การนั่งสมาธิจำเป็นต้องไล่ฐานที่ 1-7 ทุกครั้งหรือไม่
#1
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 03:49 PM
#2
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 04:25 PM
แต่สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกขอให้ทำทุกครั้งนะคะ ควรจะฝึกการไล่ 7 ฐานให้ชำนาญคล่องแคล่ว
เพราะว่าจิตของเราที่เคยหลุดจากฐานที่ 7 ไปสัมผัสกับโลกภายนอก ทำให้เกิดการผูกติดถือมั่น
ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆขึ้น แล้วพยายามโต้ตอบด้วยทั้งทางกาย วาจา ความรู้สึกทางใจ
เมื่อมานั่งสมาธิก็อาจจะฟุ้งอยู่มาก ยังคงมีภาพต่างๆเข้ามาให้เห็นให้เกิดอารมณ์วอกแวกได้
การฝึกไล่ฐานที่ 7 เป็นการดึงสมาธิจิตให้กลับมาอยู่กับตัวเพื่อให้ใจหยุดฟุ้ง
ถอนถอยความสนใจกลับเข้ามาณ ศูนย์กลางกาย ให้กลับมามีสติรู้สึกตนเอง
ความคิดต่างๆที่ฟุ้งอยู่จะค่อยๆหายไป และเมื่อบริกรรมดวงแก้ว ณฐานที่ 7 ก็จะชัดใสนิ่งยิ่งขึ้น
หากว่าเคยฝึกมาแล้ว ก็จะรู้สึกถึงฐานที่ 7ได้ดีขึ้น การไล่ 7 ฐานก็จะทำได้เร็ว แค่ไม่กี่วินาที
จิตก็จะถอยกลับเข้ามาอยู่ในตัวเรา และมาหยุดที่ฐานที่ 7 ได้เลย
การบริกรรมนิมิตดวงแก้ว ก็เป็นแค่การนึกเบาๆ สบายๆ เท่านั้น
ฉะนั้นการไล่ 7 ฐาน เพื่อให้จิตเข้ามาหยุด ณ ฐานที่ 7 มีข้อดีสำหรับผู้เริ่มต้นฝึก คือ
- เพื่อให้จิตกลับเข้ามาอยู่ในตัว ไม่ฟุ้งออกไปนอกตัว และหยุดอยู่ได้นิ่งขึ้น
- เพิ่อให้การบริกรรมนิมิตง่ายขึ้น เป็นแค่การนึกเบาๆ ไม่ได้คิดเอาให้ปวดหัว
เพราะถ้าจิตเรายังตั้งอยู่ที่ฐานอื่น การนึกนิมิตจะเป็นการใช้ความคิด ซึ่งจะทำให้ปวดหัว เครียดได้ง่าย
รวมทั้ง การบริกรรมภาวนาสัมมา อรหัง ก็แค่นึกเบาๆ ให้ดังจากฐานที่ 7 อย่างสบายๆ
ไม่ได้ฝืนใช้ความคิดเป็นคำๆออกมาจากสมอง
เมื่อเราทำภาวนา ณ ฐานที่ 7 การนั่งสมาธิก็จะเป็นการพักผ่อนที่สบายๆ ยิ่งทำยิ่งสดชื่นขึ้น
ไม่รู้สึกเครียด อะไรเลย ดังนั้น การไล่ 7 ฐานเป็นพื้นฐานที่ควรจะทำได้อย่างคล่องแคล่ว
จนรู้สึกเหมือนว่าไม่ต้องทำอีกเลย เมื่อจิตใจเรากลับมาอยู่ที่ฐานที่ 7 แล้ว
การไล่ 7 ฐาน ระหว่างวัน นอกจากเวลานั่งสมาธิ ยังมีข้อดีอีกตรงที่ช่วยให้ผู้ที่เริ่มฝึกสมาธิ
- ควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองได้ดีขึ้น ไม่ให้โกรฐเร็วเกินไป หรือลดความรุนแรงได้
- ลดอาการขึ้บ่น ขึ้จุกจิกจู้จี้กับเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ สภาพแวดล้อมนอกตัว
- ลดความเจ้าชู้ เซ็กซ์จัด มีความสงบเสงี่ยมสำรวมสุภาพมากขึ้น
- ลดความสุรุ่ยสุร่าย ฟุ้มเฟือย การอยากได้โน่นได้นี่ รู้จักประหยัดมากขึ้น
และอื่นอีกมากมายเลยค่ะ
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#3
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 05:12 PM
#4
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 05:24 PM
*************************************
ไม่ ทุ ก ครั้ง ก็ ได้ อัน นี้ จาก ตัว เอง นะ..
แต่ ถ้า ไล่ ฐาน ได้ ก็ ดี นะ
ใจ เรา รวม เร็ว ดี
เพราะ เคย นั่ง ทำ แบบ นี้
แล้ว ทำ ให้ ใจ ไม่ ฟุ้ง ซ่าน
ใจ กลับ มา อยู่ ที่ ตั้ง ของ ใจ ได้ เร็ว
*************************************
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#5
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 06:13 PM
#6
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 06:24 PM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#7
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 09:12 PM
#8
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 09:18 PM
ยังไงก็ให้ผู้รู้มากกว่านี้เขามาแก้ไขอีกที เพราะผมเห็นหลวงพ่อสด ถือไม้แล้วชี้กระดานในการเดินฐานทั้งเจ็ดนะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 09:38 PM
นุ่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เบาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
นะจ๊ะ สาธุค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 30 August 2006 - 09:44 PM
ควรศึกษาเพื่อเป็นความรู้เบื้องต้น คือ"จะได้รู้ไว้ - เป็นเรื่องควรรู้"
แต่ในทางปฏิบัติ เวลาเรานั่งสมาธิ จะนึกที่ฐานที่ 7 ไปเลยตั้งแต่ต้นก็ได้ เพื่อความรวดเร็ว
หรือ เราจะนั่งสมาธิไล่ตามฐานจนครบ 7 ฐาน ก็ได้ถ้าชอบไล่ฐานแบบนี้
แต่ส่วนใหญ่ มานั่งปุ๊บ ก็นึกที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ปั๊บ
และเวลาทำการบ้านประจำวัน เราก็นึกดวงแก้ว ที่ฐานที่ 7 ไปเลย
#11
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 08:53 AM
#12
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 10:02 AM
#13
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 04:36 PM
คุณ ลูกพระธัมฯ Merry Ma และคุณ light mint นะครับ
ขอตอบเสริมอีกนิด
แบบความรู้จำและความเข้าใจนะครับ
วิธีฝึกใจให้สงบ ใจหยุด ที่เรียกกันว่า สมถะกรรมฐาน นั้นมีมากมายหลายวิธี
นอกจาก 40 วิธีที่ปรากฎใน คัมภีร์วิสุทธิมรรคแล้ว
เข้าใจว่ายังมีวิธีอื่นอีกมาก ที่ฝึกจิตให้ สงบ สงัดจาก นิวรณ์ ๕ จนถึงได้ฌาน สมาบัติ
เช่น
คนที่ไม่มีความรู้เรื่องการนั่งสมาธิ
แค่นั่งเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กำหนดภาพเป็นอะไร ไม่กำหนดตำแหน่งการวางใจไว้ที่ไหน
แต่เมื่อใจหยุด ถูกส่วนเข้า ใจก็ถูกดูดไปที่ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ เอง
เห็นดวงธรรม เห็นกายในกายเอง เป็นต้น
หลักสำคัญของการปฏิบัติธรรม การทำสมาธิ คือ วางใจไว้ตรงไหน
1 ) การวางใจไว้นอกตัว เช่น ไปไว้ที่วัตถุ
2 ) การวางใจไว้ในตัว ซึ่งก็มีมากมาย หลายตำแหน่ง
หากศึกษาประวัติการเข้าถึงธรรมของผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
ก็ไม่มีรายละเอียดชัดๆว่า
ท่านวางใจไว้ที่ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗
แล้วจึงเข้าถึงดวงธรรม กายธรรม
เพราะตอนนั้น เข้าใจว่า ยังไม่มีใครสอน เรื่อง ทางเดินของใจ ทั้ง ๗ ฐานให้ท่านเลย
แต่ท่านศึกษา ค้นคว้า ต่อมาภายหลังการเข้าถึงพระธรรมกายแล้ว
จึงเห็นทางเดินของใจ เวลาสัตว์จะไปเกิด ( ตาย ) มาเกิด ( จุติ ปฏิสนธิ )
ว่าใจต้องผ่านทั้ง ๗ ฐานนี้
และแต่ละฐานก็มีความสำคัญและสัมพันธ์กับลมหายใจ
และแต่ละฐานก็มีความพิเศษเฉพาะ เมื่อวางใจหยุด ไว้ที่ฐานนั้นๆ
และตำแหน่งที่สมบูรณ์ที่สุดในการวาง ใจ คือ
จุดตัด กึ่งกลางกาย เหนือสะดือ ๒ นิ้วมือ
หรือ
ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ตามที่เราทราบกัน
มรดกธรรมที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ เรื่องการปฏิบัติ สมถะและวิปัสสนากรรมฐาน
คือ
หยุด เป็นตัวสำเร็จ
1 ) ใจต้องหยุด
2 ) ที่ตำแหน่งจุดตัด กึ่งกลางกาย เหนือสะดือ ๒ นิ้วมือ
ถ้าถามว่า
ขอตอบตามความเข้าใจว่า
จำเป็นสำหรับ ผู้ที่ทำแบบนี้แล้ว ใจสงบ ใจหยุดได้ไว
จำเป็นสำหรับ ผู้ที่มักติดฟุ้ง มักส่งใจไปนอกตัว วิธีนี้ช่วยฝึกสติดีมาก
จำเป็นสำหรับ ผู้ที่ใจหยุด ดีแล้ว ต้องการฝึกให้ชำนาญ ในการฝึกจิตแบบ อนุโลม ปฏิโลม
จำเป็นสำหรับ ผู้ที่ใจหยุด ดีแล้ว ต้องการศึกษา ความพิเศษที่ต่างกัน ,อานุภาพของ แต่ละฐาน
จำเป็นสำหรับ ผู้ที่ใจหยุด ดีแล้ว ต้องการ .....
แต่สำหรับผู้ฝึกเบื้องต้น ที่ใจยังไม่หยุด ใจยังวอกแวก ฟุ้ง ซ่าน เต็มด้วยนิวรณ์ ๕
ใช้วิธีไหนก็ได้ ที่ทำแล้ว ชอบใจ
ใช้วิธีไหนก็ได้ ที่ทำแล้ว ใจชอบหยุด
ใช้วิธีใดก็ได้ ที่ทำแล้ว ใจสงบ สงัดจาก นิวรณ์ ๕
******* ก็เป็นเพียง ความเห็นส่วนตัวนะครับ
ต้องเชิญผู้รู้แจ้ง ปฏิบัติได้จริง มาแบ่งปัน ธรรมทาน แล้วครับ สาธุ
ไฟล์แนบ
#14
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 07:30 PM
#15
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 07:52 PM
#16
โพสต์เมื่อ 31 August 2006 - 08:22 PM
#17
โพสต์เมื่อ 01 September 2006 - 12:45 PM
#18
โพสต์เมื่อ 02 September 2006 - 03:44 PM
คือ 1.สำหรับผู้เริ่มฝึกวิชชาธรรมกาย และ 2.ผู้ที่เป็นวิชาแล้ว (เห็นดวงปฐมมรรคเป็นต้นไป)
1.สำหรับผู้เริ่มฝึกวิชชาธรรมกาย
จำเป็นต้องเริ่มเอาใจไต่ฐานตั้งแต่ 1 ไปจนถึง 7 ทุกครั้ง แล้วก็นิ่งอยู่ที่ 072
ฐานที่ 1 คือปากช่องจมูก ญ-ซ้าย ช-ขวา คำว่าปากช่องจมูกคือ ปากทางเข้ารูจมูก
ฐานที่ 2 คือเพลาตา ญ-ซ้าย ช-ขวา ตรงหัวตาของเรา
ฐานที่ 3 กลางกั๊กศีรษะ ถึงฐานนี้ต้องเหลือกตาขึ้นเบา ๆ ให้ความเห็นกลับเข้าข้างในตัว ***สำคัญมาก***
ฐานที่ 4 ปากช่องเพดาน ตรงที่เราเคยสำลักน้ำ-อาหาร
ฐานที่ 5 ปากช่องลำคอ เหนือระดับลูกกระเดือกนิดนึง
ฐานที่ 6 ศูนย์กลางตัวระดับสะดือ กลางจุดตัดเส้นด้ายสองเส้นกลางท้องระดับสะดือ
ฐานที่ 7 ศูนย์กลางกาย เหนือระดับสะดือ 2 นิ้วมือ (072)
ถ้าไม่ไล่ฐานตั้งแต่ 1 ก็จะไปฐานที่ 3 ไม่ได้
ฐานที่ 3 สำคัญมาก เพราะการเหลือบตาเป็นการทำให้ ความเห็น-จำ-คิด-รู้ กลับเข้าในตัว
เมื่อใจสามารถไปหยุดอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ได้แล้วก็นิ่งเข้าไว้ ไม่คิด ไม่นึกเรื่องอื่นใด รอให้ใจหยุด
พอใจเริ่มหยุด คือสงบลง ๆๆๆ ก็จะเห็น "ดวงนิมิต" เกิดขึ้น
ซึ่งการเห็นดวงนิมิตนี้ อาจเห็นชัด หรือไม่ชัดก็ได้ ต้องอย่าลังเลสงสัย
ประคองดวงนิมิตไว้ให้นิ่ง ใจก็หยุดอยู่ในกลางดวงนิมิตนั้น
การเห็นในขั้นตอนนี้อาจเห็น ๆ หาย ๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ก็อย่าไปสนใจ
ถึงขั้นตอนนี้อย่าเลิกฝึก อย่าชะล่าใจ ที่แค่เริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อเอาใจหยุดนิ่งกลางดวงนิมิต โดยไม่ลุ้น ไม่เร่ง ไม่เพ่ง แล้ว ใจก็จะตกศูนย์
ถ้าใจไม่นิ่ง ก็ให้ท่อง สัมมาอะระหังลงไปในกลางดวงนั้น พักเดียวเดี๋ยวใจก็นิ่ง
คราวนี้จะเห็นดวงธรรมแล้วล่ะ เรียกดวงปฐมมรรค ตามตำราท่านเรียกชื่อว่า ดวงธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
ชื่อดวงจำยาก จำแค่ดวงปฐมมรรคก็พอนะ
การเห็นขั้นตอนนี้ จะเห็นเหมือเราเข้าไปอยู่ในกลางดวงนี้จริง ๆ เพราะ เห็น-จำ-คิด-รู้ ของเราจะไปรวมหยุดเป็นจุดเดียวที่นี่
และเพราะใจไปรวมอยู่ที่นี่ เราจึงรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในดวงนี้เลย
มันเป็นสุข มันอิ่ม มันสงบ มันเย็น บอกไม่ถูก ต้องสัมผัสเอง เป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน
ขั้นตอนนี้ ความรู้สึกจะต่างกับการเห็นดวงนิมิตอย่างเห็นได้ชัด
ใครที่ชอบว่าวิชาธรรมกายติดอยู่ที่ลูกแก้ว พวกนั้นโง่ เพราะเข้าใจว่าแค่ถึงดวงนิมิตแล้วก็สำเร็จวิชชาแล้ว ซึ่งไม่ใช่ มันยังมีไปได้ต่อ อย่างน้อยก็ต้องเข้าถึงดวงปฐมมรรคเป็นขั้นตอนต่อไป
ดังนั้น คนที่ยังไม่ถึงดวงปฐมมรรคนี้ ก็ต้องหมั่นเพียรเอาใจไล่ตั้งแต่ฐานที่ 1 ไปจนถึง 7 ทุกครั้งที่เริ่มนั่ง
ไม่อย่างนั้นมันจะเคว้งคว้าง เผลอ ๆ ก็เอาใจออกนอกตัว อย่างนั้น ทำเท่าไร ๆ ก็ไม่เห็นปฐมมรรค
2.ผู้ที่เป็นวิชาแล้ว คือเห็นตั้งแต่ดวงปฐมมรรคเป็นต้นไป
อันนี้ เขาไม่จำเป็นต้องไต่ฐานที่ 1-7 แล้ว
ใจเขาหยุดอยู่ที่ ศูนย์เกือบตลอดเวลา คือไม่ว่าจะหลับตา ลืมตา เขาจะเห็นดวงปฐมมรรคนี้ตลอดเวลา
ต่อเมื่อใจของเขาเสื่อมลงจากสมาธิ คือใจไม่หยุด ก็ต้องไล่ใจจากฐานที่ 1 - 7 ใหม่ ก็จะกลับมาเห็นชัดเหมือนเดิม
อันนี้เป็นเทคนิคนะ ลองทำดูจ๊ะ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านจ๊ะ
"พายเถอะนะเจ้าพาย ตลาดจะวายสายบัวจะเน่า
โซ่ไม่แก้ กุญแจไม่ไข จะไปกันได้อย่างไรละเจ้า"
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ
#19
โพสต์เมื่อ 02 September 2006 - 04:12 PM
#20
โพสต์เมื่อ 03 September 2006 - 01:17 PM
ใหม่ ๆ คงต้องใช้วิธีไล่ฐาน...เป็นดีที่สุดคะ แต่อย่าเครียดนะคะ...ใจฟุ้งอย่างที่หลายท่านบอก ควรทำจริงๆ คะ...ดีจังมีคนเตือนบางทีใจฟุ้งก็ลืมว่า ต้องไล่ฐาน ^^
พอเริ่มรู้ว่าใจวิ่งยังไง เริ่มชำนาญนิดหนึ่งแล้ว ก็เอาใจไปตั้งไว้ที่ศูนย์กลางกายเลยคะ แต่หากจะไล่ก็ไม่ผิดอะไรหรอกคะ...
#21
โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 09:29 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#23
โพสต์เมื่อ 10 February 2011 - 05:13 PM
#24 *VoRA*
โพสต์เมื่อ 27 August 2011 - 10:53 AM
การเดินฐานทั้งเจ็ดเหมือนเข้าไปในห้องมืดแล้วเปิดไฟที่ละดวงเหมือนฐานแต่ละฐานก็จะสว่างเมื่อเข้าไปเปิดได้ครบความสว่างจะมากมายเมื่อหยุดมากมายเข้าก็เหมือนได้หลอดไฟชั้นดีมีคุณภาพส่องสว่างได้มากขึ้นจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัด