ภัยร้าย แฝงตัวอยู่ในวัด
#1
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 10:59 AM
บางท่านก็มีวิจารญาน เข้าใจและแยกแยะความถูกต้องได้ดี แต่จะมีบางท่านที่มองโลกในแง่ดีเกินไป อาจเป็นอันตรายได้เช่น การหลงเชื่อจาก
1.มีพวกมาชวนไปทำธุรกิจต่างๆโดยเอาหมู่คณะอ้างอิง
รวมไปถึงเอารูปมหาปูชนียาจารย์ไปสร้างบรรกาศในธุรกิจทั้งๆที่ รูปท่านควรจะไปอยู่ในสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่อันศักดิ์สิทธ์มากกว่า
2.ในหมู่คณะจะมีทั้ง บัณทิตและคนพาล แต่คนพาลจะมีมากกว่าเสมอ
ในทุกสังคม ถึงแม้บางคนจะเคยบวชและอ้างถึงการเข้ามาศึกษาที่วัดมานานแล้วก็สามารถกลับไปเป็นคนพาลได้
ซึ่งจะชวนทำให้เสียทรัพย์และเสียชื่อเสียงแก่ตนเอง ตระกูลโดยเฉพาะจะลามไปถึงที่วัด
เพราะว่ากว่ามหาปูชนียาจารย์จะสร้างชื่อเสียงของวิชชาธรรมกายนั้นทำได้ยากยิ่งนัก
และผู้ที่ทำลายชื่อเสียงทั้งทางตรงและทางอ้อมมีอยู่มากที่แฝงตัวมาในหมู่คณะและในสังคมทั่วไป
3.ขอให้ท่านไปวัดหรือไปปฏิบัติธรรมด้วยรอยยิ้ม ใจที่เบิกบาน และถือสันโดดเป็นหลัก
ไม่พูดคุยกันมาก มุ่งทำพระนิพานให้แจ้งและแสวงบุญเป็นหลักเพื่อไม่ถูก ข้อ 1 และ ข้อ 2ทำร้าย โดยเฉพาะในการหลงเชื่อจากบุคคลดังกล่าว
ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ มาหมดแล้ว ทำให้เสียทรัพย์ และเสียชื่อเสียงแก่ตนเองและครอบครัว
หนักที่สุด ทำให้ใจหมองไปนาน ทำให้ยากต่อการเข้าถึงธรรม เข้าวัดเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมีเท่านั้น
อย่างอื่นไม่ใช่
ขอให้ในพรรษานี้ทุกคนได้บรรลุธรรมสมความตั้งใจ เพื่อการรู้แจ้ง เห็นแจ้ง และญาณ อย่างเป็นไปตามความเป็นจริง
#2
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 11:16 AM
#3
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 11:37 AM
ถ้าคุณที่สองไม่เคยโดนก็ดีแล้วครับแต่ต่อไปนี้อย่าได้ประมาทครับ เมื่อก่อนรถยนต์ของเจ้าภาพหายมาหลายคันแล้ว ที่ใต้สภาครับ ขนาดหน้าวัดมีสถานีตำรวจยังช่วยอะไรไม่ค่อยจะได้ครับ
แต่ตอนนี้ใต้สภาติดทีวีวงจรปิดหมดแล้วครับ เลยจับได้เป็นขบวนการเลยครับ
#4
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 01:04 PM
เพื่อนเลยนึกว่า วัดใช้ระบบขายตรงหารายได้ ประมาณว่า หัวหน้าสายงาน (ไม่ทราบว่าเค้าเรียกว่าอะไรนะคะ แม่ทีม อะไรประมาณเนี๊ยค่ะ) เป็นคนวัด แล้วให้คนที่เข้ามาวัด ไปขายของ คนเข้าวัดเป็นหมื่นๆ เท่ากับลูกทีมก็เป็นหมื่นๆคน สุดท้ายเปอร์เซ็นต์การขายก็เข้าวัด (อันนี้เพื่อนพูดให้ฟังนะคะ) แต่ตอนนี้ไปเฉลยให้เพื่อนฟังแล้วค่ะ ว่าวัดไม่ได้เป็นอย่างนั้น clear clear clear
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#5
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 01:08 PM
วัดเป็นองค์กร และ สถานที่ที่ใหญ่ ลำพังงานจัดการอย่างอื่น ๆ ก็มากพอดูแล้ว ร่วมด้วยช่วยกันเป็นหู เป็นตา เพื่อหมู่คณะของเรา
ก็จะได้บุญนะ
#6
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:24 PM
คนมาวัดเขาอยากได้บุญกัน..มาเอาบุญกันทั้งนั้น
ถ้าจะมาแสวงหาผลประโยชน์ก็กรุณาไปที่อื่นเถอะค่ะ
อะหยังหว่า...
#7
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:27 PM
ในที่ใดๆ ก็ตาม ย่อมมีทั้งคนพาลและบัณฑิตเสมอ
ที่ใดมีน้ำ ปลาก็ย่อมเข้าไปอาศัยอยู่ในน้ำนั้นฉันใด งูก็ย่อมเข้ามาได้เช่นกันฉันนั้นแล
พึงใช้ปัญญาในการพิจารณาคบคน
มงคลชีวิตข้อที่ 1 คือ ไม่คบคนพาล
ส่วนข้อที่ 2 คือ คบบัณฑิต
ทำไมสองข้อนึ้ถึงมาอยู่อันดับต้นๆ ของมงคลชีวิตที่พระพุทธองค์ทรงสอน
ก็เพราะคนพาล จะทำเราไปสู่ความหายนะ ส่วนบัณฑิตย่อมพาเราไปสู่ความเจริญ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต
พึงยึดมงคลชีวิต 38 ประการ ไว้เป็นมงคลกับตัวเถิด จะเกิดผล อย่าโทษบุคคลใด หรือสถานที่ใด อันนำพาเราไปสู่ความเสื่อม แต่จงโทษตัวเอง ทีี่ไม่ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้ดีค่ะ
ส่วนเรื่องของหาย ที่ไหนๆ ก็มีหายกันทั้งนั้น อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าที่ใดมีปลา ก็ย่อมเป็นที่ที่อาจจะมีงูด้วย พึงรักษาของของตนให้เรียบร้อย อย่าประมาทชะล่าใจในทุกๆที่ ทุกๆ สถาน ไม่เฉพาะที่วัดหรอกนะคะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#8
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 02:29 PM
ใช่เพียงปลาแหวกว่ายอยู่ดูฉงน
สัตว์อีกหลายมากมายในสายชล
อยู่ปนกันทั้งงู-ปลาน่าระวัง
#9
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:19 PM
และต้องการเป็นกัลยาณมิตรให้วัด
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
#10
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 03:32 PM
เคยมีผู้ที่พูดเช่นนี้ ให้ข้าพเจ้าได้ยินเช่นกัน
เขาหมายถึงว่า เมื่อมีรายได้ เขาก็แบ่งเงินบางส่วนมาทำบุญ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่ใช่วัดมีเอี่ยวด้วย
แต่เขาอาจพูดวกไปวนมา เจตนาให้คนฟังเข้าใจไปอย่างนั้นก็มี
เขามีเจตนาให้เข้าใจว่า "ทำธุรกิจนี้แล้วจะทำให้ได้ทำบุญด้วย" ซึ่งไม่เกี่ยวกัน เป็นความเข้าใจผิด
ซึ่งปกติเขาทำธุรกิจอะไร หรือไม่ทำธุรกิจ ก็ทำบุญได้อยู่แล้ว
...ใครๆ ก็สามารถทำบุญกับวัดได้อยู่แล้ว
วัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องประเภทนี้เลย รวมถึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้ด้วย
ประตูวัดเปิดกว้าง ไม่มีการตรวจสอบว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นใคร
ขอให้ท่านที่มาวัด ไม่ต้องระแวง แต่ก็ต้องระมัดระวัง ไม่วางข้าวของมีค่าทิ้งไว้
ซึ่งอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาได้ (ซึ่งจะบาปหนักกว่าไปขโมยของที่อื่น)
สาธุชนที่ต้องการธรรมะ และกัลยาณมิตร จะไม่ขโมยอยู่แล้ว
แต่มิจฉาชีพที่เจตนามาเพื่อการนี้ เขาอาจจะขโมยได้
อาจมีใครที่เดินเข้ามาในวัด แล้วใช้สถานที่ของวัดในการทำการค้าชักชวนให้ขายตรง ทั้งขายสินค้า-หาสมาชิก
ซึ่งวัดมีกฏระเบียบห้ามการกระทำแบบนี้แล้ว อย่างชัดเจน
เพราะจะก่อความรำคาญใจให้ผู้ต้องการความสงบ และเป็นการไม่สมควร ในวัด
#11
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 04:01 PM
#12
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 04:48 PM
#13
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 04:58 PM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#14
โพสต์เมื่อ 27 July 2006 - 09:11 PM
ผมเคยได้ยินหลวงพ่อท่านพูดเรื่องนี้ มาเหมือนกัน(รู้สึกจะประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้แหละ)...ขออภัยถ้าจำเวลาผิดนะครับ
คนที่ทำในไม่ช้า ทรัพย์นั้นก็จะวิบัติ เพราะได้ทรัพย์มาโดยไม่สุจริต หรือบริสุทธิ์จริงๆ ใช้เล่ห์เพทุบายในการหาทรัพย์ เป็นการหลอกลวงคนอื่นๆ ให้เข้าใจผิด...เป็นคนที่ใช้ไม่ได้ ไม่ควรคบหาสมาคม และที่สำคัญอาจทำให้สาธุชนทั้งหลาย ที่ไม่เข้าใจวัดพระธรรมกาย ยิ่งนำไปขยายในส่วนที่ตัวเองหลงเข้าใจผิด...ต่อว่าวัดและหมู่คณะซ้ำเข้าไปอีก...โอ๊ยกลุ้ม!
ผมขออธิษฐานขอให้วัดและหมู่คณะ...ได้พ้นจากวงจรอุบาทว์ของคนพวกนี้ (ขอโทษด้วยที่อาจจะใช้คำรุนแรงครับ)
#15
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 07:46 AM
มีครับ มีช่วงนึงหลวงพ่อพูดเรื่องนี้ขี้นมาในระหว่างนั่งสมาธิช่วงเช้าของวันอาทิตย์เลยละครับ
ท่านพูดประมาณว่าอย่าทำอย่างนี้เลย มันบาปมากนะ ... ไม่รู้คนพวกนั้นได้ฟังจะรู้สึกรู้สาอะไรบ้างมั้ย
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#16
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 09:27 AM
ทีนี้บางท่านอาจจะสงสัยอีกหน่อยว่า เหตุไฉนถ้าไม่เลิก วิบากกรรม จะสนองถึงกับทำให้ไม่เจอหมู่คณะอีก
สาเหตุก็เพราะ ไปดึงคนของหมู่คณะที่เขาเดิมตั้งใจจะสร้างบารมีเต็มที่ มาเสียเวลาพะวักพะวน แบ่งใจไปกับเรื่องพวกนี้ไงครับ เมื่อดึงคนให้ห่างพระรัตนตรัย ห่างการสร้างบารมี ก็จะทำให้ตัวเอง ในภพต่อไปต้องห่างจากพระรัตนตรัย และการสร้างบารมีเช่นกัน ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น
#17
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 10:23 AM
ปัญหาของหายอยู่บ่อย ๆ ส่วนเรื่องชวนออกนอกลู่นอกทางสร้างบุญนั้น ถ้าหากเราฟังและใช้วิจารณญาณ
ก็คงจะไม่หลงตามง่าย ๆ เรื่องขายตรงนี้ถ้าไม่เข้าวัดเมื่อใครมาคุยด้วยจะพยายามหางานทำเพื่อจะได้ไม่ว่าง
อยู่เสมอ เพราะเสียเวลาฟังจริง ๆ เอาเวลาไปทำงานหรือทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ ถ้าเราไปฟังเข้าเขาก็จะชวน
ให้เสียเงินก่อนและต้องออกไปทำงานให้เขา ( ระวังหน่อยเพราะเขาจะใช้คนสนิทมาชวนเรา ) เอาละเสีย
เงินไปครั้งแรกต่อไปก็เป็นประสบการณ์ผิตเป็นครูแล้วกัน ถ้าหากมีคนมาชวนเรื่องแบบนี้ในวัด คงจะขอตัว
ไปที่อื่นก่อนเลยครับ เพราะว่ามีประสบการณ์แล้วหลอกให้ซื้อของแพงก่อนหลอกเราไม่พอหลอกเพื่อนเรา
หลอกคนสนิทใกล้ตัวไปทั่ว กิจกรรมหลอกลวงเช่นนี้ท่านก็พิจารณาเอาเองเถิดว่าในวัดมาได้อย่างไร ????
แต่ว่ากระทู้นี้ก็มีประโยชน์อยู่บ้าง ว่า ไม่ควรประมาทไม่ว่าสถานที่ใด ๆ
ใช่แล้วครับ ถึงที่วัดธรรมกายนี้จะไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างที่เจอที่อื่นเลย แต่มิได้หมายความว่าจะประมาทและ
ไม่ใส่ใจในข้าวของได้
#18
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 12:54 PM
ที่กล่าวมาทั้งผมด ผมว่ามันอยู่ที่ตัวเรานะครับ ว่าที่เราไปวัด เราไปเอาธรรมะ เอาบุญ หรือไปเอาอะไร โทษตัวเองดีกว่าโทษคนอื่นนะครับ เพราะที่กล่าวมาทั้งหมด ก็เจอมาหมดแล้ว แต่รู้ทันหมด เลยไม่ไหลไปตามเขา สงสารแต่บางคน ที่สุดท้ายผิดหวังทะเลาะกัน แล้วหลุดจากวัดไปเลย
#19
โพสต์เมื่อ 28 July 2006 - 03:47 PM
#20
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 10:28 AM
ท่านพูดประมาณว่าอย่าทำอย่างนี้เลย มันบาปมากนะ ...
เคยฟังคุณครูพูดเหมือนกันในช่วงงานบุญวันอาทิตย์ เมื่อประมาณ 4 ปีก่อนแล้วนะครับ
"พอเราหลับตา(นั่งสมาธิ)อย่างละมุ่น เขา(ผู้ไม่หวังดี)ก็ลืมตาอย่างละไม"
![smile.gif](style_emoticons/default/smile.gif)
#21
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 02:12 PM
ก่อนจะถูกเจอด้วยตนเอง ผมก็เคยอ่านหลายครั้งแต่ไม่ได้ใส่ใจอย่างจริงจัง
และที่ตั้งกระทู้มาเพื่อที่จะ เตือนทุกคนที่ยังไม่เคยโดน ให้ใส่ใจ เหมือน ว่าต้องนั่งสมาธิทุกวันนะ
ช่วยกันนะครับ อย่าไปซ้ำเติมคนที่โดนแบบข้าพเจ้า เพราะบุญแต่ละคนไม่เท่ากัน มาให้กำลังใจกันและกันดีกว่า
ขออนุโมทนาสาธุ ให้ทุกคนอย่าได้ถูกกระทำแบบข้าพเจ้าเลย เพราะใจหมองไปนานจริงๆ
#22
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 07:31 PM
#23
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 09:57 PM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ
![^_^](https://www.dmc.tv/forum/public/style_emoticons/default/happy.png)
#24
โพสต์เมื่อ 29 July 2006 - 10:30 PM
ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นค่ะ..........
#25
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 09:14 PM
แต่ก็เชื่อแหละครับ ว่า ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เน่าทั้งเข่ง นั้นเป็นอย่างไร
แต่ก็อยากให้เชื่อใจเสาหลักของเรา (คุณครูไม่ใหญ่) ให้มากๆ มั่นใจในตัวท่านให้มากๆ
คนที่ไม่ใช่เสาหลัก ก็ฟังหูไว้หู เชื่อแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ไม่ดี ไม่ชอบใจตัวเราก็คงรู้ตัวเองได้ดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปหลงเชื่อตามสิ่งนั้น แล้วไม่ต้องมากล่าวหาว่าวัดไม่ดี ความจริงดีไม่ดีไม่ได้อยู่ที่วัดเลยครับ อยู่ที่ตัวของเขาเองต่างหาก
#26
โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 12:10 PM
![mad.gif](style_emoticons/default/mad.gif)