ใช้บุญเปลือง
#1
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 11:15 AM
#2
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:30 PM
#3
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:50 PM
แต่การอุทิศบุญนั้น คนละกรณีกับการใช้บุญ ถ้าเป็นการใช้บุญ อย่างนั้นบุญถึงจะลดน้อยลงได้ เช่น ใช้ในการตัดรอนวิบากกรรม ใช้ตามที่เราได้อธิษฐานเพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา หรือถ้าเราเข้าถึงวิชชาธรรมกายแล้วใช้บุญของเราช่วยเหลือหมู่ญาติที่ตกนรกอย่างนั้นบุญก็ถูกใช้เปลืองไปเหมือนกัน หลวงพ่อถึงได้บอกว่าเวลาญาติใครตกนรก ให้เราปฎิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายแล้วไปช่วยด้วยตัวเราเองแบบคุณยายอาจารย์ เพราะเป็นหน้าที่ของลูกหลานที่จะต้องกตัญญู อย่างเมื่อคืนหลวงพ่อก็บอกว่า เวลาหลวงปู่ปราบมารก็เปลืองบุญเปลืองบารมีเหมือนกัน แต่บารมีขนาดหลวงปู่นั้นเหลือเฟือครับ
#4
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 12:54 PM
#5
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 01:21 PM
บุญอยู่เบื้องหลังความสุข และ ความสำเร็จ ดังนั้น ถ้าประสบความสำเร็จในหน้าที่ การงานเพราะอธิษฐานบุญเจาะจงแล้วละก็ ก็สร้างบุญใหม่เพิ่มสิครับ สมดังคำที่ว่า หาบุญได้ ใช้บุญเป็น
อันนี้ ถูกต้องแน่นอน เพราะ ทุกนาทีที่ผ่านไป คุณใช้บุญอยู่ตลอดเวลา เหมือน ตุ่มน้ำที่ก้นมีรู น้ำค่อยๆ ไหลออกไป ดังนั้น หน้าที่เราคือ ต้องเติมน้ำอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้น้ำหมดตุ่ม เกิดประมาทน้ำหมดเมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมันครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 02:03 PM
1. นั่งสมาธิให้จิตนิ่งสนิท อย่างน้อยวันละ 15 นาที
อานิสงส์ ---เพื่อสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดขึ้นทั้งภพนี้และภพหน้า
เมื่อจิตสงบนิ่ง จะปราศจาก โลภะ โทสะ โมหะ ได้บุญมาก
จิตจะผ่อนปรนจากกิเลส ปล่อยวางได้ง่าย
จิตจะรู้วิธีแก้ปัญหาชีวิตโดยอัตโนมัติ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองไม่มีวันอับจน
ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพกายและจิตแข็งแรง
คู่กรรมคู่เวรและญาติมิตรที่ล่วงลับจะได้บุญกุศล
2. สวดมนต์ด้วยพระคาถาต่างๆอย่างน้อยวันละครั้งก่อนนอน
อานิสงส์ ---เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ชีวิตหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า
เงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง จิตจะเป็นสมาธิได้เร็ว
แนะนำพระคาถาพาหุงมหากา,พระคาถาชินบัญชร,
พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก เป็นต้น เมื่อสวดเสร็จต้องแผ่เมตตาทุกครั้ง
3. ถวายยารักษาโรคให้วัด,ออกเงินค่ารักษาให้พระตามโรงพยาบาลสงฆ์ หรือกองทุนคิลานเภสัช
อานิสงส์--- ก่อให้เกิดสุขภาพร่มเย็นทั้งครอบครัว โรคที่ไม่หายจะทุเลา
สุขภาพกายจิตแข็งแรง อายุยืนทั้งภพนี้และภพหน้า
ถ้าป่วยก็จะไม่ขาดแคลนการรักษา
4. ทำบุญตักบาตรทุกเช้า
อานิสงส์ ---ได้ช่วยเหลือศาสนาต่อไปทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ขาดแคลนอาหาร
ตายไปไม่หิวโหย อยู่ในภพที่ไม่ขาดแคลน ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์
5. ทำหนังสือหรือสื่อต่างๆเกี่ยวกับธรรมะแจกฟรีแก่ผู้คนเป็นธรรมทาน
อานิสงส์---เพราะธรรมทานชนะการให้ทานทั้งปวง ผู้ให้ธรรมจึงสว่างไปด้วยลาถยศ
สรรเสริญ ปัญญา และบุญบารมีอย่างท่วมท้น คู่กรรมคู่เวรอโหสิกรรมให้
ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่คาดฝัน
6. สร้างพระถวายวัด สร้างพระประจำตัวบูชามหาปูชนียาจารย์
อานิสงส์---ผ่อนปรนหนี้กรรมให้บางเบา ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แคล้วคลาดจากอุปสรรคทั้งปวง ครอบครัวเป็นสุข
ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนาตลอดไป
7. แบ่งเวลาชีวิตไปบวชชีพรามณ์หรือบวชพระอย่างน้อย9วันขึ้นไป
อานิสงส์ ---ได้ตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่
ผ่อนปรนหนี้กรรมอุทิศผลบุญให้ญาติมิตรและคู่กรรมคู่เวร
สร้างปัจจัยไปสู่นิพพานในภพต่อๆไป ได้เกิดมาอยู่ในร่มโพธิ์ของพุทธศาสนา
จิตเป็นกุศล
8. บริจาคเลือดหรือร่างกาย
อานิสงส์---ผิวพรรณผ่องใส สุขภาพแข็งแรง ช่วยต่ออายุ
ต่อไปจะมีผู้คอยช่วยเหลือไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก เทพยดาปกปักรักษา
ได้เกิดมามีร่างกายที่งดงามในภพหน้า ส่วนภพนี้ก็จะมีราศีผุดผ่อง
9. ปล่อยปลาที่ซื้อมาจากตลาดรวมทั้งปล่อยสัตว์ไถ่ชีวิตสัตว์ต่างๆ
อานิสงส์---ช่วยต่ออายุ ขจัดอุปสรรคในชีวิต
ชดใช้หนี้กรรมให้คู่กรรมคู่เวรที่เคยกินเข้าไป ให้ทำมาค้าขึ้น
หน้าที่การงานคล่องตัวไม่ติดขัด ชีวิตที่ผิดหวังจะค่อยๆฟื้นคืนสภาพที่สดใส
เป็นอิสระ
10. ให้ทุนการศึกษา,บริจาคหนังสือหรือสื่อการเรียนต่างๆ,อาสาสอนหนังสือ
อานิสงส์---ทำให้มีสติปัญญาดี ในภพต่อๆไปจะฉลาดเฉลียวมีปัญญา
ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างรอบรู้ สติปัญญาสมบูรณ์พร้อม
11. ให้เงินขอทาน,ให้เงินคนที่เดือดร้อน(ไม่ใช่การให้ยืม)
อานิสงส์ ---ทำให้เกิดลาภไม่ขาดสายทั้งภพนี้และภพหน้า ไม่ตกทุกข์ได้ยาก
เกิดมาชาติหน้าจะร่ำรวยและไม่มีหนี้สิน ความยากจนในชาตินี้จะทุเลาลง
จะได้เงินทองกลับมาอย่างไม่คาดฝัน
12. รักษาศีล5หรือศีล8
อานิสงส์---ไม่ต้องไปเกิดเป็นเปรตหรือสัตว์นรก
ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐครบบริบูรณ์ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
กรรมเวรจะไม่ถ่าโถม ภัยอันตรายไม่ย่างกราย เทวดานางฟ้าปกปักรักษา
อานิสงส์10ข้อของการไม่กินเนื้อสัตว์
1. เป็นที่รักของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์####มโหดเครียดแค้นในใจลงได้
4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
5. มีอายุมั่นขวัญยืน
6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากเทพทั้งปวง
7. ยามหลับนิมิตเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคล
8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสพระนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสูอบายภูมิ
10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตจะมุ่งสู่สุคติภพ
อานิสงส์การจัดสร้างพระพุทธรูปหรือสิ่งพิมพ์อันเกี่ยวกับพระธรรมคำสอนเป็นกุศลดังนี้
1. อกุศลกรรมในอดีตชาติแต่ปางก่อน จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ
2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สรรพภยันตรายสลาย ปวงภัยไม่มีคนคิดร้ายไม่สำเร็จ
3. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติแต่ปางก่อน เมื่อได้รับส่วนบุญไปแล้วก็จะเลิกจองเวรจองกรรม
4. เหล่ายักษ์ผีรากษส งูพิษเสือร้าย ไม่อาจเป็นภัยอยู่ในที่ใดก็แคล้วคลาดจากภัย
5. จิตใจสงบ ราศีผ่องใส สุขภาพแข็งแรง กิจการงานเป็นมงคล รุ่งเรืองก้าวหน้าผู้คนนับถือ
6. มั่นคงในคุณธรรม ความอุดมสมบูรณ์ปรากฏ (เกินความคาดฝัน) ครอบครัวสุขสันต์ วาสนายั่งยืน
7. คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา หนี้สินจะหมดไป
8. คนโง่สิ้นเขลา คนเจ็บหายได้ คนป่วยหายดี ความทุกข์หายเข็ญสตรีจะได้เกิดเป็นชายเพื่อบวช
9. พ้นจากมวลอกุศล เกิดใหม่บุญเกื้อหนุน มีปัญญาล้ำเลิศ บุญกุศลเรืองรอง
10. สิ่งที่สร้างจะบังเกิดเป็นกุศลจิตแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นเป็นเนื้อนาบุญอย่างเอนกทุกชาติของ ผู้สร้างที่เกิดจะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้าปัญญาในธรรมแก่กล้าสามารถได้อภิญญาหก สำเร็จโพธิญาณ
อานิสงส์การบวชพระบวชชีพรามณ์ (บวชชั่วคราวเพื่อสร้างบุญ , อุทิศให้พ่อแม่คู่กรรมคู่เวร)
1. หน้าที่การงานจะเจริญรุ่งเรือง ได้ลาภ ยศ สรรเสริญตามปรารถนา
2. เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิกรรม หนี้กรรมในอดีตจะคลี่คลาย
3. สุขภาพแข็งแรง สติปัญญาแจ่มใส ปัญหาชีวิตคลี่คลาย
4. เป็นปัจจัยสู่พระนิพพานในภพต่อๆไป
5. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง โพยภัยอันตรายผ่อนหนักเป็นเบา
6. จิตใจสงบ ปล่อยวางได้ง่าย มองเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต
7. เป็นที่รักที่เมตตามหานิยมของมวลมนุษย์มวลสัตว์และเหล่าเทวดา
8. ทำมาค้าขึ้น ไม่อับจน การเงินไม่ขาดสายไม่ขาดมือ
9. โรคภัยของตนเอง ของพ่อแม่ และของคนใกล้ชิดจะเบาบางและรักษาหาย
10. ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ได้เต็มที่ สำหรับผู้ที่บวชไม่ได้เพราะติดภาระกิจต่างๆ ก็สามารถได้รับอานิสงส์เหล่านี้ได้ด้วยการสร้างคนให้ได้บวชสนับสนุนส่งเสริมอาสาการให้คนได้บวช
*ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างบุญที่ยกขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงอานิสงส์ที่ท่านพึงจะได้รับจงเร่งทำบุญเสียแต่วันนี้ เพราะเมื่อท่านล่วงลับท่านไม่สามารถสร้างบุญได้อีก จนกว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์เท่านั้น หากท่านไม่มีบุญมาหนุนนำแรงกรรมอาจดึงให้ท่านไปสู่ภพเดรัจฉาน ภพเปรต ภพสัตว์นรกที่ไม่อาจสร้างบุญสร้างกุศลได้ต่อให้ญาติโยมทำบุญอุทิศให้ก็อาจไม่ได้รับบุญ ดังนั้นท่านจงพึ่งตนเองด้วยการสร้างสมบุญบารมีซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ท่านจะนำติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติเสียแต่วันนี้ด้วยเทอญ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#7
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 02:20 PM
การใช้บุญ อุปมาได้เหมือนนําในขวดในโอ่งในไห หากตักดื่มบ่อยครั้งเข้าไม่รู้จักหามาเติม มันก็จะค่อยๆพร่องและหมดไป
การอุทิศบุญ อุปมาได้เหมือนดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและความสวยงามวางไว้ตรงกลางวง จะมีคนเป็นร้อยเป็นพันมานั่งล้อมวงสูดดมกลิ่นหรือชมความสวยงาม กลิ่นและความสวยงามก็ไม่จืดจางหายไป และทุกคนยังได้กลิ่นและชมความสวยงามของดอกไม้นั้นเท่าๆกันด้วย (นอกจากจะมีใครคนหนึ่งปู้ดป้าดออกมาน่ะแหละครับ มีวงแตกแน่ งิงิ )
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#8
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:11 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:12 PM
ปล. การใช้บุญ คนละความหมายกับการอุทิศบุญนะครับ การอุทิศบุญ บุญย่อมเพิ่มพูน แต่การใช้บุญ บุญย่อมหมดไป
เรื่องนี้เสียดายเหมือนกัน ผมเคยคิดตั้งคำถามในเคสของตัวเองว่า คนปัจจุบัน มีรถขับแล่นเร็วมาก ไปไหนได้รวดเร็ว เทียบกับคนสมัยก่อน ใช้เกวียน ถือว่า คนสมัยนี้ใช้บุญเปลืองกว่าสมัยก่อนหรือไม่ หรือ คนสมัยนี้อยากคุยกับใคร แค่ยกโทรศัพท์มือถือ ก็คุยได้กับคนทุกมุมโลก เทียบกับคนสมัยก่อน ต้องมีหูทิพย์ถึงจะทำได้ ดังนั้น คนสมัยนี้ใช้บุญเปลืองกว่าคนสมัยก่อนหรือไม่
แต่พอดี คำถามเกินโควต้า (เขาให้แค่ 12 คำถาม) คำถามนี้เลยอดถามน่ะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:13 PM
เพราะว่าเรากินเพื่อประทังชีวิต และกินซากเหมือนแร้งค่ะ จึงไม่ได้บาปอะไร เพราะไม่มี่เจตนาไปฆ่าใคร
#11
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 07:19 PM
เคยมีอยู่หลายครั้งที่ดิฉันไปขอร่วมบุญกับเพื่อนบางคน เพื่อนก็ไม่ยอมค่ะ เขาว่าเสียเคล็ดซะงั้น
#12
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 08:14 PM
ค่ะ เราควรสั่งสมบุญบ่อยๆค่ะ
นึกอยู่ที่ศูนย์กลางกายบ่อยๆ ก็ได้บุญ แล้วก็จะพาให้เรานึกถึงบุญอื่นๆ ได้อีก นึกเรื่อยๆเลยนะคะ บุญจะได้เพิ่มขึ้น
การอนุโมทนาบุญกับผู้อื่น และมีคนมาอนุโมทนาบุญกับเรา ต่างก็ช่วยให้เรานึกถึงบุญได้ ก็จะได้สว่างวาบขึ้นไง
เหมือนเวลาเราไปจ่อเทียนไขที่มีไฟของเพื่อน ไฟที่เทียนของเพื่อนก็ไม่ได้น้อยลง เราได้ไฟมาติดเทียนของเรา
เหมือนกัน เวลาเรามีเทียนที่มีไฟ เพื่อนมาขอจ่อไฟ เค้าก็ได้ไฟสว่าง เราก็ไม่เสียไฟไปเลย แถมเราได้ช่วยเค้า
อนุโมทนาบุญกันทีไร บุญก็เกิด
#13
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 08:49 PM
พอเจอปัญหา ก็ใส่บาตร ทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิเยอะๆๆ เดี๋ยวอะไรๆมันก็ดีขึ้นเองครับ ชัวร์
#14
โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 09:08 PM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#15
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 02:09 AM
ก็ทำบุญไว้เยอะๆ สิ เอาเก็บไว้เยอะๆ แบบใช้เท่าไหร่ไม่ค่อยพร่องนะ
ทำบุญทุกบุญ บุญใหญ่บุญเล็กเก็บให้หมดเลย
แหมชาตินี้มีบุญมากมายสารพัด มาให้ทำกันเนี่ย โชคดีจริงๆ
ว่าแล้ววันนี้อย่าลืมทำบุญกันล่ะ
#16
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 10:22 AM
#17
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 10:58 AM
ใช่แล้วค่ะ
หาบุญได้ใช้บุญเป็น
บุญเบื้องต้นที่หาได้ง่าย
แม้อยู่บ้านก็ทำได้ ก็คือการรักษาศีลอย่างน้อยศีล 5 ให้บริสุทธิ์
การสวดมนต์ การปฎิบัติธรรม รักษาใจให้ผ่องใส
จากนั้นเมื่อมีโอกาสก็เพิ่มเติมในบุญอื่นๆดังที่ทุกท่านแนะนำมาเบื้องต้นค่ะ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#18
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:43 PM
ลูกพระธรรม
#19
โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 10:27 AM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี