อสงไขยสุญกัลป์
#1
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 02:29 PM
ทั้งหลายก็ถึงคราวเคราะห์ เนื่องจากจะเกิดสุญกัลป์ขึ้นถึง อสงไขยกัลป์
คราวนี้นักสร้างบารมีทั้งหลาย ก็ต้องจุติลงมาสร้างบารมีเพราะ อายุขัยสูงสุด
นั้นคือ พระพรหม เนวสัญญานาสัญญายตนาพรหม มีอายุ 84,000 กัป
ก็ยังคงต้องจุติมาใน สุญกัลป์นี้หลายครั้ง กว่าจะถึงอสงไขยแผ่นดิน
ดังนั้นผู้ที่คิดจะสร้างบารมีต่อไปต่อจากสมัยพระศรีอาริยเมตไตย จะสร้างบารมีอย่างไร ?
คำถามนี้เพราะว่าหลาย ๆ คนคิดจะสร้างบารมีต่อไปจากสมัยพระศรีอาร์ย
#2
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 04:00 PM
1. อธิษฐานจิตให้มีเป้าหมายชีวิตสู่พระนิพพาน ติดตามครูสู่ที่สุดแห่งธรรม ตอกย้ำอย่างมั่นคง ถ้าอย่างนี้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า แม้พลาดพลั้งหมดอายุ หมดบุญ จุติลงมาก่อน ก็จะยังคงยึดมั่นในการสร้างความดี แม้อาจจะไม่พบคุณครู แต่ก็จะทำให้พลาดน้อยลง ทำไมถึงเข้าใจว่า ถ้าไม่เจอคุณครูแล้วจะพลาด ก็ตอบก็ชัดเจนว่า ขนาดตอนนี้คุณครูท่านยังอยู่ หลายๆ ท่านก็ยังผิดศีล เช่น ฆ่าสัตว์ ดื่มสุรา เจ้าชู้ โกหก ขูดรีด ฯลฯ แล้วถ้าไม่เจอคุณครู อีกทั้งไม่เจอศาสนาของพระพุทธเจ้าด้วย มันจะไม่พลาดยังไงไหว ยังไงก็ขอพลาดน้อยที่สุดก็แล้วกัน
2. สั่งสมบุญทุกบุญ สร้างบารมีอย่างเต็มกำลัง งดเว้นบาปทั้งปวง ให้มีกำลังบารมีมากๆ โดยเฉพาะถ้าเป้าหมายไกลๆ เช่น ที่สุดแห่งธรรม เราจะเห็นความสำคัญว่า ทำไมคุณครูถึงให้สร้างบารมีอย่างยิ่งยวด เพราะหากเรามีบารมีมากๆ แม้จุติแล้ว ก็กลับมาเกิดที่เดิม จุติแล้ว จุติเล่า ก็กลับมาเกิดที่เดิม (คือ สวรรค์ชั้นดุสิต) รอเวลาให้ถึงพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆไป ซึ่งหมู่คณะก็จะลงมาสร้างบารมีอีก แล้วมั่นใจหรือว่า บารมีถึงหรือ ขอตอบเลยว่า ถ้าเป็นคุณครูล่ะก็ สอบอมอยอหอ สบายมากอย่าห่วง แต่ถ้าเป็นพวกเราล่ะก็ สร้างทุกบุญตามที่ท่านบอกก็แล้วกันครับ ถึงจะมีกำลังบารมีเพียงพอ
#3
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 05:20 PM
โดยไม่ต้องไปเกิดในทุกขคติเลยหรือไม่อยู่เพราะบุญอะไร ที่ค้นหาเจอส่วนใหญ่จะเป็นพุทธธันดรหนึ่งเพราะ
แต่ละพุทธธันดรระยะเวลาไม่เท่ากันด้วย ตรงนี้ยังไม่ชัวร์ แต่ที่แน่ ๆ พวกเราน่าจะมีบุญพอได้เกิดสร้างบารมี
ในสมัยพระศรีอาร์ยหรือไม่นะ เพราะผู้ที่เกิดในสมัยพระศรีอาร์ยนั้นต้องมีบุญพอควรเหมือนกัน
#4
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 05:34 PM
ยังไม่ต้องคิดไกลถึง 1 กัป หรือ อสงไขยสุญกัลป์ หรอกครับ
เอาแค่ 1 พุทธันดรให้รอด แล้วไปเจอกันใน 1 พุทธันดรหน้าก่อนดีกว่า เพราะว่าแค่ 1 พุทธันดร ก็ยาววววววววววววววววว เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยนของเทวดา ชั้นดุสิตแล้ว คิดแค่ว่าบุญในตัวเองนั้นมีพอที่่จะรอดไประหว่างรอยต่อพุทธันดรนี้หรือยัง ดีกว่าครับ
จริงๆ ผมเองก็ยังไม่ได้คำตอบหรอกครับ เรื่องสุญกัปเนี่ย ว่าจะผ่านไปอย่างไร แต่ขอให้คิดซะว่า หมู่คณะมีมาตั้งนานแล้ว นานนนนนนนนนนมาก บางครั้งมีจำนวนสมาชิกน้อย บางครั้งมีจำนวนสมาชิกมาาาาาาก ผ่านมาหลายกัปแล้ว แล้วก็คงผ่านสุญกัป มามากมายนับไม่ถ้วนแล้วด้วยเช่นเดียวกัน ก็แสดงว่าไม่มีปัญหา
หรือแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ตอนที่ยังบำเพ็ญบารมี เป็นพระโพธิสัตว์ ท่านก็มีวงบุญเหมือนกัน และการสร้างบารมี โดยเฉพาะในช่วง 100,000 มหากัปสุดท้าย ก็ย่อมจะต้องผ่านสุญกัป จำนวนมากเหมือนกัน ก็ไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?
ส่วนจะไม่มีปัญหาอย่างไร เดี๋ยวก็รู้เอง
แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#5
โพสต์เมื่อ 05 August 2006 - 09:21 PM
ถ้าเป็นวงบุญนี้ เราจะไปเกิดตอนอายุกัป 40,000 ปี
รายละเอียด กรุณาอ่านอังกฤษ
ในสมัยพระศรีอาร์ยหรือไม่นะ เพราะผู้ที่เกิดในสมัยพระศรีอาร์ยนั้นต้องมีบุญพอควรเหมือนกัน
we r coming down on his time
but half time which is 40,000 years after he Nirvanad
just like this time that we came at 2500 years after. right?
there r many Boon that can help us to stay in heaven or to beable to go back to heaven when the univers has no Buddhism
but only from Buddhism only
sometimes ppl can just meditate at those times and look way back to the past to see things, and then just saw the lord Buddha
he can also save them
or, at the time of Pachekka Buddha ppl that offer things to him may also go to heaven
but still hard to get those chances
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#6
โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 07:28 AM
ผมก็คิดสร้างบารมีตามครูบาอาจาร์ยเพื่อเชื่อมสายบุญเหมือนกันจนคิดว่าจะบวชตลอดชีวิต
ส่วนที่ว่าอสงไขยสุญกัลป์นั้นก้ได้ผ่านกันมาหลายหนแล้ว จาก เคสสตาทดี้ มีหลาย ๆ คนที่พลัดพราก
กันไปในช่วงนี้ ตกนรกอยู่นานมากๆ จนหมู่คณะได้ลงมาสร้างบารมีใหม่จึงได้มาเกิด แต่ไม่ทุกคนหรอก
เพราะยังติดอยู่ในนรกหรือเกิดเป็นสัตว์ในช่วงนั้นก็ยังมีมาก และจากพุทธวจนะ
" ดูก่อนสำแดงสารีบุตร ผู้เป็นพระยาธรรมของพระตถาคต ฝูงคนทั้งหลายที่
มิได้เห็นรูปกายของพระตถาคตนี้ แล้วได้กระทำทานรักษาศีลจำเริญเมตตาภาวนา
ด้วยเดชะผลานิสงส์ ฝูงคนทั้งหลายเหล่านั้นจักได้บังเกิดทันพระพุทธศาสนา
องค์สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตรย อันจะมาบังเกิดเป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในอนาคตฯ " จากพระอนาคตวงศ์
การที่คิดเผื่อก็คือ การได้ไปสู่สุขคติภูมิโดยไม่ต้องไปอบายภูมิเลย ก็เพราะไม่มีใครอยากไปเกิดใน
นรกช่วง อสงไขยสุญกัลป์ ซึ่งไม่มีโอกาศเกิดในพุทธศาสนาเลย
but half time which is 40,000 years after he Nirvanad
just like this time that we came at 2500 years after. right?
นั่นสิครับ แต่ว่าในตอนก่อนปรินิพพานนั้น หมู่คณะได้ลงมาสร้างบารมีด้วยหรือเปล่า
เพราะสมัยพุทธกาลนั้นพระโพธิสัตว์ ก็ได้จุติลงมาหลายองค์
but only from Buddhism only
บุญหลายบุญนี้จะเพียงพอ หรือเปล่าหมู่คณะบางคนก็มีบุญเก่ามากอยู่แล้วบางคนบุญเก่าไม่พอแถมพ่วงด้วยบาปติดตัวไปบ้าง
he can also save them
or, at the time of Pachekka Buddha ppl that offer things to him may also go to heaven
but still hard to get those chances
สำหรับตอนนี้คงพยายามทำให้ได้ก่อนอันดับแรกให้ได้กลับบ้านก่อน อนุโมทนาบุญครับ สาธุ สาธุ สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 09:32 AM
เพราะสมัยพุทธกาลนั้นพระโพธิสัตว์ ก็ได้จุติลงมาหลายองค์
nope
not us
u can know more from the stories of Luang Pi Noppadon on the Dhammakaya Cetiya Paying Homage Ceremony
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 05:47 PM
วงบุญของเรา อยู่มานานมาก...มากกว่าคำว่าอสงไขยอีก เหตุการดังที่คุณทศพลพูดถึง เคยเกิดมานับไม่ถ้วนทีเดียว เกมส์ไม่เคยเปลี่ยน แต่เปลี่ยนผู้เล่นตลอด
หากปราถนาที่จะเล่นเกมส์นี้ตลอด ต้องทำดังที่พี่หัดฝัดกล่าวมาครับ จะได้ไม่ถูกกำจัดจุดอ่อน
#9
โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 07:21 PM
จริงๆ ผมเองก็ยังไม่ได้คำตอบหรอกครับ เรื่องสุญกัปเนี่ย ว่าจะผ่านไปอย่างไร แต่ขอให้คิดซะว่า หมู่คณะมีมาตั้งนานแล้ว นานนนนนนนนนนมาก บางครั้งมีจำนวนสมาชิกน้อย บางครั้งมีจำนวนสมาชิกมาาาาาาก ผ่านมาหลายกัปแล้ว แล้วก็คงผ่านสุญกัป มามากมายนับไม่ถ้วนแล้วด้วยเช่นเดียวกัน ก็แสดงว่าไม่มีปัญหา
หมู่คณะของเราจะลงมาสร้างบารมีสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายเท่านั้นนะครับ คือหมายความว่าจะลงมาหลังจากสมัยพุทธกาลไปแล้ว พระพุทธศาสนายังคงอยู่ แต่วิชชาธรรมกายเริ่มที่จะเลือนหายไป หมู่คณะของเราจะไม่ลงมาสร้างบารมีในกัปที่ไม่มีพระพุทธศาสนาหลงเหลืออยู่นะครับ
ลืมไปแล้วหรือครับว่า จักรวาลนั้น ที่มีภพ 3 คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ ไม่ได้มีแค่จักรวาลเดียว แต่มีเป็นอนันตจักรวาล สุดจะนับจะประมาณมิได้ หมายความว่า หลังจากที่หมู่คณะของเราลงมาสร้างบารมี ต่อจากศาสนาของ พระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า หลังจากนั้นก็จะเป็นสูญญกัปคือไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือพระเจ้าจักรพรรดิลงมาบังเกิดเป็นเวลาทั้งสิ้น อสงไขยมหากัปใช่มั้ยครับ เมื่อมหากัปนี้พินาศลง จักรวาลถูกทำลาย สวรรค์ก็ถูกทำลาย เหลือแต่อรูปภพ กับรูปภพบางชั้นเท่านั้น ที่ ไฟ น้ำ ลม บรรลัยกัลป์ทำลายไปไม่ถึง สรรพสัตว์ที่เสวยสุคติหรือทุคติในจักรวาลนี้ก็จะย้ายไปบังเกิดในจักรวาลอื่นแทน
เพราะฉะนั้น หมู่คณะของเราก็จะไปอยู่ในจักรวาลอื่นที่มีชมพูทวีปที่ไม่เป็นสูญญกัป แล้วก็ลงมาสร้างบารมีต่อจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อได้อีกครับ เป็นอยู่อย่างนี้วนอยู่เรื่อยๆนับจักรวาลไม่ถ้วน ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ที่จักรวาลนี้ตลอดไปนะครับ ที่บอกว่าจะเป็นสูญญกัปเป็นเวลา 1 อสงไขยนั้น หมายถึงเฉพาะจักรวาลนี้ครับ เมื่อจักรวาลไหนกำลังถูกทำลายก็ย้ายไปอยู่จักรวาลอื่น สัตว์นรกก็เหมือนกัน พอจักรวาลถูกทำลาย ไม่ได้หมายความว่าต้องสบาย ไม่ต้องถูกทัณฑ์ทรมาน ก็จะต้องย้ายไปอยู่ในนรกที่ตนอยู่ในจักรวาลอื่นอีกเหมือนกัน
#10
โพสต์เมื่อ 06 August 2006 - 09:11 PM
#11
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 02:11 AM
ต้องผู้มีบารมีแก่ๆๆๆๆๆ มากเท่านั้นถึงจะทำได้ อย่างที่พี่หัดฝันบอกครับ เอาเป็นว่าตามท่านให้ได้ก็แล้วครับ
ต้องนั่งธรรมะเยอะๆ ทุกๆ เคสจะได้ยินหลวงพ่อท่านอ่านว่า
"ได้เข้าถึงดวงธรรมใสๆ เอาตัวรอดกลับดุสิตบุรีได้"
แสดงว่า ถ้าเข้าไม่ถึงดวงธรรมเนี่ย มันก็เสี่ยงเหมือนกันนะครับ ว่าบุญจะมากพอที่จะกลับได้หรือเปล่า และถึงจะกลับได้ ก็ยังไม่มีหลักประกันอยู่ดี ว่าจะหล่นปุ๊ก มาก่อนหรือเปล่า และถ้ากลับไม่ได้แล้วต้องวนๆ อยู่ในสุญกัปเนี่ย ไม่อยากจะคิดเลยครับ
แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#12
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 12:15 PM
สำหรับผู้ไม่มีภาระทางโลก ทางครอบครัว โชคดีมากครับ
สำหรับผู้มีภาระก็ปลดภาระออกโดยเร็วที่สุดครับ
#13
โพสต์เมื่อ 11 August 2006 - 03:48 PM
ปลดยังงัยค่ะ? แนะนำนิดค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 09:08 PM
ความรู้ใหม่เลยค่ะ สาธุ สาธุนะค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 11:26 AM
#16
โพสต์เมื่อ 14 July 2008 - 03:00 PM
พุทธันดร น. ช่วงเวลาที่โลกว่างพระพุทธศาสนา คือ ช่วงเวลาที่ศาสนา
ของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสูญสิ้นแล้ว และพระพุทธเจ้า
พระองค์ใหม่ยังไม่อุบัติ. (ป. พุทฺธนฺตร).