ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เป็นภุมมเทวาลำบากไหมครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 จักรพรรดิ์

จักรพรรดิ์
  • Members
  • 39 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 12:33 PM

ดูจากDMCบ่อยครับ ส่วนมากจะเป็นภุมมเทวากัน แล้วการใช้ชีวิตดีหรือลำบากครับ ใช่พระภูมหรือศาลคุณตาคุณยายหรือเปล่าครับ

#2 ฝันที่เป็นจริง

ฝันที่เป็นจริง
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 12:49 PM

QUOTE
การใช้ชีวิตดีหรือลำบากครับ


ขึ้นอยู่กับบุญที่ได้สั่งสมไว้ เหมือนกับมนุษย์นั่นแหล่ะครับ มีตั้งแต่ยาจก จนกระทั่งมหาเศรษฐี และภุมมเทวาเป็นภพที่อยู่ไกล้กับมนุษย์มากที่สุดจึงมีอะไรหลายๆที่คล้ายมนุษย์ เช่น การแต่งกาย ค่านิยมบางอย่าง ฯลฯ

ถ้าพอมีบุญติดตัว หรือ ญาติอุทิศให้บ่อยๆก็จะมีอาหารทิพย์ให้อยู่ได้สบายๆ แต่ถ้าบุญน้อยก็ลำบากหน่อย

ลำบากหรือเปล่า?บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะครับ ไปถามยาจก ว่าลำบากหรือเปล่า เขาอาจบอกว่าเฉยๆชินแล้ว แต่ไปถามมหาเศรษฐี เขาอาจบอกว่ากำลังลำบากอยู่ก็ได้...

แต่ในปรโลกนี่ถ้าลำบากก็ยาวนานครับ สั่งสมบุญไม่ได้ด้วย ต้องรอเขาอุทิศให้หรืออนุโมทนาบุญบ้างนิดๆหน่อยๆ ดังนั้นอย่าประมาท เร่งสั่งสมบุญทุกๆบุญให้ดีที่สุด จะปลอดภัยที่สุดครับ
"หยุด เป็น ตัวสำเร็จ"

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ


หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ



#3 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 12:50 PM

วิถีชีวิตออกแนว บ้านๆ อ่ะ สวรรค์ชั้นสูงขึ้นไปก็ ไฮโซ หน่อย laugh.gif

#4 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 01:07 PM

สวรรค์ชั้นยิ่งสูงยิ่งสบายกว่าครับเขาจะเปียบเทียบกันในบุญใหนการสั่งสมมาเป็นหลักยังสร้างมามากยิ่งสว่างมาก
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#5 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 01:21 PM

ขอเปรียบเทียบให้ฟังดังนี้นะครับ
ภุมมเทวา จะเปรียบเสมือนสลัมในโลกมนุษย์น่ะครับ ในสลัมจะมีทั้งจนและพอมีกิน อาจจะมีคนมีฐานะหลงเข้าไปอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับกำลังบุญที่ตัวเองทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่ ใครทำน้อย พอเกิดเป็นภุมมเทวาได้ก็จะมีความเป็นอยู่อัตคัด ขัดสนเหมือนคนจนในสลัม บางทีต้องขอคนที่มีกำลังบุญมากกว่าอาศัยเป็นบริวารให้กับเขา
อากาศเทวาก็เหมือนกันภุมมเทวา แต่จะดีขึ้นมาหน่อยก็คงจะเทียบได้กับอยู่ในโซนรอบนอกของเขตสลัม
สวรรค์ชั้นสูงขึ้นไปก็เช่นเดียวกัน แต่ยกระดับจากสลัมมาเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านเช่นชุมชนแฟตน่ะครับ
ชั้นสูงขึ้นมาก็อาจจะยกระดับขึ้นมาเป็นอพาร์ทเมนต์คือคอนโด สูงขึ้นมาอีกก็ยกระดับเหมือนชุมชนบ้านทาวเฮาส์ สูงขึ้นอีดก็อาจอยู่ในระดับผู้มีเงินอยู่บ้านเดี่ยวทำนองนี้น่ะครับ

อันนี้แค่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับความเป็นอยู่ในโลกมนุษย์นะครับ หวังว่าคงเข้าใจ งิงิ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#6 arraya

arraya
  • Members
  • 298 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 01:49 PM

คุณเคยเข้าวัดเปรียบเทียบได้เห็นภาพเลย
สวรรค์ ยิ่งสูงก็ยิ่งสบาย
ระดับภุมมเทวา ก็คล้ายโลกมนุษย์ มีรวยจนตามกำลังบุญ ระดับเศรษฐีก็สุขสบาย แต่ไม่เท่าพวกที่อยู่สวรรค์ชั้นสูงๆ ( ซึ่งก็สบายตามกำลังบุญเช่นกัน )ขึ้นไปหรอกค่ะ

#7 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 02:03 PM

แล้วภุมมเทวา จะมีวิธี up grade ตัวเองอย่างไรหรือต้องรอบุญอุทิศอย่างเดียว
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 02:25 PM

QUOTE
แล้วภุมมเทวา จะมีวิธี up grade ตัวเองอย่างไรหรือต้องรอบุญอุทิศอย่างเดียว


ก่อนอื่นนะครับ ตามที่ได้ฟังหลวงพ่อท่านสอนมา ผมเข้าใจเอาเองนะครับว่า ภุมมเทวานั้นเปรียบเสมือนมนุษย์เรา เพราะอยู่ในภพภูมิเดียวกัน แตกต่างกันคือกายละเอียดกับหยาบเท่านั้น ดังนั้นในความคิดด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดของผมเข้าใจว่าภุมมเทวาไม่ได้แตกต่างกับมนุษย์เท่าไหร่นัก นั่นคือมีทั้งพวกที่เชื่อในเรื่องบุญและบาป กับอีกพวกคือไม่เชื่อในเรื่องนี้ แบบว่าตายไปก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้เปลี่ยนไปอยู่อีกภพแล้วจึงยังมีความคิดแบบมนุษย์อยู่ เพราะฉนั้นพวกที่ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาปอันนี้คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ
แต่สำหรับกลุ่มที่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป จะมีวิธีเพิ่มบุญให้กับตัวเองเหมือนกับเทวดาชั้นสูง(ตามที่ได้เรียนมาจากคุณครูไม่ใหญ่นะครับ) คือคอยอนุโมทนา อารักขา และส่งเสริม ผู้ที่ตั้งใจประพฤติ ปฏิบัติธรรม หรือผู้ที่ชอบทำความดี เหมือนอย่างกรณีคุณแคแสดที่พนาวัฒน์น่ะครับ หรือรอให้ผู้ที่ไปประพฤติปฏิบัติธรรมทำความดีมาแล้วแบ่งบุญให้ หรือได้รับบุญจากการแผ่เมตตาของบุคคลเหล่านี้ ก็จะทำให้ชีวิตของภุมมะเทวาเหล่านี้มีความเป้นอยู่ที่ดีขึ้นครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 02:45 PM

ภุมมเทวา นั้น

ถ้ายากจนมากๆ ก็ลำบากทั้งกายและใจ น่ะครับ เพราะต้องอดอยากด้วย และทุกข์ใจด้วย

ถ้าร่ำรวย ก็อาจจะลำบากเฉพาะทางใจ ที่เมื่อเห็น รุกขเทวา และอากาศเทวา ที่เขามีความเป็นอยู่เลิศเลอกว่า


ส่วนอากาศเทวาขึ้นไป

เรื่องอดอยากลำบากทางกายจะไม่มีแล้ว จะมีก็เฉพาะลำบากทางใจน่ะครับ


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 จักรพรรดิ์

จักรพรรดิ์
  • Members
  • 39 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 05:03 PM

แล้วจะทำบุญยังไงให้เค้าสามารถไปภพที่ดีกว่าได้ครับ เพราะผมเข้าใจว่าการอนุโมทนาบุญนั้น เป็นบุญเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าสร้างองค์พระให้เค้าจะมีโอกาสเลื่อนชั้นมั้ยครับ

#11 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 05:26 PM

การที่ชีวิตใดจะเปลี่ยนภพภูมิได้นั้น ต้องขึ้นกับปัจจัย 3 ประการคือ
1. กำลังบุญ ถึงขั้นที่จะได้ไปอยู่ภพภูมิใหม่ และมีความปรารถนาที่จะไปอยู่ภพภูมิใหม่ ยกตัวอย่าง ก็เช่น พญานาคคำโพธิราช เป็นถึงพระโพธิสัตว์ มีกำลังบุญมากมาย เจ้าของเคสก็ทำบุญส่งไปอีกมากมาย แต่เจ้าตัวยังอยากเป็นผู้ปกครองภพพญานาคต่อไป ดังนั้น จึงไม่ยอมเปลี่ยนภพ หรือ บางเคส ที่ภรรยามีกำลังบุญไปอยู่ดาวดึงส์ได้ แต่ไม่ขอเปลี่ยนภพ ยังคงยอมเป็นภูมิเทวา อยู่กับสามีต่อไป เป็นต้น

2. กำลังบุญ ถึงขั้น และนึกถึงบุญนั้นได้ ยกตัวอย่าง ก็เช่น พระนางมัลลิกา สร้างบุญใหญ่สุดยอดมากมาย เช่น อสทิสทาน ทานที่ไม่มีใครเสมอเหมือน แต่ก่อนตายนึกถึงกรรมที่ลอบเป็นชู้ ตกนรก อยู่ในนรกไม่กี่วัน นึกถึงบุญได้ จึงขึ้นสวรรค์ทันที

3. วิบากกรรมของภพนั้นเบาบางใกล้จะหมด ก็เช่น สัตว์นรกหมดกรรมจากนรก ไปเกิดเป็นเปรต เดรัจฉาน อสุรกาย มนุษย์ เป็นต้น


และกำลังบุญจะถึงขั้นได้ นั้น ก็ประกอบด้วย บุญในอดีตที่ทำมา รวมกับบุญอุทิศจนมีกำลังบุญมากพอ แล้วไม่ปรารถนาอยู่ที่เดิม ก็จะเปลี่ยนภพภูมิได้ครับ

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#12 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 September 2006 - 06:21 PM

แล้วเราจะเนรมิตรกายเพื่อมาตักบาตรได้ไม๊ เคยอ่านเจอว่าพระอินทร์เคยทำได้
กับพระที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#13 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 11:31 AM

ทำได้ยากมากๆ คุณครูบอกว่า ตอนนั้น พระอินทร์ อธิษฐานเอาบุญทั้งหมดของตนเป็นที่ตั้ง ขอให้ตนปฏิบัติการได้สำเร็จ จึงทำให้พระอรหันต์ท่านไม่ได้ตรวจสอบก่อน เพราะทุกทีหลังจากท่านออกจากนิโรธ ท่านจะตรวจสอบว่า จะไปโปรดใคร แต่ครั้งนั้น พอท่านออกจากนิโรธ ท่านก็เดินไปเลย เดินไปสักพัก ก็พบชาวบ้านยากจน (พระอินทร์ปลอม) เลย

อีกอย่าง บางท่านอาจถามอีกว่า งั้นก็ทำทานกับเทวดาด้วยกันก็ได้นี่ เช่น สมมุติเราเป็นเทพบุตรมีแหวน 100 วง เพื่อนเทวดา ไม่มีแหวน เลย ยกให้เขา 1 วง ถามว่า ทำงี้ได้บุญมั้ย

คำตอบ คือ ไม่ได้บุญครับ ทำไมล่ะ เพราะเมื่อยกแหวนให้ ทันทีที่แหวนหลุดจากมือไป แล้วเทพอีกฝ่ายรับไว้ พอรับไว้ปุ๊บแหวนนั้น จะหายจากมือเขา กลับมาอยู่ที่มือเราทันที เพราะเขาไม่มีบุญรองรับแหวนนั้นน่ะครับ ดังนั้น จึงไม่มีการให้เกิดขึ้น เราจึงไม่ได้บุญด้วยประการฉะนี้แล
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#14 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 02:41 PM

QUOTE
แล้วเราจะเนรมิตรกายเพื่อมาตักบาตรได้ไม๊ เคยอ่านเจอว่าพระอินทร์เคยทำได้
กับพระที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ

- -ล พูดยังกับเป็นภุมมเทวาไปซะแล้วนะครับ งิงิ tongue.gif ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจ ภุมมเทวากับพระอินทร์บารมีหรือกำลังบุญต่างกันมากนะครับ ภุมมเทวาเท่าที่ได้ฟังเป็นพวกที่บุญก็ทำกรรมก็สร้าง แต่จะหนักไปทางบุญนิดหน่อย แต่พระอินทร์นี้คนละแบบเลยนะครับ ลองเปรียบเทียบดูให้ฟังง่ายๆ ยกมือคุณขึ้นมาดู พระอินทร์หรือผู้มีบุญในสวรรค์ชั้นสูงจะเหมือนฝ่ามือที่มีสีขาว(ไม่มีขน) คนมีบาปหรือทำกรรมไปอยู่ในอเวจีจะเหมือนหลังมือมีสีคลําหรือดำไปเลยก็มี(มีขนขึ้นเพียบ) ส่วนพวกสัมภเวสีหรือภุมมเทวาจะเหมือนกับสันมือ คือมีทั้ง2สี ดังนั้นการแปลงกายของพระอินทร์ก็เหมือนกับเอามือจับสิ่งของ จะจับอะไรก็ง่ายไปเสียหมด แต่การแปลงกายของสัมภเวสีหรือภุมมเทวาจะเหมือนเอาสันมือคีบหรือจับสิ่งของซึ่งยาก ทั้งนี้เพราะด้วยกำลังบุญที่ต่างกันนั่นเองครับ และเท่าที่ฟังจากคุณครูไม่ใหญ่ สัมพเวสีหรือภุมมเทวาไม่มีฤทธิ์มากพอที่จะแปลงกายได้ครับ มีฤทธิ์อย่างมากก็แค่สิงสู่สิ่งของหรือคนที่มีอายตนะตรงกันได้เท่านั้นเอง
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#15 จักรพรรดิ์

จักรพรรดิ์
  • Members
  • 39 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 04:34 PM

แล้วต้องทำงานโดยมีหัวหน้าเขตสั่งการ ไม่ทราบว่างานหนักมั้ยครับและส่วนมากเป็นงานอะไรครับ

#16 *สัมมา*

*สัมมา*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 28 February 2011 - 08:21 AM

]แม่ผมท่านทำบุญตามประเพณี ทำบาปบ้างแต่ก่อนตายท่านพูดว่าองค์พระ องค์พระอยู่ใหน ลูกๆจึงไปเอาองค์พระมาและบอกว่าองค์พระอยู่นี่แล้วท่านก็สิ้นลม เคสนี้ไม่ทราบว่าท่านไปอยู่ภพภูมิใดครับ เป้นห่วงท่านมากผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ ฝันไม่เป็นครับ[/b]