นึกว่าผีปอบ (6 พฤษภาคม 2546)
#1
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 01:23 AM
ชีวิตในสังสารวัฏอันตราย มีภัยเยอะ ภัยในอบาย คือ เป็นสัตว์ในมหานรก โลกันต์ อุสสทนรก ยมโลก เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน มีทุกข์มาก ภูมิมนุษย์ก็ทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์ชั้นไหน ล้วนแต่มีทุกข์มีโทษมีภัย มีความแก่ ความเจ็บ ความตาย พลัดพรากจากสิ่งที่รัก ประสบในสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาอะไรไม่ได้อย่างนั้น เป็นต้น การดำเนินชีวิตไม่สมบูรณ์กระพร่องกระแพร่ง โลกเป็นจุดกลาง โลกไม่มีวันขาดแคลนมนุษย์ มาจากสุคติภพบ้าง ทุคติภพบ้าง หมุนเวียนกันมาเกิดในโลกมนุษย์ พอมาเกิดแล้วก็ลืม ระลึกชาติเก่าไม่ได้ว่าก่อนเกิด มาจากไหน ไม่รู้เรื่องเหตุเรื่องผล ทำไมชีวิตประจำวันจึงประสบปัญหาอย่างนี้ มีสุขมีทุกข์ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุเพราะผลอะไร ความไม่รู้เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงสำหรับชีวิต ทำให้มีโอกาสดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดได้ ผลก็คือไปอบาย ซึ่งทุกข์ในอบายนั้นมหาศาลและยาวนาน ชีวิตในเมืองมนุษย์นั้นสั้น แต่ในปรโลกนั้นยาวมากจนเรานึกไม่ถึง
สิ่งที่เรากระทำ ไม่ว่ากาย วาจา ใจ แม้เพียงเล็กน้อย ดีหรือชั่ว ล้วนมีผลทั้งสิ้น มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือได้ยินได้ฟังเรื่องราวนรกสวรรค์ กฎแห่งกรรมก็ไม่ค่อยเชื่อ โลกจำเป็นจะต้องมีผู้รู้ คอยเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้กับชาวโลก ผู้รู้ที่สำคัญที่สุดคือพ ระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระอริยสาวก และพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ที่แท้จริงดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะไปพระนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านรู้เรื่องราวตลอดหมด เกี่ยวกับการระลึกชาติหนหลัง เรื่องกฎแห่งกรรม การทำอาสวะให้สิ้น หรืออย่างน้อยจะอยู่ในโลกนี้ ในสังสารวัฏนี้อย่างไร ถึงจะปลอดภัยจากอบายภูมิ ท่องกันอยู่สองภูมิ คือมนุษยโลกและเทวโลก
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เหลือแต่คำสอนของพระองค์ที่เป็นสิ่งแทนตัวท่าน เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต จะอยู่ในโลกอย่างนี้อย่างไรถึงจะปลอดภัยและมีชัยชนะ มีสุขทั้งมีชีวิตและละโลกไปแล้ว หรือจะท่องอยู่ในสังสารวัฏ ประคองตัวไม่ให้ไปอบายได้ คำสอนของท่านสำคัญมาก และหากปราศจากผู้ทรงจำคำสอนเอาไว้ มีก็เหมือนไม่มี ต้องมีผู้ทรงจำได้ศึกษา ฝึกฝน และปฏิบัติ จนกระทั่งเข้าใจเรื่องราวของชีวิต เป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้กับชาวโลก แนะนำประคับประคองให้ชาวโลกได้ดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
พระสงฆ์นี่สำคัญ ภิกษุสามเณรเหล่านี้เป็นผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร เห็นแล้วเบื่อหน่ายกลัวภัย ได้ศึกษาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดกุศลศรัทธาแล้วออกบวช ประพฤติธรรมตามพระธรรมวินัย ศึกษาทรงจำคำสอนของพระบรมศาสดาเอาไว้ เพื่อตัวเองและชาวโลก โลกจึงมิอาจขาดแคลนพระภิกษุสามเณร ถ้าขาดแคลนแล้วโลกก็มืด เหมือนโลกมิอาจขาดแคลนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวได้ แม้จะมีแสงสว่างที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่โลกก็ยังจำเป็นต้องมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ชีวิตมนุษย์ยิ่งต้องการมากกว่านั้น จึงจำเป็นต้องมีผู้รู้แนะนำ
ภิกษุสามเณรเปรียบเสมือนนักรบแนวหน้าแห่งกองทัพธรรมที่จะให้แสงสว่าง พระภิกษุสามเณรสำคัญมาก เราควรปีติและภาคภูมิใจในชีวิตของเรา ในการเป็นพระเป็นเณรของเรา ว่าเรามาอยู่ ณ จุดที่สำคัญที่สุด โลกขาดเราไม่ได้ ขาดก็ผิดพลาด ฉะนั้นให้หวงแหนและรักษาความพึงพอใจในเพศนี้เอาไว้ ควรจะระลึกนึกถึงไว้เสมอ
สมัยพุทธกาล ชนทุกระดับนิยมบวช ตั้งแต่ชนชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง ออกบวชหมด สมัยนี้ก็เช่นกัน เราได้อยู่ในเพศสมณะแล้ว ต้องมีความปีติภาคภูมิใจ เหมือนกับหลวงปู่ (พระมงคลเทพมุนี สด จันทสโร) ของเรา ท่านก็ภูมิใจเพราะท่านทำความดีตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
พ่อของเจ้าของเคส เป็นอดีตทหารผ่านศึก เป็นนักเลงรุ่นเก่า ไม่ใช่อันธพาล มีคาถาอาคมพอตัว เจ้าของเคสเคยเห็นพ่ออมน้ำมนต์เป่ากระหม่อมให้เด็กข้างบ้านหายตัวร้อน เวลาเดินทางไกลไปงานเผาศพต้องร่ายเวทมนต์คาถาห้อยพระเครื่องที่คอ เป็นคนขยันทำมาหากิน เคยดักนก ตีไก่ เล่นการพนันบ้าง เคยทอดกฐิน ผ้าป่า บวชลูกชาย 2 คน พ่อป่วยเป็นมะเร็งปอด ไอเป็นเลือด รักษาตัวตามแผนโบราณ มีผู้แนะนำให้กลืนจิ้งจกเป็น ๆ พ่อก็ทำแต่ไม่หาย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อปี 2530 ตอนอายุ 64 ปี
แม่ของเจ้าของเคส เป็นคนใจบุญ ไปวัดทุกวันพระ ไม่เคยว่าร้ายใคร ใจเย็น เมื่อพ่อเสียชีวิต แม่ให้พี่ชายคนโตมาดูแลเรื่องไร่นาแทน พี่ชายคนโตชอบอบายมุข ทั้งสุรานารี การพนัน เที่ยวกลางคืน สูบบุหรี่ พี่สะใภ้ไม่ค่อยสนใจเรื่องการทำบุญ เมื่อปี 2542 แม่เริ่มหลงลืม เดินได้น้อยลง ปี 2543 เริ่มหลงมากขึ้น ทรุดเร็วมาก ปัสสาวะอุจจาระราด เจ้าของเคสทำงานถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์ไปอยู่ปรนนิบัติคุณแม่ ซื้อของไปให้กิน อาบน้ำ ตัดเล็บ ตัดผม ซักผ้านุ่ง ผ้าปูที่นอน หาวิทยุเทปธรรมะเปิดให้ฟัง ให้แม่ท่องสัมมาอะระหัง ให้แม่พิมพ์ลายนิ้วมือสร้างลานธรรม ให้ร่วมบุญทุกบุญ พี่ชายมาขัดขวางการทำบุญ เช่น ปลดรูปพระธรรมกาย รูปธรรมกายเจดีย์ที่ติดให้แม่ดูออก ไม่ชอบให้เจ้าของเคสมาวัดพระธรรมกายและมักจะด่าว่าเจ้าของเคสเสมอ ทั้ง ๆ ที่เจ้าของเคสคอยช่วยเหลือจุนเจือเขาทั้งครอบครัว ช่วงท้ายแม่เริ่มกินอะไรไม่ได้ ต้องใช้อาหารเหลวฉีดเข้าปาก เมื่อมาถึงวาระสุดท้ายร่างแม่ไม่ไหวติง มือไขว่คว้า ปากกับฟันขบกัน ทั้งที่มีฟันหน้าซี่เดียว ทำให้ปากถลอก ตาลืมแต่มีแววตาแปลก ๆ บางครั้งเหมือนโกรธ บางครั้งดูเจ็บปวด สภาพผอมมีแต่หนังหุ้มกระดูก ชาวบ้านพูดว่า แม่ไม่อยู่แล้ว มีแต่วิญญาณปอบมาเข้าสิง
วันที่ 5 ธันวาคม 2543 ญาติ ๆ ได้รับพระรูปหนึ่ง รู้ภาษาเขมรมาทำพิธีส่งวิญญาณ นำสายสิญจน์มาพันที่มือคล้ายมัดตราสังส์ เอาผ้ามาคลุมหัวจรดเท้า สวดบทพระอภิธรรม ใช้น้ำมนต์มาปัดมาพรม แม่สงบลงมาก ไขว่คว้าบ้างนาน ๆ ครั้ง วันที่ 7 ธันวาคม แม่ก็สิ้นใจอย่างสงบ
เจ้าของเคสเคยช่วยงานชมรมพุทธฯ ตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ จัดนิทรรศการทางก้าวหน้า จัดงานบวชที่วัดเบญจมบพิตร ช่วยงานรักษาระเบียบวันอาทิตย์ ช่วยงานโรงครัว ร่วมงานบุญทุกอย่าง แม้จบการศึกษามาทำงานแล้ว ก็ร่วมบุญทุกบุญไม่ขาด ทั้งงานกฐิน หล่อรูปหล่อทองคำหลวงปู่ สร้างพระธรรมกายประจำตัวหลายองค์ สร้างพระแกนกลาง เป็นประธานกฐิน 1 แสนบาท
คำถาม บุพกรรมใดทำให้พ่อแม่มีจุดจบอย่างนี้ ตอนนี้ท่านเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน เจ้าของเคสเคยทำกรรมอะไรกับพี่ชายคนโตถึงทำให้เขาไม่ค่อยชอบหน้า
คำตอบ แม่ไม่ได้ถูกผีปอบเข้าสิง อาการไขว่คว้า ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตลอด เพราะแม่โกรธและน้อยใจลูกชายคนโตที่ไม่ปรนนิบัติดูแล แถมพูดจาไม่ดีกับแม่ เก็บกดมานาน แสดงออกตอนช่วงสุดท้ายของชีวิต ทำให้จิตไม่ค่อยผ่องใส ตอนสุดท้ายได้เห็นพระมาสวด ใจดีขึ้น แม้จะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะหลง ใจก็ดีขึ้น แต่ไม่มาก ไม่ใสไม่หมอง ท่านตายแล้วไปเกิดเป็นยักษิณี ชั้นจาตุมหาราชิกา มีวิมานเป็นเงิน
ในอดีต แม่เคยเป็นลูกผู้ชายของพ่อแม่ในชาตินั้น ท่านไม่ได้ปรนนิบัติบิดามารดา พูดจาให้ท่านทั้งสองนั้นช้ำใจ อกุศลกรรมนั้นทำให้ท่านมาเจอลูกชายแบบนื้ ใจคอยนึกวนเวียนถึงแต่ลูกชายคนนี้เป็นช่วง ๆ ทำให้ใจไม่ค่อยใส บุญเลยไม่ได้ช่อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเดินทางไปสู่ปรโลก
พ่อทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งมาก หายใจก็ไม่ค่อยออก จิตเศร้าหมอง ทำให้ภาพอาจิณกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ดี เช่น ดักนก ดักปลา ดื่มสุรา ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สูบบุหรี่ทำให้เป็นโรคนี้มะเร็งที่ปอด ไอเป็นเลือด ทำให้ใจท่านหมอง ตายแล้วไปมหานรกขุม 5 เพราะทำลายตัวเองด้วยการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ทำให้นึกถึงกุศลกรรมไม่ออก ภาพไม่ดีต่าง ๆ เลยรุมกันได้ช่อง ไปถูกนายนิริยบาลเอาแท่งเหล็กร้อนเหมือนบุหรี่ จี้เข้าไปในปาก ควันกรดร้อนก็เข้าไปในตัวละลายตาย พอฟื้นขึ้นมาก็ถูกน้ำกรดกรอกปากด้วยกรรมสุรา พอตายแล้วฟื้นขึ้นมาด้วยกรรมปาณาติบาต มีอาวุธต่าง ๆ ที่เคยฆ่าสัตว์พุ่งเข้ามาทิ่มแทงตัวเองรอบตัว หลาย ๆ กรรมมารวมกัน บุญหลาย ๆ อย่างที่ทำไปให้ตอนนี้ ถ้าไปด้วยวิธีธรรมดา ยังได้ไม่เต็มที่ แต่ก็ทำให้ดีขึ้นได้รับลดหย่อนผ่อนโทษ บุญส่วนใหญ่ไปคอยที่ยมโลก กำลังบุญที่ลูกสาวทำให้ยังไปไม่ถึงเต็มที่ เพราะบาปอาจิณกรรมที่พ่อทำไว้มันขวางอยู่ ให้ทำไปเรื่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น อย่าพึ่งท้อ ส่วนแม่ได้รับบุญในเวลาต่อมา สภาพดีขึ้นกว่าเดิม วิมานใสสว่างขึ้น ส่วนพ่อ ลูกสาวต้องเข้าถึงพระธรรมกาย ถึงจะไปช่วยได้
เจ้าของเคสไม่ถูกกับพี่ชาย ไม่ได้มีกรรมกับพี่ชาย แต่เป็นกรรมในอดีตของตัวเองที่คบคนพาลตอนที่เป็นผู้ชาย ชอบช่วยเหลือสนับสนุนคนพาล ให้เงินไปกินเหล้า เล่นการพนัน สม่ำเสมอ จึงไปเกิดร่วมบิดามารดาเดียวกับคนพาล ด้วยเศษกรรมคบคนพาลก็ต้องมาเจอคนพาล ต้องอดทนเพียงอย่างเดียว แล้วอธิษฐานจิตว่า อย่าได้เจอคนพาล
นารีผล กำลังหลุดจากขั้วหล่นมาทีละผล สองผล คนธรรพ์ วิทยาธรอุ้มผลไม้กลับวิมาน วางลงบนเตียงที่เป็นรัตนชาติแต่นุ่ม ถ้ำสีฟ้า สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลือง พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโว บอกว่า ถ้าไม่เจอยาย ป่านนี้ท่านคงไปแบกผลไม้แล้ว เพราะเมื่อก่อนชอบศึกษาวิชาของพวกวิทยาธร
พอเวลาผ่านไปผลไม้ (มักกะลีผล) ร่วงน้อยลง นักพรตห่มสีกลัดไปถึงก่อนแล้วก็ได้ครอบครองมักกะลีผล ฤๅษีห่มหนังเสือไม่ยอม จึงแปลงเป็นงูใหญ่สีทอง นักพรตห่มสีกลัดแบกไปเรื่อย ใจนึกถึงแต่วิมานถ้ำของตัว งูฤๅษีได้โอกาสรัดตัวนักพรตห่มสีกลัด นารีผลก็ร่วง ฤๅษีที่แปลงเป็นงูใหญ่รีบไปรับมักกะลีผลพากลับถ้ำ นักพรตห่มสีกลัดไม่ยอมแพ้ร่ายเวทย์เป็นนกอินทรีย์ตามมาติด ๆ เพื่อแย่งชิงมักกะลีผล แล้วเกิดการต่อสู้ งูใหญ่สีทองสู้ไม่ได้เพราะแปลงเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์น้อยกว่าจึงต้องยอมแพ้ไป นักพรตห่มสีกลัดที่แปลงเป็นพญานกอินทรีย์แบกมักกะลีผลกลับถ้ำไป ฤๅษีโกรธมาก ๆ หน้าดำหน้าแดง โกรธเลยจุติ (ตาย) หมดโอกาสเป็นวิทยาธร
หล่นมาอีก 1 ผล แต่วิทยาธร คนธรรพ์เหาะขึ้นไปเป็นร้อย วิทยาธรที่ห่มหนังเสือไวกว่าก็เอาไปครอบครองก่อน มักกะลีผลผิวสีชมพูดอกบัว มีกลิ่นหอมมาก สวยเหมือนเทพธิดา ไม่กระด้างเหมือนผลไม้ทั่วไป ผิวอุ่นเหมือนมีชีวิต เหมือนเทพธิดานอนหลับแต่เป็นผลไม้ นักพรตชุดขาวไม่ยอมแพ้ร่ายเวทย์เป็นเหยี่ยวตัวใหญ่ติดตามไป โฉบมักกะลีผลจากวิทยาธรที่ห่มหนังเสือ วิทยาธรที่ห่มหนังเสือจึงแปลงเป็นเสือโคร่งยักษ์เหาะตามไป กระโจนใส่เหยี่ยวทำให้มักกะลีผลหลุดจากกรงเล็บเหยี่ยวร่วงลงไป เหยี่ยวใหญ่เสียการทรงตัวก็ร่วงลง เสือโคร่งรีบไปรับมักกะลีผล แบกพาดกลางหลังกลับถ้ำ เหยี่ยวใหญ่ไม่ยอมแพ้แปลงร่างเป็นฝูงผึ้งบินตามไปอย่างรวดเร็ว ก็รุมต่อยตามหน้าเสือโคร่ง เสือโคร่งสู้ไม่ได้ก็กลับร่างเป็นวิทยาธรห่มหนังเสือ จึงร่ายเวทย์เป็นไฟออกจากฝ่ามือทั้งสอง เผาฝูงผึ้ง ฝูงผึ้งสู้ไฟไม่ได้จึงกลับคืนสู่ร่างนักพรตชุดขาว แต่ว่ามักกะลีผลอยู่ไหนไม่รู้ นักพรตชุดขาวร่ายเวทย์เพื่อสู้กับไฟ พ่นน้ำออกจากฝ่ามือทั้งสองเพื่อดับไฟ ไฟสู้ไม่ได้ วิทยาธรห่มหนังเสือก็ร่ายเวทย์ต่อสู้กันเป็นลมพายุออกจากฝ่ามือ พัดน้ำกระเจิง น้ำสู้ไม่ได้ก็กระจัดกระจายแตกไปเลย นักพรตชุดขาวก็ไม่ยอมแพ้ จึงร่ายเวทย์เป็นพายุหมุนที่ใหญ่กว่า ลมพายุสู้ลมพายุหมุนไม่ได้ ลมพายุหมุนฟาดลมพายุธรรมดาที่เป็นวิทยาธรห่มหนังเสืออย่างแรง แล้วดูดวิทยาธรห่มหนังเสือเข้าไปกลางพายุหมุน วิทยาธรไม่ยอมแพ้ร่ายเวทย์เป็นพายุหมุนเช่นเดียวกันแต่แรงกว่า ต่างก็ต่อสู้กันด้วยพายุหมุน เคลื่อนตัวเข้าปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน นักพรตชุดขาวโกรธมาก วิทยาธรห่มหนังเสือโกรธเช่นกัน พอความโกรธเพิ่มขึ้นหน้าก็เริ่มแดงด้วยกันทั้งคู่ ก็กลับคืนสู่ร่างเดิม โกรธหนักเพิ่มขึ้นอีกจึงจุติ (ตาย) ทั้งคู่
มักกะลีผลร่วงลงมาตอนไฟสู้กับฝูงผึ้ง ทั้งคู่มุ่งเอาแพ้เอาชนะ มักกะลีผลหล่นลงมาในระดับยอดไม้ แล้วร่วงลงกับพื้นเหี่ยวทันที เป็นผลไม้เน่าไปแล้ว
#2
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 02:40 AM
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#3
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 02:44 AM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#4
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 08:49 AM
#5
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:01 AM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#6
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:20 AM
#7
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 09:31 AM
#8
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 11:25 AM
#9
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 01:10 PM
ปล.มันส์มากกกกกก
#10
โพสต์เมื่อ 19 September 2006 - 08:06 PM
เกี่ยวกับอานุภาพของหลวงปู่ ก็มีเรื่องของผีปอบด้วย หุหุหุ