ผีอำ คืออะไร
#1
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 10:40 AM
ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนยังเด็กๆ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่คล้ายๆ ว่าครึ่งหลับครึ่งตื่น จะว่าฝันก็ไม่ใช่ เพราะมีสติรู้ตัวเต็มที่ แต่ขยับตัวไม่ได้เท่านั้้นเอง พยายามดิ้นเหมือนกัน แต่ไม่หลุด จนรู้สึกกลัว ซักพัก ก็เห็นร่าง เงาดำๆ ใหญ่ๆ โถมทับเข้ามารูปร่างคล้ายตัวคน ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกเพราะกลัวสุดขีด แต่ก็พยายามตะโกนท่องบทสวดมนต์เสียงดังสุดแรงที่มี แต่เหมือนเสียงมันไม่หลุดออกไปจากปากเลย ก็ยังคงภาวนา อะระหังสัมมาสัมพุทธโธภควา... นะโมตัสสะๆๆ สุดเสียง (แบบไม่มีเสียงหลุดออกมา) ต่อไป เงาดำนั้นก็ทับเราตลอด แล้วซักพัก ก็รู้สึกตัวว่าสามารถเปล่งเสียงออกมาได้ กลับคืนสู่สภาพกายมนุษย์ปกติ เงาดำนั้นก็หายไป แล้วก็ลุกขึ้นมา ตอนนั้นเหงื่อแตกพลั่ก หัวใจเต้นตุบๆ ไม่มีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเหมือนคนเพิ่งตื่นเลยค่ะ ยังคงอยู่ในอารมณ์ตกใจมากกว่า ทำอะไรไม่ถูก ก็เลยนั่งมองความมืดต่อไป ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ปกติแล้วเป็นคนไม่กลัวผี เพราะตอนเด็กๆ จะเจอเรื่องอะไรแบบนี้บ่อยๆ เช่น เห็นตาที่ตายไปแล้วเดินมา หรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยอะไรซักอย่างที่มองไม่เห็น ให้มานั่งดูกายละเอียดสองคนเดินหายเข้าไปในกำแพงแบบนี้เป็นต้น ตอนเด็กๆ ไม่ได้กลัวเลย แต่คราวนั้นก็เล่นเอาหัวใจเต้นตูมตามเหมือนกัน นั่งมองความมืดไปได้ซักยี่สิบนาที ค่อยสงบลง ตอนนั้นน่าจะประมาณตีสามได้น่ะค่ะ ก็เลยฝืนใจนอนคลุมโปงต่อ
เลยสงสัยว่า ผีอำคืออะไร เป็นแีค่เพียงว่า ร่างกาย เส้นประสาทเราถูกกดทับรึเปล่า เลยทำให้เป็นแบบนั้น หรือว่ามีกายละเอียดพยายามจะแทรกเข้าร่างเรา หรือว่าเขามาหยอกเราเล่น แล้วใครเคยเจอแบบฟ้าร้างบ้างไหมคะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#2
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 11:28 AM
1. ท่านอนไม่เหมาะสม ที่นอนนุ่มเกินไปทำให้เกิดการกดทับของเส้นเลือด ทำให้ระบบเลือดหมุนเวียนไม่สะดวก ทำให้ธาตุวิปปริต
2. ร่างกายขาดความสมดุลของธาตุ เช่นคนไม่สบาย เป็นไข้ ธาตุไฟมากเกินไปธาตุนําน้อยเกินไป บางคนธาตุนําน้อยทำให้ธาตุไฟมีมากขึ้นหรือธาตุนํามากขึ้นธาตุไฟน้อยลงร่างกายไม่สมดุล ทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นก็มี
3. อากาศในห้องไม่มีการหมุนเวียน หรือหมุนเวียนไม่พอ ทำให้ร่างกายรับธาตุลมได้ไม่เต็มที่ธาตุสมดุลของร่างกายเลยเพี้ยน
เท่าที่สติปัญญาอันน้อยนิดของผมนึกออกก็มีเพียง3ข้อนี้แหละครับต้องขออภัย อ่ะมาต่อกันนะครับ
อย่างตัวผมก็เกิดอาการเช่นนี้บ่อยๆ ตอนที่ย้ายที่พักใหม่ เรียกได้ว่าเป็นเกือบทุกคืนเลยก็ว่าได้ อาการคล้ายคุณฟ้าร้างเลยครับ คือมีความรู้สึกแต่ขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้ แม้จะออกแรงแค่ไหนก็ตาม จะพลิกตัวก็ไม่ได้ บางทีแม้แต่ลืมตายังลืมไม่ขึ้น แต่ต่างกันแค่นิดเดียวคือผมไม่เห็นถึงขนาดเป็นเงาร่างเหมือนของคุณฟ้าร้าง แม้แต่ในขณะที่ผมหงุดหงิดขึ้นมาว่าทำไมเกิดอาการแบบนี้ขึ้นมา ก็ยังเคยเอ่ยปากบอกก่อนนอนไปว่า ถ้าเป็นผีมาอำแน่จริงก็ปรากฏกายมาให้เห็นอย่ามัวแต่มุดหัวหลบอยู่แต่ก็ไม่เคยได้เห็นอะไรปรากฏให้ผมเห็นเลยแม้แต่น้อย จนกระทั้งได้มาฟังเทปหลวงพ่อเรื่องธาตุ4 ก็เลยลองเอามาพิจารณาเปรียบเทียบดูก็ อ๋อ ห้องเรานี่มันทึบนะ เพราะหน้าต่างเปิดไม่ได้(ไม่มีมุ้งลวดเลยต้องปิดไว้ตลอดน่ะครับ) อากาศมันไม่ถ่ายเท เลยให้ช่างมาปิดมุ้งลวดให้ และติดแอร์เพิ่ม อืม ช่วยได้เยอะเหมือนกัน คือไม่มีอาการเกิดขึ้น แต่ไม่นานอาการเริ่มกลับมาใหม่ ก็มาคิดดูอีก เอ๋ทำไมยังไม่หายนะ คิดไปคิดมาก็ อ๋อ ช่วงไม่ได้เปิดแอร์ร่างกายมันร้อนเลยเสียเหงื่อนี่เอง ก่อนนอนเลยต้องดื่มนําเข้าไปเพื่อปรับธาตุให้สมดุล ก็ช่วยให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่ก็เป็นอีก ก็มาคิดอีกเอ๋ ทำไมยังเป็นอยู่ คราวนี้ลองดูที่นอนของเราตามที่ได้ฟังจากหลวงพ่อ ก็อ๋อ ที่นอนเรามันไม่ดีนี่ที่นอนมันยุบกลาง เวลานอนเลือดมันเลยไหลเวียนไม่ดี ก็เปลี่ยนที่นอนใหม่ โอ้ ได้ผลครับ แต่ก็ยังไม่หายขาด จากที่เป็นทุกวันมาเป็นสัปดาห์เป็นที สุดท้ายผมถึงได้ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงยังเป็นอยู่ เพราะไปหาหมอจีนท่านหนึ่ง ท่านตรวจชีพจรผมแล้วบอกผมว่าผมเลือดน้อย และเป็นมานานแล้วด้วย ผมเลยถึงบางอ้อครับ เพราะผมเลือดน้อยนี่เอง ธาตุนําขาดความสมดุลทำให้ร่างกายร้อนเกินเหตุ แล้วเมื่อมาพิจารณาดู ก็ยิ่งสังเกตุได้ชัดว่าผมจะเป็นก็ตอนที่ผมทำงานตากแดดนานๆ วันไหนที่ผมตากแดดนานๆ ผมมักจะเป็นบ่อย เพราะความร้อนมันสะสมในตัวนั่นเองครับ
เพราะฉนั้น อยากให้คุณฟ้าร้างลองสังเกตุและพิจารณาถึงสภาพห้องนอนดูก่อนะครับ ว่าห้องนอนของคุณฟ้าร้างนั้นอากาศถ่ายเทได้สะดวกไหม หากห้องอัพก่อนนอนให้เปิดหน้าต่างระบายความอับนั้นออกไปก่อน แม้จะเปิดแอร์นอนก็ตามครับให้ระบายอากาศของเก่าออกไปก่อน ก่อนนอนดื่มนําสักแก้ว หากระป๋องตักนํามาวางทิ้งไว้ใกล้แอร์ หากเปิดแอร์นะครับ เพราะเมื่ออากาศเย็นจะทำให้ความชื้นที่เหมาะสมในห้องระเหยไป ผิวจะแห้งกร้านได้ง่าย ตรวจดูที่นอนว่านุ่มเกินไปหรือเปล่านะครับ อ้อ ข้อนี้สำคัญนะครับ ท่านใดที่มีต้นไม้ไว้ในห้องนอน ให้เอาออกเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นต้นเล็ก แม้แต่ต้นกระบองเพชรเอาออกให้หมดนะครับ ตัวการทำให้ฝันร้ายเลยทีเดียวครับต้นไม้พวกนี้
ปล. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องที่มองไม่เห็นก็ไม่ควรลบหลู่นะครับ ก่อนนอนก็แผ่เมตตาสักหน่อยแล้วกันนะครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:35 PM
ผมนี่ก็เคยเป็นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
อาการคือ ตื่นมากลางดึก ลืมตาได้แต่ขยับตัวไม่ได้ พูดไม่ได้
แต่ต่างกับคุณฟ้าร้างตรงไม่มีเงาดำแค่นั้นแหละครับ
อย่างของผมนี่ไม่ใช่ผีอำหรอกครับ
บางครั้งก็สนุกดี ลองพยายามดิ้นหรือตะโกนดู มันก็ไม่ออก
ร่างกายมันฝืนๆยังไงไม่รู้
แล้วทำไปซักพักก็จะสามารถขยับได้เอง
คิดว่าคงเป็นอาการของร่างกายที่ตื่นไม่เต็มที่มากกว่า
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#4
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:42 PM
อาการผีอำกับนอนทับเส้น เราจะแยกกันออกได้ชัดเจน ถ้านอนทับเส้นก็แค่หายใจไม่ค่อยสะดวก ขยับตัวไม่ได้ แต่ผีอำแตกต่าง บรื๊ออออ!!
แล้วก็ทำให้เราต้องสวดมนต์โดยอัตโนมัติ
แต่เคยดูรายการหนึ่งคุณเอกพันธ์ คุณบิณ (ดาราหนัง) เค้าบอกว่าสวดมนต์ไม่ยอมปล่อย ให้ด่าไปเลยว่า ไอ้ผี... ไอ้ผี... เดี๋ยวสาปแช่งไม่ให้ไปผุดไปเกิดเลย...ผีจะปล่อยแน่นอน
อะไรจะโหดกับผีขนาดนั้น
#5
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:55 PM
#6
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 01:18 PM
ไม่ว่าจะฝรั่ง จีน แขก แล้วก็มีชื่อเรียกต่างๆกันไป
นี่ตัวอย่างรูปของฝรั่งครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#7
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 01:34 PM
ส่วนของดิฉันที่จำได้มีแค่ครั้งเดียว ผีมากอดด้านหลัง ดิฉันขยับตัวไม่ได้ แล้วก็ได้ยินด้วยว่า ไอ้นี่มีดีอะไร ทำไมทำอะไรไม่ได้....ประมาณนี้ล่ะค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 01:41 PM
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#9
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 01:58 PM
1. ถ้าฝันร้ายแล้วตกใจตื่นขึ้นมาเกิดอาการคล้ายผีอำ กันนี้มีสาเหตุมาจากอากาศภายในห้องนอนไม่หมุนเวียน ประกอบกับท่านอนที่ไม่ได้ลักษณะ จะเป้นบ่อยหากนอนตะแคงซ้าย (ผมเป็นบ่อยเวลานอนตะแคงซ้ายครับ แต่วันไหนถ้านอนตะแคงขวา หลับยาวถึงเช้า) นําหนักตัวจะกดทับหัวใจทำให้สูบฉีดเลือดไปไม่สะดวก และที่นอนมีความอ่อนนุ่มมาก และเนื่องจากการสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอนี้เองทำให้ร่างกายหรือกล้ามเนื้อเกิดสภาวะขาดเลือด เรียกได้อีกอย่างว่าอาการกล้ามเนื้อฟ่อชั่วขณะครับ จะทำให้ไม่มีแรงแม้แต่จะกระดุกกระเดี้ยวตัวเหมือนกับตัวเป็นอัมพาต บางครั้งจะเป็นหนักถึงขนาดว่าแม้แต่อยากจะลืมตาก็ลืมไม่ขึ้นครับ
2. ถ้าอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นแล้วรู้สึกขยับตัวไม่ได้ แต่ไม่มีฝันร้าย อันนี้เป็นเพราะท่านอนที่ไม่ได้มาตราฐาน ประกอบกับสภาวะขาดนําของร่างกาย ทำให้เกิดอาการเบลอๆคล้ายคนที่เบลอด้วยผิดไข้ ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เพราะร่างกายเกิดสภาวะกล้ามเนื้อฟ่อชั่วขณะ บางคนอาจเบลอหนักถึงขนาดเห็นภาพหลอนก็มีครับ จะสังเกตุได้คือภาพที่ปรากฏให้เห็นจะไม่ชัดมากคล้ายกับภาพมัวๆเบลอๆน่ะครับ (อันนี้จากความคิดผมนะครับ ถ้าเป็นผีคิดจะหลอกหรืออำจริงๆ คงปรากฏกายให้เราเห็นได้ชัด จะน่ากลัวกว่ามาทำให้เราเห็นแบบเบลอๆเป็นไหนๆครับ จริงป่ะ งิงิ)
3. อันนี้รู้สึกตัวเหมือนกับเราพึ่งตื่นนอน แต่ร่างกายขยับไม่ได้ อันนี้สาเหตุมาจากที่นอนและลักษณะท่าทางการนอนอย่างเดียวเลยครับ (เป็นทุกครั้งเวลาที่ผมนอนตะแคงขวาบนที่นอนนุ่มๆ)
4. รู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้ในช่วงแรก แต่พอเราพยายามฟื้นร่างกายได้สักพักก็เริ่มขยับได้เป็นปกติ อันนี้เกิดจากสภาวะขาดนําอย่างเดียวครับ ซึ่งผมเป็นอยู่ปัจจุบันในขณะนี้ อันนี้ผมเดาว่าเกิดจากการที่เลือดผมน้อย การหมุนเวียนเลือดไม่ดี เมื่อตื่นขึ้นมาใหม่ๆจึงทำให้เกิดอาการขยับตัวไม่ได้เพราะกล้ามเนื้อฟ่อ แต่เมื่อเกิดการฝืนร่างกายพยายามที่จะลุกให้ได้ ร่างกายเกิดการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายมากขึ้นทำให้กล้ามเนื้อเริ่มฟื้นตัว จนสามารถทำให้ขยับได้เหมือนปกติครับ
ปล.อีกครั้ง นี่เป็นการคาดเดาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองและคิดหาทางแก้ไขจนอาการตัวเองเริ่มบรรเทาเบาบางลงเท่านั้นนะครับ ท่านใดจะลองเอาไปวิเคราะห์ปรับแก้กับของตัวเองดูบ้าง ผมไม่สงวนสิทธิ์นะครับ แต่อยากให้ลองหาเทปธรรมะของหลวงพ่อทัตตะเรื่องธาตุ4มาลองฟังประกอบการศึกษาดูด้วยจะได้ๆผลที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคำสอนของคุณครูไม่ใหญ่ก็จะทิ้งไม่ได้นะครับ สิ่งที่เรามองไม่เห็นก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน เพราะฉนั้นไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#10
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 02:30 PM
โรงแรมนี้น่าประทับใจครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มี DMC เปิดมาเจอหลวงพ่อพอดีเลยครับ ขนาดกลางดึก rerun พอดี เลยทำสมาธิหลับต่อสบายครับ
และหลังจากนั้นไม่นานก็พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองครับ ว่าเกิดจากอันข้างล่างครับ พิสูจน์ได้จากการนึกย้อนไปว่าเรานอนอะไรต่างจากปกติ แล้วลองทำตามดูมันก็เป็นอีกครับ สรุปคือหมอนสูงไป น่าจะไปกดทับเส้นเลือดตามที่ข้างล่างนะครับ
1. ท่านอนไม่เหมาะสม ที่นอนนุ่มเกินไปทำให้เกิดการกดทับของเส้นเลือด ทำให้ระบบเลือดหมุนเวียนไม่สะดวก ทำให้ธาตุวิปปริต
#11
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:07 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#12
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:17 PM
#13
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 09:08 PM
#14
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 09:15 PM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#15
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 11:56 PM
รึไม่ก็สภาวะจิตใจใกล้เคียงกัน
ก็เลยเจอ
#16
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 02:05 AM
ถ้ายังจะมาอำกันอีก ละก็นะ
ก็สู้เลย บอกไปว่าไม่กลัวหรอก บอก"เดี๋ยวฟ้องหลวงปู่วัดปากน้ำ ฟ้องคุณยายอาจารย์นะ" เอาไม๊ๆ
#17
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 11:09 AM
ตื่นมาแล้วก็ลองปรับตำแหน่งเตียง-ที่นอน ให้อยู่ในระดับที่ลมพัดผ่าน แต่ไม่ต้องถึงกับลมโกรก
แล้ววันต่อมาก็ลองนอนดู ว่าเป็นไงบ้าง ยังผีอำอยู่หรือเปล่า ถ้ายังเหมือนเดิม แล้ววันหลังก็ลองปรับไปอีก
ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็เปลี่ยนห้องนอนดูนะ
#18
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 11:30 AM
น่าจะมีทั้งผีจริง(ฟังจากเคสบางเคสนะคะ)
และเป็นเรื่องของอากาศไม่ถ่ายเท ธาตุแปรปรวน ฯลฯ
แต่ที่เจอบ่อยๆ กับตัวเอง
ก็รู้สึกว่าเป็นการตื่นแบบไม่เต็มที่ตามที่คุณมองอย่างแมวบอก
ตอนหลังก็เลยไม่กลัว ...รอให้ตื่นเอง
แต่บางทีก็ขัดใจ..อยากรีบตื่น ก็โมโหเหมือนกันนะคะ
แปลกดีค่ะ..
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#19
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:18 PM
ก็พูดไม่ออกพยายามเรียกแต่ไม่มีเสียงเลย รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับทั้งตัวอยู่
ตั้งสติท่อง อะระหัง สัมมา อยู่ในใจอยู่นานมากกว่าจะเป็นปกติ
และห้องนอนห้องนี้ใครที่มานอนใหม่ๆ จะเป็นเหมือนกันหมดเลยค่ะ ปู่ย่าตายายบอกว่าเจ้าที่แรง
ชาวพุทธทั้งหลายพึงรักษาพระพุทธศาสนาด้วยความเพียรของตน โดยไม่คิดหวังพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลแม้ฉันนั้น
#20
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:24 PM
ถึงหลวงปู่ นั้งสมาธิแผ่เมตตา ฯ อาจจะมี ผี มาของส่วนบุญ และ เกิดจากการกดทับของร่างกาย เป็น หลายๆ ไป ครับ
สาธุ
ลูกพระธรรม
#21
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:33 PM
Someday I'm gonna be free.