็รู้ได้เอง แต่ถ้าเขาเขียนดีแต่เรากลับว่าไม่ดีนั่นมันเป็นเรื่องของเราโง่เอง


ห้ามคนอื่นอ่านก็แปลว่าอะไร อ่านหรือไม่อ่านใครได้ใครเสีย คนอ่านแล้วเขาได้ประโยชน์มีมากมาย คนที่ปัญญาไม่เข้มแข็งอ่านหนังสืออะไรก็หลงผิดไปเองได้ แต่คนมีปัญญาเขาไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน


ผมอ่านมาทั้ง 5 เล่มแล้ว ผมว่าน่าสนใจดี ความรู้ลึกซึ้งดี ไปถามพระบางองค์ยังไม่มีความรู้ที่จะตอบได้อย่างนี้เลย พอถามมากเข้าก็ขู่เราว่าเรื่องละเอียดเขาไม่พูดกัน แปลกทำไมท่านไม่พูดตรงๆ ว่าท่านเองไม่รู้เรื่องไม่มีความรู้ก็จบ