ทำไม มีคนชอบพูดว่า เวลาเสียวแล้วใจตกไปที่ตาตุ่ม
ตอนตกใจ ใจตกร่วงไปถึงตาตุ่มเลยเหรอ หรือเป็นยังไงกันแน่นะ
เสียววูบ ใจหล่นตุ๊บ
เริ่มโดย D_jung, Sep 16 2006 02:22 AM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 02:22 AM
#2
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 06:20 AM
สงสัยเหมือนกันค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 07:57 AM
ความเห็นผมนะ ผมว่าตกไปไม่ถึงตาตุ่มหรอก เป็นเพียงคำเปรียบเทียบว่ามัน มีอาการวูบของใจ เหมือนตกจากที่สูงมากกว่า ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นอาการที่ใจตกศูนย์น่ะครับ เป็นธรรมชาติของใจครับ เวลาจะเกิดดับหลับตื่น ใจจะต้องตกศูนย์ครับ ไม่งั้นเกิดดับหลับตื่นไม่ได้ ที่นี้คนเวลาตกใจมากๆ บางคนช๊อคตายไปเลยก็มี พูดง่ายๆ ก็คือ ไอ้ที่มันรู้สึกถึงใจตกศูนย์อย่างนั้นน่ะ เพราะมันจะตายนั่นเองครับ ถ้าไม่ตกใจมาก ก็อาจจะแค่ตกศูนย์เล่นๆ แต่ถ้าตกใจมากๆ ทีนี้ไม่แค่ตกศูนย์เล่นๆ ใจเคลื่อนออกจากฐานต่างๆ ไปออกที่ปากช่องจมูก หญิงซ้ายชายขวา พูดง่ายๆ ก็ตายนั่นเองครับ หุๆ ขอย้ำอีกครั้งว่าที่บอกไปทั้งหมดนี่ ความคิดผมนะครับ คิดเล่นๆสนุกๆ ผมว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้แหละ ที่มาของใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.
Someday I'm gonna be free.
#4
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 10:08 AM
เป็นแค่คำอุปมาอุปไมยนะครับ
เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะ
เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะ
จงสู้และอย่าท้อ ลูกเอย
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#5
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 10:58 AM
เก็บขึ้นมาเลยครับ ก่อนที่มันจะหล่นลึกไปมากกว่านี้ อิอิ
ทำดีต้องทำจริง ต้องตัวจริงเท่านั้นที่ทำได้
และนั่นคือพวกเรา ได้รวมพลังยิ่งใหญ่
เป็นดาวแห่งความดี ต้องดีจริงต้องตัวจริง
#6
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 11:56 AM
เป็นคำอุปมาน่ะค่ะ ..เป็นการให้ภาพพจน์ของภาษา..แปลว่าใจหายแว๊บบบบ
เข้าใจว่าคนคิดคำนี้คงไม่รู้จัก ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 น่ะคะ
ไม่อย่างนั้นคงจะมีคำที่เก๋ๆกว่านี้..อิอิ
เข้าใจว่าคนคิดคำนี้คงไม่รู้จัก ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 น่ะคะ
ไม่อย่างนั้นคงจะมีคำที่เก๋ๆกว่านี้..อิอิ
ถ้าใจใส
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#7
โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 12:07 PM
ถูกอย่างคุณ ถูกส่วน ว่าไว้ครับ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#8
โพสต์เมื่อ 22 September 2006 - 06:29 PM
พี่แมรี่เคยถูกผู้ใหญ่ท่านนึง ใช้จิตวิทยาขู่โดยยืนขึ้นตบโต๊ะ แล้วก็ชี้หน้าสั่งให้เราต้องรับผิด
ตอนนั้นใจตกไปที่ตาตุ่มจริงๆค่ะ คือ เป็นอาการที่สมองไม่สั่งการ หยุดความคิดไปวูบนึง
ตัวชาไม่กระดุกกระดิก (แต่ไม่ได้เป็นเหน็บชานะคะ) ตัวเราจะขาดพลัง ใจชะงักงัน
จนเหมือนไม่มีวิญญาณความคิดอะไรเลย
ปกติครูใหญ่ผู้บ้าอำนาจท่านนี้ จะขู่เด็กนักเรียนแบบนี้ แล้วนักเรียนก็จะกลัว+ร้องไห้รับผิด
โชคดีที่เป็นคนจิตแข็ง เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องจิต จิตวิทยา สัจธรรม ประวัติบุคคลสำคัญ
ยังดีที่จิตไม่ถอดออกไป แต่ดิ่งเข้ากลางไปหาที่พี่งภายใน ก็ปิ้งเห็นภาพขึ้นมาได้
ถึงท่านนโปเลียนที่ตอนนั้นท่านถูกเนรเทศไปอยู่เกาะ แล้วทหารยกทัพมาจะมาจับและเอาชีวิตท่าน
ท่านใช้ความกล้าหาญ มโนมยิทธิ และการระลึกถึงความดีที่เคยทำมา รวมทั้งวุฒิภาวะขั้นสูง
ท่านสามารถจะทำให้ทหารที่มีอาวุธครบมือ ทั้งกองทัพ ต้องลดอาวุธ ยินดีปล่อยท่าน
และระลึกถึงคุณประโยชน์ความดีงามที่ได้ทำให้กับประเทศฝรั่งเศส ยกย่องนับถือท่านด้วยใจจริง
แล้วก็สูดลมหายใจ ดึงเอาใจของเราที่ตกไปที่ตาตุ่ม ขึ้นมาฟื้นสติให้เต็มตัวอีกครั้ง
ไม่เป็นดั่งแผนขู่ พี่ไม่ร้องไห้เลยสักแอะ กลับดึงเอาจิตวิญญาณของท่านนโปเลียนมาใช้
พี่พูดด้วยเหตุผลที่ลึกซึ้ง ชี้ชัดและถูกต้อง อย่างสงบสุขุม นุ่มนวลเยือกเย็น และหนักแน่น
ทั้งที่ขณะเป็นผู้หญิงอายุ 16 ปี แต่ก็ทำให้จิตครูใหญ่ท่านนั้นฝ่อลง และยอมรับความคิด
แล้วเค้ากลับถามว่าเค้าควรจะต้องให้ทำยังไงต่อไปดี พี่ก็ตอบโดยใช้วิญญาณความเป็นผู้ใหญ่
ที่เขียนมานี้ พี่แมรี่ต้องการชี้ว่า
ข้อ 1 ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มีอาการเช่นนั้นอยู่จริงค่ะ
ข้อ 2 การเอาผิดจากผู้ใหญ่ท่านนี้ ทำอะไรเราไม่ได้ ความเป็นผู้ใหญ่ของเราปกป้องเราได้
ประสบการณ์ตั้งแต่เด็กๆ และในครั้งนี้ ทำให้มีคำถามต่อไปนี้ที่ตนพยายามค้นหาคำตอบมาตลอด
- เรากลายเป็นผู้ใหญ่ได้ในทันทีได้อย่างไร
- สามารถดึงเอาจิตที่เข้มแข็งเหนือกว่าความเป็นผู้หญิงมาใช้ได้ด้วยหรือ
- เราเป็นผู้ใหญ่ที่แม้นแต่คนที่อายุมากว่า อยู่ในสถานะที่สูงกว่า
ยังต้องยอมรับ และต้องสำนึกถึงความมีทิฐิมานะของตนได้ยังไง
- ทำยังไงเราถึงจะเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ได้อีก อย่างมั่นคงถาวร
- อะไรที่ยังขวางเรา ไม่ให้เป็นผู้ใหญ่แบบนั้นบ้าง (เบื่อความเป็นผู้หญิง)
- การเป็นผู้ใหญ่เช่นนั้น ทำให้เราสามารถสร้างประโยชน์ต่อผู้คนได้สูงสุดแค่ไหน
เกือบ 20 ปีเลยที่เดียวที่พยายามเก็บข้อมูล ตามหาหนทาง ฝึกฝนที่จะได้เป็นผู้ใหญ่แบบนี้
สรุปว่า... ขอกราบบูชาพระรัตนตรัย พระมหาบูชนียาจารย์ วิชชาธรรมกาย
ลูกขอปวราณาตนทำงานชีวิตในเส้นทางบูญ ในวงบุญนี้ ไปถึงที่สุดแห่งธรรมค่ะ
ตอนนั้นใจตกไปที่ตาตุ่มจริงๆค่ะ คือ เป็นอาการที่สมองไม่สั่งการ หยุดความคิดไปวูบนึง
ตัวชาไม่กระดุกกระดิก (แต่ไม่ได้เป็นเหน็บชานะคะ) ตัวเราจะขาดพลัง ใจชะงักงัน
จนเหมือนไม่มีวิญญาณความคิดอะไรเลย
ปกติครูใหญ่ผู้บ้าอำนาจท่านนี้ จะขู่เด็กนักเรียนแบบนี้ แล้วนักเรียนก็จะกลัว+ร้องไห้รับผิด
โชคดีที่เป็นคนจิตแข็ง เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องจิต จิตวิทยา สัจธรรม ประวัติบุคคลสำคัญ
ยังดีที่จิตไม่ถอดออกไป แต่ดิ่งเข้ากลางไปหาที่พี่งภายใน ก็ปิ้งเห็นภาพขึ้นมาได้
ถึงท่านนโปเลียนที่ตอนนั้นท่านถูกเนรเทศไปอยู่เกาะ แล้วทหารยกทัพมาจะมาจับและเอาชีวิตท่าน
ท่านใช้ความกล้าหาญ มโนมยิทธิ และการระลึกถึงความดีที่เคยทำมา รวมทั้งวุฒิภาวะขั้นสูง
ท่านสามารถจะทำให้ทหารที่มีอาวุธครบมือ ทั้งกองทัพ ต้องลดอาวุธ ยินดีปล่อยท่าน
และระลึกถึงคุณประโยชน์ความดีงามที่ได้ทำให้กับประเทศฝรั่งเศส ยกย่องนับถือท่านด้วยใจจริง
แล้วก็สูดลมหายใจ ดึงเอาใจของเราที่ตกไปที่ตาตุ่ม ขึ้นมาฟื้นสติให้เต็มตัวอีกครั้ง
ไม่เป็นดั่งแผนขู่ พี่ไม่ร้องไห้เลยสักแอะ กลับดึงเอาจิตวิญญาณของท่านนโปเลียนมาใช้
พี่พูดด้วยเหตุผลที่ลึกซึ้ง ชี้ชัดและถูกต้อง อย่างสงบสุขุม นุ่มนวลเยือกเย็น และหนักแน่น
ทั้งที่ขณะเป็นผู้หญิงอายุ 16 ปี แต่ก็ทำให้จิตครูใหญ่ท่านนั้นฝ่อลง และยอมรับความคิด
แล้วเค้ากลับถามว่าเค้าควรจะต้องให้ทำยังไงต่อไปดี พี่ก็ตอบโดยใช้วิญญาณความเป็นผู้ใหญ่
ที่เขียนมานี้ พี่แมรี่ต้องการชี้ว่า
ข้อ 1 ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มีอาการเช่นนั้นอยู่จริงค่ะ
ข้อ 2 การเอาผิดจากผู้ใหญ่ท่านนี้ ทำอะไรเราไม่ได้ ความเป็นผู้ใหญ่ของเราปกป้องเราได้
ประสบการณ์ตั้งแต่เด็กๆ และในครั้งนี้ ทำให้มีคำถามต่อไปนี้ที่ตนพยายามค้นหาคำตอบมาตลอด
- เรากลายเป็นผู้ใหญ่ได้ในทันทีได้อย่างไร
- สามารถดึงเอาจิตที่เข้มแข็งเหนือกว่าความเป็นผู้หญิงมาใช้ได้ด้วยหรือ
- เราเป็นผู้ใหญ่ที่แม้นแต่คนที่อายุมากว่า อยู่ในสถานะที่สูงกว่า
ยังต้องยอมรับ และต้องสำนึกถึงความมีทิฐิมานะของตนได้ยังไง
- ทำยังไงเราถึงจะเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้ได้อีก อย่างมั่นคงถาวร
- อะไรที่ยังขวางเรา ไม่ให้เป็นผู้ใหญ่แบบนั้นบ้าง (เบื่อความเป็นผู้หญิง)
- การเป็นผู้ใหญ่เช่นนั้น ทำให้เราสามารถสร้างประโยชน์ต่อผู้คนได้สูงสุดแค่ไหน
เกือบ 20 ปีเลยที่เดียวที่พยายามเก็บข้อมูล ตามหาหนทาง ฝึกฝนที่จะได้เป็นผู้ใหญ่แบบนี้
สรุปว่า... ขอกราบบูชาพระรัตนตรัย พระมหาบูชนียาจารย์ วิชชาธรรมกาย
ลูกขอปวราณาตนทำงานชีวิตในเส้นทางบูญ ในวงบุญนี้ ไปถึงที่สุดแห่งธรรมค่ะ
The Strongest is The Gentlest!
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด