ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

รบกวนถามนะครับ อยากขอความเห็นจากทุกท่าน เรื่องความรัก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 26 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 11:10 AM

อยากถามว่าหากเกิดมีความรัก หรือฝ่ายชายเกิดชื่นชอบฝ่ายหญิงในวัด จะมีบาปหรืออกุศลจิตติดตัวไหมครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า เริ่มแรกผมเคยเจอน้องผู้หญิงคนหนึ่งในงานบุญเวียนเทียนรอบมหาธรรมกายเจดีย์ เธอเป็นอาสาสมัครน่ะครับ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรแต่ก็มีความคิดเหมือนคนธรรมดาอยู่บ้างนั่นก็คือมีความสนใจน้องเขานิดหน่อย แล้วหลังจากวันนั้นผมก้ไม่ได้เจอน้องเขาอีก ต่อมาเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ผมได้ไปปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ หลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จกลับมาถึงวัดร่วมงานบุญบวชพระ590รูปต่อ ผมก็ได้บังเอิญเจอน้องเขาอีก เจอคราวนี้ต้องยอมรับอย่างลูกผู้ชายครับว่าไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกชื่นชอบน้องเขามากขึ้น แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากมาย และเนื่องจากผมพึ่งกลับจากปฏิบัติธรรม ผมจึงยังมีความสุขกับการได้ปฏิบัติธรรมอยู่ และเพื่อให้ได้บุญเต็มที่ผมจึงตรึกนึกถึงองค์พระอยู่ตลอด แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด อยู่ดีๆใบหน้าของน้องเขาก็มาปรากฏซ้อนทับองค์พระของผมเอาซะอย่างนั้น และทำให้ผมรู้สึกอยากเห็นหน้าน้องเขาอีก แต่ตอนนั้นผมทำใจอยู่เหมือนกันครับ เพราะคิดว่ายังไงคงไม่ได้เจออีกแน่เพราะที่วัดก็ออกจะกว้างแถมตอนนั้นคนก็เยอะร่วมหมื่นคง คงยากที่จะหาใครสักคนเจอ อีกประการตอนที่เจอกันครั้งก่อนผมก็มีมองหาน้องเขาแต่ก็หาไม่เจอเพราะคนเยอะเหมือนกับครั้งนี้ ท่านที่เคยหาใครสักคนในวัดน่าจะทราบดี ขณะนั้นผมก็ได้แต่นึกในใจว่าอยากเจอน้องคนนั้นอีก แต่ก็ตรึกนึกถึงองค์พระไปด้วย และเมื่อพิธีเริ่มขึ้น ผมก็เดินไปที่มหาวิหารคตเพื่อไปร่วมเดินในขบวนด้วย เจ้ากรรม ohmy.gif ผมได้เจอน้องคนนั้นอีก แล้วน้องเขาก็ส่งถุงใส่รองเท้ากับพลาสติกรองนั่งให้ผม ผมเห็นน้องเขากำลังทำหน้าที่อยู่เลยไม่อยากไปกวนเขา และเมื่อพิธีเริ่ม ผมก็ร่วมเดินประทักษิณ ใจก็พยายามตรึกนึกถึงองค์พระ แต่ก็ไม่วายคิดอยากเจอน้องเขาอีก เดินไปถึงครึ่งรอบบริเวณด้านหลังเจดีย์ เจ้ากรรมอีกแล้วครับ - -ล ผมเห็นน้องเขายืนอยู่รอบนอกของขบวน(คิดในใจ อะไรดลใจให้เจออีกเนี่ย - -" )

หลังจากเดินประทักษิณเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับไปที่ทางเข้าวิหารคดเพื่อหาที่นั่ง กรรมอีกแล้ว ผมเห็นน้องเขาเดินมากับอาสาสมัครอีกคน ตามหลังผมมา ( - - อะไรจะเป็นใจให้ผมขนาดน้าน ) เมื่อถึงทางเข้ามาหารวิหาร ผมเห็นน้องเขาจัดการเก็บเพชรเก็บพลอยแถวนั้นอยู่ และเดินหิ้วถุงใบใหญ่กับอาสาสมัครอีกคน ดูแล้วลำบากมาก ผมเลยเข้าไปเพื่อช่วยน้องเขาถือ แต่ - - เดินมาได้สักพักผมเจอคุณแม่ผมท่านไปร่วมงานด้วย ผมเลยต้องแวะคุยกับท่าน น้องเขาก็เลยต้องถือถุงเดินกลับมากันเอง หลังจากผมคุยกับคุณแม่ผมเสร็จ ผมก็คิดในใจว่าจะหาน้องเขาเพื่อขอโทษที่ไม่ได้ช่วยถือถุงมาให้ถึงที่ แต่ก็ไม่ได้เจอกันผมจึงเดินกลับที่รถของผมที่จอดทิ้งไว้เพื่อทานข้าวเช้า และทำกิจธุระของตัวเอง ใจก็ตรึกนึกถึงองค์พระอยู่ตลอด แต่ก็ไม่วายครับ - -" แทนที่จะนึกภาวนาสัมมาอะระหัง ผมกลับนึกแต่ อยากเจอน้องคนนั้นอีกครั้งๆๆๆๆ หลังจากทำกิจของผมเสร็จผมจึงไปหาคุณแม่ผม เพื่อร่วมถวายผ้าไตรกับคุณแม่ เมื่อพิธีเริ่ม เชื่อไหมครับ ผมได้เจอน้องคนนั้นอีก เพราะน้องเขามานั่งร่วมถวายผ้าไตรใกล้ๆกับจุดที่คุณแม่ผมนั่งอยู่ ( - - อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ )

ขอยอมรับอย่างลูกผู้ชายนะครับ ผมเริ่มเกิดความรักกับน้องเขาตั้งแต่วันนั้นมา ในใจนึกถึงแต่หน้าน้องเขาอยู่ตลอด แต่ความรู้สึกของผมมันไม่ใช่ความรักเหมือนหนุ่มสาวทั่วไปนะครับ เพราะถ้าเป็นความรักทั่วไปมักจะมีเรื่องกามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ชวนไปเที่ยวไปดูหนังด้วยกันทำนองนี้ใช่ไหมครับ แต่ผมกลับรู้สึกกับน้องเขาอีกแบบ แทนที่อยากจะชวนไปเที่ยวไปทานข้าวด้วยกันเหมือนหนุ่มสาวคนอื่น แต่ผมกลับอยากชวนน้องเขาไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน หากผมได้มีโอกาสไปอีกครั้ง ยังมีความคิดอยู่ว่าถ้าได้เจอน้องเขาอีกครั้งก็จะเอ่ยปากชวนน้องเขา ส่วนเรื่องกามารมณ์เหมือนกับหนุ่มสาวคนอื่นๆแทบจะไม่มีอยู่ในหัวผมเลยครับ คิดอย่างเดียวว่าถ้าเจอจะชวนไปปฏิบัติธรรมด้วยกันให้ได้ ถึงขนาดที่ว่าให้เพื่อนผมจองคิวไปปฏิบัติธรรมเผื่อไว้ให้เลยทีเดียวน่ะครับ

เรื่องผมอาจจะยาวไปสักนิด คิดเสียว่าเป็นเรื่องเล่าเพื่อความสนุกให้ผ่อนคลายแล้วกันนะครับ แต่ก็อยากถามความเห็นจากทุกท่านว่า เพราะอะไรทำไมผมถึงได้คิดอยากไปปฏิบัติธรรมกับน้องเขา แล้วถ้าผมเจอน้องเขาอีกผมควรจะชวนน้องเขาไหมครับ แล้วจะผิดหรือบาปไหมถ้าผมเกิดความรักขึ้นมาในบริเวนวัด

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#2 BiBi

BiBi
  • Members
  • 240 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 11:37 AM

wink.gif เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ

เรื่องนี่คุณยาย เข้มงวดมากนะค่ะ สมัยยุคแรก ๆ คุณยายสอนว่า "นักสร้างบารมี มักจะเสียกันเรื่องนี่มาก" คุณอย่าไปพาดสะพานให้น้องเค้าเลยค่ะ
ให้เค้าทำหน้าทีของเค้าดีกว่านะค่ะ ถ้าใกล้ชิดกันแล้วจะเลิกยากนะค่ะ
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี

#3 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 11:45 AM

QUOTE
เพราะอะไรทำไมผมถึงได้คิดอยากไปปฏิบัติธรรมกับน้องเขา แล้วถ้าผมเจอน้องเขาอีกผมควรจะชวนน้องเขาไหมครับ แล้วจะผิดหรือบาปไหมถ้าผมเกิดความรักขึ้นมาในบริเวนวัด

ผมไม่ขอตอบนะครับ แต่ขอถามกลับให้คิดกลับว่า

1) ทำไมต้องไปปฎิบัติธรรมกับเค้า เจตนาบริสุทธิ์ หรือ เจตนาแอบแฝง ผมว่า คุณคงจะมีคำตอบในใจอยู่แล้ว
2) ถ้าสมมุติไปนั่งด้วยกันจริง คุณจะมีสมาธิหรือป่าวครับ หรือว่า ยิ่งฟุ้งซ่านไปกันใหญ่
3) ถ้าเกิดคุณแสดงความรู้สึกออกไป แล้วน้องเค้าไม่เล่นด้วยกับคุณ เจอกันในวัดคราวต่อๆไป คุณจะทำอย่างไร
4) สมมุติว่าน้องเค้าเล่นด้วยกับคุณ แล้วเกิดไปกันไม่รอด จะมีใครสักฝ่ายที่ไม่อยากมาวัดอีกต่อไป เพราะเข้าหน้ากันไม่ติดหรือไม่

ฝากลองไปคิดทบทวนเป็นการบ้านนะครับ

สำหรับการพบหน้ากันในวัดนั้น ผมว่าเป็นเรื่องปกติ ผมก็เจอคนที่อยากเจอบ่อยๆ ทั้งๆ ที่มีคนเป็นหมื่นเป็นแสนครับ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#4 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 12:31 PM

รักเอยจริงหรือที่ว่าหวาน
หรือทรมานใจคน
ความรักร้อยเล่ห์กล
รักเอยลวงล่อใจคน
หลอกจนตายใจ.........

มันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ
แรกๆดูชุ่มฉำกระชุ่มกระชวยทำให้หลงไหล
แต่พอสุดท้ายก็เท่านั้นเอง.......
เหมือนยาพิษเคลือบน้ำผึ้ง
ตอนนี้ยังหวานฉ่ำน่าลิ้มลองเพราะรสชาดของน้ำผึ้ง
แต่พอน้ำผึ้งหมดแล้วเจอของจริง
คือยาพิษล้วนๆ
ผมได้อ่านหนังสือของหลวงพ่อทัตตะท่านเล่าก่อนที่ท่านจะบวช
ว่าท่านเจอเรื่องพวกนี้แล้วท่านทำอย่างไร (รายละเอียดไปหาอ่านดูนะ)
สรุปว่าท่านก็เป็นเหมือนกันแต่ใช้วิธีนึกถึงอสุภะคือนึกถึงกบที่ถูกถลกหนัง
หญิงต่อจะให้งามแค่ไหนพอถูกถลกหนังก็คงไม่ต่างอะไรกับกบ
วันแรกๆที่เจอก็ทำเอาแทบแย่เพราะเจอยิ้มหวานๆพูดเพราะๆ
แต่พอสองวันสามวันก็หาย

มันอยู่ที่ว่าคุณมีเป้าหมายอย่างไร
หากมั่นคงที่จะบวชก็ต้องฝึกครับ
หากัลยาณมิครครับ
เพราะกัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์
สตรีครับหากไม่จำเป็นอย่ามอง
หากจำเป็นต้องมองอย่าพูดด้วย
หากจำเป็นต้องพูดด้วยให้พูดน้อยที่สุดเอาแต่เฉพาะธุระ
ดีที่สุดห่างได้ห่างเลยครับ

อยู่ที่วัดเวลางานบุญนี่ก็มีทั้งหนุ่ม-สาว วัยกลางคนและวัยชรา
ผมว่ามันทำให้เรามองเห็นนะมองดูยายแก่ๆที่มาวัดแล้วหันไปมองสาวๆน้องๆที่มาวัด
อีกไม่กี่ปีน้องเขาก็คงเป็นเหมือนยายแก่ๆ
ไม่สดใสเหมือนเดิมแล้ว.....คงรักไม่ลงแล้วสิครับ
ไม่กี่ปีเอง 10 ปี 15 ปี ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ยิ่งมีลูกแล้วหมดเลย........หมดสวยเลย
อย่าตกในบ่วงมารนะครับ
อย่าหลงกลเขา
เศร้าแน่ๆ.........ทุกข์แน่นอน.......ฟันธง
สวดมนต์ทำวัตรเช้าไงครับ
โสกะปริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา, อัปปิเยหิสัมปะโยโคทุกโข ปิเยหิ วิปปะโยโคทุกโข, ยัมปิจฉังนะละภะติ ตัมปิทุกขัง, สังขิตเตนะปัญจุปาทานักขันธาทุกขา, เสยยะถีทัง, รูปูปาทานักขันโธ,เวทะนูปาทานักขันโธ, สัญญูปาทานักขันโธ,สังขารูปาทานักขันโธ.............
แปลว่า
แม้ความโศกความร่ำไรรำพัน ความไสบายกายความไม่สบายใจก็เป็นทุกข์
ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์
ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจก็เป็นทุกข์
มีความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์
ว่าโดยย่อแล้วอุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ นั่นเองเป็นตัวทุกข์
ขันธ์ ๕ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นได้แก่สิ่งเหล่านี้
คือ ๑.รูป ๒.เวทนา ๓.สัญญา ๔.สังขาร ๕.วิญญาณ...............

ตอนนี้เห็นรูปน้องเขาสวยหรืออาจไม่สวยแต่เราพอใจเห็นท่าทางกิริยาที่น่าพอใจน่าหลงไหลแล้วอยากไปพูดคุยไปทำความรู้จัก
มันเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของความรัก
ความรักเกิดขึ้น
ความรักดำเนินต่อไป........(ตั้งอยู่)
สุดท้ายความรักเสื่อมสลายไป
เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์
ถ้าสลายไปพร้อมกันก็แล้วไป
ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดรักก่อนก็.........เศร้า
แต่ถ้ารักเขาแล้วเขาไม่รักก็ทุกข์อีก
แม้รักกันแล้วทั้งสองก็ยังทุกข์เพราะขันธ์ ๕ ของแต่ละฝ่าย
ห่วง หวง หึง
คิดถึงก็ทุกข์
อยากเห็นไม่เห็นก็ทุกข์
เห็นเธออยู่กับคนอื่นก็ทุกข์
เธอไม่สบายก็ทุกข์
เธอเสียใจก็ทุกข์
คิดว่าเธอไม่รักก็ทุกข์
หากต่อไปมีลูกเพิ่มมาอีกขันธ์ ๕ เป็น ๑๕ เพิ่มไปเรื่อยๆ มากคนก็มากทุกข์

แต่ถ้าทนไม่ไหวคือ
ทนต่อแรงกระตุ้นภายในและสิ่งเร้าใจภายนอกไม่ไหว
ก็ต้องเจอกับที่บอกมานี่แหละครับ..........ทุกข์มากสุขน้อย

สู้ครับสู้ไปพร้อมกันผมก็กำลังสู้กับสิ่งเหล่านี้อยูเหมือนกัน
รู้ว่ามันยากแต่ก็ต้องสู้.........จึงจะชนะ


ครูบาอาจารย์เราไม่สนับสนุนเรื่องพวกนี้นะครับ ในกรณีที่ยังไม่มีครอบครัว
มีแต่จะส่งเสริมให้เราประพฤติพรหมจรรย์








#5 arraya

arraya
  • Members
  • 298 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 01:17 PM

คุณเคยมาวัด อาจจะเคยเป็นญาติพี่น้อง หรือเพื่อนสหธรรมิกกันมา เลยรู้สึกคุ้นเคยกับน้องคนนั้นมาก
แต่ ปัจจุบันชาติ มันเปลี่ยนไปแล้ว อ่านดูแล้วมีแนวโน้มสูงที่เหตุการณ์จะเตลิดไปมากกว่าที่คุณคิด ( เคยมี case study ที่ชาติก่อนเป็นเพื่อนนักรบด้วยกัน แต่ชาตืนี้มาเป็นแฟนกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หลวงพี่ท่านตัดใจออกบวชก่อน )
เห็นด้วยกับท่านอื่นๆค่ะ หันมาสนใจการปฏิบัติธรรมดีกว่า ส่วนเรื่องน้องคนนี้ ก็ให้คิดว่าเป็นหมู่คณะที่มาวัด และสร้างบารมีไปด้วยกันดีกว่ามั้ยคะ

#6 น้อมเศียรเกล้า

น้อมเศียรเกล้า
  • Members
  • 365 โพสต์
  • Location:ถ.ลาดพร้าว
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย การรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ <br />รำนาฏศิลป์ เล่นดนตรีไทย เล่นดนตรีสากล

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 01:35 PM

เห็นใจคนมีความรักจริงๆค่ะ... จริงๆแล้วดิฉันเห็นว่าน้องเค้ามีโอกาสที่ดี ที่จะได้ประพฤติพรหมจรรย์ และการประพฤติพรหมจรรย์ถือเป็นการทำความทุกข์ให้เบาบางไปอีกขั้น ไม่มีอะไรที่จะมีความสุขมากไปกว่าเพศพรหมจรรย์ ที่มีความเป็นอิสระทางใจสูง

พระตถาคตเจ้าท่านสรรเสริญชีวิตพรหมจรรย์ ครูบาอาจารย์ท่านก็สรรเสริญชีวิตพรหมจรรย์ค่ะ การที่จะรักใครไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะทุกอย่างก็ต้องขึ้นกับน้องเค้าด้วย

แต่ถ้าจะรัก เลือกรักแบบพระอริยเจ้า รักแบบพระสาวกสาวิกา แบบกัลยาณมิตร ที่ไม่มีกิเลส ไม่มีความถือยึดมาเกี่ยวข้อง จะมีความสุขมากกว่า

ความรัก เวลารักก็รักมาก แต่เดี๋ยวก็หน่ายกัน ไม่จีรัง.....

ขอความเป็นมหามงคลอันสูงสุดจงสำเร็จแต่คุณและน้องท่านนั้นทุกประการ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยประทานพรค่ะ

#7 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 01:48 PM

สาธุ ขอขอบคุณ และอนุโมทนากับทุกคว่ามเห็นครับ แต่ผมว่า
ไม่น่าจะเสียหายที่จะรู้จักพูดคุยกันแต่จะเป็นอยางไรต่อไปก็อยู่
ที่บุญจัดสรรครับ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 01:58 PM

ขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมออกความเห็น ที่เขาว่ากันว่าความรักทำให้คนตาบอดดูเหมือนจะจริง เพราะเพียงแค่ผมมีความรู้สึกชื่นชอบน้องเขาถึงกลับทำให้ผมลืมคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยเตือนสติ ทำให้ผมได้คิดขึ้นมา

ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพียงเพราะผมเอะใจ แครงใจในความคิดของตัวเองเพียงเท่านั้นน่ะครับ เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ยังเป็นคนธรรมดา ย่อมต้องมีกิเลศตัณหาอยู่ในใจ และเวลาที่ผมเจอผู้หญิงทั่วไป ผมก็จะชอบมองแบบชายชอบหญิงหรือหญิงชอบชาย แต่กับน้องเขาแทนที่ผมจะมีความนึกคิดเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่ผมกลับคิดไปในอีกแบบหนึ่ง คือไม่ได้นึกชอบเหมือนที่ชายหญิงชอบกัน แต่ความคิดหนึ่งที่พรุดขึ้นมาในหัวคืออยากชวนน้องเขาไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน ความคิดอื่นไม่ได้มีแอบแฝงแม้แต่น้อย มีความคิดที่ว่า อืม ถ้าได้เห็นน้องเขาปฏิบัติธรรมคงจะดีนะ เหมือนกับเมื่อครั้งที่ผมตัดสินใจคิดอยากชวนเพื่อนเข้าวัดน่ะครับ ท่านที่เคยชวนคนอื่นเข้าวัดคิดว่าน่าจะจำความรู้สึกของการตัดสินใจชวนคนอื่นเข้าวัดในครั้งแรกได้ดีนะครับ

ผมแปลกใจตัวเองตรงนี้มากกว่าน่ะครับว่าเพราะอะไรทำไมไม่คิดเหมือนกับหนุ่มสาวคนอื่น แต่มีความคิดเหมือนกับคนที่อยากชวนคนอื่นเข้าวัดน่ะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 marissa

marissa
  • Members
  • 82 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 02:04 PM

โอ๋ ความรักนั้น ต้องระวังนะค่ะ

#10 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 05:25 PM

เห็นสักแต่ว่าเห็น อย่าคิดเข้าข้างตัวเองครับ มันมีเหตุผลฟังขึ้นทั้งนั้นแหละครับเรื่องพวกนี้ ตอนนี้มันแค่นี้ แต่ถ้าเราปล่อยใจไปตามอารมณ์ต่อไป มันก็จะมีเหตุผลมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะทำให้เรายุ่งยากมากกว่านี้ แล้วจะต้องมารู้สึกเสียใจภายหลัง เพศหญิงเพศชายเหมือนกับแม่เหล็กขั้วบวกลบ ถ้าไม่รักษาระยะห่าง ไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางความสัมพันธ์ มันก็อันตรายครับ เป็นข้าศึกของพรหมจรรย์ สมัยก่อนมีภิกษุรูปหนึ่งคิดถึงนางสิริมาจนไม่เป็นอันกินอันนอน แล้วก็เป็นทำนองนี้แหละครับ คือในใจเฝ้าครุ่นคิดถึงแต่นางสิริมา แล้วก็คิดเองเออเองว่าบังเอิญเจออีกแล้ว ที่จริงเราเจอคนตั้งมากมายแต่เราไม่ได้สนใจคนอื่น อาจจะมีบางคนที่เราเจอมากกว่าคนนี้ก็ได้ อย่างเช่น คุณครูไม่ใหญ่ ผมบังเอิญเจอท่านแทบทุกวันใน DMC วัน ๆ เฝ้าคิดถึงองค์พระ อยากจะเห็นท่านน่ะครับ อย่างนี้คนอื่นก็จะไม่มีที่ให้อยู่ในใจเรา พบพระแล้วดีกว่าพบน้องนางเยอะครับ สุดท้ายพระภิกษุรูปนั้นก็คลายความเสน่หาในตัวนางสิริมา เพราะเห็นสภาพขึ้นอืดของซากศพนางสิริมาแล้วแม้ให้ฟรีก็ไม่มีใครต้องการครับ

#11 PICHITCHAI

PICHITCHAI
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 05:46 PM

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ได้เจอเรื่องราวเหล่านี้และได้ฟังคำสอน แล้วผมยึดเป็นหลักคิดในการประคองตนเองไม่ให้เผลอใจในเรื่องนี้ ดังนี้

1.ถามตัวเองว่าเราก่อนเรามาเกิดเรามีเป้าหมายอะไร เราต้องการมาสร้างบารมีหรือต้องการมามีครอบครัว และการมีครอบครัวเราผ่านมาแล้วไม่รู้กี่ชาติไม่ใช่ไม่เคยยังไม่เบื่ออีกหรือกับการครองเรือน
2.ผู้หญิงที่มาเข้าวัดและเป็นเจ้าหน้าที่ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเกิดเป็นชายโดยเร็วซึ่งแนวทางก็คือการประพฤติพรหมจรรย์ ถ้าเราเข้าไปยุ่งกับเข้าจะเท่ากับเป็นการขวางเป้าหมายการประพฤติพรหมจรรย์ของเข้านะ
3.เราทุกคนคือพี่น้องท้องเดียวกันครับ

#12 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 07:55 PM

ไม่รู้เป็นอะไรนึกถืงท่อนนึงของเพลงปั่นขึ้นมาทันที
(โพสได้รึเปล่าเนี่ย วันนี้ศีล 8 ซะด้วย หยวนๆละกันถือว่าไม่ได้ร้องแต่พิมพ์มาให้แทน)

"กุหลาบที่สวยงาม ยังซ่อนหนามคม
มีรักมีขื่นขมปนกันไป

หากคิดที่จะรักใคร
ต้องพร้อมที่จะเสียใจ

เพราะมันมาด้วยกัน ..."
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#13 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 08:08 PM

กระทู้นี้สนุกดีครับ ผ่อนคลายๆ อิอิ
ถ้าเป็นบุพเพอาละวาด เด่วก็คงเลิกแล้วกันไปเองนั้นละ

ส่วนถ้าเป็นบุพเพสันนิวาสละก็
อันนี้ก็ต้องแล้วแต่เวรแต่กรรมละครับ 555

ไม่ผิดหรอก ที่จะรักใครสักคนหนะ ก็มันห้ามกันไม่ได้เนาะครับ เรื่องนี้
พิจารณาอสุภบ่อยๆก็คงดีนะครับ^^ อาจจะข่มได้บ้าง
-------------------------------------------------
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#14 สายธารธรรม

สายธารธรรม
  • Members
  • 125 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 08:15 PM

ตัดใจเถอะค่ะ น้องเค้าเป็นอาสาสมัครอยู่แล้ว ถึงคุณไม่ชวนเค้าก็คงไปปฏิบัติธรรมเองอยู่แล้ว ฉะนั้นอย่าไปชวนเค้าเลยค่ะ

เข้าวัดแล้วตั้งใจสั่งสมบุญดีกว่านะคะ
บุญเป็นพลังแห่งความบริสุทธิ์

ที่จะบันดาลให้เกิดความสุข ความสำเร็จในชีวิตในทุกๆระดับ

#15 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 08:17 PM

QUOTE
พิจารณาอสุภบ่อยๆก็คงดีนะครับ^^ อาจจะข่มได้บ้าง

nerd_smile.gif http://www.kmitl.ac....umma/asupa.html happy.gif
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#16 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 08:55 PM

ความรักหนอ

ความรักความรักเจ้าขา อยุ่ๆก็มาไม่ทันตั้งตัว ...........
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#17 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 August 2006 - 09:20 PM

happy.gif happy.gif happy.gif อ่านไปก็ขำๆไปนะคะ ขอบคุณค่ะที่ทำให้นั่งยิ้มกับจอคอมพิวเตอร์ได้

อย่าไปยุ่งกับน้องเขาเลยค่ะ แอบมองอยู่ห่างๆก็พอถ้ายังตัดใจไม่ได้

#18 บีบีน้อย

บีบีน้อย
  • Members
  • 116 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 12:57 AM


เห็นสิ่งสวยงาม เป็นใครก็ต้องอยากมองอยากชมเป็นธรรมดาค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่ามันไม่จีรัง ยึดติดกับมันก็จะฟุ้งซ่านเปล่าๆค่ะ สร้างบารมีกันดีกว่าค่ะ


#19 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 01:09 AM

เอาล่ะสิ ชักจะยุ่ง!

แนะนำให้ไปหาหนังสือ "เล่าเรื่องยาย" ที่เขียนโดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว มาอ่านครับ เนื้อหาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การฝึกตัวของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะฯ สมัยเป็นฆราวาสก่อนบวช จนกระทั่งรอดปากเหยี่ยวปากกา จนมาบวชได้ ในหนังสือนั้น จะมีคำสอนของคุณยายอาจารย์อยู่มากมาย ซึ่งให้ข้อคิดและเตือนสติได้เป็นอย่างดี ลองไปหาอ่านดูนะครับ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#20 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 02:25 AM

อย่านะคะ
ชวนไปปฏิบัติธรรมกับอีกเพศเป็นเรื่องไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ว่าน้องนี่อายุเท่าไหร่คะ พ้นการปกครองของพ่อแม่หรือยังคะ
แล้วที่เข้าไปช่วยยกนี่ไม่ได้ถูกตัวกันนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ถ้าคุณยายอยู่นี่ตายค่ะ ท่านไม่ให้เด็ดขาดเลย

เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#21 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 09:34 AM

เงอะงะๆ เหอะๆๆ ดีใจที่ทำให้หลายๆท่านได้มีรอยยิ้ม แม้นเรื่องที่ผมเอามาเล่าสู่กันฟังอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสมควร แต่จากประสบการณ์ชีวิตทำให้คิดว่าหลายๆคนเมื่อได้อ่านหรือได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องความรักแล้วมักจะมีรอยยิ้มที่เบิกบานเมื่อได้ฟังเรื่องความรักแบบนี้ ซึ่งเท่าที่ผมสังเกตุดูแม้แต่คุณครูไม่ใหญ่เมื่อได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้คุณครูไม่ใหญ่ท่านเองก็ยังอดขำไม่ได้ ทำให้ท่านได้มีรอยยิ้มแม้นจะเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับท่าน เลยคิดว่าลองเอาเรื่องของผมมาลงปรึกษาพี่ๆดูดู ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง2ตัวเลยนะครับเนี่ย เหอะๆๆ

นัดแรก ได้ตาสว่างจากความคิดเห็นหลายๆท่าน หลังจากที่มารจิตใจมาผจญทำให้ดวงตามืดบอดไป หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นของทุกท่านได้ผลจริงๆครับ เมื่อวานผมนั่งสมาธิก่อนนอนตรึกนึกถึงแต่องค์พระอย่างเดียวเลย หน้าน้องเขาหายไปจากใจเลยครับ หลังจากที่หน้าน้องเขามาบังองค์พระอยู่เสียหลายวัน เหอะๆๆ ขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ

นัดที่2 ได้ทำให้หลายๆท่านที่ได้เข้ามาอ่าน ได้รอยยิ้ม ซึ่งบางคนอาจจะยิ้มเยาะความคิดผม บางคนยิ้มเพราะตลกขำกับเรื่องราวของผม ก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ให้ทุกท่านได้มีรอยยิ้มผมก็ชื่นใจครับ

ยิ้มกันเข้าไว้นะครับทุกท่าน ยิ้มแล้วรวยๆๆๆ

ส่วนเรื่องน้องเขาผมไม่คิดอะไรมากแล้วครับ เพราะผมเองก็ได้บทเรียนจากความรักถึงขั้นเข็ดขยาด ทำให้ไม่คิดที่จะหาเรื่องใส่ตัวอีก เบื่อหน่ายเรื่องความรักไปเลยน่ะครับ ขอเตือนทุกท่านอีกสักนิดสำหรับท่านใหม่ๆที่พึ่งเข้ามาศึกษาในบอร์ดนี้ อย่าคิดว่ามีความรักแล้วจะมีความสุขนะครับ ถ้าคิดจะมีความรัก ก็เหมือนกับคือย่างก้าวเข้าสู่นรกบนดินดีๆนี่เองครับ เมื่อย่างก้าวเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นออกมาได้ ต้องให้หมดกรรมบนโลกก่อนถึงจะหลุดพ้นจากนรกบนดินนี้ได้ เหมือนนรกของจริงไม่มีผิด ขอเปรียบเทียบให้ฟังดังนี้นะครับ ที่ว่าเหมือนนรกจริงๆยังไง

ฝ่ายชายก็เหมือนเป็นนายนิริยบาลของฝ่ายหญิง ท่านหญิงบางคนมีกรรมหนักหน่อยก็จะถูกฝ่ายชายกดขี่ข่มแหงรังแก มีกรรมเบาลงมาหน่อยก็ถูกฝ่ายชายทำร้ายจิตใจ มีกรรมเบาลงมาอีกนิดก็ถูกฝ่ายชายเมินเฉยไม่เหลียวแล ฉันใดฉันนั้น ฝ่ายหญิงก็เหมือนเป็นนายนิริยบาลของฝ่ายชาย ฝ่ายชายมีกรรมมากหน่อย ก็ถูกฝ่ายหญิงกดขี่ข่อมเหงเช่นกัน เบาบางลงมาหน่อยก็ถูกฝ่ายหญิงมีใจให้ชายอื่น เบาบางลงมาอีกก็คือฝ่ายหญิงเลิกลาทำให้ต้องทุกข์ทรมาณใจ

ส่วนความรักของคู่รักที่จะมีความสุขจริงๆก็หาได้อยากยิ่ง เปรียบเทียบได้เหมือนผู้ที่ได้ขึ้นสวรรค์ ซึ่งเท่ากับเขาโคเขากระบือ ล้านคู่จะมีเพียง1คู่ที่อยู่กันได้อย่างมีความสุขตั้งแต่ได้ครองคู่จนกระทั่งตายจากกัน

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#22 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 09:46 AM

อันนี้ขอตอบคุณ Omena นะครับ ขอบอกด้วยความสัตย์จริงครับว่าไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวน้องเขาเลย ผมเห็นน้องเขาและน้องอาสาสมัครช่วยกันยกถุงเพชรพลอยอยู่หิ้วหัวท้าย ผมเห็นว่าถุงมันใหญ่มากน่ะครับ เลยเข้าไปบอกน้องเขาว่าจะขอช่วยยกให้ แล้วใช้มือช้อนด้านล่างประคองเอาไว้ไม่ให้น้องเขาหนัก ก็บอกน้องเขาว่าเดี๋ยวจะช่วยถือไปให้ น้องเขาก็วางถุงลงผมก็ยกหิ้วมาจนกระทั่งผมมาเจอคุณแม่ผมเหมือนที่ได้เล่าไว้ตอนต้น คือตอนนั้นผมยังอยู่ในบุญอยู่ หรือแม้แต่ในขณะนี้ผมก็ไม่มีจิตคิดปฏิพัฒน์กับน้องเขาเลยครับ ตรงจุดนี้แหละครับที่ทำให้ผมสงสัยเอะใจและแคลงใจในตัวเองขึ้นมา ทั้งที่เมื่อก่อน ก่อนที่ผมจะได้เข้าวัดตัวผมเองก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้คนหนึ่ง แต่กับน้องเขาทำไมผมจึงไม่มีใจคิดเหมือนผุ้หญิงคนอื่นน่ะครับ เพราะความเอะใจอันนี้เลยทำให้ผมมาตั้งกระทู้เพื่อหาคำตอบในใจผมยังไงล่ะครับ หุหุหุ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#23 ดวงตะวันแก้ว

ดวงตะวันแก้ว
  • Members
  • 122 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 12:10 PM

น่าเห็นใจพี่เค้าน่ะค่ะ แต่เราต้องอยู่ในบุญตลอดเวลาน่ะค่ะ


#24 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 03:28 PM

ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง คิดยังไงก็ได้ให้ตัวเองคลายจากเรื่องนี้ ขออย่างเดียว อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง เวลาถูกกิเลสตระกูลโมหะ กัดกร่อนนี่ คนเรามักจะไม่ค่อยรู้ตัวครับ ฉลาดอยู่อย่างเดียว ฉลาดในการหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ตนทำผิด

#25 dek-d ka

dek-d ka
  • Members
  • 101 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 August 2006 - 06:31 PM

ความรักบางทีก็เป็นสิ่งที่สวยงามแต่ในบางครั้งก็เป็นยาพิษ
ถ้าคุณรักพี่อาสาสมัครคนนั้นเขาจริงก็ให้เขาได้เป็นอาสาสมัคร ให้เขาได้ประพฤติพรหมจรรย์เหมือนที่คนอื่นๆเขาได้ดีกว่านะคะ เพราะว่าการที่เรารักใครสักคนเราก็หวังแค่ให้เขามีความสุข แค่นี้ก็สุขมากแล้ว

#26 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 01:28 PM

ตั้งใจเอาบุญดีกว่านะคะ
เหมือนคนที่ไฟอยู่บนศรีษะ ใครเห็นก็ต้องคิดว่า ต้องรีบหาน้ำมาราดซะเดี๋ยวนั้น

อย่าไปฟุ้งซ่านเสียเวลานึกคิดเรื่องนี้เลย
นึกๆคิดๆเรื่องแบบนี้ เสียเวลาของชีวิต จริงๆนะ
เอาเวลาเหล่านั้น มาคิดเรื่องบุญ คิดเรื่องปรับปรุงข้อบกพร่องในตัวเราให้ดีขึ้น หาเวลามานั่งธรรมะ
ชีวิตเป็นของน้อย เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน เดี๋ยวปี เร็วเหมือนลมพัด เป็นเด็กได้ไม่นาน เดี๋ยวก็แก่ซะแล้ว
เวลาของชีวิต ไม่ได้ยาวนานเป็นกัปป์กัล
ชีวิตไม่ได้เพื่อให้มาเล่นเพลิดเพลินกัน

อย่าให้เรื่องโลกๆ มาขโมยเวลาอันมีค่า ที่เหลืออยู่น้อยนิด ไปอีกเลย
มางานบุญ มาเอาบุญ ก็ควรรวบรวมใจใสๆไว้ที่กลางกาย ไม่ควรส่งใจไปที่อื่น

อย่าคิดว่าเรื่องเล็กน้อยนะคะ
เพราะเวลาไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ก็มาจากไม้ขีดก้านเล็กๆก้านเดียว หรือไฟแช็คอันเดียวนี่ละ
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#27 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 09:56 PM

อ่ะแค่ชื้นชมนะอย่ามากไปกว่านั้นล่ะเดี๋ยวจะ....
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี