ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อจินไตยละเอียด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:20 AM

อยากรู้อจินไตยมีอะไรบ้างมีเยอะหรือป่าวขอข้อมูลเยอะๆครับ_ขอบคุณมากครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv

#2 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:26 AM

อจินไตย คือสิ่งที่เกิดจากบุญ ที่เกินความนึกคิดของมนุษย์นะค่ะ เช่น สมบัติจักรพัรรดิ ตักไม่พร่อง เป็นต้น
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#3 sun of peace

sun of peace
  • Members
  • 101 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 12:37 PM

อจินไตยหมายความว่า เรื่องที่เกินความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ธรรมดาที่จะคิดได้หรือคิดไปถึง เพราะว่าถ้าใช้ปัญญาหยาบๆของมนุษย์คิดนั้น จะมีขอบเขตจำกัด เรื่องอจินไตยนั้นเป็นเรื่องละเอียด ถ้าจะเข้าถึงความเป็นอจินไตย ต้องออกจากความคิดเป็นความไม่คิด เมื่อหยุดได้ถูกส่วน แสงสว่างแห่งปัญญาก็จะเกิด แล้วก็จะสามารถรู้เรื่องอจินไตยที่ละเอียดๆได้โดยที่ไม่มีข้อสงสัย เช่น เรื่องบุญ เรื่องบาป เป็นต้น
จะครองเรือนไปสักกี่ร้อยปีก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเค้าทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้

#4 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 01:39 PM

หยาบ ก็คือหยาบ
ละเอียด ก็คือของละเอียด

เอาวิธีหยาบๆ ไปทำความเข้าใจสิ่งที่ละเอียดไม่ได้ ปวดหัวทั้งคนถามคนตอบไปเปล่าๆ ปลี้ๆ

ทำใจหยุดใจนิ่งต่อไปเรื่อยๆ แบบที่ครูบาอาจารย์สอน เดี๋ยวก็จะไปรู้ไปเห็นเองได้ตามลำดับของใจที่ละเอียดเป็นขั้นเป็นตอน แล้วก็จะ เข้าใจได้เองอย่างแจ่มแจ้ง โดยไม่ต้องถามค่ะ

QUOTE
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ลายเซ็นนี้ เป็นคำตอบของคำถามค่ะ happy.gif
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#5 พบพาน ผ่านภพ

พบพาน ผ่านภพ
  • Members
  • 236 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 03:47 PM

รอคุณเกียรติก้องอยู่เนี่ยล่ะครับ

happy.gif
" พบพาน _ผ่านภพ "
เ พี ย ง พ บ พ า น . . . _ เ พื่ อ ผ่ า น ภ พ
Passing by to meet you.

#6 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 04:37 PM

อจินไตย => อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องนี้เลย

มานั่งสมาธิกันเถอะ

เดี๋ยววันดีคืนดี ก็จะมีเล่าในDMC ให้ฟังกันค่ะ ไม่ต้องรีบ

ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#7 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 08:47 PM

QUOTE
เดี๋ยววันดีคืนดี ก็จะมีเล่าในDMC ให้ฟังกันค่ะ ไม่ต้องรีบ

แม่นแล้วววว..



#8 ศูนย์กลางกาย

ศูนย์กลางกาย
  • Members
  • 94 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2006 - 10:03 PM

๗. อจินติตสูตร
ว่าด้วยอจินไตย ๔
[๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ อย่างนี้ไม่ควรคิด ผู้ที่คิด
ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า อจินไตย ๔ คือ
อะไรบ้าง คือ
๑. พุทธวิสัยแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด
ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๒. ฌานวิสัยแห่งผู้ได้ฌาน เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะ
พึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๓. วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วน
แห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
๔. โลกจินดา (ความคิดในเรื่องของโลก) เป็นอจินไตยไม่ควรคิด
ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แล อจินไตย ๔ ไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึง
มีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
จบอจินติตสูตรที่ ๗

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย 35/235













#9 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 07:59 AM

ลองดูที่นี่ครับ
คุณสายน้ำทิพย์อธิบายไว้ค่อนข้างละเอียด

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5669
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#10 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 09:13 PM

QUOTE
อจินไตยหมายความว่า เรื่องที่เกินความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ธรรมดาที่จะคิดได้หรือคิดไปถึง เพราะว่าถ้าใช้ปัญญาหยาบๆของมนุษย์คิดนั้น จะมีขอบเขตจำกัด เรื่องอจินไตยนั้นเป็นเรื่องละเอียด ถ้าจะเข้าถึงความเป็นอจินไตย ต้องออกจากความคิดเป็นความไม่คิด เมื่อหยุดได้ถูกส่วน แสงสว่างแห่งปัญญาก็จะเกิด แล้วก็จะสามารถรู้เรื่องอจินไตยที่ละเอียดๆได้โดยที่ไม่มีข้อสงสัย เช่น เรื่องบุญ เรื่องบาป เป็นต้น

That's right.....if you try to think with the human brain , you will go bonkers!!
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง

#11 lZephirothZl

lZephirothZl
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 10:19 PM

ขอบคุณคุณ nimmo ด้วยครับ

#12 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 03:58 PM

สนับสนุนคุณ nimmo ตามนั้นแหละ อจินไตย เรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะแค่ระดับ จินตามยปัญญา ไม่สามารถจะหาเหตุหาผลจากกรณีทั้ง 4 ได้ ถ้ายังขืนดื้อดึงพยายามคิดต่อไป คนคิดก็อาจจะสงสัยตัวเองก็ได้ว่า "ตูนี่บ้าหรือเปล่าวะ" ถามคนอื่นก็อาจจะได้คำตอบว่า "เอ็งมันท่าจะบ้า" อยากรู้เรื่องอจินไตยก็ต้องอย่างนี้ครับ "อุทปาทิ ญาณํ อุทปาทิ ปญฺญา อุทปาทิ วิชฺชา" หรือไม่ก็ "หยุด เป็นตัวสำเร็จ" ถึงตรงนั้นค่อยหาคำตอบครับ

#13 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 01:51 AM

nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif ถ้าเรื่องอจินไตยในที่นี้ หมายถึง ธรรมะภาคละเอียดที่ชาววัดพระธรรมกายส่วนใหญ่ชอบนำมาเป็นประเด็นในการสนทนากันแล้วล่ะก็ ผมขอยกเอาคำแนะนำที่เคยให้ไว้กับกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสมาชิกชาวบอร์ดของเรามีใจความดังต่อไปนี้ครับ

QUOTE
"อดีตทำเมา อนาคตทำเมา ปัจจุบันธัมโม" ครับ อยู่กับปัจจุบันดีกว่านะครับ ปัจจุบันในที่นี้ก็คือ เราควรสนใจว่า ในแต่ละรอบของการปฏิบัติธรรม เราควรปรับอะไรที่เป็นจุดบกพร่องในการปฏิบัติของเราบ้าง โดยส่วนตัวผมแล้ว สำหรับเรื่องละเอียดทุกเรื่องที่ได้รับฟังมา ผมฟังเพื่อเป็นปกิณณกะธรรม เป็นกำลังใจในการสร้างบารมีแต่เพียงเท่านั้น รู้ไว้ใช่ว่าติดขาติดแข้งครับ อีกอย่างต้องพิจารณาที่ตัวของผู้พูดด้วยว่า ผู้พูดเป็นผู้รู้ธรรมเห็นธรรมหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ก็ยากที่จะเชื่อถือ เพราะหามาตรฐานของความถูกต้องอันใดไม่ได้ เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับคนตาบอดมานั่งถกกับคนตาบอด ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยใช่ไหมครับ? เพราะไม่เห็นธรรมะด้วยกันทั้งคู่ สู้เอาเวลาไปทำหยุดทำนิ่งส่วนตัวของเราเองเสียจะดีกว่าว่า เออ! ที่ตอนนี้เรายังปฏิบัติไปไม่ถึงไหน เรายังทำใจหยุดใจนิ่งไม่ได้น่ะ เราวางใจไว้ถูกสิบ ถูกศูนย์ ถูกส่วนหรือเปล่า? ที่นั่งแล้วยังมึนตื้ออยู่ เพราะเรากดลูกนัยน์ตาหรือเปล่า? เราเค้นภาพนิมิตที่ปรากฏเกิดขึ้นภายในหรือเปล่า? สนอย่างนี้จะดีกว่านะครับ สำหรับกรณีที่ผู้พูดเป็นผู้ที่เชื่อถือได้ อาทิ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ และพระอาจารย์พิเศษที่พระเดชพระคุณฯ มอบหมายให้มาพูดโดยตรง กรณีนี้ ให้เราน้อมรับมาเก็บไว้เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างบารมี แต่อย่าพึ่งเชื่อถือไปเสียทั้งหมดล่ะ เราต้องน้อมนำเอาสิ่งที่ท่านให้มาปฏิบัติเพื่อพิสูจน์คำครูของเราให้รู้ ให้เห็น ให้เป็นด้วยตัวของเราเอง เพราะพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สอนให้เชื่อตามหลักของเหตุและผล และเชื่อในปัญญาที่เกิดจากการตรัสรู้ที่เกิดที่มีขึ้นภายในตน และเมื่อได้รู้เห็นธรรมเหล่านั้นด้วยตนเองแล้ว ได้พิจารณาด้วยวิปัสสนาญาณโดยแยบคายแล้ว จึงเทียบรู้เทียบเห็นกับครูบาอาจารย์ของเรา และเทียบรู้เทียบเห็นกับการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริงดังนี้แล้ว เมื่อนั้น จึงควรเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมและแน่นแฟ้นครับ

ปล. นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมขออนุญาตงดตอบปัญหาธรรมะภาคอจินไตยที่เกินภูมิรู้ภูมิธรรมที่ผมมีผมเป็นทุกกรณีนะครับ เนื่องจากหากสิ่งที่ผมพูดไป ไม่ตรงกับสิ่งที่มีอยู่จริงในเหตุละเอียดแล้วล่ะก็ นอกจากจะกลายเป็นว่าผมได้หยิบยื่น "สัทธรรมปฏิรูป" ให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการไปทำให้เขามีทิฏฐิวิบัติอีกด้วย (ในกรณีที่ผู้อ่าน/ฟังเป็นผู้ที่มีอินทรีย์อ่อนและคล้อยตามง่าย) แถมตัวผมเองยังจะมีวิบากกรรมพ่วงแถมไปอีกเป็นต้นว่า เวลารู้ เห็น เป็นธรรม ก็จะรู้เห็นแบบจริงครึ่ง เท็จครึ่ง เพราะผมได้ปลูกต้นจริงบ้าง ไม่จริงบ้างเอาไว้กับผู้อื่น ผลที่ออกมาก็ย่อมเป็นเช่นนั้น และ/หรือวิบากกรรมในอีกกรณีหนึ่งที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ "เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นน่ะไม่จริง" ครับ เพราะฉะนั้น ขอออกปากไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่กล้าเสี่ยงหรอกครับ มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ นะครับ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#14 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 16 March 2007 - 07:16 AM

สาธุ