เค้าพูดอะไรกันเหรอค่ะ?
#1
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 11:37 AM
#2
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 11:50 AM
หลังบูชาแล้วก็จะกล่าวว่า "เสสัง มังคลัง ยาจามิ"
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#3
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 01:29 PM
เวลาที่ท่านจะฉันภัตตาหารท่านจะสวด "ยะถา ปัจญัง..." เป็นการระลึกว่าภัตตาหารที่เราได้มาฉันได้มาด้วยญาติโยม
ฉันแล้วจะนำกำลังไปช่วยเหลือพระพุทธศาสนา จะได้ไม่เป็นหนี้โยม
ส่วนโยมก็ให้พิจารณาว่า เรากินข้าวแล้วเราจะทำกำลังที่ได้ไปทำความดี ไม่ทำบาป รักษาศีลให้บริสุทธ์ ก่อนกินข้าว
ก็ตรึกดวงแก้วก่อนกิน หรือ กินไปตรึกไป... ก็น่าจะwork นะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 01:38 PM
ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่อาว ไม่พูด
( และไม่เข้าพันทิพด้วย ดิฉันอินทรีย์ยังอ่อนนนนนนนน)
#5
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:36 PM
น้าจี้
#6
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:41 PM
หมายถึงเวลาตัวเราเองจะทานอาหาร ข้าวปลา ที่คนอื่นทำให้นะคะ...เหมือนเราไปวัด แล้วไปรับอาหารแจกของวัด...ก่อนที่เราจะรับประทานอาหาร/หลังรับประทานอาหาร(เห็นเค้ายกมือไหว้ ยกมือท่วมหัวบ้าง)นั้นเค้ากล่าวแบบที่คุณนิ่งๆนุ่มๆ + น้องOmena บอกใช่มั๊ยค่ะ แต่ก็เคยถามคุณป้าคนหนึ่งครั้งหนึ่งเค้าบอกว่าอุทิศบุญให้กับคนทำกับข้าวค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 02:52 PM
#8
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 03:12 PM
ส่วนที่พระสงฆ์ท่านสวดก่อนฉัน เรียกว่า การพิจารณาอาหารครับ ยาถาปัจยัง ปวัตมานัง ธาตุมัตเมเวตัง..... คือการพิจารณาอาหารว่า สิ่งทั้งหลายนี้ เป็นเพียงสิ่งที่นำมาเพื่อยังชีพ พอนำเข้ามาในร่างกายก็กลายเป็นสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น ให้มีสติ ไม่ให้หลงติดกับ รสชาด ของอาหารเหล่านั้น ฉันเพื่อให้มีกำลัง มาเรียนธรรมะ ปฏิบัติธรรม เพื่อนำมาเผยแพร่ให้กับสาธุชนสืบไปครับ
สาธุ
#9
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 03:14 PM
#10
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 04:57 PM
ส่วนจะเป็นการขอบคุณอะไรนั้น ผมว่าได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากศาสนาอื่น
#11
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 05:21 PM
#12
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 08:04 PM
#13
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 08:19 PM
ศาสนาพุทธกับพราหมณ์ในประเทศไทยนั้น ตั้งแต่อดีต มีการปนเปกันทางพิธีกรรมอยู่แล้วครับ และคนไทยสมัยก่อน จะเชื่อว่า มี เจ้าแม่โพสพ ซึ่งก็คือ เทพที่ประทานข้าวปลาอาหาร ความอุดมสมบูรณ์แก่พื้นดิน ดังนั้น คนสมัยก่อนจึงทำการขอบคุณเจ้าแม่โพสพที่ประทานความอุดมสมบูรณ์ให้พวกเขามีข้าวปลาอาหารกินไงครับ จะว่าไปก็เหมือนกับพิธีลอยกระทง ที่เป็นการขอบคุณพระแม่คงคา ที่ดูแลรักษาแม่น้ำลำคลองครับ
อย่างไรก็ดี เรามีกุศโลบายง่ายๆ ที่จะให้ได้บุญจากการกระทำทั้ง 2 อย่างโดย
1) การยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าแม่โพสพ เราก็ทำการบูชาข้าวพระพุทธแบบขอถึง ไงครับ มีจิตคิดบูชาพระพุทธองค์ด้วยไทยธรรมข้าวปลาอาหาร ก็ได้บุญแล้วครับ
2) การลอยกระทง แทนที่จะคิดว่าขอบคุณพระแม่คงคา เราก็ทำประหนึ่งว่าลอยกระทง เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำยมุนา ไงครับ (ชื่อแม่น้ำนี้หรือป่าว ไม่ชัวร์ครับ)
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 08:26 PM
ตรึกเอาอาหารตรงหน้าไว้ที่ศูนย์กลางกาย
เป็นวิธีหนึ่งในการเอาใจจรดไว้กับที่ด้วยค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 24 August 2006 - 10:36 PM
เป็นฆราวาสก็นึกพิจารณาเอาในใจนีกแบบสั้นๆกระชับๆ กินแบบไม่เป็นหนี้
โยมก็กล่าว เสสัง ฯ หรือบางกรณี ไปกินในร้านอาหารหรือตามเหลา ก็เอาแค่นิ่งนึกในใจครู่นึง โดยลืมตา
ไม่ต้องหลับตานึกครบสูตรเหมือนตอนอบรมหรือตอนมาวัด
กลืนข้าวไป ทำใจใสๆ ไปด้วย นึกถึงดวงกลางท้องไปด้วย
กินข้าวแล้วเข้าถึงธรรมกับทุกคนเลยนะคะ
#16
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 01:16 AM
#17
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:14 AM
คนเดียวต้องเปลี่ยน"มะ"เป็น"มิ"ค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#18
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 08:55 AM
#19
โพสต์เมื่อ 26 August 2006 - 10:17 PM
#20
โพสต์เมื่อ 09 October 2006 - 08:47 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี