เรื่องด่วนค่ะ ช่วยเข้ามาอ่านกันเยอะๆหน่อยนะคะ
#1
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 01:36 PM
เรื่อง: FW: ช่วยลูกสาวผมด้วยครับ ด่วนมากครับ!!
ก่อนจะลบเมล์นี้ทิ้ง ช่วยส่งต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนนะ ทำบุญครับ
บุญลือ ติยาภรณ์
เป็นการทำบุญ 1 ชีวิต
เรียน ผู้ใจบุญทุกท่าน โปรดช่วยลูกสาวผมด้วยเถิดครับ
ส่งต่อ เป็นการทำบุญ 1 ชีวิตนันทิยาได้โทรไปสอบถามคุณพ่อของน้องเกศรินทร์
เพราะเห็น e-mail นี้เยอะมากเลยคิดว่าน่าจะหาผู้บริจาคได้แล้ว จะได้ไม่ forward ต่อแต่ปรากฏว่าคุณพ่อของน้องเค้าบอกว่า
ยังไม่มีผู้บริจาคคนไหนมี HLA ตรงกับน้องเค้าเลยยังหาอยู่ เลยช่วยกระจายต่อค่ะ.....ช่วยส่งต่อด้วยนะคะแต่ถ้าสามารถไปบริจาคได้ ก็เชิญนะคะ
ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่เพราะเลือดเพียงน้อยนิดของเรา สามารถช่วยชีวิตอีกหนึ่งชีวิตได้ค่ะ
ผู้ที่อ่านข้อความนี้ท่านใดมีจิตกุศลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่วัยของเธอแค่ 17 ปี กำลังเผชิญกับโรคร้าย Leukemiaมะเร็งในเม็ดเลือดขาว คือน.ส.เกศรินทร์ สุวรรณโนต้องขาดเรียนเป็นเวลานานเพระต้องรักษาตัวอยู่ขณะนี้ที่ร.พ.จุฬาโดยฉีดเคมีบำบัดหรืออาจตลอดชีวิต
และเธอกำลังรอรับการบริจาคโลหิตเพื่อปลูกถ่ายไขกระดูก ตัวเธอเลือดกรุปB
ซึ่งผู้ที่สามารถบริจาคเลือดได้ต้องผ่านการบริจาคเลือดแล้วถึง2 ครั้งที่สภากาชาดไทย
ผู้บริจาคต้องมีร่างกายสมบูรณแข็งแรงไม่มีโรคติดเชื้อร้ายแรงลักษณะเนื้อเยื่อ HLA ตรงกับผู้ป่วยถึงจะรับการบริจาคได้ซึ่งยากมากที่จะหาผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อตรงกันจึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากผู้มีน้ำใจละจิตเมตตาจะบอกกล่าวต่อๆกันก็ได้นั่นหมายถึงผู้ป่วยรายนี้กำลังรอชีวิตใหม่จากพวกคุณอยู่สามารถบริจาคโลหิตได้ที่สภากาชาดไทย
TEL 02-7149124 กด 1(ด.ต.สมพร สุวรรณโน บิดา) เธอกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนสายน้ำผึ้ง
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#2
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 02:16 PM
เรื่องนี้คุณหมอหลิว "extra" ณ บอร์ด ได้ทำการตรวจสอบไปแล้ว มีใจความดังนี้นะครับ
คุณจรรยา ตันคงจำรัสกุล (ครรภ์เป็นพิษ ต้องการเลือดกรุ๊ปเอ) เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2546
คุณเกศรินทร์ สุวรรณโน (มะเร็งเม็ดเลือด ต้องการไขกระดูก) เสียชีวิตเมื่อธันวาคม 2548
และคุณจุฑามาศ ทัพศรี (มะเร็งเม็ดเลือด ต้องการไขกระดูก) เสียชีวิตเมื่อมีนาคม 2549
กรุณาแจ้งเพื่อนๆ ต่อไปด้วยนะคะ
ถ้าหากอยากช่วยคุณจรรยา คุณเกศรินทร์ และคุณจุฑามาศ ก็ทำบุญอุทิศไปให้พวกเธอนะคะ
หมอหลิว
นอกจากนี้ คุณหมอหลิว ยังได้ทำการเช็คไปยังอีเมลล์ทำนองนี้ฉบับอื่นๆ อีก ก็พบว่าที่คุณหมอได้ทำการเช็คไปทั้งหมด ได้เสียชีวิตหมดแล้วครับ
แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#3
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 02:26 PM
ต้องรีบสร้างกุศลความดีเยอะๆ
#4
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 03:12 PM
เมื่อก่อนก็คิดค่ะ เรื่องบริจาคไขกระดูก เพราะทราบว่า มีผู้บริจาคน้อยมาก แต่พอศึกษาวิธีการแล้ว ต้องถอยค่ะ เพราะไม่ได้ง่ายเลย แถมยังมีความเสี่ยงด้วย และตัวเองก็เลือดน้อย (เคยบริจาคครั้งเดียวค่ะ ในชีวิต เพราะเหตุฉุกเฉิน เป็นเณรค่ะ หลานของเพื่อน เข้าผ่าตัดไส้ติ่งแล้วปรากฏว่าเป็นไข้เลือดออกอยู่ก่อน เกิดการเลือดออกหลังการผ่าตัด แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตค่ะ ช่วยไม่ได้) แต่ถ้าใครบริจาคได้ ก็ดีนะคะ มีคนรอความช่วยเหลืออยู่เยอะมาก เป็นโรคที่กำลังทำร้ายคนส่วนหนึ่งอยู่เงียบๆ ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ ขออภัย ที่ไม่รอตรวจสอบก่อนโพสต์ค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#5
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 04:28 PM
อนุโมทนาบุญค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 04:41 PM
เขาใช้ทฤษฎีนี้ในการสร้างตัวแปรสุ่มกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ชั้นสูง
เพื่อเป็นการหาตัวแปรที่เหมาะสมในการควบคุมกระบวนการทางวิศวกรรม นั้นๆครับ
พอนำมาใช้กับระบบ มาปรัมปรายะ
ในสังคมมนุษย์แล้วทำให้ทราบว่ากระบวนการทางการตอบสนองของคนในสังคมกลุ่มนั้นเป็นแบบใด
และจะเป็นข้อมูลในการแต่งตำราเช่น พ่อรวยสอนลูก หรือระบบเครือข่าย เป็นต้นครับ
เช่นกระบวนการดังต่อไปนี้
1. บอกว่า เป็นเรื่องของเด็กคนนึง ให้เราช่วยกันฟอร์เวิร์ด เมล์ ไปเยอะ
ยิ่งเยอะ พ่อแม่เด็กยิ่งได้เงินเยอะ
ก่อนหน้านี้ มีใครไม่รู้ ไม่ทราบชื่อ ส่งเมล์มาให้ว่า
hotmail จะเก็บเงินค่าใช้ msn แต่ให้คุณส่งเมล์ไปหาคนอื่นๆ อีก 18 คน
จะได้รับการยกเว้น
ก่อนหน้านู๊น มีผู้ใดมิรู้ ส่งเมล์มาให้ว่า ต้องการเลือดกรุ๊ป นั้น กรุ๊ปนี้
ให้ช่วยไปบริจาคกัน
ซึ่งจริงๆแล้ว ลองมาวิเคราะห์กัน ครับ....
สำหรับกรณี แรก
การฟอร์เวิร์ด เมล์เยอะ แล้ว คนนั้น คนนี้จะได้เงิน ส่วนแบ่งจากเมล์
เราลองมาคิดเล่นว่า
1.พ่อแม่เด็กจะได้เงินจากไหน
2. แล้วต่อมา เช็คยังไง
3. เมล์ล่ะ เท่าไหร่
อ่าน จากสามข้อ ดูแล้วไม่น่าสงสัยแต่ คิดกันง่ายๆ การที่ผู้ให้บริการ จะต้องมานั่ง ติดตามเมล์ฉบับ นึง
ที่วิ่งผ่านไปผ่านมา บน server นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ที่ยากเพราะ
1. เมล์ มิได้อยู่บน server เดียว เหมือนอย่างกระทู้ แต่กลับถูกส่งไป มา
เช่น hotmail ไปยาฮู เป็นต้น การที่จะปล่อยให้ ใครก็ตามมานั่ง
เขียนโปรแกรมตามเมล์ เข้าไปถึงใน server ส่วนตัวแล้ว ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เพราะทุก server ต่างก็ต้องการจะทำระบบให้ปลอดภัยที่สุด รวมทั้ง เหตุผลสำคัญทางธุรกิจอีกด้วย
2. แม้ว่า เมล์จะอยู่หรือ ส่งแค่ในระบบของ Hotmail หรือ แค่ yahoo
คุณรู้หรือไม่ว่า yahoo และ hotmail มี server หลายสิบตัวด้วยกัน
ที่ไว้รองรับ ผู้ใช้งานนับล้านคน ดังนั้น การที่วิ่งจับ อีเมล์ฉบับเดียว
เพื่อแจกเงิน นั้น หาก yahoo หรือ hotmail จะทำ แจกเงินไปเลย ง่ายกว่า เห็นๆ
3.นอกจากนี้ เมล์ เหล่านี้ บางที มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ การที่จะต้องมานั่งเขียนโปรแกรมเช็ค
ข้อความ ไทย - อังกฤษ ก็ยากแล้ว ยังไม่นับการเปลี่ยนเป็นภาษาอื่นๆ อีก
สรุป กรณี ที่แรก Game Over โกหก ชัดๆ ครับ..
.....................................................................................................................
กรณีที่สอง
คิดอันแรกง่ายๆ ตามแบบ กรณีที่ 1 คือ การที่ hotmail จะต้องมานั่ง ตามจดหมายนั้น
แม้ว่าจะอยู่ในระบบของ Hotmail เอง เป็นเรื่องที่ยาก
(ใครเคยเขียนโปรแกรมในรูปแบบ Regular Expresion จะรู้ว่ายากกกก)
โปรแกรมเมอร์ จะต้องมาเขียนนับด้วยว่า อ่า มันส่งไปกี่คน ครบ 18 หรือยัง
โอ้วมัน ยิ่งซับซ้อนไปใหญ่ แค่คิดก็จะบ้าแล้วล่ะครับ
ต่อมาคือ ที่เราเห็น มีทั้งไทย อังกฤษ เหมือนกัน ดังนั้น คงต้องเขียนโปรแกรม กันปวดหัวแน่ๆ
ประเด็นต่อมาคือ ปัจจุบัน เราจะเห็นว่า
โปรแกรมสนทนา จะมีหลายค่ายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
MSN, Yahoo messenger,google talk,skype,icq,aol,qq
(เอาแค่ตัวดังๆ ที่ผมเคยเล่นนะ)
ทุกตัวฟรีหมด ดังนั้น หาค่ายใดค่ายหนึ่ง เก็บเงิน แล้ว
เหล่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่นิยมของฟรี จะหันไปยังคู่แข่งทันที แล้วเรื่องอะไร ล่ะ
ที่ผู้ให้บริการเหล่านั้น จะยอมเสียฐานลูกค้าไป เพราะเพียงแค่ค่าโฆษณา
ก็ได้เงินมหาศาลแล้ว
สรุป กรณีที่ สอง Impossible ครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สหธรรมิก
.........................................................................................................
กรณีสุดท้าย
อันนี้ ต้องบอกก่อนว่า มิได้มีจิตใจ คับแคบ หรือ อกุศล
แต่ เคยเจอมาแล้ว ก็เลยเอามาคิดเล่นๆ ให้ดูครับผม
สมมุติว่า ผมจะต้องตายล่ะ พรุ่งนี้ ต้องใช้เลือดด่วนมากๆ ทางแรกที่ผมคิดคือ โทรหาเพื่อนๆ
พ่อ แม่ พี่น้อง อะไรก็ตามแต่ จากนั้น ถ้าจะขอตามเว็บคงจะโพสต์ขอตรงๆ ล่ะครับ
ถามว่า ทำไม ผมไม่เลือกส่งเมล์
1. การส่งเมล์ ลองคิดง่ายๆ ครับว่า ลองส่งเมล์จาก yahoo ไป hotmail แล้วจับเวลาดูครับ
อย่างน้อย 10 นาที อย่างมาก 7 วัน ดังนั้น ถ้ามันติดอยู่ตรงกลาง คือ 3 วัน ผมก็คงตายไปแล้ว
ดังนั้น ทางเลือกในการส่ง forword เมล์จึงกลายเป็นทางเลือกน้อยๆ ที่ควรไว้หลัง
2. หลายๆ ครั้งที่เราจะเห็นว่า มีฟอร์เวิร์ดมา ให้ลองอ่านเนื้อเรื่อง
กับวันที่ส่งก่อนหน้านี้ ในช่วงแรกๆ
เอาว่าดูเลยว่า คนส่งคนแรก ส่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดูวันนี้ ว่า
ส่งกันกี่วัน ถ้าเกิน 7 วัน อย่างที่บอก ผมคงตายไปแล้ว
ดังนั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องดูระยะเวลา ตั้งแต่ต้น-จนถึงวันที่ได้รับด้วย
เพราะบางครั้ง ผมยังเคยได้รับเมล์ในรูปแบบนี้ ซึ่งวันที่คนแรกส่ง
กับวันที่ผมได้รับ มันข้ามปีกันแล้วครับ
ผู้ที่ต้องการเหล่านั้น คงจะหายดีเป็นปรกติเสียแล้วกระมังครับ
3. และมีส่วนหนึ่ง ที่ผม ได้รับ ทั้งจากข้างนอก และจากในองค์กร ซึ่งในองค์กร จะมีระบุชัดเจนว่า
ใคร เป็นอะไร ที่ไหนอย่างไร และส่งภายใน ในองค์กร เอาง่ายๆ ว่ามีที่มาที่ไปแน่นอน ค่อนข้างเชื่อถือได้
ในขณะที่จากข้างนอก บอกชื่อ ที่อยู่ (ส่วนมากเป็น รพ.)
พร้อมเบอร์โทร ซึ่งเคยลองโทรไปครับ พบว่า เป็นเบอร์ที่เพื่อนเอามาแกล้งบ้าง
บางครั้งชื่อโรงพยาบาลก้อไม่ใช่
ซึ่งกรณีหลังนี่ ก้ำกึ่งมาก เหมือนกันครับว่า ฉบับไหนจริง หรือไม่จริง แยกยาก แต่ก็มีเป็นส่วนใหญ่ ที่
- แกล้งกันเอง มักจะแนบเป็นเบอร์มือถือมา ดังนั้น ควรโทรเช็ค ก่อนที่จะเสียเวลาออกไป
- แกล้งคนอื่นที่ใจบุญ มักจะให้ที่อยู่ ไม่ใช้เบอร์ ส่วนใหญ่เป็น โรงพยาบาล จึงควรโทรเช็คก่อนเช่นกัน
- ทำสนุกๆ มันส์ มักจะให้ที่อยู่ และเบอร์ 02 แนะนำให้ลองตรวจสอบเบอร์ก่อนว่า ที่นั่นที่ไหน
สรุปง่ายๆ ก็คือ ตรวจสอบก่อนที่จะลงมือออกไปช่วยเหลือ หรือ ฟอร์เวิร์ดต่อ
หลายท่านอาจจะคิดว่า Forward ไปก่อนไม่เป็นไรหรอก ไม่เสียเงินนี่
แต่ท่านลองนึกสิครับว่า ถ้าสมมติว่า ผมตั้งใจออกไปช่วยเหลือจริงๆ เสียเงินเดินทาง
เสียเวลา แต่ผลคือ ผมถูกหลอก!!! แล้วครั้งต่อไปล่ะ ผมคงคิดหนัก ก่อนที่จะทำแน่ๆ
ยิ่งกลายเป็นว่า ทำให้คนที่ถูกหลอกไม่เชื่อ อีกต่อไป
............................
ท้ายนี้ขอฝากสมาชิก DMC พิจารณาเรื่อง
หลักการแก้ไขปัญหาอย่างนี้ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพิจารณาดู คือ พระองค์ทรงตรัสสอนคนเหล่านั้นว่า
๑. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา
๒. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา(ประเพณี)
๓. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมดแล้วว่าเป็นความจริง
๔. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันมีอ้างอยู่ในปิฎก(คัมภีร์,ตำรา)
๕. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า เป็นตรรก หรือการคำนวณ
๖. อย่าได้เชื่อโดยการอนุมานเทียบเคียง หรือคาดคะเนเอาเอง
๗. อย่าได้เชื่อโดยการตรึกตรองเอาตามอาการ
๘. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า มันเข้ากันได้กับลัทธิความเชื่อ และทฤษฎีของตน
๙. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า รูปร่างลักษณะน่าเชื่อถือ
๑๐. อย่าได้เชื่อโดยเหตุสักว่า ผู้สอนเป็นครูเป็นอาจารย์ของเรา
ต่อเมื่อใดพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้วจึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น เรียกว่า กาลามสูตร หรือ เกสปุตติยสูตร หรือ เกสปุตตสูตร
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#7
โพสต์เมื่อ 19 August 2006 - 06:08 PM
#8
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 12:49 AM
...และขอเชิญชวนทุกๆท่านไปร่วมบริจาคเลือดกันนะครับ เรียกว่าอานิสงฆ์จะไปดึงดูดบุญเก่าๆที่ทำไว้ในอดีตมาส่งผลครับ...
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 07:16 PM
khun pat_nirva I rejoice in your merits kah. Sathu. I my self donate bllood as often as I can .
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#10
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 11:33 PM
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#11
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 09:12 AM
#12
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 09:22 AM
ผมจะยกตัวอย่างให้ดู
สมมติผมเป็นเจ้าของบริษัทขนาดใหญ่มาก มีตีกสำนักงานกว่า 10 แห่งกระจายทั่วกรุงเทพฯ
ผมต้องการให้ทุกสาขามีการตรวจสอบและติดตาม "คลิปหนีบกระดาษทุกชิ้น" อย่างเที่ยงตรง
ผมจะต้องรู้ว่าคลิปมีทั้งหมดกี่ชิ้น แต่ละตัวอยู่ที่ไหนบ้าง? อยู่บนโต๊ะใคร ตกอยู่บนพื้นห้องไหน?
มีกี่ตัวที่อยู่ในตู้เก็บอุปกรณ์สำนักงาน? มีใครเอาคลิปออกจากบริษัทไปใช้ส่วนตัวบ้าง?
ลองคิดดูว่าผมจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายและเวลาในการติดตามและรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เท่าไหร่?
แล้วมันคุ้มมั้ยที่จะทำแบบนั้น? สู้เอาเงินที่ต้องเสียไป ไปซื้อคลิปหนีบกระดาษใหม่ดีกว่ามั้ย?
ถ้าผมเป็นผู้บริหารที่เสนอความคิดนี้ ผมคงโดนบอร์ดเตะออกจากบริษัทข้อหาสติไม่สมประกอบแน่นอน
การติดตามอีเมลเป็นแสนๆล้านๆฉบับที่โดนส่งข้ามโลกไปมาไม่รู้กี่เที่ยว
อีเมลแต่ละที่อยู่ใน server เป็นหมื่นๆแสนๆเครื่องทั่วโลก และเป็น server ที่บริษัท A ไม่ใช่เจ้าของ
ซึ่งการจะไปตรวจสอบไม่ใช่ว่าเจ้าของ server จะให้คุณไปตรวจสอบง่ายๆ
มันยากกว่าติดตามคลิปกระดาษในสำนักงานมากนัก เหมือนดังที่คุณเถลิงเกียรติอธิบายมาให้ฟังแล้ว
ถ้าบริษัท A อยากจะบริจาคให้ครอบครัว B จริงๆ
ถามว่าเค้าเอาเงินที่จะต้องลงทุนไปทำการตรวจสอบการส่งอีเมล ไปบริจาคให้ครอบครัว B ตรงๆเลยไม่ง่ายกว่าหรอครับ?
ผมบอกได้เลยว่าการติดตามอีเมลนั้น ค่าใช้จ่ายมันเกิน XXX เซนต์ต่อฉบับแน่นอน
ถ้าบริษัทไหนทำแบบบริษัท A แล้ว เจ๊งเห็นๆ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#13
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 10:57 AM
จำจดหมายลูกโซ่แบบ ไทย ๆ ได้ไหมครับ
ถ้าท่านทำ ดังนี้ ...... ท่านจะได้ ........ ดังตัวอย่าง .......
ถ้าท่านไม่ทำตาม จะเกิด .......... ดังตัวอย่าง
ลงชื่อ พระ ........
สมัยก่อน จะเป็นการถ่ายเอกสาร หรือ จดหมาย จริง
ปัจจุบัน มักส่งกันทาง อีเมล์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ตัว server
สมมติ ขนาดของเมล์ เริ่ม จาก 20 K หลังจาก ส่งต่อกันเรื่อย ๆ ขนาดของเมล์ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สมมติ เป็น 500 K ( เพื่อความสะดวกในการคำนวน )
ส่งต่อกันอีก 50 คน ขนาดของเมล์ที่กำลังส่งไป ให้ 50 คนนี้ จะเพิ่มเป็น 50 * 500 K = 25000 K หรือ 25 M ซึ่งจะทำให้การส่งเมล์อื่น ๆ เกิดการติดขัดได้นะครับ หรือที่เรียกว่า traffic jam นะครับ
แค่นี้ ก็ทำให้คนอื่น ที่ไม่รู้อะไรเลย มีผลกระทบไปด้วย การส่งข้อมูลทางอีเมล์ขนาดนั้น อาจจะผิดพลาดได้
คราวเพิ่มเติมอีกนิด สมมติว่า เมล์นั้น มีไวรัส ด้วย แล้วบังเอิญเครื่องเราตรวจหาไม่เจอ
เราก็ส่งต่ออีก 50 คน แสดงว่า เราเองนั่นแหละ กำลังส่งอันตราย ไวรัสไปให้เพือ่น ๆ นะครับ
ดังนั้น ขออนุญาตนะครับ
อ่านแล้ว ลบทันที
หรือ ลบทันทีนะครับ
#14
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 07:01 PM
ถ้าได้รับ mail ที่ต้องการความช่วยเหลือก็ขอให้เป็น mail ที่ระบุแหล่งต้นตอที่เรารู้จักได้จริงๆ
ถ้าหากกลัวว่าจะเกิดกรณีต้องการความช่วยเหลือแล้วไม่ได้รับการช่วยเหลือ ก็ต้องสร้างทิศ 6 ให้มากขึ้น โดยการทำหน้าที่กัลยาณมิตร ให้เราไปบอกข่าวบุญเกี่ยวกับวัดให้เยอะๆ แค่นี้เราก็จะมีคนรู้จักมากขึ้น เมื่อต้องการความช่วยเหลือก็จะได้รับทันท่วงทีค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 11:41 AM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#16
โพสต์เมื่อ 11 October 2006 - 10:02 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี