อจินไตยละเอียด
#1
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:20 AM
#2
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:26 AM
น้าจี้
#3
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:37 PM
#4
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 01:39 PM
ละเอียด ก็คือของละเอียด
เอาวิธีหยาบๆ ไปทำความเข้าใจสิ่งที่ละเอียดไม่ได้ ปวดหัวทั้งคนถามคนตอบไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
ทำใจหยุดใจนิ่งต่อไปเรื่อยๆ แบบที่ครูบาอาจารย์สอน เดี๋ยวก็จะไปรู้ไปเห็นเองได้ตามลำดับของใจที่ละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน แล้วก็จะ เข้าใจได้เองอย่างแจ่มแจ้ง โดยไม่ต้องถามค่ะ
ลายเซ็นนี้ เป็นคำตอบของคำถามค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#5
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 03:47 PM
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.
#6
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 04:37 PM
มานั่งสมาธิกันเถอะ
เดี๋ยววันดีคืนดี ก็จะมีเล่าในDMC ให้ฟังกันค่ะ ไม่ต้องรีบ
#7
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 08:47 PM
แม่นแล้วววว..
#8
โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 10:03 PM
ว่าด้วยอจินไตย ๔
[๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ อย่างนี้ไม่ควรคิด ผู้ที่คิด
ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า อจินไตย ๔ คือ
อะไรบ้าง คือ
๑. พุทธวิสัยแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด
ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๒. ฌานวิสัยแห่งผู้ได้ฌาน เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะ
พึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๓. วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วน
แห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๔. โลกจินดา (ความคิดในเรื่องของโลก) เป็นอจินไตยไม่ควรคิด
ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล อจินไตย ๔ ไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึง
มีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
จบอจินติตสูตรที่ ๗
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย 35/235
#9
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 07:59 AM
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#10
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 09:13 PM
That's right.....if you try to think with the human brain , you will go bonkers!!
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#11
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 10:19 PM
#12
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 03:58 PM
#13
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 01:51 AM
ปล. นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมขออนุญาตงดตอบปัญหาธรรมะภาคอจินไตยที่เกินภูมิรู้ภูมิธรรมที่ผมมีผมเป็นทุกกรณีนะครับ เนื่องจากหากสิ่งที่ผมพูดไป ไม่ตรงกับสิ่งที่มีอยู่จริงในเหตุละเอียดแล้วล่ะก็ นอกจากจะกลายเป็นว่าผมได้หยิบยื่น "สัทธรรมปฏิรูป" ให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการไปทำให้เขามีทิฏฐิวิบัติอีกด้วย (ในกรณีที่ผู้อ่าน/ฟังเป็นผู้ที่มีอินทรีย์อ่อนและคล้อยตามง่าย) แถมตัวผมเองยังจะมีวิบากกรรมพ่วงแถมไปอีกเป็นต้นว่า เวลารู้ เห็น เป็นธรรม ก็จะรู้เห็นแบบจริงครึ่ง เท็จครึ่ง เพราะผมได้ปลูกต้นจริงบ้าง ไม่จริงบ้างเอาไว้กับผู้อื่น ผลที่ออกมาก็ย่อมเป็นเช่นนั้น และ/หรือวิบากกรรมในอีกกรณีหนึ่งที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ "เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นน่ะไม่จริง" ครับ เพราะฉะนั้น ขอออกปากไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่กล้าเสี่ยงหรอกครับ มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ นะครับ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#14
โพสต์เมื่อ 16 March 2007 - 07:16 AM