อุปนิสัย 10 ประการ ที่เป็นสาเหตุให้สมองเสื่อม
#1
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 04:25 PM
ขอบคุณครับ ^ o ^
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#2
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 04:36 PM
1. ไม่ทานอาหารเช้า : หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่นี้จะเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้สมองเสื่อม
2. กินอาหารมากเกินไป : การกินมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3. การสูบบุหรี่ : เป็นสาเหตุให้เป็นโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
4. ทานของหวานมากเกินไป : การกินของหวานมาก จะไปขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาองสมอง
5. มลภาวะ : สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อย ส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง
6. การอดนอน : การนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อนการอดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้
7. นอนคลุมโปง : การนอนคลุมโปงจะเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้น และลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
8. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย : การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
9. ขาดการใช้ความคิด : การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดจะทำให้สมองฝ่อ
10. เป็นคนไม่ค่อยพูด : ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง
เมื่อทราบกันดังนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นปฏิบัติให้ถูกต้องด้วย แต่ก็ไม่ควรใช้สมองมากจนเครียดเกินไป เพราะจะทำให้เกิดโรคอื่นตามมาได้เช่นกัน ปัจจุบัน คนไทยเป็น “โรคเครียด” กันมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
#3
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 05:11 PM
#4
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 05:12 PM
สาธุครับ
ป.ล.ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับที่ไปวัดทุกวันอาทิตย์ สาธุ...
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#5
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 05:55 PM
++++++++++++++++++++++
ชอบ กิน หนม หวาน ..
+++++++++++++++++++++++
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#6
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 09:29 PM
#7
โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 11:51 PM
หัดไงคะ
ต้องฝึกตัวเอง
ทำไมถึงไม่ชอบทานอาหารเช้าล่ะคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 08:16 AM
เปลี่ยนมาทานผลไม้แทนนะคะ
ฝึกใหม่นะคะ...นะคะ
หนูสายน้ำทิพย์แทบไม่ทานขนมหวานเลยค่ะ...อย่างมากก็แค่ต้มถั่วเขียวแบบเกือบจะจืดเลยค่ะ...เน้นอาหารไปทางผักกับปลา ผลการตรวจสุขภาพออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ ทั้งระดับไขมัน น้ำตาล ฯลฯ (ตอนนี้นะคะ...ต่อไปโน้นนนนไม่รู๊)
แต่แย่ตรงที่นอนน้อย ๆ
#9
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 10:15 AM
ไฟล์แนบ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#10
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 01:32 PM
ขอบคุณนะคะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#11
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 01:38 PM
#12
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 05:20 PM
ติด 2 ใน 10 ชอบทานเยอะ กับ ทานของหวาน
#13
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 07:53 PM
ตื้อๆตันๆ สมองฝ่อเริ่มจากอาการนี้ไหมคะ น่ากลัวจริงๆ
#14
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 08:28 PM
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า
เมื่อสมองเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว (ประมาณ3-5ขวบ)
เซลล์สมองจะไม่สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนลงได้อีก
ถึงแม้เราจะฝึกสมองมากแค่ไหนมันก็จะไม่เพิ่มจำนวน
และก็ไม่ลดจำนวนเช่นเดียวกัน (ยกเว้นกรณีที่ถูกกระทบกระเทือนหรือถูกสิ่งแปลกปลอมกัดกิน)
แต่ที่ทำให้คนๆนั้นฉลาดหรือโง่อยู่ที่
เซลล์ที่ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างสมองและสร้างอาหารให้สมอง
และก้านที่เชื่อมระหว่างสมองทั้ง2ซีก(ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างสมองทั้ง2ซีก)
เวลาเราอ่านหนังสือร่างกายจะสร้างเซลล์ที่ประสานและสร้างอาหารให้สมองมากขึ้น
ทำให้สมองมีอาหารเพียงพอ และเซลล์ประสานงานมีมากพอจะเข้าไปเชื่อมต่อกับเซลล์สมองที่อยู่ลึกไปไกลหน่อยได้
ในทางตรงกันข้าม
ถ้าร่างกายผลิตเซลล์ประสานงานและให้อาหารได้น้อย
สมองงจะได้รับอาหารไม่เพียงพอ และการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมองก็จะมีปัญหา
เพราะฉะนั้นทั้งสิบข้อจึงไม่ได้มีผลต่อเซลล์สมองโดยตรง
แต่เป็นผลทางอ้อม
ซึ่งจะไม่มีผลกับคนที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
เพราะฉะนั้นคนที่ติดบางข้อ
แต่ถ้ามีสภาพร่างกายที่แข็งแรงเลือดหมุนเวียนดี ระบบต่างๆในร่างกายเป็นปรกติก็จะไม่มีปัญหาครับ
ตอบคุณ omena
ก็เพราะตื่นไม่ทัน(จำเป็นต้องนอนดึกน่ะซิ)
^U^
#15
โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 10:39 PM
พระอุทิศกายใจทำไมหนอ
เพียงลำพังพระเองก็สุขพอ
ใยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม
สุนทรพ่อ
I Love You หลายเด้อ
#16
โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 11:27 AM
ลูกพระธรรม
#17
โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 12:19 PM
#18
โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 03:17 PM
.................สาธุ
#19
โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 05:55 PM
ไม่ต้องหวาดกลัวว่าเราจะเป็นหรอกครับ
ถ้าเราเป็นก็แสดงว่ามันเป็นผลกรรมของเรา
ไม่ต้องซีเรียสมากหรอกครับ
กรรมของใครก็ของคนนั้นครับ
#20
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 07:01 PM
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#22
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 12:08 PM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง