นานไหม กว่าจะเห็นดวงสว่างกลางกาย
#1
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 03:07 PM
แต่ยังมืดตื้อมืดมิดอยู่เลย มีบ้างบางครั้งที่รู้สึกมีแรงดูดที่กลางท้อง
แต่ก็นานๆครั้ง 2-3 เดือนครั้ง
ผมได้ฟังCDของเกี่ยวกับผลการปฎิบัติธรรม มีความรู้สึกว่าเขาเห็นกันง่ายมากเลย
หรือแม้แต่ใน DMC ที่หลวงพ่อนำมาพูด จนคุณแม่ของผมซึ่งก็หัดนั่งสมาธิตามผม(ยังมืดตื้อมืดมิดเหมือนกัน)
สงสัยว่าคนอื่นเขานั่งแปบเดียวเห็นกันทุกคนหรือเปล่า แล้วทำไมเรายังไม่เห็นอะไรกันเลย
ผมจึงอยากถามสมาชิกท่านอื่นว่า วันแรกที่นั่งสมาธิจนกระทั่งเห็นดวงใส่ๆครั้งแรกนานไหมครับ
กี่ปี กี่เดือน กี่วัน กี่ชัวโมง หรือกี่นาที
#2
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 03:21 PM
เพราะ มันฟ้องว่าคุณเกิดความอยากที่จะได้เร็วๆ (หรือป่าวครับ)
อยากได้ ก็ยิ่งยากนะครับ เพราะ ความอยากเป็นอุปกิเลสตัวหนึ่งที่ขัดขวางไม่ให้สมาธิก้าวหน้าครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 03:22 PM
นั่งต่อไปนะคะ ... สู้ ๆ
#4
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 03:29 PM
ยิ่งอยาก ยิ่งยากค่ะ
ทำใจสบาย นั่งไปเรื่อยๆ สักแต่ว่านั่ง บ่อยๆ ทุกวัน
อย่าใจร้อนนะคะ
แม้มืดตื้อมืดมิด ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรมค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 03:43 PM
มีอยู่วันหนึ่ง นั่งสมาธิแล้วกำลังนึกถึงบุญที่ได้ใส่บาตรสามเณรหลายสิบองค์อยู่เพลินๆ ปลื้มปลาบใจเณรน้อยน่ารักทุกรูป ที่ได้บวชตั้งแต่เยาว์วัย
นึกนิ่งนานอยู่อย่างนั้นไม่ถึง 5 นาที ทันใดนั้นก็เป็นดวงแก้วใสสว่างแต่ไม่แสบตาเลย
เกิดอาการตกใจ เนื่องจากเป็นประสบการณ์ครั้งแรก ใจเต้นแรงด้วยความตื้นเต้น
แล้วดวงแก้วก็เลยหายไป (เฮ้อ...เสียดายจัง)
#6
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 04:05 PM
แต่นั่น ต้องหมายถึงว่า คุณต้องปฏิบัติอย่างจริงจังถูกวิธี ทั้งในรอบ และนอกรอบ อย่างยิ่งยวดอุกฤษ
อย่างเร็วสุด ภายใน7วัน อย่างกลาง ภายใน7เดือน อย่างช้าภายใน7ปี
#7
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 04:22 PM
แค่คุณแม่ผมท่านสงสัยอ่ะครับ
เพราะในช่วงผลปฏิบัติธรรมจะไม่มีประวัติมาก่อนว่าได้เริ่มฝึกสมาธิเมื่อไหร่แต่จะพูดถึงว่าเห็นอย่างไร
จึงทำให้ท่านเข้าใจผิดคิดว่าพอเริ่มนั่งไม่กี่ครั้งก็สามารถเห็นได้แล้ว
สำหรับผมเลย 7วัน 7เดือน ไปแล้ว
ยังเหลือ 7ปี --"
#8
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 05:06 PM
#9
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 05:43 PM
ลูกศิษย์ : อาจารย์ครับ เมื่อไหร่ ผมจะว่ายน้ำเป็น เสียทีล่ะครับเนี่ย นี่มันก็หลายวันแล้ว
อาจารย์ : เมื่อไหร่งั้นเหรอ นานเท่าที่ เจ้าเร่งนั่นแหละ (ยิ่งเร่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งนานเท่านั้น)
สวัสดี
#10
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 06:22 PM
#11
โพสต์เมื่อ 08 September 2006 - 07:32 PM
#12
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 09:08 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#13
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 11:12 AM
แต่เวลานั่งสมาธิไม่เคยคิดอยากเห็น แค่คิดว่าจะนั่งอย่างไงให้ได้นานให้ไม่เมื่อยให้ไม่ง่วงให้นิ่งให้ไม่ฟุ้งครับ
อย่างนี้ผิดไหมครับ
หรือว่าห้ามคิดห้ามอยากเห็นทุกเวลา 24 ชม. ครับ
#14
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 11:22 AM
ถ้าเกร็งคอให้ตรงตลอดเวลาจะผิดวิธีไหมครับ
#15
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 12:43 PM
#16
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 01:20 PM
เดี๋ยวสว่าง เดี๋ยวดวงแก้ว แล้วก็สว่าง แล้วก็ดวงแก้วอีก
เห็นท่อแก้วใสๆ ตัวเองลงไปตามท่อนะคะ เสียวๆเหมือนกัน แต่มีความสุขดี ตอนอยู่ปากท่อแก้วนะ ใจหนึ่งไม่อยากไปเลยมันเสียว
นึกถึงคำหลวงพ่อที่บอกว่านิ่งๆไว้ แล้วก็ไปตามท่อเลย
ขนาดเวลาเราจะนอนพักผ่อนยังตกศูนย์อีกมันเสียวๆอ่ะค่ะ ก็เลยกลัวๆเหมือนกัน
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#17
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 02:10 PM
ผมนั่งมานานกว่าปี ยังมืดอยู่เลย อิอิ
รอคอยมานานแสนนาน 5555
นั่งๆไปเหอะ อย่างน้อยก็ได้บุญละคับ
มันต้องมีสักวันละครับ พยายามเข้านะครับ^^
------------------------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#18
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 02:23 PM
#19
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 03:08 PM
#20
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 04:01 PM
ถ้าวางใจถูกก็เห็นเลย
แต่การวางใจก็เป็นศิลปะที่ต้องใช้การฝึกฝน
จนเกิดเป็นความชำนาญ
ฝึกบ่อยๆจนใจคุ้นกับศูนย์กลางกาย
สักวันหนึ่งก็จะพบความสำเร็จ
ขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาในเร็ววันนะคะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#21
โพสต์เมื่อ 09 September 2006 - 05:47 PM
การนั่งสมาธิก็เหมือนกันนะคะแม้ มืดตื้อ มืดมิด แต่เรามีความเพียรในการนั่ง เราก็จะค่อยๆรู้ระยะ จนถึงหยุดใจได้ชำนาญขึ้นค่ะ คุณยายอาจารย์ของพวกเราท่านนั่งสมาธิทุกวันกว่า 2 ปีเชียวนะคะกว่าจะเห็นดวงธรรมใสสว่างทั้งหลับตาและลืมตา พวกเราก็ต้องไม่ย่อท้อนะคะ
#22
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 08:43 PM
ถ้าคิดว่านาน หลับตาแค่ 1 นาทีแล้วได้ดวงปฐมมรรค ก็ถือว่านาน
ถ้าคิดว่าไม่นาน แม้รอสัก 20 ปี ก็ไม่ถือว่านาน
สิ่งทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่มีใจเป็นประธาน ล้วนสำเร็จแล้วด้วยใจ
อนุโมทนา
http://www.dhammakaya.or.th
#23
โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 09:41 PM
Load ไปฟังดูนะครับ
ไฟล์แนบ
#24
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 08:37 AM
ได้อ่านแล้วมีกำลังขึ้นเยอะเลยครับ
#25
โพสต์เมื่อ 11 September 2006 - 12:08 PM
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#26
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 09:56 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#27
โพสต์เมื่อ 23 March 2007 - 08:33 PM
เราเป็นแค่ผู้ดูนะครับ ใจละเอียดแค่ไหนก็เห็นแค่นั้น เราไม่สามารถกำหนดความละเอียดได้ แต่เราฝึกฝนได้โดยใช้ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ครับ
ขออนุโมทนากับน้องPungpaด้วยครับ โอประสบการณ์น่าตื่นเต้นแทนจังเลย รักษาไว้ยิ่งชีพเลยนะครับ
.ฟังเรื่องราวดีๆได้ที่นี่ครับ