ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

โลกสว่างก็เพราะใจใสสว่าง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 gioia

gioia
  • Members
  • 593 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 02:37 AM

โลกสว่างก็เพราะใจใสสว่าง
ขออนุญาตนำนิทานธรรมะของ "ผลบุญ" มาเสนอ ณ ที่นี้
............................
นิทานธรรมะ
เรื่องทิดปัญญา (*)
ตอน
โลกสว่าง
……………….
โดย ผลบุญ


ณ ชายป่าแห่งหนึ่ง
ท่า มกล างขุนเขาน้อยใหญ่ กระท่อมไม้เล็กหลังหนึ่งตั้งสงบ โด่ดเดี่ยวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แสงแดดส่องสว่างไปทั่วขุนเขา
ขอบฟ้าเป็นสีทอง บุรุษหนึ่งหน้าตาสะอาดสะอ้านและอ่อนเยาว์ เกล้าผมจุกเป็นระเบียบเรียบร้อย อยู่ในชุดเสื้อผ้าสบายๆ
นั่งสงบนิ่งอยู่ในกระท่อมนั้น ที่เสาต้นหนึ่งของกระท่อม นกแก้วหัวจุกปีกเขียว เกล้าจุกเหมือนกันตัวหนึ่งเกาะดูอยู่บน
ก้านไม้ ด้วยท่าทางสงบเช่นกัน นกแก้วร้องถามขึ้นเป็นกลอนว่า

“ช่างน่าเบื่อ ทิดปัญญา หลับตานิ่ง
ไม่ไหวติง ภาวนา หาสิ่งไหน
ไม่รู้ว่าทำไปแล้ว จะได้อะไร
แก้วสงสัย เสียจัง นั่งกบดาน”


บุรุษที่ชื่อทิดปัญญา ยังคงนั่งหลับตาไม่ไหวติง
“หลับตาแบบนี้น่ะหรือคือการนั่งสมาธิ” นกแก้วร้องถามอีก
“นั่งหลับตาอยู่ได้ ตื่นขึ้นมาคุยกับแก้วดีกว่านะ” นกแก้วส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
“ท่านรู้หรือไม่
ว่าโลกเราน่ะมืดมนแล้ว
คงไม่แคล้วพังพินาศ สักวันหนึ่งหนา
แม้โลกจะเจริญล้ำยุคและพัฒนา
อนิจจาประชาโลกกลับอดหยากและยากจน
ผู้คนยังคงมากล้นด้วยปัญหาชีวิต ทั้งร่างกายและจิตใจ
คนมักใหญ่ใฝ่อำนาจ ยังคงพิฆาตฆ่าฟันกัน ห่ำหั่นกันอย่างไร้ความปราณี ราวกับไม่มีหัวใจ
ก็โลกแย่ลงแบบนี้ ท่านกลับมานั่งหลับตา หาความสุขคนเดียวจะใช้ได้หรือ แก้วว่าเห็นแก่ตัวนะ”
แก้วส่งเสียง สำเนียงชักจะไม่พอใจ

บุรุษที่ชื่อว่าทิดปัญญา ลืมตาอย่างช้าๆ
“ลืมตาแล้วหรือท่านทิด” แก้วร้องทัก
“สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ผู้ทำดีย่อมได้ดี ผู้ทำชั่วย่อมได้ชั่ว เป็นกฎธรรมชาติที่เที่ยงตรงยุติธรรมที่สุด”
ทิดปัญญาพูดชัดถ้อยชัดคำ
“การภาวนาเป็นการสร้างกรรมดีที่ได้บุญกุศลสูงค่านะแก้ว แก้วรู้ไหมว่าทำไมมนุษย์เราถึงมีความทุกข์มากเหลือเกิน”
“เพราะมนุษย์เราแสวงหากันแต่ความสุขทางโลก ยอมฝ่ากองเพลิงแห่งความทุกข์ เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข
แต่ยิ่งแสวงหาความสุขก็เจอแต่ความทุกข์”
“ความสุขที่เกิดจากความสงบคือความสุขที่แท้จริง”
ทิดปัญญาสรุปแล้วหลับตาต่อไป

“ความสุขแบบนั้นคงจะเหมาะกับคนที่ไม่ต้องมีอะไรรับผิดชอบมากเช่นท่านทิด กระมั้ง” แก้วแย้งและพูดต่อไป
“แต่คนเรา ต้องทำมาหากิน ต้องเลี้ยงครอบครัว จะหาความสงบได้อย่างไร”
“จะหันไปพึ่งธรรมะก็รู้สึกว่าสูงเหลือเกิน ต้องปีนบันไดฟัง แล้วจะให้คนเรามีความสงบสุขในโลกนี้ได้อย่างไรท่านทิด”
แก้วสรุปพร้อมกับตั้งคำถามให้ตอบ

บุรุษที่ได้ชื่อว่าทิดสงบนิ่งสักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ
“อันความสงบ อยู่ที่ใจ จะใฝ่สงบ
หากได้พบ สักครั้งหนึ่ง จะซึ้งหนา
สุขใดใด ที่ว่าสุข ในโลกา
ไม่อาจมา เทียบได้ ซึ่งสุขใจ”

“สาธุ” แก้วร้องอนุโมทนาในกลอนสดที่ทิดร่ายออกมา

“ว่าแต่ว่า….จะแก้ไขปัญหาชีวิตมนุษย์ในโลกที่มืดมนได้อย่างไรล่ะ” แก้วยังข้องใจไม่หาย
“ถ้าโลกมืดนัก ก็ทำให้โลกสว่างซิ ไม่เห็นจะยาก”
ทิดปัญญาตอบยิ้มๆ พลางเดินออกจากกระท่อมไปในป่าละเมาะเบื้องหน้า
“ก็ทำอย่างไรจะให้โลกสว่างล่ะ”
“แก้วก็เห็นว่าโลกของเราสว่างทุกเช้าและมืดทุกเย็นนั่นแหละ” แก้วพูดอย่างซื่อๆ
“ที่โลกมืดก็เพราะใจของคนในโลกมืด” ทิดตอบสั้นๆ
“ถ้าเช่นนั้น…ถ้าใจคนสว่าง โลกก็สว่างด้วยใช่ไหมจ๊ะ” แก้วพูดแทรกขึ้นมาด้วยความดีใจ
“ใช่แล้ว ฉลาดใช้ได้เลยแก้ว ถ้าจะให้โลกสว่าง ก็ต้องทำใจของคนเราให้สว่างเสียก่อน
แล้วโลกก็จะสว่างตามเอง
”
“แก้วอยากให้โลกสว่างอีกครั้งจังเลย…สงสารคนที่มีปัญหาชีวิต” แก้วพูดเสียงเศร้า

“ว่าแต่ว่า การทำใจให้สว่างน่ะ ทำอย่างไร ยากไหม ต้องเสียเงินไหมท่านทิด”
“การทำใจให้สว่างน่ะไม่ยาก ไม่ต้องเสียเงิน เพียงมีศรัทธา อดทนก็ทำได้ สนใจไหมล่ะ”
“สนใจซิ…ถึงแก้วจะเป็นเพียงนก บางครั้งแก้วก็เบื่อชีวิต แก้วอยากจะมีแต่ความสุขในชีวิต แค่มีผลไม้อร่อยๆ
กินทุกวันก็พอแล้ว..มิใช่หรือท่านทิด” แก้วสรุปพลางโผบินไปคาบเก็บกินลูกผลไม้ด้วยความร่าเริงสนุกสนาน
“แค่มีกิน มีความสุขไปวันๆหนึ่งน่ะ ไม่พอหรอกแก้ว” ทิดกล่าวเตือนสติ
“ถ้าอยากให้ชีวิตมีคุณค่าขึ้น ก็ต้องทำทาน รักษาศีลและปฎิบัติธรรมเช่นนั่งสมาธิ”
“การปฎิบัติธรรมคือการนั่งสมาธิหลับตาแค่นั้นหรือจ๊ะท่านทิด ทำไมบางคนอวดอ้างว่าปฎิบัติธรรมนั่งสมาธิแต่
กลับมีกิเลสมากกว่าคนที่ไม่ได้นั่งสมาธิเสียอีก จริงไหม” แก้วแย้ง

“คนส่วนมากจะเข้าใจว่าการนั่งสมาธิตัวตรงหลับตาคือการปฎิบัติธรรม”
“ข้อเท็จจริงก็คือสมาธิมีทั้งด้านดีและไม่ดี เปรียบเสมือนดาบสองคม ใช้ดีก็มีประโยชน์ ใช้ไม่ดีก็อันตรายนะ” ทิดอธิบาย
“นอกจากนั้น สมาธิยังแบ่งเป็นสองแบบใหญ่ๆ คือสมาธิแบบสมถะและสมาธิแบบวิปัสสนา”
“การทำสมาธิแบบสมถะคือการทำใจให้สงบโดยมีหลักการสำคัญก็คือทำใจให้จอจ่อหรือเพ่งอยู่กับสิ่งเดียว…
หากทำได้ก็จะทำให้ใจสงบได้ สมถะ มีรูปแบบการเพ่งถึง 40 แบบ”
“ผลของการทำสมถะสมาธิคือใจจะมีความสงบถึง 3 ระดับคือขณิกสมาธิ-สมาธิเล็กน้อย อุปปจาระสมาธิ-สมาธิปานกลาง
และอัปปนาสมาธิ-สมาธิแนบแน่น”

“การนั่งสมาธิแบบสมถะนั้นมีข้อควรระวังก็คือหากไม่เข้าใจ ไม่มีสติก็จะเป็นการนั่งที่มีแต่จะฟุ้งซ่านและหลง”
“อันตรายจากสมาธิแบบสมถะก็คือเมื่อใจสงบถึงขั้นแนบแน่นจะเกิดพลังจิตขึ้นมา”
“แต่ใจของปุถุชนนั้นยังมีกิเลสทั้งใจที่ดีเป็นกุศลและใจที่ไม่ดีเป็นอกุศลปนอยู่…เราจึงอาจทำบุญและทำบาปได้พอๆกัน”
“การปฎิบัติธรรมจริงๆแล้วจึงไม่ใช่การนั่งสมาธิ หลับตาอย่างเดียวเสมอไป”
“แม้ลืมตาก็เป็นการปฎิบัติธรรมได้ ถ้ารู้จักมองด้วยสติคือการปฎิบัติวิปัสสนาสมาธิ”

“การปฎิบัติวิปัสสนานี้ทำได้ตลอดเวลาทั้งยืนเดินนั่งนอน ผู้ปฎิบัติต้องมีสติกำหนดอยู่ที่ตา หู จมูกลิ้น กายและใจ
อะไรเกิดขึ้นก็รู้หมดทุกอย่างในขณะที่เกิด”
“วิปัสสนาให้ผู้ปฎิบัติเห็นธรรมชาติของจิตและของโลกตามความเป็นจริง”
“แต่การเห็นสัจจธรรมนั้นใช้ตาธรรมดามองไม่เห็น จะเห็นสัจจธรรมต้องใช้ตาที่สามคือตาแห่งปัญญาจึงจะเห็น”
“สุดยอดของสัจจธรรมก็คือสรรพสิ่งในจักรวาฬนี้ มีแต่รูปกับนามเท่านั้นที่เกิดดับไป…เท่านั้นเอง” ทิดปัญญาสรุป

“ถ้าโลกมืด ก็เพราะใจ ไม่ใสสว่าง
เปิดช่องทาง กิเลสรุก ทุกข์หนักหนา
โลกจะสว่าง ก็เพราะใจ ใฝ่ปัญญา
เหมือนแสงทอง ส่องฟ้า ไล่ราตรี”


“สาธุ “ แก้วร้องอนุโทนา
“แก้วอยากรู้เหลือเกินว่า ใจที่สงบสุขใสสว่างนะเป็นอย่างไรท่านทิด” แก้วถามด้วยความสงสัยเป็นกำลัง
“ใจที่ไม่ถูกกิเลสยึดครองนั่นแหละ คือใจที่สงบ สุข ใส สว่าง”
“จริงหรือ “ แก้วร้องถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เหมือนกับการยิงลูกธนูไปกลางอากาศไม่ถูกอะไร…ธนูตกลงมาโดยไม่ถูกอะไรเลย…เพราะไม่มีอะไรจะให้ถูก”
ทิดเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ
“แต่สำหรับคนทั่วไปนั้น จิตใจจะถูกกิเลสยึดครองและครอบงำเสมอ เสมือนกับการถูกลูกธนูยิงปักอก…
เกิดกิเลสครั้งใดก็ถูกธนูยิงปักอกเสมอ แต่ก็ไม่วายทั้งที่ถูกธนูยิงบาดเจ็บเลือดโชค แต่คนเราก็ยินดีที่จะถูกธนูยิงมากๆ”
“ก็เพราะคนเราหลงผิดแสวงหากิเลสกันมากเช่นนี้นี่เอง”
“ความทุกข์ความเศร้าจึงเป็นเสมือนเงาติดตามมนุษย์อยู่เรื่อยไป” ทิดสรุป
“ขอให้พวกเรามาเริ่มต้นเดินทางไปสู่ความสงบกันเถิด..ยังไม่สายเกินไป”
“การปฎิบัติธรรมจะทำให้เรามีปัญญา เข้าใจในกลไกของจิต รู้ถึงสาเหตุของการเกิดอามรณ์ทั้งหลายทั้งสุขและทุกข์”
“ผู้ใดมีปัญญา..โลกของเขาผู้นั้นย่อมจะสว่างไสวตลอดไป และจงมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท”
ทิดกล่าวทิ้งท้ายเป็นกลอนเตือนสติ เพราะ

“ความตามหมาย ไม่ได้ ว่าเมื่อไหร่
เกิดกับใคร ได้ทั้งนั้น หมั่นท่องหนา
ทารกเด็ก เล็กผู้ใหญ่ วัยชรา
มรณามาเยือนได้ ทุกวัยวัน
เมื่อไม่รู้ ก็จงอยู่ อย่าประมาท
คนฉลาด สร้างบุญไว้ ไม่โศกศัลย์
ยิ่งบุญมาก ยิ่งสุขมาก รับประกัน
โลกสว่างพลัน มั่นในสุข ตลอดไป”

ทิดปัญญาพร้อมแก้ว นกคู่ใจนั่งบนยอดผาที่สูง มองดูธรรมชาติที่สวยงาม ท้องฟ้าแสนจะสดใส
จิตใจของทั้งสองบัดนี้ใสสว่าง เหมือนโลกที่สว่างในยามนี้

อวสาน

........................................
* เผยแพร่เป็นธรรมทาน
*เคยลงพิมพ์ในวารสารยุวพุทธิกสมาคมฯ




#2 กาแฟเย็น

กาแฟเย็น
  • Members
  • 121 โพสต์
  • Location:milan
  • Interests:วาดการ์ตูน เล่นคอมกับโปรแกรมแต่งรูปต่างๆ ชอบถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 05:36 PM

สอนใจดีค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ

#3 thanasub

thanasub
  • Members
  • 47 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 07:59 PM

ดีจริงๆครับ(ขอบคุณมากครับ smile.gif glare.gif biggrin.gif ohmy.gif )

#4 Talent_book

Talent_book
  • Members
  • 95 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:นั่งสมาธิ

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 12:46 AM

เมื่อเราสว่าง โลกก็สว่างด้วย
ดุจแสงเทียนแสงธรรมนำชีวิต
พระอุทิศกายใจทำไมหนอ
เพียงลำพังพระเองก็สุขพอ
ใยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม

สุนทรพ่อ

I Love You หลายเด้อ

#5 jenny

jenny
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 06:29 PM

thank you for good topic. this one give me to rethink what the problems that im going to face in a couple hours

#6 Mai D na

Mai D na
  • Members
  • 282 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 06:30 PM



เรา สว่าง... โลก สว่าง ด้วย..

..โลก โชค ดี เพราะ มี เรา..

เรา โชค ดี เพราะ มี โลก..ให้ สร้าง บารมี..




แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร




#7 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:53 PM

อนุโมทนา
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี