เวลาโลก และ เวลาสวรรค์
#1
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 01:30 AM
กรณีที่1 คือ ถ้าเข้าใจว่า เวลา ทั้ง 2ที่ เดินเท่ากันคือต้องอยู่บนโลกมนุษย์ถึง 100ปี จึงเท่ากับบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 1 วัน1คืน
กรณีที่2 คือ เวลา 1วัน ของโลกเท่ากับสวรรค์คือ 24 ชม.เหมือนกัน แต่ต่างภพเลยทำให้มานห่างกัน เช่น ถ้าเราขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ปี2000 ขึ้นไปนอน 1 วัน 1 คืน(24ชมบนโลก) กลับมา ปี 2100 ซึ่งต่างจาก กรณีที่1 คือ ไปปี2000 กลับ ปี 2000 เพียงแต่คนละวัน
ข้อสรุปมันอยู่ที่ "วันพระ" ซึ่ง ตรงกัน ทั้งภพ3 งี้ก้อคือสรุปได้กรณีเดียวที่ถูกคือ กรณีที่2 (ทำให้วันพระมาตรงกันได้) ก้อคือเวลา 24 ชม หรือ1วันของทุกภพเท่ากัน แต่ เดินทางข้ามภพจะทำให้ช่วงเวลาเปลี่ยน
(ถ้ามองตามหลักวิทยาศาสตร์)อย่างนี้ก้อคือถ้าเราอยู่บนสวรรค์มองคนบนโลกจะเหนคนเดินทางด้วยความเร็วยิ่งกว่าแสง แบบว่า100ปีต่อ 1วัน ในทางกลับกันคนบนโลกก้อจามองเห็นคนบนสวรรค์ทำอะไรช้าแบบสุดๆ
ซึ่งถ้าเราสรุปเปนกรณีที่2 ยิ่งอ่านหนังสือธรรมมะจะยิ่งสงสัย(แบบสุดดดดดดดๆ) ยกตัวอย่าง พระอินทร์ เดินทางมาบนโลก (ตามชาดก) เทวดา ขึ้นมาสักการะ พระจุฬามณี และที่สำคัญ แบบสุดๆ คือเรื่องที่ เทวดานั่งฟังธรรมภายในศาลาสุธรรมา ในวันพระ โดยมีพระพรหมกุมารมาเทศนา ซึ่งมานขัดแย้งแบบสุดๆ กับ เวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
สรุปง่ายอีกครั้งก้อคือเวลามานเดินเปนแบบกรณีที่2 แต่ที่ไม่ make sense ก้อคือการเดินทางข้ามภพซึ้งมานผิดปกติทางด้านเวลาอย่างรุนแรง
ผมเองอ่าหนังสือมาเยอะเกิดข้อสงสัยกับเรื่องนี้มาก ผมคิดว่า มานเปนเรื่องที่อธิบายได้ในทางธรรม และไม่ใช่เรื่องที่เกินจะเข้าใจ
ขอฝากคำถามด้วยครับ
#2
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 11:41 AM
(หลวงพ่อเคยบอกตอนที่พูดเรื่องป่าหิมพานต์ว่า เค้าก็เดินกันแบบธรรมดา ไม่ได้เดินแบบสโลว์โมชั่น)
ซึ่งคำพูดของหลวงพ่อทำให้สอดคล้องกับกรณีที่ 1 มากกว่า
เหตุผลที่สองคือ
การชดใช้กรรมในนรกที่บอกว่ายาวนานมาก หนึ่งวันในนรกเท่ากับหลายล้านปีมนุษย์
ถ้าเป็นกรณีที่ 2 กรรมที่ต้องชดใช้เป็นเวลาหลายล้านปีนั้น แต่ความรู้สึกกลับเท่ากับแค่วันเดียว
อย่างนี้ไม่เห็นจะมีประโยชน์ที่จะบอกว่ามันนาน เพราะจริงๆมันก็ไม่นาน (แค่วันเดียว)
นี่ก็คือเหตุผลประกอบการเดาของผมนั่นเอง
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#3
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 12:52 PM
แต่บนสวรรค์ จะประชุมกันแป๊ปหนึ่ง และต้องประชุมกันบ่อยๆ ครั้งด้วยหรือเปล่า ตรงนี้ยังสงสัยอยู่ ต้องรอมีใครถามคุณครูล่ะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 05:02 PM
มนุษย์นะครับ
อีกนิดนะครับ
กรุณาสะกดคำให้ถูกต้องนะครับ "มัน"
#5
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 06:01 PM
#6
โพสต์เมื่อ 31 July 2006 - 07:45 PM
เป็นคำถามที่ผมข้องใจที่สุดเหมือนกันครับ
ขอบคุณจขกทที่ถามมา
คิดว่าโดนใจเกือบทุกคนแน่นอน
#7
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 01:25 AM
=> http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=672
ปล. ลองศึกษาเปรียบเทียบดูก็แล้วกันนะครับ เผื่อจะได้ความรู้ต่อยอดขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อยครับ
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#8
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 02:16 AM
กลับมาก้อเปนวันที่ 23/04/2006 (พูดตามหลักวิทยาศาสตร์คือ ทุกภพ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วใกล้เคียงกัน) ถ้าสรุปตามนี้ วันพระบนสวรรค์ ก้อ ไม่ตรงกับ บนโลกมนุษย์ ซึ่งไม่ได้(ขัดแย้งกับฝันในฝัน) ก้อต้องสรุปเปนว่า วันพระ ตรงกัน น้านหมายถึง 1 วัน บนสวรรค์ มีหลายวันพระ ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดที่มีสรุปได้เปนเช่นนี้ไม่สามารถสรุปเปนอย่างอื่นได้ (แต่มานก้อยังขัดกับหนังสือธรรมะหลายๆเล่มอยู่ดีในเรื่องวันพระ) สำหรับผมแล้วยังไม่หายสงสัยกับเรื่องนี้ครับ ถ้าจะให้เคลียย์ คือต้องชี้ขาดไปเลยว่าหนังสือธรรมะที่อ่านนั้นเขียนผิด 1 วันบนสวรรค์ต้องมีหลายวันพระ อย่างนี้ถึงจาจบประเด็น ..
ขอผู้รู้แสดงความเห็นต่อด้วยครับ...
#9
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 12:20 PM
(รวมทั้งทัณฑ์ทรมานในยมโลกก็หยุดเวลาตรงกัน) คือเวลาเดียวกันเป็นเวลา 24 ชม.โลก
ถึงแม้ว่าระยะเวลา 24 ชม.โลกยังไม่นับว่าเป็น 1 วันของสวรรค์ (หรือนรก) ก็ตาม
เท่านี้ก็ไม่ขัดกับประโยคที่บอกว่า "วันพระตรงกันทั้งภพ 3" แล้วไงครับ
อยากให้ลองยกประโยคจากหนังสือธรรมะที่บอกว่าขัดกันมาให้ดูหน่อยครับ
บางครั้งความสับสนมันอยู่ที่ว่าเวลาที่บอกในหนังสือว่า 1 วัน
นี่ไม่รู้ว่าหน่วยนับเป็นวันของโลกหรือวันของสวรรค์กันแน่
สมมติถ้าเราเรียกวันสวรรค์ใหม่เรียกว่า 1 เหมียว อย่างนี้ไม่สับสน
เพราะ 1 เหมียวยาวนานเท่ากับ 100 ปีมนุษย์
แล้ว 1 โฮ่ง (ปีทิพย์) เท่ากับ 365 เหมียว
และอายุเทวดาก็นับไปเลยว่า ตนนั้นตนนี้มีอายุขัยกี่โฮ่ง
อะไรประมาณนี้ อาจจะดีก็ได้ ไม่สับสน (รึเปล่า?)
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#10
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 12:57 PM
สวรรค์ชั้นจาตุมฯหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ=1วันโลกสวรรค์(จาตุม)
แต่
ภพของจาตุมมันใหญ่กว่าโลกเลยต้องใช้เวลาหมุนรอบตัวเองนานกว่าเลย 1วันของจาตุม = 50ปีโลกเรา
ภพอื่นๆก็เหมือนกัน...
#11
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 01:04 PM
#12
โพสต์เมื่อ 01 August 2006 - 08:53 PM
1 ปี คน = 7 ปี สุนัข สำหรับคนเนี่ย ผ่านไป 1 ปี แต่สำหรับสุนัขเนี่ย ผ่านไปแล้ว 7 ปี แต่ พระอาทิตย์ขึ้นและตก ก็ยังพร้อมกัน ต่างกันตรงที่ความรู้สึก และความเสื่อมสภาพของกาย
สงสัยต้องทำความเข้าใจใหม่ซะแล้วค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ที่ตั้งโจทย์ยากๆมาให้คิด เริ่มสงสัยอีกแล้วค่ะ ต้องศึกษาใหม่ซะแล้ว
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#13
โพสต์เมื่อ 03 August 2006 - 01:24 PM
ยิ่งตามไปอ่านกระทู้ที่คุณขุนศึกลิงค์มายิ่งงง ตกลงคุณคิดว่าเป็นกรณี1หรือ2กันแน่ครับ
อีกประเด็นนึงบังเอิญนึกขึ้นได้คราวนี้ยิ่งงงนักเลยคือ ช่วงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ต้องเป็นแบบกรณีที่1สิครับ เพราะหากเป็นแบบที่สอง ก็งงแย่สิครับ ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเสด็จลงมาด้วยความเร็วของเวลาสวรรค์หรือมนุษย์ ถ้าความเร็วสวรรค์มนุษย์ก็จะเห็นท่านเสด็จช้ามาก แต่ถ้าหากเป็นความเร็วมนุษย์ เทวดาก็จะเห็นท่านเสด็จเร็วมาก
ยิ่งอ่านยิ่งงงครับ
ขอผู้รู้จริงสรุปด้วยครับ เอาทั้งในแง่ปริยัติและปฏิบัติรวมกันเลยได้มั้ยครับ
หรือว่าคำตอบนี้ต้องเข้าถึงธรรมก่อนจึงจะศึกษาได้ด้วย ภาวนามยปัญญา ใช้จินตมยปัญญาธรรมดาไม่ได้จะงง
#14
โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 07:18 PM
สมมุติว่ามีกะละมังอันใหญ่มากใส่ดินมีแก้วครอบ
ให้เราเป็นมด แล้วให้คนเป็นเทวดา วันพระของมดกะเทวดาก็วันเดียวกัน
แต่มดอายุสั้นกว่า
#15
โพสต์เมื่อ 13 April 2009 - 07:24 PM
ถ้าไม่ มีคงไม่ค่อยมีคนอยากหลับเพราะไม่เหนื่อยไม่ง่วง
เทวดาจาเบื่อของสวยๆงามๆกันป่าวครับ
#16
โพสต์เมื่อ 20 February 2010 - 08:40 AM
ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#17 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 07 October 2011 - 04:35 PM