ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

นิยามของพระของขวัญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 23 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 05:47 PM

wacko.gif บางคนทุมเทเพื่อพระของขวัญ
wacko.gif บางคนก็ไม่สนใจพระของขวัญเท่าไร
wacko.gif บางคนก็เอาไว้บอกบุญ

เลยอยากทราบคำนิยามของคำว่า พระของขวัญ ของต่างละคนอ่ะครับว่าคิดกันอย่างไรกัน

#2 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 06:04 PM

ชื่อก็บอกอยู๋แล้วนิเนอะ พระ ของขวัญ
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#3 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 06:20 PM

มีไว้ดู เพื่อระลึกนึกถึงบุญ เพราะเห็นทีไร ก็ปลื้มทุกทีค่ะ
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#4 iMac24

iMac24
  • Members
  • 437 โพสต์
  • Location:Dmoc
  • Interests:เกิดมาสร้างบารมี

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 07:46 PM

เอาไว้ตึกระลึกนึกถึงบุญครับ
จงสู้และอย่าท้อ ลูกเอย
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง

สุนทรพ่อ

มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ

#5 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 07:51 PM

พระของขวัญนั้นเป็นที่ระลึกนึกถึงบุญ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#6 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 08:50 PM

เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ในบางครั้งอาจช่วยชีวิตเราได้ในยามคับขัน
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#7 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 08:53 PM

QUOTE
เลยอยากทราบคำนิยามของคำว่า พระของขวัญ ของต่างละคนอ่ะครับว่าคิดกันอย่างไรกัน

พระของขวัญ คือ พระที่ระลึกในการสร้างบุญ
พอเห็นพระของขวัญ ก็เลยเกิดอาการอยากได้มากน้อยแตกต่างกันไป
ทำให้อยากทำบุญ มีความขวนขวายมากขึ้น (แม้ไม่มีพระของขวัญก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว)

จะมีใครบ้างไหม ที่ทำบุญด้วยใจล้วนๆ ไม่มีความอยากรู้สึกได้พระของขวัญ แม้แต่น้อย
ชนิดที่ว่า พระของขวัญไม่มีอิทธิพลต่อการทำบุญแม้แต่นิด

ผมล่ะครับคนนึงที่สารภาพว่า พระของขวัญก็มีอิทธิพลในการทำบุญบ้าง แต่ก็ไม่มากนัก

ใครเป็นบุคคลพันธุ์ที่ว่า พระของขวัญไม่มีอิทธิพลต่อการทำบุญเลย ยกมือขึ้นหน่อยคร้าบบบ
ผมว่าหายากนะ เพราะ ยังไงใจลึกๆ คงมีความรู้สึกอยากได้กันบ้างแหละ
ก็ยังไม่หมดกิเลสนิ ยิ่งฟังทุกวันว่า ศักดิ์สิทธิ์ยังโง้น ยังงี้ คงก็มีอารมณ์อยากได้บ้างแหละ แถมพระก็สวยด้วย
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#8 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 08:54 PM

คือผมเห็นว่าตอนนี้หลวงพ่อธัมมะท่านพูดถึงเรื่องพระของขวัญ . . . อ่ะ

กลัวว่าจะมีคนไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของ พระของขวัญ

#9 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 September 2006 - 10:41 PM

เป็น...ของขวัญที่เป็นพระ พระของขวัญ
ไว้สำหรับตัวเรา เมื่อเห็นพระของขวัญแล้ว ก็จะได้ระลึกถึงบุญว่า ตอนนั้นเราทำบุญอย่างนี้ๆ ก็เลยได้พระของขวัญนี้มา วันนั้นๆ เรามาวัด มาร่วมพิธี ฯ ก็เลยได้รับมอบพระของขวัญ
หรือของที่ระลึกอื่นๆ ที่หลวงพ่อให้ลูกๆ มา ก็เพื่อให้ระลึกถึงบุญที่แต่ละคนทำ
เพราะ กาลผ่านไปนานๆ เนี่ยลืมนะ ไม่ใช่จำได้ตลอด เวลามาหยิบพระของขวัญหรือของที่ระลึก
ก็มานั่งนึกว่า เอ๊ วันนั้นเราทำบุญอะไรน๊า จึงได้ของที่ระลึกนี้มา
ก็นึกไม่ค่อยออก ...ก็ค่อยๆ อ่านอักษรที่ด้านหลังของของที่ระลึก แล้วก็อ๋อ งานนี้นี่เอง นึกออกแล้วก็ปลื้มใจ
และเมื่อดูของที่ระลึกแล้ว เราก็เอามาเป็นนิมิต ในการนั่งสมาธิได้
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#10 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 10:10 AM

เพราะว่าสังขารชีวิตคนเรานั้นมีวันเสื่อม
วันนี้เรายังจำบุญที่เราได้กระทำได้
แต่เมื่อวันเวลาและอายุล่วงเลยไป
สังขารเสื่อมไป เราอาจลืมวันแห่งความ
ปิติเหล่านั้นไป พระของขวัญก็เป็นสื่อ
ที่ทำให้เราได้ย้อนระลึกนึกถึงความดี
ที่เราได้ทำมาในอดีตได้......

ie. พระของขวัญองค์นี้ที่เราได้มาเพื่อตรึก
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพราะ เราได้ทำหน้าที่
ยอดกัลฯ ชักชวนคนมาร่วมงานบุญ, สร้าง
พระและชักชวนคนมาสร้างพระ, ได้มาร่วม
งานวันคุ้มครองโลก, เป็นผู้นำรถ ฯลฯ

นึกถึงบุญย้อนหลังที่ไรก็ปลื้มครับ นึกถึงบุญ
ช่วงที่ 3 ที่ไร (ช่วงทำไปแล้ว) บุญก็เกิด
ทุกครั้งครับ smile.gif

#11 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 12:44 PM

เห็นด้วยกับคุณ BluE Moon และทุกๆท่าน

แต่ลองสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของความคิดตัวเองไหมครับว่า เมื่ออดีตเราเริ่มทำบุญใหญ่ เราจะคำนึงอยากได้พระของขวัญค่อนข้างมาก แต่เมื่อทำบุญนานๆเข้า บุญเริ่มหล่อเลี้ยงใจให้มีความบริบูรณ์ขึ้น เป้าหมายที่พระของขวัญก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องของที่ระลึกเพื่อตรึกนึกถึงบุญ และในที่สุดก็กลายเป็นบุญนะเป็นหลักอย่างแท้จริง ของขวัญเป็นของที่ระลึกในการสร้างความดี

#12 ชาร์ป

ชาร์ป
  • Members
  • 985 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ปทุมธานี

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 12:44 PM

ขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ
นิยามของคำว่า พระของขวัญ ของผมมันกว้างขึ้นอีกหน่อยละครับ
laugh.gif

#13 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 01:28 PM

QUOTE
แต่ลองสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของความคิดตัวเองไหมครับว่า เมื่ออดีตเราเริ่มทำบุญใหญ่ เราจะคำนึงอยากได้พระของขวัญค่อนข้างมาก แต่เมื่อทำบุญนานๆเข้า บุญเริ่มหล่อเลี้ยงใจให้มีความบริบูรณ์ขึ้น เป้าหมายที่พระของขวัญก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องของที่ระลึกเพื่อตรึกนึกถึงบุญ และในที่สุดก็กลายเป็นบุญนะเป็นหลักอย่างแท้จริง ของขวัญเป็นของที่ระลึกในการสร้างความดี

เห็นด้วยล้านเปอร์เซนต์เลยค่ะ happy.gif
ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน

#14 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 01:37 PM

เรื่องนี้ก็เป็นแบบเดียวกับหลัก 5 ส ในโรงงานนะครับ เป็นไงหรือ ก็ 5 ส ประกอบด้วย
1. สะสาง แยกของที่ไม่ใช้ไปทิ้ง อย่ากองทิ้งไว
2. สะอาด ทำความสะอาดของใช้ให้สะอาดเรียบร้อย
3. สะดวก จัดวางของใช้ป็นหมวดหมู่ติดป้ายชัดเจน
4. สุขลักษณะ ดูแลสิ่งแวดล้อม แสง เสียง กลิ่น เป็นต้น
5. สร้างนิสัย ทำต่อเนื่องทุกวัน จนกลายเป็นนิสัย

การทำ 5 ในโรงงาน ตอนแรกเขาจะให้รางวัลก่อน พื้นที่ใน 5ส ดีที่สุด ดังนั้น ในตอนแรกพนักงานจะแข่งกันทำ 5ส เพื่ออะไร เพื่อรางวัล แต่พอทำเรื่อยๆไป อย่างต่อเนื่อง ส ตัวที่ 5 จะเข้ามา คือ มันจะทำ 4 ส จนเป็นนิสัย กลายเป็น ส ที่ 5 ถึงตอนนั้น เห็นอะไรไม่เรียบร้อย มันจะทนไม่ได้ เพราะเป็นนิสัยไปแล้ว

เช่นเดียวกันครับ เรื่องการสั่งสมบุญ ตอนแรกๆ หลวงพ่ออาจให้พระของขวัญ แล้วสอนสั่งให้เราสะสมบุญ แต่เมื่อเราทำข้ามถพข้ามชาติไปเรื่อยๆ จนเป็นนิสัย ตอนนั้นบุญจะกลายเป็นนิสัยเรา ไม่ทำบุญแล้วกลุ้ม นอนไม่หลับ ต้องทำบุญ ซึ่งละทำให้เราเพื่อบุญเพื่อบุญจริงๆ ในที่สุด

เหมือนใคร เหมือนคุณอนันต์ครับ ที่ตอนนั้น พระมหาสิริราชธาตุกำลังดัง ใครๆ ที่ทำบุญ แน่นอน นอกจากบุญแล้ว ก็หวังได้รับพระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุด้วยเช่นกัน แต่คุณอนันต์ จะเฉยๆ มาก เพราะท่านสร้างพระธรรมกายประจำตัวเป็นพันๆ องค์ ดังนั้น ก็จึงได้รับพระมหาสิริราชธาตุเป็นพันๆ องค์เช่นกัน คุณอนันต์ก็เลยให้ผู้ประสานงานเก็บไว้ พอถึงเวลา มีกิจกรรมบุญพิเศษ ในศูนย์กัลยาณมิตร คุณอนันต์ก็จะให้นำมาแจกผู้มีบุญ เป็นต้น

เมื่อบุญกลายเป็นนิสัยไปแล้ว เมื่อนั้นสิ่งใดๆ ก็ไร้ความหมายครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#15 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 02:56 PM

ต่างคน ต่างความคิด แต่สิ่งที่จริงแล้ว คือ เอาไว้ตึกระลึกนึกถึงบุญ ครับ


ลูกพระธรรม

#16 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:07 PM

พ่อของผมก็ชอบเล่นพระครับมีเพียบเลยที่บ้านยังขอบ้างท่านแบ่งไว้ให้ลูกๆๆแล้วอ่ะจององค์อันก่อนเดี๋ยวอด
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#17 VCO

VCO
  • Members
  • 322 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:16 PM

อีกความเห็นหนึ่ง

วิธีที่ระลึกถึงบุญที่ดีที่สุดคือการนึกถึงพระภายใน
พระของขวัญเป็นสิ่งที่เตือนให้ระลึกถึงพระภายในบ่อย ๆ ขึ้น

เอ มีคำถามต่อ....

หากหลวงพี่ที่วัดบอกว่าให้มารับพระของขวัญที่ทำบุญไป ตอนทำบุญไม่รู้หรอกว่าจะได้แต่ก็ทำไปแล้วเพราะอยากทำ เราไม่ได้อยากได้นักเพราะมีเยอะแยะแล้วเนี่ย แล้วเราก็ไม่ได้หวังว่าจะได้อะไร แต่เราจะปฏิเสธก็คงน่าเกลียด ( ใช่ไม๊ ) อย่างนี้ไปรับมาแล้วก็นำพระของขวัญมอบกลับให้หลวงพี่ท่านเอาไปบอกบุญดีไม๊ ขอความเห็นด้วย


#18 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:22 PM

QUOTE
หากหลวงพี่ที่วัดบอกว่าให้มารับพระของขวัญที่ทำบุญไป ตอนทำบุญไม่รู้หรอกว่าจะได้แต่ก็ทำไปแล้วเพราะอยากทำ เราไม่ได้อยากได้นักเพราะมีเยอะแยะแล้วเนี่ย แล้วเราก็ไม่ได้หวังว่าจะได้อะไร แต่เราจะปฏิเสธก็คงน่าเกลียด ( ใช่ไม๊ ) อย่างนี้ไปรับมาแล้วก็นำพระของขวัญมอบกลับให้หลวงพี่ท่านเอาไปบอกบุญดีไม๊ ขอความเห็นด้วย

ก็รับมาสิครับ แล้วก็เอาไปถวายหลวงพี่ หรือ มอบให้คนที่อยากได้ไปบูชา ต่อไงครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#19 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 03:37 PM

ผมยกมือ
อิอิ
----
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#20 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 06:34 PM

รูปเคารพสักการะแทนศาสนาของชาวพุทธเรานั้น ได้แก่ "พระพุทธรูป" มีทั้งขนาดใหญ่ที่สุดถึงขนาดเล็กที่สุด การสร้าง
พระบูชาหรือพระเครื่องทั้งในอดีตและปัจจุบัน ตลอดไปจนถึงอนาคตนั้นเราสร้างขึ้นเพื่อทดแทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตาม
เรื่องราวพระพุทธประวัติ อิทธิพลทางศาสนา และได้มีการสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยเมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ยังมีพระชนม์ชีพอยู่
ปฐมเหตุหรือสาเหตุแห่งการสร้างมีขึ้นนั้น"มีตำนานกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธองค์ได้เสด็จขึ้นไปโปรด
พุทธมารดาเบื้องบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น สมเด็จพระพุทธเจ้าประเสนทิราชา แห่งกรุงโกศลรัฐมิได้ทรงเห็นพระพุทธเจ้า
มาเป็นเวลาช้านาน และทรงมีพระทัยระลึกถึง จึงมีพระราชบัญญชารับสั่งให้ช่วงเอาไม้แก่นจันทร์แดงมาแกะสลักทำเป็น
พุทธรูปแล้ว ทรงให้ประดิษฐานไว้เหนืออาสนะที่สมเด็จพระพุทธองค์เคยประทับ
ครั้นเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จพุทธดำเนินกลับลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาถึงที่ประทับนั้น
ด้วยอำนาจพระพุทธานุภาพบันดาลให้พระพุทธรูปที่จำลองขึ้นด้วยไม้แก่นจันทร์แดง ขยับเขยื้อนเลื่อนหนีออกไป
จากพระพุทธอาสนะประจักษ์แก่ตาคนทั้งหลาย สมเด็จพระชินศรีจึงทรงรับสั่งให้เก็บพระพุทธรูปนั้นไว้เพื่อเอาไว้เป็น
แบบอย่างแก่พุทธศาสนิกชนที่ต้องการ จะสร้างพระพุทธรูปขึ้นไว้ สำหรับสักการะบูชาภายหลังเมื่อสมเด็จพระพุทธองค์
ได้เสด็จพระปรินิพพานแล้วนั่นเอง นี่คือปฐมเหตุหรือต้นเหตุแห่งที่มาที่ทำให้เกิดมีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นดังกล่าว
ภายหลังเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว การสร้างพระพุทธรูปเพื่อไว้สักการะ
บูชาแทนพระพุทธองค์ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายนัก ส่วนมากนิยมสร้างวัตถุต่างๆ แทน เช่น สร้างพระสถูปเจดีย์
พระเสมาธรรมจักร หรือรอยพระพุทธบาท ไว้เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธองค์แทน จวบจนกระทั่งพระพุทธศักราชล่วงไป
แล้วเกือบ 400 ปี การนิยมสร้างพระพุทธรูปขึ้นไว้ ทำการสักการะบูชาแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้แพร่หลาย
ออกไปอย่างกว้างขวาง เจริญรอยตามกันมาตลอดจนตราบเท่าทุกวันนี้
เนื่องจากศาสนาพราหมณ์ได้ถือดำเนิดมาก่อนพระพุทธศาสนา และคติตามไสยาศาสตร์ของพราหมณ์ซึ่งถือเอาเทพเจ้า
เป็นสรณะคือที่พึ่ง บรรดาเทพเจ้าผู้เป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายสามารถบันดาลความสุขสวัสดีหรือความพิบัติได้ จึงได้เกิดมีพิธี
การบวงสรวงกระทำยัญขึ้น ผู้ใดทำการบวงสรวงบูชายัญแก่เทพเจ้า เทพเจ้าก็จะบันดาลให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขสวัสดิ์
พิพัฒนมงคล "ผู้ใดละเว้น" เทพเจ้าก็จะพิโรธ บันดาลให้ได้รับความทุกข์ จะมีภัยพิบัตินานัปการ ดังนั้นเมื่อพระพุทธศาสนา
ได้กำเนิดขึ้นและเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ บรรดาผู้นับถือศาสนาพราหมณ์ในสมัยนั้น ได้หันเห มาให้ความเคารพนับถือ
ในพระพุทธศาสนา จึงได้นำเอาคติประเพณีทางศาสนาพราหมณ์มาดัดแปลงแทรกคติทางพระพุทธศาสนาลงไป เป็นการ
ผสมผสานความศรัทธาเชื่อถือของตน โดยนับเหตุว่าคติศาสนาของพราหมณ์นั้นยังมีอานุภาพเป็นที่เชื่อถือกันอยู่แล้ว
ถ้าหากรวมคติทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่าเป็นของจริงแน่แท้ อันอาจพิสูจน์ได้ทุกกาลสมัย
เข้าไปในคติลัทธินั้นย่อมจะเรืองอานุภาพกว่าเป็นแน่แท้
โดยคติทางศาสนาพราหมณ์ถือว่า บรรดามนุษย์ที่ได้อุบัติขึ้นมาในโลกนี้ ย่อมมีเทพเจ้าเข้าคุ้มครองรักษาตั้งแต่เกิด
มาทีเดียว เมื่อคตินี้ได้เข้ามาปะปนในพระพุทธศาสนา ซึ่งไม่มีพิธีการบวงสรวบูชายัญ ดังนั้นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนของเรา
นั้น ก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่า พระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้า (รูปแทนองค์พระพุทธเจ้า), พระธรรม (คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า),
พระสงฆ์ (คือสาวกของพระพุทธเจ้า) เป็นสรณะที่พึ่ง ของพุทธศาสนิกชนเรามาทั้งในอดีตและปัจจุบันนี้
จึงเกิดการสร้างพระพุทธรูปประจำวันปางต่างๆ และพระเครื่องตามนัยคตินี้ ท่านโบราณจารย์จึงได้นำเอาพระพุทธคุณ
พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เข้ามาเป็นเครื่องนำบำบัดทุกข์ภัยและส่งเสริมความสุขสวัสดิพิพัฒมงคล อันเกี่ยวกับผลที่เทพยดา
แต่ละองค์เข้ามาเสวยอายุหรือเข้ามาแทรก โดยกำหนดตกแต่งพระปริตรแต่ละบท มาเป็นเครื่องสวดมนต์คุ้มครองป้องกันภัย
ให้เข้ากับเรื่องของเทพยดาแต่ละองค์ไป ทั้งยังกำหนดเอาพระพุทธรูป เพราะเครื่องปางต่างๆ ให้เป็นพระพุทธรูปประจำวัน
ให้ตรงกับเทพยดาที่เข้ามาเสวยและเข้ามาแทรกเป็นรายองค์ไป เพื่อที่พุทธศาสนิกชนจะได้สร้างพระพุทธรูปประจำวันเกิด
ของตนเองไว้สักการะบูชา เพื่อขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยพิบัติ ให้เกิดความสุขสวัสดิ์พิพัฒมงคลแก่ตน ซึ่งถ้าได้ทำการสักการะบูชา
เป็นกิจวัตรแล้วจะเกิดโชคลาภผลศุภมงคลสวัสดิมีชัยทุกค่ำคืน
พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะสร้างด้วยวัสดุอะไรก็ตามที เราไม่สามารถจะนำพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ทุกกาลเวลา
เราเรียกว่า "พระพุทธรูปบูชา" ส่วนพระที่มีขนาดเล็ก เราสามารถนำติดตัวไปไหนมาไหนได้ทุกกาลเวลา เราเรียกพระชนิดนี้ว่า
"พระเครื่อง" ไม่จำกัดว่าจะสร้างด้วยวัสดุอะไรเราจำลองแบบมาจากพระพุทธประวัติ หรือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นการแทนรูปลักษณะของพระพุทธองค์ มีปางต่างๆ มากมายหลายขนาด มีพระอริยบถหลายรูปลักษณะ แล้วแต่ผู้สร้าง
เป็นผู้ออกแบบสร้าง แต่ต้องมีหลักเกณฑ์อยู่ว่า ต้องเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธประวัติทั้งหมดทั้งสิ้น
ถ้านอกเหนือไปจากนี้เห็นทีจะเป็นเรื่องแปลก เราท่านทั้งหลายคงจะได้ยินได้ฟังหรืออ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าว
ว่า มีพระปางพิสดาร "เหยียบโลก" ขึ้นในประเทศไทย ผู้คนต่างก็ฮือฮาแสดงการคิดเห็นกันมาหลายอย่าง ผมไม่เห็นจะเป็น
เรื่องพิลึกกึกกืออะไรหนักหนา คนไทยเราชอบตื่นข่าวเดี๋ยวเดียวก็ลืมเป็นปลิดทิ้งและไม่เฉพาะพระเหยียบโลก ในปัจจุบัน
อาจจะเกิดศาสนาเจ้าแม่กวนอิมขึ้นในประเทศไทยก็ได้นา (เป็นความคิดของผมเอง) เพราะตามวัดตามวาต่างๆ มีเจ้าแม่ที่ว่านี้
หลายแห่งก็เป็นเรื่องของการเลื่อมใส ไม่สามารถจะบังคับใครได้ ความศรัทธาของคนแล้วแต่ละคนไปว่าจะศรัทธามาก
หรือไม่ศรัทธาเลยก็ได้ ไม่มีใครหวงไม่มีใครห้าม สำหรับเรื่องศาสนานั้นทุกคนมีสิทธิในตัวเองอยู่แล้วว่าใครจะนับถือศาสนา
อะไรก็ได้ ไม่มีการบังคับหรือขู่เข็ญแต่ประการใดทั้งปวง

อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#21 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 September 2006 - 06:38 PM

แขวนพระ, คล้องพระ, ห้อยพระ, เพื่ออะไร เป็นข้อใหญ่ใจความของเรื่องนี้ถ้าถามแต่ละคนที่แขวนพระ, คล้องพระ,
ห้อยพระ ก็จะได้รับคำตอบที่แตกต่างกันไปคนละอย่าง การนำพระที่เรานับถือศรัทธาและเลื่อมใส มาภาวนาหรืออาราธนา
โดยตั้งจิตอธิษฐานถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเราควรจะตั้งนะโม 3 จบ และกล่าวคำอาราธนาพระว่า พุทธฺ อาราธนานํ
ธมฺมํอาราธนา สงฺฆํ อาราธนานํ กล่าวคำรำลึกถึงพระคุณบิดามารดา ครูอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอันได้แก่ พระแก้ว
มรกด พระหลวงพ่อโตวัดไชโย พระพุทธชินราช หลวงพ่อพุทธโสธร เจ้าพ่อพระกาฬ เจ้าพ่อหลักเมือง พระเสื้อเมือง
พระทรงเมือง ที่เรืองฤทธิ์ ลูกขออำนาจบุญบารมีอันศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงจงดลบันดาลให้ข้าพเจ้า ....
ให้ปลอดภัยต่อภยันตรายทั้งหลายด้วยเถิด สาธุ
คนแขวนพระ,คล้องพระ, ห้อยพระแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบแขวนพระเนื้อผงปางคนชอบแขวนพระเนื้อดิน
บางคนชอบแขวนพระเนื้อชิน แต่ละอย่างแต่ละคน คล้องพระแต่ละอย่างไม่ค่อยเหมือนกัน บางคนชอบแขวนเหรียญ
รูปเหมือนหลวงพ่อต่างๆ ....บางคนชอบประเภทเครื่องรางของขลัง(ที่รู้อาจารย์ปลุกเศก) พระเครื่องแต่ละอย่างแต่ละชนิด
มีอิทธิปาติหาริย์และประสบการณ์จากผู้ใช้ไม่เหมือนกันอีก บางชนิดสามารถให้ความคุ้มครองในเรื่องกันปืนได้ บางชนิด
มีเมตตามหานิยมบางชนิดแขวนแล้วมีโชคมีลาภ บางชนิดคล้องคอแล้วอยู่ยงคงกระพันชาตรี ทั้งหมดนี้เราเรียกว่าแขวนพระ,
คล้องพระ, ห้อยพระ, คำทั้ง 3 คำมีความหมายเดียวกัน แต่ก่อนพระเครื่องขอกันได้ให้กันฟรีๆ แต่ปัจจุบันไม่ได้แล้วต้องเป็น
เงินเป็นทองทั้งนั้นโดยให้เช่าบูชา พูดภาษาตลาดก็คือซื้อขายนั่นเอง
ถ้าถามคนทั้งหลายว่าคล้องพระ, แขวนพระ,หรือห้อยพระ, เพื่ออะไร? คนที่ถูกถามจะต้องตอบว่า คล้องเพื่อเป็น
เครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ ถ้าถามคนต่อไปว่าแขวนพระเพื่ออะไร? คนที่ถูกถามจะตอบว่าเพื่อความปลอดภัยต่อภยันตราย
ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าถามคนต่อไปอีกว่า ห้อยพระเพื่ออะไร เพื่อให้เกิดความมีเสน่ห์ เมตตามหานิยม ถ้าถามคนทั้งหมดที่
ชอบพระต่างก็จะได้รับคำตอบที่ไม่เหมือนกับแค่คล้ายคลึงกัน ถ้าถามผมว่าแขวนพระเพื่ออะไร คำตอบของผมก็คือ แขวนพระเพื่อความเคารพสักการะบูชาในองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นมงคลชีวิต


พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#22 รองเท้าที่ใส่พอดี

รองเท้าที่ใส่พอดี
  • Members
  • 34 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 02:14 AM

อืม โลกกว้างขึ้นเยอะเลย

#23 เจ๊ตงฟาง

เจ๊ตงฟาง
  • Members
  • 6 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 27 March 2007 - 01:54 AM

พระของขวํญนะต้องใส่แล้วทำวิชาจะมีการเปลี่ยนแปลงในชีวิต

#24 นักรบ

นักรบ
  • Members
  • 51 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 February 2008 - 03:26 AM

อยู่ที่ใจ