ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ร่างกฏหมายอาญา เอาผิดกับพระที่ปาราชิก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 25 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 03:20 PM

ฟังข่าวเมื่อเช้า เห็นว่าวันนี้จะมีการพิจารณากฏหมายอาญา กรณีพระภิกษุที่ปาราชิก แล้วก่อให้เกิดการเสื่อมเสียต่อพระศาสนา



อยากทราบรายละเอียด และความคิดเห็นครับ?



#2 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 03:33 PM

ต่อให้มีกฏหมาย หากคนชั่ว ความผิดแค่ไหนก็ทำ

ยังไงก็หนีไม่พ้นกฎแก่งกรรมไปได้ครับ ไม่ชดใช้ในชาตินี้ ก็ต้องไปชดใช้ในชาติต่อๆไป หนีไม่พ้น
แถมจะหนักกว่าคนธรรมดา

เป็นพระ ตั้งใจปฏิบัติธรรม บุญก็ได้เยอะ เพราะศีล 227 ข้อ
เป็นพระ ตั้งใจทำชั่ว กรรมชั่วก็เยอะตาม เพราะศีล 227 ข้อ



#3 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 04:09 PM

สำคัญที่สุดตรงที่ว่า ใครเป็นผู้วินิจฉัยเบื้องต้นว่าปาราชิก มีหลักเกณท์อะไรที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่จะต้องปรับให้เข้ากับพระธรรมวินัยเรื่องปาราชิก และจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า จะไม่มีการกลั่นแกล้ง จะไม่มีการวินิจฉัยที่ผิด

#4 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 04:10 PM

สาธุ..คุณpanu

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 05:29 PM

เรื่องเคยมีมาแล้วสมัยพุทธกาล ที่ภิกษุณีรูปหนึ่งอยู่ในความดูแลของพระเทวทัต ปรากฏว่า วันหนึ่ง ท่านตั้งท้อง พระเทวทัต สั่งสึกทันที ท่านไม่ยอม จึงไปขอความเป็นธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ ทรงให้พระราชาเรียกประชุมมหาชน แล้วให้นางวิสาขาตรวจครรภ์ของท่าน ต่อหน้า มหาชน ผลปรากฏว่า ท้องก่อนบวช (คือ นางมีสามี แล้วขออนุญาติสามีออกบวช โดยตอนนั้นไม่ทราบว่า ท้อง) ดังนั้น ความผิดเป็นอันตกไป ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 06:58 PM

เรื่องที่ได้ฟังข่าวนะครับจะประมาณว่า กรณีที่คนทำให้เสื่อมเสียพระศาสนา หลังถูกจับสึก(ต้องปาราชิก)แล้ว ปัจจุบันไม่มีฏกหมายใดมาเอาผิดได้ (โทษสูงสุดคือจับสึก) แต่ที่ได้ยินในข่าวคือกรณีนี้จะมีความผิดในทางอาญาหรือแพ่งต่อ

เดี๋ยวกลับไปหาข้อมูลก่อนครับ แล้วจะหามาเล่าให้ฟังใหม่

ขออนุโมทนาบุญครับ

#7 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 07:14 PM

ปาราชิกจริงๆ น่ะเขาไม่เรียกว่าจับสึกครับ เพราะขาดจากการเป็นพระในวินาทีแรกที่ความผิดครบองค์ประกอบ เขาเรียกว่าจับถอดผ้าเหลืองครับ
แต่ถ้าไม่ผิด ไม่กล่าวคำลาสิกขา และถูกจับถอดผ้าเหลือง เขาเรียกว่า โดนปล้นผ้าเหลืองครับ
และก็ยังไม่ชัดเจนนะครับว่า จะปรับโทษอาญาในฐานความผิดใดบ้าง อย่าเพิ่งแค่นึกถึงแค่ฐานความผิดเดียวนะครับ ยังมีฐานความผิดอื่นอีกที่ทำให้ต้องอาบัติปาราชิก

#8 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 07:58 PM

แทนที่จะเอาผิดพระปราชิกนี่...
เอาผิดคนลงข่าวกระจายความเสื่อมเสียไม่ดีกว่าหรือ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#9 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 09:10 PM

เห่อ....ไม่ดีเลยนะ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#10 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 10:01 PM

QUOTE
แทนที่จะเอาผิดพระปราชิกนี่...
เอาผิดคนลงข่าวกระจายความเสื่อมเสียไม่ดีกว่าหรือ


เรื่องนี้จริงๆ มองได้หลายมุมนะคะ ในมุมมองของ koonpatt เห็นว่า

ปัจจุบัน สื่อที่ทำข่าวประเภทนี้ ค่อนข้างรัดกุม และมีหลักฐานชัดเจนนะคะ เช่น ภาพถ่าย หรือ วีดีโอ การตีข่าวที่เป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีแล้ว เพราะ ก็คงจะรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถที่จะบิดเบือน ได้อีกต่อไป

เปิดใจให้กว้างนิดนึงนะคะ มองถึงความปรารถนาดี ของการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูกชาวพุทธประนามบ้างว่า

แท้ที่จริงแล้วส่วนหนึ่ง สื่อไม่ได้ต้องการทำร้าย ศาสนา แต่ต้องการกำจัด เหลือบ ไร ในผ้ากาสาวพัสตร์ มิให้ผู้ใดบังอาจ เอาผ้าอันศักสิทธิ์ และผู้บริสุทธิ์เท่านั้น ที่มีสิทธืที่จะครอง มาห่อความชั่วร้ายทั้งหมดทั้งปวง ของตน

เราจะไม่ช่วยผู้ที่ถูกทำร้าย แล้วปล่อยให้เค้า เกลียดชัง และเหมารวมเอาว่า แท้จริงแล้ว เราโอบอุ้มคนผิดหรือ

เราจะปกป้องผู้กระทำผิด โดยการอนุญาตให้ คนเหล่านั้น อยู่ภายใต้ ผ้ากาสาวพัสตร์อันศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไปหรือ

คนส่วนหนึ่งไม่ยอมใส่บาตร เพราะไม่แน่ใจใน บุคคลอันถือครองผ้า ที่คนบริสุทธิ์เท่านั้นมีสิทธิ์

พุทธศาสนา เป็น ของจริง ไม่มีวันเสื่อมค่ะ หากแต่.... ถ้าเราปล่อยให้ เหลือบ ไร ได้ถือครองผ้านี้สิคะ....ความศรัทธาจะเสื่อม

และที่สำคัญ เหลือบ ไร เหล่านั้น ขาดจากความเป็นพระตั้งแต่ วินาทีที่ประพฤติผิดแล้วค่ะ เป็นแค่ "คนธรรมดา" ที่แต่งกายเลียนแบบสงฆ์เท่านั้นเอง

ถ้า koonpatt มีโอกาส รู้ เห็น พฤติกรรมของคนเหล่านี้ ตัว koonpatt เองเป็นคนหนึ่งที่จะทำค่ะ
จะเปิดโปง ไม่ ปกปิด เพื่อ ปกป้อง

เพราะ koonpatt เชื่อว่า เราทุกคน มีหน้าที่ ทำนุ บำรุง พระศาสนา มิได้มีหน้าที่ ทำนุ บำรุง เหลือบ ไร พระศาสนาค่ะ

ศัตรูที่มองเห็นซึ่งๆ หน้าเนี่ย ไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่ศัตรูที่แฝงอยู่ข้างใน ลวงให้คิดว่าเป็นพวกเดียวกันสิ.......น่ากลัว
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#11 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 October 2006 - 10:23 PM

การเอาผิดทางวินัยสงฆ์ ย่อมเป็นกิจของสงฆ์อธิกรณ์กันเอง โดยมีพระวินัยธรณ์ พระผู้ปกครอง เจ้าคณะฯ ดำเนินการ

ฆราวาสมิควรก้าวก่าย เว้นแต่จะเพิ่มโทษทางแพ่ง อาญา พวกสมี หรือ ผู้ถูกปราชิกอย่างเป็นทางการแล้วนั้น ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

เรื่องที่คุณหัดฝันกล่าวอยู่ใน"นิโครธชาดก"
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#12 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 09:01 AM

ที่ฟังมาเป็นรายการคุณสรยุทธ เช้าวันที่ 19 ต.ค. โปรยหัวข่าวไว้ ว่าจะมีกรรมการพิจารณาเรื่องนี้ครับ แต่ผมกลับไปหารายละเอียดของข่าวไม่เจอ(เช้านี้ก็ไม่เจอ) ถ้าท่านใดมีข้อมูลนำมาเล่าให้ฟังก็ดีนะครับ



โดยส่วนตัว หลังจากฟังหัวข้อข่าวก็มีความคิดในสมองสองด้านครับ ด้านหนึ่งก็เช่นที่คุณ koonpatt พูดถึงครับ เห็นด้วยครับ(ก็น่าจะดี) แต่อีกด้านหนึ่ง ก็จะเหมือนหลายๆท่านครับ และที่สำคัญได้รับรู้เกี่ยวกับเคสเรื่องกฏแห่งกรรม อันตรายครับ จำเคสเกี่ยวกับการวิพากวิจารย์สงฆ์ ล้วนมีวิบากกรรมแม้นว่าจำเจตนา ปกป้องพระศาสนา ซึ่งกฏแห่งกรรมไม่ละเว้น และบางครั้งเมื่อทำการเสนอข่าวด้านลบมากๆ จะเกิดโมหะครอบนำทำให้คะนอง ซึ่งก็จะเป็นวิบากกรรมหนักมากๆ



เพื่อจะให้เห็นภาพ ยกตัวอย่างทศชาติชาดก เรื่องพระเตมีย์
QUOTE
ท่านบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะให้ได้ออกบวช ยอมทนทุกอย่าง พระองค์ทรงกลัวที่จะได้ครองราชย์แล้วต้องกลับไปสู่นรกนั้นอีก ตั้งแต่นั้นมา จึงทรงอดทนนิ่งเฉย ไม่ทรงขยับเขยื้อนพระหัตถ์และพระบาท ทั้งไม่ตรัสอะไรอีกเลย ปล่อยให้คนทั้งหลายเข้าใจพระองค์ว่าเป็นคนเขลา




ซึ่งจากการฟังเคสบ่อยๆ ผมไม่กล้าวิจารย์เรื่องเกี่ยวกับสงฆ์(ถูกผิดท่านก็ยังอยู่ในศีล 227 ข้อตามพระวินัย) แต่ถ้าบุคคลหลังจากพ้นจากความเป็นพระแล้ว หากมีกฏหมายดังกล่าวตามเอาผิดบุคคลที่ทำให้พระศาสนามัวหมอง(ตามหัวข่าวที่ได้ฟังมา) ผมก็เห็นว่าน่าจะดีครับ



ขออนุโมทนาบุญครับ

#13 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 09:04 AM

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของศาสนาพุทธ(ที่ผ่านมา)...มีจำเลย ไม่มีโจทก์...

#14 Kay :)

Kay :)
  • Members
  • 238 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 09:32 AM

QUOTE
เรื่องนี้จริงๆ มองได้หลายมุมนะคะ ในมุมมองของ koonpatt เห็นว่า

ปัจจุบัน สื่อที่ทำข่าวประเภทนี้ ค่อนข้างรัดกุม และมีหลักฐานชัดเจนนะคะ เช่น ภาพถ่าย หรือ วีดีโอ การตีข่าวที่เป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีแล้ว เพราะ ก็คงจะรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาว่า เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถที่จะบิดเบือน ได้อีกต่อไป

เปิดใจให้กว้างนิดนึงนะคะ มองถึงความปรารถนาดี ของการกระทำที่เสี่ยงต่อการถูกชาวพุทธประนามบ้างว่า

แท้ที่จริงแล้วส่วนหนึ่ง สื่อไม่ได้ต้องการทำร้าย ศาสนา แต่ต้องการกำจัด เหลือบ ไร ในผ้ากาสาวพัสตร์ มิให้ผู้ใดบังอาจ เอาผ้าอันศักสิทธิ์ และผู้บริสุทธิ์เท่านั้น ที่มีสิทธืที่จะครอง มาห่อความชั่วร้ายทั้งหมดทั้งปวง ของตน


กรณีที่วัดของเราโดนละค่ะ สื่อรัดกุมหรือไม่ หรือแค่ต้องการขายข่าวให้คนดู แค่ภาพถ่าย วิดีโอเท่านั้น คนส่วนใหญ่ก็คล้อยตาม ขอถามค่ะ ที่เค้าตัดต่อกันเบื้องหลังเรารู้หรือไม่ อยากให้เปิดใจกว้างเสนอมุมมองพระที่ท่านปฏิบัติดีให้มากขึ้นจะดีกว่า
อีกอย่างค่ะ แม้ว่าพระท่านจะพลาดพลั้ง แต่อย่าลืมว่าท่านมีศีลอีกสองร้อยกว่าข้อ แล้วนักข่าวที่นำเสนอมีศีลถึง 5 ข้อหรือไม่ค่ะ

#15 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 12:42 PM

ฆราวาสไม่ควรจะมาตัดสินพระ เพราะพระปกครองกันโดยพระวินัยกันอยู่แล้ว

แทนที่จะหาเรื่องลงโทษพระ ทำไมไม่คิด อบรม พัฒนา ให้ความรู้ ปลูกผังอุดมการณ์ในการเป็นพระ ไม่ดีกว่าหรือ

#16 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 01:19 PM

แล้วก็ต้องเอาผิดสีกาด้วยนะโยม บางคนเค้าจ้างมายั่วยวนปั่นป่วนทุกๆวันก็มี




#17 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 01:31 PM

QUOTE
แล้วก็ต้องเอาผิดสีกาด้วยนะโยม บางคนเค้าจ้างมายั่วยวนปั่นป่วนทุกๆวันก็มี

จริง ๆ ด้วย...แล้วพระจะระวังตัวอย่างไรนี่...น่ากลัวจัง
เกิด..มาป่วนด้วยการวิ่งเข้าไปกอดพระ...แล้วถ่ายรูป....
ถูกยัดยาเสพติดใส่ย่ามบ้างจะทำอย่างไร
จะทำงัย!!! rolleyes.gif

#18 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 02:27 PM

สิ่งที่น่าจะทำมากกว่าเพิ่มโทษ คือ ไม่ควรเอาข่าวความเสียหายคณะสงฆ์ไปออกข่าว เพราะความจริงอาจจะเป็นอีกอย่างก็ได้
ลองยกตัวอย่างคดีดังๆ ก็ได้ครับ อย่างท่านนิกร ตอนวินิจฉัยให้ท่านสละเพศ ที่ออกข่าวว่ามีเรื่องไม่ดีกับสีกา แต่ที่ให้สึกกลับเป็นฐานความผิดอื่น
ท่านยันตระถูกกล่าวหาว่ามีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับสีกา (ปัจจุบันก็ยังเข้าใจอย่างนั้น) แต่วินิจฉัยจริงๆ ท่านไม่ผิดในส่วนข้อกล่าวหานี้ แต่ผิดในข้อกล่าวหาอื่น คือ ผิดวินัยเล็กน้อยเป็นอาจิณ (ท่านบวชแล้วก็ปลีกวิเวกทันที เลยไม่ได้รับการอบรมจากอุปัชฌาย์อาจารย์) ผู้พิจารณาให้ท่านสละเพศด้วยฐานความผิดนี้
ถ้าจะเพิ่มโทษในส่วนอาญา ที่ควรทำก็คือ ผู้ที่ได้รับวินิจฉัยถึงที่สุดว่าต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ควรจะทำประวัติ (ใบแดง) คล้ายๆ ประวัติอาชญากรรมไว้ ถ้าผู้มาบวชโดยปกปิดความจริงในส่วนนี้ นั่นแหละครับ ถึงควรจะมีโทษทางอาญา

#19 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 02:49 PM

หลวงพ่อภาวนาพุทโธด้วยค่ะ...ข้อหาที่ถูกกล่าวหา.......แล้วทำไมเด็ก ๆ ชาวเขาที่เหลืออยู่ ยังคงกราบและแสดงความเคารพ สรรเสริญ เทิดทูลท่านด้วยดวงใจ

บางคนฟังแต่ข่าว...จริงไม่จริงไม่รู้...เอาสิ่งของไปขว้างปาท่าน เอาไม้ไปตีศีรษะท่าน
บางครั้งเราก็รู้สึกว่า...ความดีที่พระท่านทำยิ่งใหญ่...เกินกว่าที่จะ......

บางครั้งทำให้เราได้เรียนรู้ ได้รู้จัก เข้าใจ เข้าใจ ธรรมชาติของมนุษย์หรือคน ศาสตราจารย์ ด๊อกเตอร์ต่าง ๆ นักวิชาการ นักคิดนักเขียน สื่อมวลชนตั้งแต่เล็กถึงใหญ่....บางครั้งไม่เคยมีความจริงใจต่อประชาชน ไม่มีสัจจะ ไม่มีความละอาย ไม่ต้องการเหตุผล...ขอเพียงฉันได้ ฉันมี ฉันได้เป็น !!!

นี่หรือปล่าวที่คติกล่าวว่า...ธรรมยิ่งสูง มารยิ่งจัด ยิ่งมีบารมี ยิ่งถูกให้ร้าย...

#20 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 03:36 PM

มงคลที่ ๓ บูชาบุคคลที่ควรบูชา


"ต้นไม้เมื่อยังเล็กเป็นต้นกล้าอยู่
จำเป็นต้องมีหลักค้ำประคองไว้
ป้องกันไม่ให้ล้มรากขาดตายเสียก่อนฉันใด
ผู้ที่หวังความเจริญก้าวหน้า
ก็จำเป็นต้องบูชาบุคคลที่ควรบูชา ไว้เป็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่ถูก
เป็นหลักใจ ป้องกันความเห็นผิดและอกุศลกรรมต่างๆ
มิให้ย้อนกลับกำเริบขึ้นมาอีกฉันนั้น"


ก า ร บู ช า คื อ อ ะ ไ ร ?

การบูชา คือการเลื่อมใส ยกย่อง เชิดชู ด้วยกิริยาอาการสุภาพที่เราแสดงต่อผู้ที่ควรบูชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง การแสดงต่อหน้า เป็นการแสดงให้ท่านทราบว่า รามีความเคารพ และตระหนักในคุณธรรมความดี ที่มีอยู่ในตัวของท่านอย่างจริงใจ การแสดงลับหลัง เป็นการเตือนใจตัวเราเอง ให้ผูกใจไว้กับ คุณธรรมอันสูงส่งของท่าน ก่อให้เกิดความรู้สึก อยากกระทำตาม ใจเราจะได้ยกสูงขึ้นเสมอๆ ไม่เลื่อนไหลไปในทางชั่วร้าย

การบูชา เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง สำหรับฝึกใจที่ยังหยาบกระด้าง เพราะไม่อาจยอมรับคุณความดีของผู้อื่น ให้ละเอียดอ่อนลง ผู้ที่ยังด้อยปัญญา ยังไม่เข้าใจในคุณธรรมความดีของผู้ที่ควรบูชานัก แต่หากได้เคยชินกับการบูชาแล้ว ในที่สุดย่อมสามารถเห็นถึงคุณธรรมความดี ที่มีอยู่ในตัวของผู้ที่เราบูชา ได้อย่างแจ่มชัด จนเกิดความเลื่อมใสกลายเป็นการบูชาอย่างแท้จริง อยากทำความดีตามท่านบ้าง ผู้ใหญ่จึงควรสอนบุตรหลานให้รู้จักสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย เป็นการปลูกศรัทธา ให้รู้จักบูชาบุคคลที่ควรบูชา ตั้งแต่เล็กๆ

บุคคลที่ควรบูชา

คือบุคคลที่มีคุณความดีควรค่าแก่การระลึกนึกถึง และยึดถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตาม ได้แก่ ผู้มีศีล สมาธิ ปัญญาสูงกว่าเรานั่นเอง ซึ่งประมวล สรุปได้ดังนี้

๑. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบัณฑิตที่ประเสริฐสุดในโลก ทรงไว้ด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ จัดเป็นบุคคลที่ควรบูชาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

๒. พระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบก่อนแล้วจึงสอนให้ผู้อื่นประพฤติดี ปฏิบัติชอบตามอย่างบ้าง จัดเป็นบุคคลที่ควรบูชาของพุทธศาสนิกชน

๓. พระมหากษัตริย์ผู้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม เป็นธรรมราชา จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของประชาชน

๔. บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ที่มีความประพฤติดี เป็นบัณฑิตที่อยู่ ในฐานะสูงเกินกว่าจะคบ จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชา หรือปูชนียบุคคลของบุตรหลาน

๕. ครูอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ ความประพฤติดี เป็นบัณฑิตที่อยู่ในฐานะสูงเกินกว่าศิษย์จะคบหา จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของศิษย์

๖. ผู้บังคับบัญชาที่มีความประพฤติดี ตั้งอยู่ในธรรม จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา

นอกจากนี้บัณฑิตที่มีเพศภาวะสูงเกินกว่าที่จะคบในฐานะผู้เสมอกันได้ ล้วนจัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาทั้งสิ้น


สิ่งที่เนื่องด้วยท่านเหล่านี้ ก็จัดเป็นสิ่งที่ควรบูชาอีกเช่นกัน เพราะเมื่อเราบูชาสิ่งเหล่านี้ ก็ทำให้ระลึกนึกถึงคุณงามความดีของบุคคลที่สิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องด้วย ตัวอย่างคือ

๑. สิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้า เช่น พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ พระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ สังเวชนียสถาน ฯลฯ

๒. สิ่งที่เนื่องด้วยพระสงฆ์ เช่น พระธาตุ รูปพระสงฆ์สาวก ฯลฯ

๓. คำสั่งสอน รูปภาพของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้บังคับบัญชา พระมหากษัตริย์ ซึ่งตั้งใจประพฤติธรรม เป็นบัณฑิต จัดเป็นสิ่งที่ควรบูชาทั้งสิ้น

ก า ร แ ส ด ง อ อ ก ถึ ง ค ว า ม บู ช า

๑. ทางกาย ไม่ว่าจะยืนเดินนั่งนอนหรือประกอบกิจใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้า ท่านหรือสัญลักษณ์ตัวแทนของท่าน เช่น รูปปั้น ภาพถ่าย ก็อยู่ในอาการสำรวม

๒. ทางวาจา สรรเสริญยกย่องคุณความดีของท่าน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เช่น การสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย การนำความดีของท่านไปสรรเสริญ

๓. ทางใจ ตามระลึกนึกถึงคำสอนของท่านด้วยความเคารพและซาบซึ้ง

ป ร ะ เ ภ ท ข อ ง ก า ร บู ช า

การบูชาในทางปฏิบัติมี ๒ ประเภท คือ

๑. อามิสบูชา คือการบูชาด้วยสิ่งของ เช่น บุตรระลึกถึงคุณของบิดามารดา ศิษย์ระลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ จึงบูชาด้วยการนำทรัพย์สินเงินทองของใช้ ฯลฯ ไปมอบให้ เป็นต้น การบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ธูปเทียน ก็จัดเป็นอามิสบูชาเช่นกัน

๒. ปฏิบัติบูชา คือการบูชาด้วยการตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามคำสอนตามแบบอย่างที่ดีของท่าน เช่น พยายามกำจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามคำสอนของท่าน การปฏิบัติบูชานี้จัดเป็นการบูชาที่สูงสุด เพราะเป็นวิธีที่จะทำให้กาย วาจา ใจ ของเราใสสะอาด เป็นบัณฑิตตามท่านได้โดยเร็ว

ข้ อ เ ตื อ น ใ จ

สำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือนักปฏิบัติธรรม พึงระลึกเสมอว่า สิ่งที่เราจะเรียนรู้นั้น ถ้าเราเทิดทูนบูชา ตั้งใจประคองรักษาอย่างดี ไม่นำไปล้อเลียน หรือพูดเล่น ผลของการศึกษาเล่าเรียนตลอดจนการปฏิบัติธรรมของเรา ย่อม จะมีความเจริญก้าวหน้าประสบผลสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์

ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่เคารพแต่กลับลบหลู่ครูอาจารย์หรือสิ่งที่จะเรียนรู้ ความเข้าใจ ความซาบซึ้งที่จะปฏิบัติตามคำสอนก็หมดไป เกิดความรู้สึกไม่อยากบูชาหรือไม่ศรัทธา ใจที่ควรจะตรึกนึกถึงธรรมะหรือบทเรียนต่างๆ ก็มืดมิด เป็นการปิดกั้นหนทางที่จะเข้าถึงปัญญา อันจะเป็นแสงสว่างส่องนำวิถีชีวิตให้ก้าวไปในทางที่ถูกที่ควรที่ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น

ข้ อ ค ว ร ร ะ วั ง

อย่าบูชาสิ่งที่ไม่ควรบูชา เพราะจะชักนำไปสู่ความงมงายหลงผิด จิตใจขุ่นมัวเป็นพาลไป ซึ่งทำได้ดังนี้

๑. ไม่บูชาคนพาล คือไม่ยกย่อง ไม่เชิดชู ไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุนคนพาล ไม่ว่าคนพาลนั้นจะมียศศักดิ์ หรือสถานภาพสูงส่งเพียงไรก็ตาม

๒. ไม่บูชาสิ่งที่เนื่องด้วยคนพาล เช่น รูปภาพ รูปปั้น ผลงาน สิ่งของ เครื่องใช้ของคนพาล หรือทำตามคำแนะนำสั่งสอนของคนพาล

๓. ไม่บูชาสิ่งที่บูชาแล้วไม่ทำให้เกิดสิริมงคล เช่น รูปภาพดารา นักร้องนักกีฬาที่ไม่มีคุณธรรมเพียงพอ ภาพโฆษณาเกี่ยวกับอบายมุข ฯลฯ อย่า นำมาประดับบ้านเรือน

๔. ไม่บูชาสิ่งที่บูชาแล้วทำให้งมงายไม่เกิดปัญญา เช่น ต้นไม้ใหญ่ ภูเขาสูง ศาลพระภูมิ คนทรง ภูตผีปีศาจ สัตว์ที่เกิดมามีลักษณะผิดปกติ ฯลฯ


ก ร า บ ๓ อ ย่ า ง

วิธีการบูชาพระพุทธรูปที่ใช้กันมากคือการกราบ ซึ่งผู้ที่กราบพระนั้น แยกได้หลายประเภทดังนี้

๑. ยิ่งกราบยิ่งเมื่อย คือพวกที่เห็นคนอื่นกราบพระก็กราบตามเขา โดยไม่รู้ความหมาย ทำลวกๆ เหมือนลิงไหว้เจ้า อย่างนี้ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร เมื่อยเปล่า

๒. ยิ่งกราบยิ่งโง่ คือพวกที่กราบพระแล้วขอในสิ่งที่ไม่สมควร เช่น กราบพระขอหวย หรือไม่ดูหนังสือแต่กราบพระขอให้สอบได้

๓. ยิ่งกราบยิ่งฉลาด คือพวกที่กราบพระแล้วยึดถือเอาพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์มาเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติตาม เช่น

กราบครั้งที่ ๑ ระลึกถึงพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีปัญญามาก สามารถพิจารณาเห็นทุกข์ และคิดค้นวิธีการดับทุกข์ได้ด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้เพราะพระองค์ ศึกษาธรรมและฝึกสมาธิมามาก จึงมีใจใสสว่างจน สามารถตรัสรู้ธรรมปราบกิเลสในตัวได้หมด เราก็ต้อง ตั้งใจหมั่นฝึกสมาธิศึกษาธรรมตามอย่างพระองค์ด้วย

กราบครั้งที่ ๒ ระลึกถึงพระบริสุทธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีความบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ เพราะพระองค์ทรงรักษาศีลมามาก ไม่เคยให้ร้ายแก่ใครเลย เป็นตัวอย่างในการรักษาศีลได้อย่างดี เราก็ต้องตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์อย่างพระองค์ด้วย

กราบครั้งที่ ๓ ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงเทศนาสั่งสอนผู้คนทั้งหลาย โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เพราะพระองค์ทรงบำเพ็ญทาน และช่วยเหลือสัตว์โลกมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จึงมีความเมตตากรุณาเป็นเลิศ เราก็ต้องตั้งใจหมั่นให้ทาน มีความกรุณา ช่วยเหลือผู้อื่นตามอย่างพระองค์ด้วย

อ า นิ ส ง ส์ ก า ร บู ช า บุ ค ค ล ที่ ค ว ร บู ช า

๑. ยังความเห็นถูกที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
๒. ยังความเห็นถูกที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น
๓. ทำให้มีกิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน น่ารักน่านับถือ
๔. ทำให้จิตใจผ่องใส เพราะตรึกอยู่ในกุศลธรรมเสมอ
๕. ทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ขึ้นเพราะมีความสำรวมระวัง เป็นการป้องกันความประมาท
๖. ป้องกันความลืมตัวความหลงผิดได้ เพราะตระหนักอยู่เสมอว่า ผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่าตนยังมีอยู่
๗. ทำให้เกิดกำลังใจและอานุภาพอย่างมหาศาล สามารถคุ้มครองป้องกันตนให้พ้นจากอุปสรรคและภัยพาลต่างๆ ได้
๘. เป็นการกำจัดคนพาลให้พินาศไปโดยทางอ้อม เพราะมีแต่คนบูชาบัณฑิตผู้มีคุณธรรม
๙. เป็นการเชิดชูบัณฑิตให้สูงเด่น ทำให้ท่านสามารถบำเพ็ญกรณียกิจได้สะดวกกว้างขวางยิ่งขึ้น
ฯลฯ

"ผู้ใด พึงบูชาท่านผู้อบรมตนแล้วผู้หนึ่ง แม้เพียงครู่เดียว การบูชาของผู้นั้น ประเสริฐกว่าการบูชาของบุคคลผู้บูชา (โลกิยมหาชน) ด้วยทรัพย์เดือนละพัน ตลอดร้อยปี" ขุ. ธ. ๒๕/๑๘/๒๙

จบมงคลที่ ๓ บูชาบุคคลที่ควรบูชา
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#21 Light or White

Light or White
  • Members
  • 55 โพสต์
  • Location:donmueng, Bangkok 10210

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 07:26 AM

สื่อมวลชนอาจคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเสนอนั้นเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนาแต่ลืมไปว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาทางอ้อม เพราะธรรมชาติของคนทั่วไป เชื่อง่าย ไม่ค่อยพิสูจน์ ขาดการไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน นี่คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่ทำให้ศาสนกชนเสื่อมศรัทธา

เสนอข่าวไม่ครบถ้วน มีมุมมองเดียว เลือกใช้คำพูดทื่ทำให้พระพุทธศาสนาโดยรวมเสียหาย
รายการอ่านข่าวตอนเช้าที่ต่อยอดจากหนังสือพิมพ์ก็ใช้คำพูดที่เหน็บแนม พูดไปหัวเราะไป มีน้อยมากที่ช่วยพูดแก้ต่างให้อย่างจริงจัง
โดยภาพรวมมีแต่ข่าวด้านลบมั่วสีกา โดยตีข่าวถี่มาก ทำให้คนอ่านเข้าใจว่านี่คือตัวแทนพระพุทธศาสนา
มีข่าวด้านบวกน้อยมาก ถ้ามีก็ลงครั้งเดียว
มีการนำเรื่องราวพระไปทำเป็นรายการตลกบ่อยมาก เช่น คดีเด็ด
ตลกเอาพระไปล้อเลียนเกือบทุกวง
บางวัดก็อนุญาตให้เอาวงดนตรีหมอลำซิ่ง ที่มีท่าเต้นยั่วยวนไปแสดงในวัด พระเองก็ออกมาดูด้วย

#22 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 10:03 PM

QUOTE
ฟังข่าวเมื่อเช้า เห็นว่าวันนี้จะมีการพิจารณากฏหมายอาญา กรณีพระภิกษุที่ปาราชิก แล้วก่อให้เกิดการเสื่อมเสียต่อพระศาสนา


ฆารวาสยุ่งกิจของผู้ถือศีล อีกแล้วนะครับ
อีกหน่อยคงจะคิดออกกฎหมายคัดเลือก องค์สังฆราช


ศีล 227 ข้อของพระสงฆ์ นั้นปฏิบัติดีอยู้แล้ว
เรื่องของสงฆ์ ควรให้พระอริยสงฆ์ท่านปกครองเถอะครับ
ผ่านมาสองพันห้าร้อยสี่สิบเก้าปี ยังดำรงอยู่ได้
วัดดีๆ ในประเทศไทยมีมากมายจนท่องจำไม่หมด
ทั้งวัดใหญ่วัดเล็ก


หากสื่อเสนอข่าวพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี
ข่าวก็ขายไม่ออก เรื่องของอริยสงฆ์
ข่าวไม่คาว ไม่ลบ ยอดขายหล่น
ไม่มีทางเสนอต่อเนื่อง หรือลงหน้าหนึ่งได้หรอกครับ


สื่อขายข่าว ทนายขายความ
ศาลพิพากษาตามตัวหนังสือ
แล้วยังจะให้คนถือศีล 5 ยังลำบาก
มาออกกฎหมายบังคับคนถือศีล 227 ข้อ
จริงๆ กับพระแท้ก็ไม่มีผลต่อท่านหรอกครับ
แต่ทุกครั้งที่มีพระที่แอบแฝงมีเรื่องขึ้นมาทีไร
ก็เหมารวมว่าศาสนาพุทธเสื่อม
แต่เวลาที่มีพระที่ปราถนาบวชตลอดชีวิตเป็นกลุ่ม
ข่าวไม่เห็นมีลงในสื่อสักตัวเดียว


สื่อหนึ่งในปัจจุบันที่จะช่วยให้คนทั่วไปได้ทราบข้อเท็จจริง
ข้อเท็จจริงของธรรมะของพระพุทธเจ้า
สื่อนั้นก็คือ DMC ชาวเรา
สื่อนั้นก็คือจานดาวธรรม



ที่กังวลไม่ใช่ว่ากฎหมายจะออกมาได้เป็นธรรมหรอกนะครับ
กลัวแต่ว่าต่อไป จะครอบงำไปเสียทุกเรื่อง





#23 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 09:01 PM

QUOTE
ฆารวาสยุ่งกิจของผู้ถือศีล อีกแล้วนะครับ อีกหน่อยคงจะคิดออกกฎหมายคัดเลือก องค์สังฆราช


คิดว่า คงจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่โตเลยค่ะ กระทู้นี้ พูดถึงเฉพาะ พระที่ต้องอาบัติปาราชิกนะคะ

คือ ที่ konpatt มีความเห็นค่อนข้างแตกต่าง จาก หลายๆ ท่านในบอร์ด เนื่องจาก ในจังหวัดที่ koonpatt อยู่ได้พบเห็นการกระทำผิด ในเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ koonpatt จึงยืนยันได้ค่ะ ว่า

พุทธสาสนาไม่เคยเสื่อมเพราะเรื่องแบบนี้ แต่ ถ้ายังมีพระที่ประพฤติมิชอบอยู่ในวัด คนจะไม่เข้าวัดค่ะ ไม่ได้เสื่อมศรัทธาพุทธศาสนา

ฆราวาส จะไม่เข้าไปยุ่งกับสงฆ์หรอกค่ะ ถ้า ไม่ทำเสีย ประเจิดประเจ้อ จน ฆราวาสทนดูอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ คือ เพราะทนดูมานาน จนทนต่อไปไม่ได้แล้ว ถึงได้เป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา

ทำไมต้องแจ้งสื่อ แจ้งตำรวจ ทำไมไม่รอให้พระจัดการกันเอง

จะไปกราบเรียนพระผู้ใหญ่ ให้ทราบได้ที่ไหนหรือคะ แล้วท่านมีเวลา หรือต้องรบกวน ให้ท่านมาคอยสอดส่องพฤติกรรมของพระทุกรูปหรือคะ

ถ้าชาวบ้านไม่ร้องเรียน แต่ก็ไม่เข้าวัด จะดีกว่าจริงๆ หรือคะ

พุทธศาสนา ไม่เสื่อมเพราะ ฆราวาสหรอกค่ะ พระประพฤติมิชอบต่างหากที่จะเป็นต้นเหตุทำให้เสื่อม

ถ้าจะพูดว่า สงฆ์มีศีล 227 ข้อ ผิดสัก 1 ข้อ 2 ข้อจะเป็นไรไป

ก็ทำไมไมคิดในมุมกลับล่ะคะว่า ข้อสำคัญมากๆ เท่าชีวิตของสมณะที่ต้องรักษา ยังทำไม่ได้ แล้วคิดว่า อีก 200 กว่าข้อ ที่เหลือ จะทำหรือคะ

ถ้าทำไม่ได้ รู้ตัวว่า อยู่ต่อ ต้องทำผิดแน่ๆเลย ออกมาเป็นฆราวาส ก่อนค่ะ พร้อมเมื่อไหร่ค่อย กลับไปบวช

ไม่ใช่เพราะคิดว่า ทำๆไปเถอะ ถูกจับได้ ก็แค่สึก

คนประเภทนี้ ให้อยู่ต่อไป ก็เสียสถาบันค่ะ

เพราะแม้แต่ ผิด ชอบ ชั่ว ดี ยังแยกแยะไม่ได้ ไม่ละอายและเกรงกลัวต่อบาป

QUOTE
สื่อขายข่าว ทนายขายความ ศาลพิพากษาตามตัวหนังสือ แล้วยังจะให้คนถือศีล 5 ยังลำบาก มาออกกฎหมายบังคับคนถือศีล 227 ข้อ


ปล. กระทู้นี้พูดกันถึง เฉพาะ พระที่ต้องอาบัติ ปาราชิกนะคะ

ความผิดที่แม้แต่ พระพุทธองค์ ผู้ทรงมหากรุณา ยังไม่ทรงละเว้นโทษให้


แล้วทำไม่ท่านทั้งหลาย ถึงต่อต้าน และต้องปกป้องคะ ไม่เข้าใจจริงๆ

ขออภัยหลายๆครั้งค่ะ ที่ ทำให้หลายๆท่านได้อ่านความคิดเห็นของ koonpatt แล้วขุ่น

อาจเป็นเพราะ เสียดายที่ตัวเองเกิดมาเป็นผู้หญิง ที่ไม่มีโอกาสได้บวช

มองพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นของสูง เป็นสิ่งบริสุทธิ์ เทิดทูนไว้เหนือหัว

ทนไม่ได้หรอกค่ะ ที่จะให้ใคร มาย่ำยี ดูหมิ่น ด้วยการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อบาป

ลบลู่พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เยี่ยงนี้

แต่ถ้าหากท่านใด มีเหตุผลที่ดี ขอความกรุณา ชี้แนะ koonpatt ด้วยค่ะ

ว่า พระที่ต้อง อาบัติ ปาราชิก ทำไมถึงมีสิทธิ์ที่จะครอง ผ้า กาสาวพัสตร์ ต่อไป

จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#24 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 12:24 AM

สัตว์โลกเป้นไปตามกรรม
สรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั่งอยู่ สุดท้ายก็ดับไป เป็นธรรมชาติ

พระ ๆ ๆ ๆ
ปาราชิก ๆ ๆ ๆ
กฏหมาย ๆ ๆ ๆ
ความเห็น ๆ ๆ ๆ

พระที่ท่านปาราชิกแล้ว แต่ยังครองผ้าเหลือง ก็กรรมของท่าน
ใคร มาย่ำยี ดูหมิ่น ด้วยการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อบาป

ลบลู่พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เยี่ยงนี้

ก็ช่างเขาเถอะ เราทำใจให้ใสดีกว่า ตั้งจิตเป็นเมตตาไปเสีย ใครจะดีจะชั่ว เราก็เมตตาไป
จะได้ไม่ทุกข์ร้อนใจ

เยี่ยงนี้ ดีกว่าน่ะครับ คุณkoonpatt

นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#25 เทวา...ในอนาคต

เทวา...ในอนาคต
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 07:54 PM

งั้นไม่อยากเป็นผู้พิภากษาเเล้วค่ะ

กลัว ตก นรกกกก

#26 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 22 December 2006 - 09:28 AM

ขออภัยครับถ้ากระทู้ดูลาอแหลมไป คือเจตนาอยากทราบรายละเอียดอะครับ รู้ไว้ใช่ว่า

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ออกความคิดเห็นครับ