[/size]
เราต้องมีความรัก เป็นพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริงครับ
คนที่มีความรัก คิดในแง่บวก ได้นั้นต้องอาศัย ศรัทธา ครับ
และมีเป้าหมาย ต้องฝึกบ่อยๆ เป็นสิ่งที่ดีครับ
หลายท่านคงเคยเรียนวิชา ตรรกวิทยา Logic Theory
ที่ว่าด้วย
คำพูด การพูด การ เก็บรวบรวม การให้เหตุผล การให้รายละเอียด
การศึกษาถึงความสัมพันธ์ของกระบวนการคิดกับ การใช้คำ
ความสมเหตุสมผลของการอ้างเหตุผล ความกำกวมในการใช้ภาษา
ระบบคณิตศาสตร์กับกระบวนการคิด นะครับ
จะมีกลุ่มคำ อยู่ 4 กลุ่ม
คือประโยค A,E,I,O ผมยกตัวอย่าง ง่ายๆ
เช่น ประโยคแรก "สมชายไปดื่มน้ำและไปปัสสาวะ"
ถ้าท่านตัดคำว่า "และไป" ออกไป
[size="5"]ก็ดูความหมายเถิดครับ ..!!!
เปลี่ยนไปเลยครับ
คำสอนของพระพุทธองค์ นั้นแม้ผ่านมากว่า 2500 ปีแล้ว ยังจริงแท้แน่นอน
แต่การนำ พระธรรม มาปฎิบัตินั้นต้อง มองให้ครบองค์ประกอบ ไม่ใช่หยิบมาเพียงประโยคใดประโยค หนึ่งแล้วบอกว่า
รักนั้นเป็นทุกข์ ซึ่งอาจจะเป็นความเชื่อที่ผิดก็ได้ครับ
ในส่วนของความรัก เราเรียนรู้ความรัก
โดยการสังเกตจากธรรมชาติได้เช่นกัน ครับ
การอิงอาศัยเกื้อกูลกันที่ต้นไม้ใหญ่และเล็กมีให้เห็นได้ในธรรมชาติ
การเกื้อกูลกันเป็นส่วนหนึ่งของความรัก
โลกธรรมชาติชี้ให้เห็นถึง ข้อเท็จจริงบางอย่างได้
เมื่อมนุษย์เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและ
โลกธรรมชาติ เมื่อนั้นความเคารพธรรมชาติ
ก็จะเกิดขึ้น แน่นอนครับ
เราก็จะมีความคิดที่ใกล้เคียงกับคนที่ไม่ใช่คนวัด
เราก็อาจจะเป็นกัลยาณมิตร
ชักชวนคนเข้าวัดประพฤติปฎิบัติธรรม
ได้มากขึ้น เพราะคนข้างนอกโดยส่วนมาก
เขาก็คิดว่า ความรัก เป็นสิ่งที่ดีงาม
สังคมโดยรวมก็จะดีขึ้น
ดีกว่ามาเร่งเพ่งจ้องแต่คำว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม