คนที่สามารถปรากฏตัวสองแห่งได้ในเวลาเดียวกัน
#1
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 01:14 PM
ขณะที่หลุยส์ รอดเยอร์ส นั่งอยู่ภายในห้องที่มีคนคอยเฝ้า ผู้สอบสวนโทรศัพท์มารายงานว่า เห็นเขากำลังไปเดินป๋ออยู่ในถนนของอีกเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลกันมาก และเมื่อ ร่างที่สอง โทรศัพท์มาบอกคำรหัสได้ถูกต้องตรงกัน จึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดในประวัติสาสตร์ของการศึกษาทดลองเกี่ยวแก่ภูตผีปีศาจ
เมื่อ ดร. มาร์ติน สเปนเซอร์ ได้ยินเรื่องคนที่สามารถปรากฏตัวได้สองแห่งในขณะเดียวกันเป็นครั้งแรก เขารู้สึกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่พูดกันเล่นๆในระหว่างเลี้ยงอาหารมากกว่า และไม่มีค่าควรแก่การสอบสวนหาความจริงเลย ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันวิคตอเรียเพื่อการวิจัยเกี่ยวแก่ภูตผีปีศาจแห่งออสเตรเลีย เขาเคยได้ยินได้ฟังเรื่องพรรค์นี้มามาก แต่จะมีก็เพียงสักหนึ่งในร้อยเรื่องที่มีค่าควรแก่การเสียเวลา เพื่อที่จะขจัดผู้ที่หลอกลวงนักวิจัยเกี่ยวแก่ภูตผีปีศาจออกไป ดร.สเปนเซอร์มีสัญชาติญาณในการดมกลิ่นการหลอกลวงมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ครั้นเมื่อเรื่องนี้โจษจันกันหนาหู เขากลับตัดสินใจที่จะสอบสวนดูให้รู้แน่ เขาเคยทำงานผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อในฤดุใบไม้ผลิแห่ง ค.ศ. 1937 ข่าวที่ว่าหลุยส์ รอดเยอร์ส สามารถปรากฏตัวได้สองแห่งในเวลาเดียวกันห่างกันตั้ง 500 ไมล์ อันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อแต่กลายเป็นข่าว
พาดหัวแพร่ไปทั่วโลก เขาจึงรู้สึกว่าไม่ควรนิ่งนอนใจ
นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยเกี่ยวแก่ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ,แพทย์ และแม้กระทั่งตำรวจ ต่างก็พากันถือว่า รอดเยอร์สเป็นบุคคลซึ่งจะต้องสอบสวนกันอย่างละเอียดลออถี่ถ้วน คนเหล่านั้นจึงได้ติดตามเขาเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ของเขาทุกย่างก้าว และตลอดจนเก็บตัวเขาไว้ภายในสถานที่อันมิดชิด
แม้กระนั้นก็ตาม ขณะที่เขานั่งอยู่ภายในห้องที่มีคนเฝ้าในนครเมล์เบิร์น ผู้สอบสวนก้โทรศัพท์รายงานมาว่า ร่างที่สอง ของเขากำลังเดินป๋ออยู่บนถนนในนครซิดนีย์ซึ่งอยู่ห่างไกลกันตั้งมากมาย เป็นเหตุให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญพากันงุนงง และยังฉงนสนเท่ห์กันอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหลอกลวง ก็นับว่าเป็นเรื่องหลอกลวงที่ช่ำชองและแนบเนียนที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งการสอบสวนเกี่ยวแก่ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
หลุยส์ รอดเยอร์ส ออกจากอังกฤษมาพำนักอยู่ในออสเตรเลียตั่งแต่ ค.ศ.1931 ขณะนี้มีอายุ 30 ได้มาตั้งตนเป็นคนทรงและนั่งทางในอยู่ในนครเมลเบิร์น เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีบุคลิกลักษณะดีและรูปหล่อ ในไม่ช้าเขาก็ทำเงินได้มากพอใช้ด้วยการติดต่อกับบรรดาสุภาพสตรีสูงอายุที่ต้องการติดต่อกับคนรักของตนซึ่งล่วงลับไปแล้ว แม้เพียงสัปดาห์ละครั้งในตอนบ่าย ทั้งนี้ด้วยค่าบริการที่สมเหตุสมผล ซึ่งบริการเช่นนี้รอดเยอร์สดูเหมือนจะปฏิบัติได้โดยไม่ลำบากลำบนเลย ไม่มีใครทราบถึงความเป็นมาของเขามากนัก เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลึกลับ และเขาก็สงวนทีท่านี้ไว้เป็นอย่างดี
ฉันไม่ยักทราบว่า มร.รอดเยอร์ส ย้ายไปอยู่ที่ซิดนี่ย์แล้ว สุภาพสตรีผู้หนึ่งพูด ก็เมื่อบ่ายวันพฤหัสที่แล้วเขาอยู่ที่บ้านฉันนี่นา เขายังเรียกสามีของฉันที่ล่วงลับไปแล้วมาหาฉันเลย
ข่าวลือเกี่ยวแก่เรื่องนี้ระบือไป ที่ว่างในสมุดนัดหมายการงานของรอดเยอร์สจึงน้อยลงและหายากเข้าทุกที บุคคลผู้นี้กลายเป็นสัญลักษ์ที่มีชีวิตของการดำรงอยู่ในพิภพอื่นไปแล้ว เมื่อไรก็ตามที่ลูกค้าสามารถพบปะกับเขาได้เพื่อไต่ถามถึงขาวลือเหล่านั้น รอดเยอร์สก็เพียงแต่เสยผมดำของเขาแล้วก็ยิ้มอย่างอมภูมิ
การปรากฏตัวของ บุคคลที่สอง ของรอดเยอร์สมีบ่อยครั้งขึ้น มีประจักษ์พยานพบเห็นและรายงานมาให้ทราบเสมอ ในที่สุดก็มีเป็นประจำและเรียกความสนใจมาก จนนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันของดร.สเปนเซอร์ดำเนินแผนอย่างลับๆ เขาไปเยี่ยมรอดเยอร์สในห้องต้อนรับลูกค้าซึ่งมีม่านห้อย หลังจากพูดจาอ้อมค้อมอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดก็เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาเกรงกลัวอะไรหรือ รอดเยอร์สก็ตอบว่าเขาเป็นคนที่ลูกค้านับถือและให้ความไว้วางใจมาก และเขาไม่มีความตั้งใจที่จะยอมให้มีการตั้งทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ซึ่งจะมาเป็นพิษเป็นภัยแก่งานอาชีพของเขา
ดร.สเปนเซอร์ไม่ละความพยายาม ในที่สุดความพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่รอดเยอร์สได้แสดงความไม่เต็มใจมาแต่ต้น การทสอบของ ดร.สเปนเซอร์เริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ.1937 รอดเยอร์ส ตกลงยอมที่จะไม่เดินทางออกจากนครเมลเบิร์นตลอดสามสัปดาห์ และยอมให้ผู้ค้นคว้าหาความจริง ติดตาม เขาไปทุกหนทุกแห่งจากบ้านของเขา
ครั้นแล้ว ในวันที่ 8 เมษายน สามวันหลังจากการสอบสวนเริ่มต้น ผู้สอบสวนคนหนึ่งในนครซิดนี่ย์ก็รายงานมาว่า มีชายคนหนึ่งชื่อหลุยส์ รอดเยอร์ส เข้าลงชื่อพักที่โรงแรมแห่งนั้น และเคาะประตูเรียกที่ห้องซึ่งเขาพักอยู่ ผู้ที่เปิดประตูออกมาพบเป็นชายรูปร่างสูง รูปหล่อ ผมดำยาว
ผมคือหลุยส์ รอดเยอร์ส เพิ่งมาจากเมลเบิร์น ชายผู้นั้นตอบเมื่อถูกถาม
ผู้สอบสวนจึงโทรมาถึง ดร.สเปนเซอร์ด้วยความงุนงง
เขาอยู่ที่นี่ครับ คำพูดของผู้สอบสวนดังพรั่งพรูมาทางโทรศัพท์
ไม่จริงเลย! ดร.สเปนเซอร์แย้ง ก็ผมกำลังกินอาหารกลางวันอยู่กับเขานี้นี่นา
แม้กระนั้น ดร.สเปนเซอร์ก็ยังไม่จำนนง่ายๆ เขาตระหนักดีว่าผู้ที่รายงานมาย่อมจะมีเหตุผลของเขาอยู่เหมือนกัน จึงจะต้องขุดหาความจริงต่อไปให้จงได้ เขาบอกแก่รอดเยอร์สตามนั้น
ผมเบื่อเต็มทนแล้วนะ คนทรงกล่าว เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน ในวันที่12 เมษายนผมจะพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง และเป็นครั้งสุดท้าย ว่าผมมีอำนาจพิเศษนอกเหนือธรรมชาติจริง แล้วต่อจากนั้นคณอย่ามายุ่งเกี่ยว ก่อความรำคาญให้ผมอีกต่อไปนะ
ดังนั้นในวันเสาร์ที่ 12 เมษายน รอดเยอร์สก็ถูกนำตัวไปยังที่ทำงานของดร.สเปนเซอร์ และถูกเก็บตัวไว้ที่นั่นต่อหน้าประจักษ์พยานหลายคน เขาถามถึงคำรหัสซึ่งจะใช้ติดต่อกัน ดร.สเปนเซอร์ไม่ได้เตรียมตัว นึกขึ้นได้คำหนึ่งก็ตอบโพล่งออกไปทันที ไลแลค
รอดเยอร์สนั่งอยู่ที่นั่นราวหนึ่งชั่วโมง ครั้นแล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผู้ที่มาพูดคือตัวแทนในนครซิดนีย์รายงานมาให้ทราบว่า ได้แลเห็นชายคนหนึ่งซึ่งเหมือนหลุยส์ รอดเยอร์ส กำลังเดินอยู่ในถนนที่มีคนแน่นขนัด เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปตัวแทนผู้นั้นจะรายงานมาให้ทราบ
ภายในห้องเคร่งเครียดขึ้นทันที รอดเยอร์สเมินหน้าไปทางหน้าต่างอย่างไม่สนใจใยดี ครั้นแล้วในเวลา 17 น. หนึ่งชั่วโมงหลังจากการเรียกมาครั้งหลังสุด โทรศัพท์ก็ตังขึ้นอีกครั้ง ดร.สเปนเซอร์รีบคว้าหูโทรศัพท์ เปิดสวิตซ์เครื่องอัดเทป
ที่นี่ซิดนีย์ค่ะ พนักงานโทรศัพท์พูด มีโทรศัพท์ถึงคุณค่ะ ดร.สเปนเซอร์
เสียงตามสายที่ดังมาเข้าหู ดร.สเปนเซอร์เป็นเสียงที่เขาจำได้ไม่ผิด
นี่หลุยส์ รอดเยอร์สพูด คำรหัสคือไลแลค
หลุยส์ รอดเยอร์สถึงแก่กรรมเมื่อ ค.ศ. 1942 เขารับใช้ประเทศชาติด้วยการเป็น#####อยู่ในกองทัพบกออสเตรเลียนในยุโรปและเสียชีวิตในการรบที่นั่น ความลับก็ได้ตายไปพร้อมกับตัวเขา ไม่มีผู้ใดทราบหรือสามารถอธิบายได้ว่าปรากฏการณ์อันประหลาดมหัศจรรย์ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยประสบมา คือคนที่สามารถปรากฏตัวได้สองแห่งในเวลาเดียวกันนั้น เป็นการหลอกลวงหรือเป็นพรสวรรค์อันผิดธรรมดาของหลุยส์ รอดเยอร์ส
ที่มา:จากมิติพิศวง สันตสิริ
#2
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 02:24 PM
แต่ทำไมไม่ปรากฏตัวใกล้ๆกัน เอาให้เห็นๆไปเลยว่ามีสองคนจริงๆ ไปปรากฏร่างที่สองอยู่ไกลๆ มันไม่เคลียร์
#3
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 03:39 PM
#4
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 07:18 PM
(พระที่ทำได้เช่นนี้มีมาก)
สาธุ
#5
โพสต์เมื่อ 13 October 2006 - 07:21 PM
#6
โพสต์เมื่อ 14 October 2006 - 11:59 AM
#7
โพสต์เมื่อ 14 October 2006 - 11:41 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#8
โพสต์เมื่อ 16 October 2006 - 09:00 AM
#9
โพสต์เมื่อ 16 October 2006 - 10:28 PM
#10
โพสต์เมื่อ 17 October 2006 - 07:51 PM
#11
โพสต์เมื่อ 18 October 2006 - 08:57 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#12
โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 01:04 PM
#13
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 06:48 AM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#14
โพสต์เมื่อ 02 November 2006 - 08:26 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 10:49 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#16
โพสต์เมื่อ 15 December 2006 - 01:44 AM
#17
โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 07:52 PM
เราาเริ่มต้นกันที่ หยุดแรกกันเถอะ หยุดต่อๆไปไม่ยากแล้ว
#18
โพสต์เมื่อ 01 January 2008 - 05:01 PM