ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อยากไปทำงานต่างประเทศ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 18 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 03:16 PM

มีญาติผมคนหนึ่งอยากเดินทางไปทำงานที่อเมริกามาก อยากไปเป็นผู้ช่วยกุ๊กทำอาหารรายได้ดี 7-8 หมื่นบาทต่อเดือน

แม้จะโรบินฮูดก็ตาม มีคนแนะนำให้ไปหาคนที่ช่วยเหลือเรื่องวีซ่าที่วิ่งพาคนไปได้ แต่ต้องเสียเงิน 4 แสนบาท เขาจะเดิน

สเตทเมนท์ให้ แนะนำการไปสัมภาณ์ที่สถานทูตให้ แนะนำบริษัททัวร์ที่ช่วยพาโดด ไม่ต้องกลับมาไทย จะมีคนทางอเมริกา

มารับ ถ้าใครไม่มีงานก็จะหาให้ซึ่งเขาก็ช่วยมาหลายคนแล้ว มีเงินมาซื้อบ้าน มาทำบุญมากมาย ผมฟังแล้วก็อยากไปบ้างเพราะคิดว่า

ศูนย์วัดเราที่อเมริกาก็มีมาก เรายังไปทำบุญได้จะได้มีเงินมาสร้างบารมีกับเขาบ้าง ทุกวันนี้ก็กรอบเต็มที ใครมีคำแนะนำบ้างใจหนึ่งก็กลัวห่างวัด

ใจหนึ่งก็อยากไป ทำไงดี

#2 Artit

Artit
  • Members
  • 147 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 04:03 PM

คิดเอา คิดให้ดี ว่าการลักลอบเข้าไปอยู่เมืองเค้านะถูกไหม
คิดเอาว่าทำไมเค้าถึงกีดกันคนต่างชาติไม่ให้ไปอยู่เมืองเค้า
คิดเอาขนาดคนไทยยังกีดกันต่างชาติมาค้าแรงงาน
แล้วถ้าคิดว่าไปแล้วดี แก่ตัวเองในการสร้างบารมี ก็คงไม่ได้ใช้ปัญญาไตร่ตรองคิด

คิดเอา คิดดี - ดี การสร้างบุญ สร้างบารมี มีหลายวิธี การทำอย่างนี้มีแต่จะตัดรอนตัวเอง ได้ไม่คุ้มเสีย
คิดเอาบุญมีหลายทางในการทำ หลวงพ่อหลวงปู่ก็สอนอยู่ แต่หวังเพียงหาเงินมาสร้างบารมี แต่ใจยังมืดบอด คงอาจทำให้หลงทางไปไกล ออกไกล

ขอชื่นชมในการตั้งสร้างบารมี แต่ขอให้ หยุดคิดว่าอะไรควรไม่ควร
"ทางมาแห่งบุญ มีหลายทาง ขอให้ทำให้ถูกทางไม่ใช่ไปข้างทาง หรือนอกทาง"


อนุโมทนาบุญกับความตั้งใจในสิ่งที่ดีเป็นคุณธรรมสาธุ

#3 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 06:50 PM

ถ้าจะต้องไปจริงๆผมก็ขอให้คุณโชคดีนะครับ เมื่อมีเวลาก็ชดเชยโดยการทำบุญเยอะๆนะครับ ขอเอาใจช่วยครับ
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#4 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 08:06 PM

QUOTE
ศูนย์วัดเราที่อเมริกาก็มีมาก เรายังไปทำบุญได้จะได้มีเงินมาสร้างบารมีกับเขาบ้าง ทุกวันนี้ก็กรอบเต็มที ใครมีคำแนะนำบ้างใจหนึ่งก็กลัวห่างวัด

ใช้ชีวิตที่ต่างแดนไม่ง่ายนะครับ อย่างเพื่อนผมไปเรียนต่อ เค้ายังหาโอกาสไปศูนย์สาขาได้ยากเลย เนื่องจากแต่ละรัฐของอเมริกาใหญ่เป็นประเทศๆ ก็เท่ากับว่า หนึ่งประเทศก็มีแค่หนึ่งศูนย์ หรือ อีกนัยก็คือ อเมริกา มีศูนย์สาขามากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่ประเทศและของแต่ละรัฐแล้วก็ยังถือว่า มีศูนย์สาขาน้อยมากนะครับ

ถ้าได้ทำเลไม่ดี ห่างศูนย์สาขา อย่างที่เพื่อนผมไปเรียนต่อละก็ จะไปศูนย์ทีนึงอาจจะต้องนั่งเครื่องเอานะครับ แม้จะอยู่รัฐเดียวกันก็ตาม บวกลบค่าใช้จ่ายแล้ว เงินอาจจะไม่เหลือก็ได้ ไปศูนย์ก็อาจจะไปได้ไม่บ่อยอย่างที่ตั้งใจ บวกลบคูณหารดีๆ ละกันนะครับ ลองไปฟังไฟล์ย้อนหลังของลูกพระธัมฯ ที่ไปทำงานที่อเมริกาก็มีนะครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#5 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 08:10 PM

อย่าไปเลยครับ..ให้เรียนให้จบ
แล้วหาอาชีพที่ชอบทำตามหลัก ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

แค่นี้เงินเดือน 7-8หมื่น น้อยไปครับ รายได้หลักแสนขึ้นครับ

และอย่าลืมอธิฐานจิต ขอบุญบารมี มหาปูชนียยาจารย์มาช่วยด้วย

จะเป็นผลสำเร็จ เป็นผลสำเร็จแน่นอนครับ

เอาใจช่วยนะครับ

ถ้าจะไป จงไปอย่างสง่างาม เช่นสอบทุนฟูลไบร์ท หรือทุนนักเรียนโพ้นทะเล
สอบโทเฟลไว้ให้ได้ 550 คะแนน ครับ

จงอยู่ในกรอบกฎหมาย เหมือนกับเรารักษาศิล นะครับ

เอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จ ในเส้นทางการสร้างบุญ บารมีนะครับ

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#6 ง่ายๆ

ง่ายๆ
  • Members
  • 147 โพสต์
  • Location:USA

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 08:37 PM

คิดดูให้ดีๆนะครับ ไม่ง่ายและลำบากด้วยนะครับ แต่ถ้าตั้งใจอยู่แล้ว ก็ต้องมุ่งมั่นและขอให้โชคดีครับ
หลุดพ้นจากพันธนาการ


#7 บุญรักษา

บุญรักษา
  • Members
  • 189 โพสต์
  • Interests:ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส ขอทุกก้าวคือก้าวที่มั่นใจ ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 09:32 PM

เป็นความใฝ่ฝันของวัยหรือเปล่าครับ ลองชั่งน้ำหนักดูให้ดีน่ะครับ ไปอยู่ที่ใหนไม่สุขใจเท่าบ้านเราหรอก วิถีชีวิตที่ได้พบเจอ ในวัน ๆ หนึ่งก็เพียงไม่กี่คนรอบ ๆ สายตาที่สามารถกวาดไปได้ เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืน หากมีความสนุกสนานในการท่องเที่ยวกับทัศนียภาพ ก็ว่าไปอย่างน่ะครับ การสร้างเนื้อสร้างตัว บ้านเรามีโอกาสมากมาย มีเส้นทางสำหรับคนขยันทำมาหากินเสมอ ๆ

หากเป็นผมตั้งใจทำบุญไกล้ ๆ หลวงพ่อไว้ก่อนน่ะครับ ได้ทำบุญทุก ๆ บุญสะดวกโยธิน ได้มีส่วนร่วมกับการเป็นส่วนธุลีเล็ก ๆ เพื่อสถาปนาพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองนานแสนาน นี่เกิดเร็วหรือช้ากว่านี้ ไม่ทันคุณยาย ไม่ทันหลวงพ่อ ล่ะ การมีโอกาสได้ร่วมสร้างบุญใหญ่คงน้อย

เรื่องธุรกิจการงานอยู่ที่ใหนหากมีบุญค้ำจุน เกื้อหนุนส่งเสริม สมบัติก็จะมาเอง หากอยากไปเที่ยวเมกา บินลัดฟ้า ทัวร์รอบโลก เป็นเรื่องธรรมดาไป ตอนนี้ผมเองเห็นคนเข้าถึงพระธรรมกายกันมาก ๆ เที่ยวได้ยิ่งกว่ารอบโลกอีก ไปแนวนี้ท่าจะแจ่มจรัสกว่าน่ะครับ


ไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ นอกจาก....ความจริงใจที่เต็มปรี่ เริ่มต้นผูกพันกันวันนี้ เพื่อมิตรไมตรีที่ดี..ตลอดไป เราต่างก็...มีไฟฝัน พร้อมจะสร้างสรรค์..เพื่อวันใหม่ ขอให้เรา....ต่างเป็นกำลังใจ เพื่อไปสู่จุดหมายที่...ยังรอ

#8 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 09:48 PM

นี่ๆ เคสวันนี้ ที่ขวนขวายไปทำงานต่างประเทศ คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า "กรรมตระหนี่ในอดีตชาติ มาบีบคั้นให้ต้องไปดิ้นรน แร้นแค้นถึงเมืองนอก" เน้อ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#9 jenny

jenny
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 10:18 PM

K owner of this topic. i agree with Bon lak sa says na ka. No where else is better than Thailand this is very true pls rethink it again before everything is too late to change na ka.


im also staying in overseas when lungpoo has any bon, i cant go there cos the expense is costly ka. what i can do is watching from dmc only.

if i can choose again i will stay close with lungpoo ka.

#10 Dok_Bua

Dok_Bua
  • Members
  • 233 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:UK

โพสต์เมื่อ 17 August 2006 - 11:52 PM

.....อยากมาเหรอคะ แต่ดอกบัวอยากกลับบ้านใจจะขาดอยู่แล้ว อย่างที่คุณ..Blur..moon บอกอ่ะค่ะ การเดินทางในต่างประเทศเพื่อไปศูนย์สาขาไม่ง่ายนะคะ..ค่าเดินทางก็หลายอยู่น้าาา...ต้องเช็คให้ดีนะคะเรื่องร้านอาหารว่ามีจริงหรือเปล่า
...ทั้งในอเมริกาและอังกฤษ...พวกฉวยโอกาสมีเยอะมากถ้าต้องเสียเงิน4แสนบาทเสียให้ใครล่ะคะ..บ้านอยู่ที่ใหน..แล้วเราจะเชื่อเขาได้หรือเปล่า...
เพราะว่าถ้าทำวีซ่าทำงาน+ตั๋วเครื่องบินแล้วก็ไม่น่าจะเกิน2แสนบาทเลยนะ..แถมเวลามาได้แล้วก็หักโน้นหักนี้บางทีแทบไม่มีเหลือ..คิดถึงบ้านก็ไม่ได้กลับเพราะโดนเจ้าของร้านยึดพาสปอร์ตไว้ให้ทำงานจนกว่าจะครบกำหนด..
ลองไปหาบริษัทพวกจัดหางานไม่ดีกว่าเหรอคะเอาแบบที่เชื่อถือได้แล้วก็ทำตามขั้นตอนดอกบัวว่าน่าจะดีกว่านะคะ ไอ้ที่ว่าเป็นเพื่อนกันหรือเป็นคนรู้จักเนี๊ยะยังไงก็อย่า
เชื่อเขาร้อยเปอร์เซ็นนะคะ...

มีตัวอย่างมาให้อ่านด้วยนะคะแต่น้องคนนี้ก็โชคดีในตอนท้ายค่ะ..แต่อีกหลายๆชีวิตที่เป็นอย่างนี้แล้วไม่โชคดีเหมือนน้องคนนี้
ก็มีเยอะนะคะ..ลองอ่านเรื่องนี้ดู.เอามาจากหนังสือชีวิตรักค่ะ...

ชีวิตรัก...จะนำท่านผู้อ่านไปพบกับ ศิลปินบัณฑิตหนุ่มน้อย ผู้ตกเป็นเหยื่อตั้งแต่เดินก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัย เราไปฟังเรื่องราวของเขาพร้อมๆกันค่ะ ผู้ให้สัมภาษณ์...สวัสดีครับ...ผมชื่อนายเอกชัย พันธุมะเกียรติ อายุ 29 ปี เกิดที่ จ.ราชบุรี แต่มาโตที่ บางหว้า ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ จบการศึกษาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร กรุงเทพฯ เมื่อปี 2541 ฐานะทางบ้านผมจัดอยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก เพราะฉะนั้นเมื่อเรียนจบ ผมต้องคิดถึงเรื่องงานก่อนว่า จะไปทำงานที่ไหนรายได้ถึงจะดี เพื่อที่ผมจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านบ้าง

ในขณะนั้นก็มีรุ่นพี่คนหนึ่ง ได้มาทำงานอยู่ประเทศเยอรมัน และรุ่นพี่คนนี้ได้ติดต่อมายังพี่ที่เรียนอยู่ด้วยกันว่า มีคนติดต่อให้มาทำงานที่เยอรมัน สอบถามได้ความว่า มีร้านอาหารไทยต้องการคนจริงตามที่ได้ข่าว รายละเอียดมีอยู่ว่า เงินเดือนๆละ 2,200 มาร์ค คิดเป็นเงินไทยก็ 44,000 บาท มีที่พักพร้อมอาหาร รวมทั้งประกันสังคมเสร็จเรียบร้อย เมื่อรายได้ดีอย่างนี้ก็สนใจ เตรียมตัวไปยื่นขอวีซ่า กว่าวีซ่าจะผ่านต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือน ซ้ำเป็นวีซ่าท่องเที่ยวอายุแค่3 เดือน ทางผู้ที่ติดต่อบอกว่าไม่เป็นอะไรหรอก พอไปถึงเยอรมันแล้วค่อยไปเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงาน พร้อมทั้งสัญญาทำงาน 3 ปี
ความที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน เขาบอกอะไรเชื่อหมด บินมาถึงประเทศเยอรมันเมื่อ 23 เมษายน ปี 2541 เจ้าของร้านอาหารไปรับที่สนามบิน พาไปเข้าที่พักเก็บของเสร็จพาไปดูที่ร้าน ตอนแรกบอกว่าให้พักผ่อนเพื่อให้ร่างกายปรับตัวสัก 2 - 3 วัน แต่เราเห็นว่างานในร้านเยอะ ก็ช่วยเขาทำตั้งแต่วันแรกเลย เรื่องงานตกลงกันว่า ให้เรามารำและช่วยเสิร์ฟ พอทำเข้าจริงๆไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตกลงกันไว้ เขาสั่งให้ลงงานครัวเลย เกิดมาในชีวิตมีดกับเขียงนี่เป็นเรื่องไกลตัวผมทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรได้มาแล้วก็ต้องสู้ ทำทุกอย่างที่เจ้าของร้านสั่ง พอถึงสิ้นเดือนเงินทิปออกได้ส่วนแบ่งคนละ50 มาร์ค ดีใจมาก

พอสิ้นเดือนเงินเดือนออก ที่ตกลงว่าจะโอนเข้าธนาคารให้ ไม่ได้โอนอีก ใส่ซองส่งให้กับมือ เปิดซองออกมาดูปรากฏว่ามีเงินอยู่แค่ 260 มาร์ค คำตอบก็คือเขาหักเงินประกันเดือนละ 500 มาร์คเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อป้องกันเราหนี และหักค่าเช่าบ้านย้อนหลังอีกเดือนละ 40 มาร์ค สรุปแล้วเงินเดือนที่จะได้จริงๆแค่ 800 มาร์คเท่านั้น ส่วนที่ตกลงกันว่า 2,200 มาร์คนั้น เขาบอกหน้าตาเฉยว่า “ช่วยให้วีซ่าคุณผ่านเท่านั้น” ใจเสียตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่า เรื่องนี้น่าจะมีเบื้องหลังอะไรสักอย่าง แต่ก็ต้องหวานอมขมกลืน

เงินมาร์คของเขาใช้อย่างคุ้มค่า ผมต้องทำงานหนักเหมือนทาส เริ่มงานตั้งแต่10 โมงเช้า ถึงบ่าย 3โมงเย็น เข้าอีกรอบ17.10 จนถึง 24 นาฬิกา ถ้าแขกยังออกไม่หมดก็ยังกลับไปพักไม่ได้ บ่อยครั้งต้องอยู่ดึกถึงตี 2 เป็นอยู่อย่างนี้จนกระทั่งผมล้มป่วยลง จะไปหาหมอก็ไปไม่ได้ เจ้าของร้านซื้อยาแก้ไข้มาให้กิน แล้วบอกให้นอนพัก แต่ไม่พาไปหาหมอ พอรบเร้าเข้าก็บอกว่า เราไม่มีใบประกันสังคมเลยไปหาหมอไม่ได้ สรุปว่าเงินที่ตัดเอาไปทั้งหมดนี่เข้ากระเป๋าเขาเองทั้งหมด โชคร้ายของผมยังไม่มากนัก เพราะว่า.....
ร้านอาหารแห่งนั้นหมดสัญญาเสียก่อน แต่เขาก็ดูดเลือดเราจนหยดสุดท้าย ก่อนปิดร้านสองวัน ทำเป็นมีน้ำใจเอากระดาษที่มีข้อความเป็นภาษาเยอรมัน มาให้เซ็นชื่อ...บอกว่าเป็นกระดาษรับรองการทำงาน เพื่อที่เวลาเราไปสมัครงานที่ไหน จะได้มีหลักฐานการผ่านงาน ผมเซ็นชื่อลงไป....ซ้ำยังแอบขอบคุณในใจ ก่อนเดินออกจากร้านไป เจ้าของร้านยอดแสบนั่นยังหันมาโบกมือ อวยพรให้พวกเราหางานได้เร็วๆ ครั้นพอไปสมัครงานเข้าจริงๆ ถึงได้รู้ว่า...แท้จริงแล้ว เจ้ากระดาษใบดังกล่าว คือหนังสือสละสิทธิ์ ถ้าเราเลิกทำงานกับเขาเมื่อไร เราจะไม่ขอเรียกร้องสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น ดูเถิดครับ...น้ำใจคนไทยด้วยกัน

พี่ที่ทำงานด้วยกันแนะนำว่าที่เมืองโคโลญจน์ มีร้านอาหารไทยเปิดใหม่ต้องการคนงาน ไปสมัครได้และทำอยู่สัก3 เดือน เอาอีกแล้วหนีเสือปะจระเข้อีกแล้ว เรื่องเก่าอีกตามเคย เรื่องจ่ายเงินเดือน ตกลงอย่างหนึ่ง แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง ความเป็นจริงแล้วพวกเขามีเงินมาก ขนาดเปิดร้านอาหารในต่างประเทศได้นี่ก็ไม่ใช่ธรรมดา แต่ทำไมหนอ...จะต้องเอาศักดิ์ศรีมาแลกกับเงินแค่หลักร้อยยูโร ผมคิดไว้นะครับว่า...ถ้าในอนาคตผมมีความสามารถเป็นเจ้าของร้านเอง ผมจะไม่ให้ใครมาชี้หน้าว่า เรากินแรงลูกจ้าง

ตอนที่เข้ามาทำงานในร้านดังกล่าวนี่เอง ผมก็ได้มีโอกาสรู้จักกับผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ท่านมีบุญคุณกับผมมาก พอผมมีปัญหาได้โทร.ไปเล่าให้ฟัง ท่านได้เมตตาสงสารส่งรถมารับผม มาอยู่ที่ร้านของท่าน จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็7 ปีแล้วครับ ผมรักและเคารพท่านมาก ตอนนี้ท่านเป็นแม่บุญธรรมของผมรวมทั้งพี่น้องอีกสองคน พวกเรามีที่อยู่ที่กิน มีเงินส่งกลับไปเลี้ยงครอบครัวที่เมืองไทย ก็เพราะความเมตตาของแม่ ภาระของแม่ยังไม่หมดเท่านั้นนะครับ ปัญหาเรื่องวีซ่าของผมตามมาเป็นฝันร้ายให้ผมอีก
แม่พยายามวิ่งเต้นช่วยเหลือผม หนทางที่ดีที่สุดคือแต่งงาน แม่หาคนมาแต่งงานให้ แต่ก็หาไม่ได้ง่ายๆ ช้านักก็ไม่ได้เพราะเรื่องวีซ่าเวลาไม่เคยคอยใคร แม่ได้รับการแนะนำจากฝ่ายกฎหมายของร้านเราว่า ร้านเราจดทะเบียนเป็นร้านค้าไทย ทำไมจะขอวีซ่าไม่ได้ เพราะร้านเราก็มีหลักฐานมั่นคง แม่เข้าไปยื่นขอใหม่ รออยู่ประมาณหนึ่งเดือน ปรากฏว่าวีซ่าของผมผ่านเรียบร้อย ผมดีใจมากต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องขวัญหนีดีฝ่อกับเรื่องนี้อีก ต่อไปนี้ผมจะทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยงาน...ในร้านของแม่อย่างเต็มที่





...ขอสร้างบารมี เอาชีวีเป็นเดิมพัน ...

#11 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 07:27 AM

QUOTE
เพราะว่าถ้าทำวีซ่าทำงาน+ตั๋วเครื่องบินแล้วก็ไม่น่าจะเกิน2แสนบาทเลยนะ.

............................................................................................

ทางที่ดีเรียนให้สูงๆ และจับงานวิจัยที่ฝรั่ง เขาสนใจ เขียนเปเปอร์
เสนอแนวคิด แนวทาง
อย่างนี้ไม่ต้องเสียเงินสักบาท
ไปถึงอเมริกา มีบ้านพัก มีงาน รอแสดงฝีมือ ไปอย่างนี้ถึงจะมีชัย และสง่างาม ครับ

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#12 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 10:07 AM

คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ ของแบบนี้

ความรู้สึกเหมือนคุณดอกบัวเลย
ตอนนี้อยากกลับเมืองไทยมากๆ แต่กลับไม่ได้
จะเปิดเทอมสองแหล่ว confused_smile.gif

ฝากไว้นิดนะครับ
ทำงานเงินเดือน 7-8หมื่น ดูเหมือนเยอะแต่ขอบอกว่าต้องทำงานหนักมากๆ
(2000 เหรียญต่อเดือนถือว่าเป็นเงินเดือนที่ไม่มากหรอกครับ)

ผู้ช่วยพ่อครัวนี่ทำวันนึงเกิน 10 ชม.แน่ๆครับ
พอคิดออกมาแล้วค่าชม.ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีก (ตอนนี้น่าจะ 7 เหรียญ/ชม.)
แต่เราก็โวยอะไรไม่ได้เพราะเราเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย
ทำงานไม่มีการรับรอง ไม่มีสวัสดิการใดๆทั้งสิ้น
เจ้าของร้านเค้าทำอะไรกับเราก็ได้เพราะไม่มีกฏหมายคุ้มครอง

อย่างนี้คุ้มมั้ยละครับ
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#13 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 12:46 PM

ทำแบบโรบินฮูดไม่สมควรนะคะ เราเองไปอยู่อย่างนั่นจะมีแต่ความกังวลใจ ไม่มีความสุข อีกอย่าง คนที่ชวนไปถ้าเค้าไม่ได้ตั้งใจจะให้เราไปงานนอย่างถูกต้องแล้วเราก็ไม่ควรไว้ใจเค้านะคะ ถ้าเป็นนายจ้างที่ชอบจ้างคนแบบผิดกฏหมาย เค้าอาจจะกดค่าแรงเราได้แถมเราไม่มีสิทธิมีเสียงจะไปต่อปากต่อคำ อีกอย่างก็แสดงถึงนิสัยนายจ้างที่ไม่ดีเป็นเบื้องต้น เพราะการที่เค้าจ้างคนทำงานในลักษณะนี้นาอกจากจะสามารถจ่ายค่าจ้างที่ต่ำกว่าที่ควรแล้วยังสามารถหลบหลีกภาษี หรือค่าสวัสดิการที่ควรจะจ่ายอีกด้วย และเกิดเราไปทำให้ใครไม่พอใจขึ้นมาแล้วแจ้งไปยังทางการ นอกจากจะโดนขับออกจากประเทศแล้ว เรายังมีประวิติไม่ดีเวลาเราจะไปประเทศอื่นอาจจะโดนปฏิเสธวีซ่าได้

อีกอย่างก็อย่างที่คุณมองอย่างแมวว่าล่ะค่ะ เงินเดือนที่ดูเหมือนว่าเยอะเมื่อเราเอามาเปรียบเทียบกับเงินไทย แต่พอเราไปอยู่ที่นั่นเนี่ยเราต้องใช้เงินแบบคนในประเทศนั้นๆในการใช้จ่ายอยู่อาศัย เงินเดือนให้ถึงแสนก็เหอะก็ไม่เยอะเลยนะคะ คนไทยหลายๆคนมาทำงานต่างประเทศ พอกลับไปบ้านเหมือนจะโก้ แต่ตอนอยู่ที่ต่างประเทศจริงๆนี่ไม่ค่อยได้อยู่กันสบายๆหรอกค่ะ

#14 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 12:52 PM

ทำงานอยู่บริษัทต่างชาติ เห็นมีแต่ฝรั่งอยากทำงานในเมืองไทย 95% ชอบอาหารไทย และพยายามขอต่อวีซ่าและหางานในเมืองไทยทำ

เดี๋ยวนี้ต่างประเทศไม่ได้มีทองให้ขุดง่วย ๆ แล้ว เก็บเงินสี่แสนไว้เถอะคะ



#15 joeintra

joeintra
  • Members
  • 261 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 07:58 PM

ในฐานะที่ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ในอเมริการ่วม 7 ปี แต่ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้วครับ
ขอแนะนำว่าไม่ควรไปอย่างยิ่งครับ ปัจจุบันอเมริกาไม่ใช่ประเทศที่มั่งคั่งแล้วครับ ค่าครองชีพสูงมากๆ และ ทุกวันนี้ทางการเขาส่งคนไล่ล่า โรบินฮู้ดอยู่น่ะครับ และ ปัจจุบัน ถ้าถูกจับได้กว่าจะส่งกลับประเทศก็นานมากครับ ต้องไปติดคุกก่อน แล้วค่อยส่งกลับ(เราออกเงินค่าตั๋วเองนะครับ) ผมเคยทำร้านอาหารไทยมา และก็มีคนถูกจับไปแล้วหลายคนครับ
จะพรรณาข้อเสียให้พิจารณานะครับ
1. ไปไหนมาไหน ไกลมากๆ ต้องมีรถยนต์ส่วนตัว ค่าใช้จ่ายที่น่ากลัวคือค่าน้ำมัน 3 เหรียญกว่า/แกลลอน เติมอย่างน้อย 70 เหรียญต่อเต็มถัง อาทิตย์นึงอย่างน้อยก็ต้องเติม 2 ครั้ง และปัจจุบัน อเมริการถติดเหมือนบ้านเราแล้วครับ
1.1 อ่อ อีกอย่างใบขับขี่ก้อทำไม่ได้ครับ แล้วถ้าขับรถแล้วถูกตำรวจจับ ก็ซวยเลยครับ ใช้ใบขับขี่อินเตอร์ไม่ได้ครับเขาไม่รับ
2. การทำงานผิดกฏหมาย ต้องหลบซ่อนๆ ป่วยไม่ได้ ไม่ได้เงืน ไปรักษาก็ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่า insurance หลายพันเหรียญต่อปี ยาก็ซื้อเองไม่ได้ ต้องให้หมอสั่งทุกอย่างแม้กระทั่งยาแก้อักเสป ต้องทำงานหนักมากๆ เพราะภาชนะที่ใช้เป็นAmerican size Load และใหญ่มาก ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งแย่ หลังเสีย ข้อมือเสียหมด งานเป็นงานบริการที่เร่งมากๆ อเมริกันเป็นคนรออะไรไม่เป็น ถ้าช้าเขาคืนของแล้วเอาเงินคืน แล้วก็ไม่มาร้านอีก โดนนายจ้างด่า ไม่มีโอกาสที่จะหยุดพัก หรือว่าอยู่ว่างๆ เหมือนทำงานในเมืองไทยได้ เพราะถือว่าเราทำงานเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง
3. เงินที่ได้ คิดเป็นเงินไทยแล้ว 60,000-70,000 บาท ถือว่าน้อยมากๆ ครับ เพราะค่าครองชีพสูงกว่าครับ ตอนผมอยู่ ผมได้มากกว่านี้ ยังเหลือเก็บไม่มากเลยครับ ง่ายๆ ครับ ค่าเช่า ปกติ ถูกๆ ก็ เดือนละ 800 เหรียญครับ ถ้าแชร็กันอยู่ก็ คนละ 400 แต่ถ้าจะประหยัด ก็ต้องแชร์ 3-4 คน แต่จะแออัดมากครับ อดทนได้ไม่นานครับ ค่าอาหาร ถ้าทำร้านอาหารก็อาจจะได้ทานฟรีครับ แต่เป็นอาหารที่เหลือเก็บ หรือไม่ก็เป็นอาหารเมนูห่วยๆถูกๆซ้ำๆเป็นประจำครับ เลียนมากครับ จะไปซื้ออาหารเองก็เปลืองมากครับ ตกมื้อละ 10 เหรียญ ต่อคนครับ
4. เรื่องทำบุญก็ลำบากครับ จะบอกว่างานบุญส่วนใหญ่จะตรงกับเวลาใกล้รุ่งในอเมริกาครับ พิธีเริ่ม บางทีก็ ตี4 บางทีก็ตี 5 ครับ แต่เราก็ต้องมาเตรียมความพร้อมตั้งแต่ตี 2.30 พาจบพิธีก็ต้องรีบขับรถไปทำงานต่อ ทรมานมากครับ จริงอยู่เราอาจจะมีเงินเหลือพอที่จะได้ทำบุญ แต่เรากำหนดไม่ได้นะครับ ว่าเราจะมีโอกาสได้ไปวัดหรือเปล่าเพราะ พนักงานต่างคนก็ต่างมีตารางการทำงานของตัวเอง ซึ่งบางที ไม่มีใครยอมแลกกับเราครับ เพราะเขาก็อยากมีเวลาส่วนตัว และอีกอย่างพวกเขาไม่ได้เข้าวัดทำบุญเหมือนเราครับ
5. ฤดูหนาวอากาศจะหนาวมากครับ ทรมานครับ เวลานอนต้องใช้ heater ครับเป็นค่าใช้จ่ายอีกแล้วครับ ฝรั่งเขาถึงชอบมาเมืองไทยครับ
6. ถ้าจะซื้อของต้องเสีย tax (ภาษี) แพงมากครับ ของบางอย่างเราเห็นราคาไม่แพง แต่พอบวก ภาษีเข้าไป ก็บางทีก็เป็นหมื่นเลยครับ ซื้อคอม์เนี่ยเห็นได้ชัดเลยครับ
7. คราวก่อนผมอยากมางานสลายร่างคุณยายอาจารย์ใจแทบขาด แต่มาไม่ได้ครับ เพราะถ้ากลับไปก็กลับอเมกาไม่ได้อีก อดมาได้ชมภาพทางอินเตอร์เน็ท รู้สึกว่าด้อยโอกาสมากเลยครับ เทียบกับคนที่ได้ไปอยู่ในบรรยากาศพิธิกรรม

8. อ่อแล้วศูนย์สาขาในอเมริกามีแค่ 7 แห่งเท่านั้นนะครับ ในCalifornia ก็ที่ Azusa อยู่ทางใต้ๆ California ครับ แล้วCaliforniaรัฐเดียวนี่ใหญ่เท่ากับประเทศไทยทั้งประเทศนะครับ แต่ละรัฐใหญ่ทั้งนั้น Texas ก็ที่ Arlington ที่เดียว Texas ใหญ่กว่า California อีกครับ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้ไปทำงานอยู่ใกล้ ศูนย์สาขาครับ

มีคนแนะนำให้ไปหาคนที่ช่วยเหลือเรื่องวีซ่าที่วิ่งพาคนไปได้ แต่ต้องเสียเงิน 4 แสนบาท เขาจะเดิน

สเตทเมนท์ให้ แนะนำการไปสัมภาณ์ที่สถานทูตให้ แนะนำบริษัททัวร์ที่ช่วยพาโดด ไม่ต้องกลับมาไทย จะมีคนทางอเมริกา

อันนี้ถูฟันกำไรไปเกือบ 2 เท่าครับ ค่าวีซ่าอเมริกา 40 เหรียญ ค่า Sevis fee 40 เหรียญ statement ไปขอที่ธนาคาร 200 บาท การสัมภาษณ์ผ่านไม่ผ่านไม่มีหลักเกณฑ์ครับ แล้วแต่เจ้าหน้าที่ บริษัททัวร์พี่ช่วยพาโดดไม่มีครับ มีแต่เราโดดเอง ค่าตั๋วเครื่องบิน ก็ประมาณ25,000-35,000 บาท ครับ แล้วแต่ season ต่อให้มีเสียมากกว่านี้ก็ยังไม่เกิน แสนนึงครับ

ดีที่สุดอยู่เมืองไทยครับ ทำงานไป ขยันๆ ถ้าไม่มีเงินทำบุญ ก็มาช่วยงานเป็นอาสาสมัครสิครับ ได้บุญเยอะเหมือนกัน แล้วค่อยๆอธิฐาน ให้เรามีปัจจัยทำบุญ
เรายังได้อยู่ใกล้พระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยครับ รู้มั๊ยครับตอนทุกคนที่อเมริการู้ว่าผมจะกลับเมืองไทย เขาบอกผมว่า อิจฉาจังเลย แสดงว่าทุกคนอยากกลับเมืองไทยทั้งนั้นแหละครับ แต่ด้วยภาระจำยอมครับ

ขอให้สู้ต่อไปนะครับ อย่าท้อแท้


#16 puay

puay
  • Members
  • 155 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 01:16 PM

ได้มาเจอหมู่คณะแล้ว มาเจอหลวงพ่อแล้ว อย่าไปไหนอีกเลยค่ะ มาสร้างบุญสร้างบารมี เอาติดตัวเราไปให้ได้มากที่สุดเถอะค่ะ

#17 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 12:49 AM

ทำงานที่ Australia และ New Zealand หลายปี เก็บเงินได้เยอะก็จริง ได้ความรู้มากมาย มีความสุขสบาย อยากทำอะไรได้ทำ อยากกินอะไรได้กิน

แต่พอกลับมาเมืองไทย .... อยู่กับพ่อแม่ ได้ปรนิบัติท่าน ได้ดูแลท่าน แล้วกลับรู้สึกว่าเวลาที่ได้อยู่กับท่านมีค่ากว่าเงินที่หาได้มากจนเทียบไม่ติด แม้จะไม่ได้กินหรู ๆ ฟู่ฟ่าเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ว่าการกินน้ำพริกผักต้มเป็นเพื่อนคุณแม่ การรินน้ำเย็นให้คุณพ่อดื่มแก้กระหาย มันช่างหอมหวานและมีความสุขเหลือเกิน เอาเงินมาล่อเป็นล้าน ๆ ก็ไม่ไปไหนแล้ว จะอยู่กับพ่อแม่อย่างเนี้ยแหละ

#18 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 09:00 AM

สาธุกับคำตอบของหลาย ๆ ท่านค่ะ...หลานสาวใฝ่ฝัน ดิ้นรน จะไปให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังเรียนอยู่...แล้วก็ได้ไป...พบกับสิ่งร้าย ๆ เยอะแยะไปหมดค่ะ

#19 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 23 August 2006 - 11:16 AM

สาธุกับทุกท่านที่สนใจร่วมตอบคำถามกันทุกคนนะคะ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง