ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * - - 1 คะแนน

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 10


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 12:04 AM

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 10
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra


สมาธิ แปลว่า ใจตั้งมั่น มีใจจดจ่อในสิ่งที่ทำ อยู่กับเรื่องๆ นั้น ไม่ฟุ้งซ่านไปถึงเรื่องอื่น สมาธิแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท คือ
1. สัมมาสมาธิ
2. มิจฉาสมาธิ

สมาธิ 2 ประเภทนี้ต่างกันที่ฐานที่ตั้งของใจ สัมมาสมาธิ แปลว่า มีฐานที่ตั้งของใจถูกต้อง ทำให้กิเลสต่างๆ ค่อยๆ ลดน้อยถอยไปจากใจของเรา ส่วนมิจฉาสมาธิ แปลว่า มีฐานที่ตั้งของใจผิดที่ ผิดตำแหน่ง เป็นสมาธิที่นำมาซึ่งความร้อนใจ เช่น ขณะที่มือปืนรับจ้างเล็งปืนไปที่เหยื่อ มีความตั้งใจว่าจะต้องยิงให้เข้าตรงกลางหน้าผากให้ได้ คนที่เล่นไพ่ ใจจดจ่อกับการเล่นไพ่ บางครั้งปวดปัสสาวะก็กลั้นได้ 3-4 ชั่วโมง ไม่ต้องกินข้าว ลืมเมื่อย ไม่ง่วงนอน เล่นไพ่ได้จนถึงสว่าง เขามีกิเลสเข้าหุ้มใจ นำมาซึ่งความร้อนใจ ความทุกข์ใจ แต่เวลาที่นั่งสมาธิ กลับบอกว่าเมื่อย ง่วง

สัมมาสมาธิ หรือ สมาธิในทางที่ถูก คือ ใจสงบตั้งมั่นอยู่ถูกที่ ตรงฐานที่ตั้งของใจ นั่นคือ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 อยู่กึ่งกลางลำตัว สูงจากระดับสะดือ 2 นิ้วมือ ถ้าสังเกตจะพบว่า หากเอาใจไปไว้นอกตัว สิ่งที่ใจจะไปจดจ่อมีมากมาย เป็นหมื่นเป็นแสนอย่าง แต่ถ้าเอาใจกลับมาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เพียงตำแหน่งเดียว จะไม่มีการซัดส่ายไปที่อื่น ใจจะสงบนิ่งมากขึ้นๆ ไปตามลำดับ
เหตุผลที่ต้องวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย เพราะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์ถ่วงของร่างกาย ของต่างๆ จะมีจุดศูนย์ถ่วง ถ้าเราเอาอะไรไปรองรับที่จุดศูนย์ถ่วง ของจะตั้งอยู่ได้ ไม่ตก ถ้าไปรองนอกจุดสมดุล ของก็จะกลิ้งตกลงมา ใจของเราก็เช่นกัน มีศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เหนือสะดือ 2 นิ้วมือ ที่เป็นจุดศูนย์ถ่วงของใจ เมื่อใจตั้งอยู่ที่จุดนี้ ใจของเราจะได้ดุลพอดี ไม่เอียงไปมา หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นจุดโฟกัสของใจ ถ้าเปรียบใจเหมือนแว่นขยาย จุดนี้ก็เหมือนจุดโฟกัสของแว่นขยาย เมื่อเอาใจมาจดจ่อที่จุดนี้แล้ว จะเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้ชัดเจนที่สุด เห็นถึงความเป็นจริงของโลกและชีวิต จนถึงขนาดข้ามภพข้ามชาติได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ระลึกชาติได้ มองไปในอนาคตได้ ดูการไปเกิดมาเกิดของสัตว์โลกได้ เพราะเอาใจมาไว้ที่จุดโฟกัสของใจ ถ้าใกล้จุดโฟกัสก็จะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนที่สุด ถ้าห่างจากจุดโฟกัส ก็ยิ่งเลือนราง เมื่อใจมาอยู่ที่จุดโฟกัส จะมีประสิทธิภาพสูงสุด มีพลังมากที่สุด สามารถเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริงได้อย่างถูกต้องชัดเจนที่สุด


ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 นี้เองที่พระองค์เรียกว่า เส้นทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา ความหมายโดยหยาบ หมายถึง แนวทางปฏิบัติที่ไม่ตึงเกินไป ที่เรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค และไม่หย่อนเกินไป ที่เรียกว่า กามสุขัลลิกานุโยค แต่ต้องปฏิบัติอย่างพอดีๆ ที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา ความหมายโดยละเอียด หมายถึง การเอาใจของเรามาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ที่เป็นเส้นทางสายกลางอันเป็นทางไปสู่ความสุขอันเป็นอมตะ

คนเรามีความสามารถ มีฝีมือที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้ มากเกินกว่าที่ตัวของเราเองจะคาดคิด ทุกคนมีความสามารถที่ซุกซ่อนอยู่ แต่เรายังไม่ได้เอาออกมาใช้ การทำงาน การศึกษาในแต่ละวัน ได้ใช้ฝีมือของตัวเองเพียง 5% เท่านั้น ที่เหลืออีก 95% ยังไม่ได้เอาออกมาใช้ ถ้านำส่วนนั้นออกมาใช้ ความสำเร็จทุกอย่างจะเป็นของเราตามที่ปรารถนา การจะทำให้เราเอาความสามารถออกมาใช้ได้ ทำโดยการทำสมาธิ เอาใจจรดที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7

ถ้าเราไปยืนกลางแดด ก็มีความรู้สึกร้อน ซึ่งแสดงถึงอานุภาพและพลังของแสงแดด แต่จริงๆ แล้ว แสงแดดมีอานุภาพมากกว่านั้น ถ้าเราเอาแว่นขยายส่องอยู่กลางแดด รวมให้แสงเป็นจุดเดียว จะจุดไฟติดได้ ยิ่งรวมแสงเป็นจุดเล็กมากเท่าใด พลังงานก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นปฏิภาคผกผันกับพื้นที่หน้าตัดที่เล็กลง จุดที่แสงรวมเป็นจุดโฟกัสของแว่นขยาย ใจก็เช่นเดียวกัน เราสามารถเรียน ทำงานได้ ก็คิดว่าตัวเองก็เก่งเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้ว ความเก่ง ความสามารถของเรามีมากกว่านั้น แต่เรายังไม่ได้เอาออกมาใช้ หากเราเอาใจไปวางไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ความสามารถของเราจะเพิ่มขึ้นได้อย่างมหาศาล พลังของใจ กำลังใจ กำลังความคิด ประสิทธิภาพในการทำงานทุกอย่างเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิตธัตถะ ก็มีความสามารถมาก แต่ยังเป็นปุถุชนอยู่ ยังไม่สามารถพ้นทุกข์ได้ ยังอยู่ในขอบเขตจำกัดของกิเลส และการเวียนว่ายตายเกิด จนกระทั่งวันเพ็ญเดือน 6 ใต้พวงไม้ศรีมหาโพธิ์ เมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน พระองค์ทรงนั่งขัดสมาธิคู้บัลลังก์ รวมใจหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายไปตามลำดับ ยิ่งเข้าสู่จุดที่เล็กละเอียดอ่อน ความสว่างภายในก็ยิ่งเกิดมากขึ้นตามลำดับ เหมือนอย่างที่ท่านได้กล่าวไว้ว่า “นัตถิ ปัญญา สมา อาภา” แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี ซึ่งไม่ใช่การเปรียบเทียบ แต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเมื่อปัญญาเกิดแล้ว จะเกิดเป็นความสว่างขึ้น ส่องให้เห็นความจริงทุกอย่าง แสงสว่างเกิดจากการทำสมาธิรวมใจหยุดนิ่งเข้ากลาง ถึงจุดที่ละเอียดอ่อนมากเท่าไหร่ ความสว่างก็ยิ่งเกิดมากขึ้นไปตามลำดับ เหมือนกับแสงที่รวมเป็นจุดที่ยิ่งละเอียดมากขึ้นเท่าใด พลังงานก็มากขึ้นไปเท่านั้น ท้ายที่สุด พระองค์เข้าถึงธรรมกายพระอรหัตต์ ความสว่างภายในมากถึงขนาดย้อนมองไปเห็นถึงอดีตชาติ มองไปดูอนาคต มองดูการไปเกิดมาเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย จนกระทั่งเห็นถึงกิเลสในใจของคนอย่างชัดเจน รู้ว่ามาจากไหน เป็นไปอย่างไร และสามารถขจัดกิเลสให้หลุดร่วงไปจากใจ ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ด้วยการเอาใจเข้าศูนย์กลางกาย ศีล สมาธิ ปัญญาจะครบบริบูรณ์อยู่ตรงนี้

การรักษาศีลคุ้มครองกาย วาจา ใจให้ดี เป็นการตัดทางมาแห่งกิเลสทั้งหลาย เพื่อให้เกิดสมาธิได้ง่าย จากนั้นลงมือทำสมาธิเอาใจเข้ากลาง ยิ่งใจเข้ากลางมากเท่าใด ความสว่างก็ยิ่งเกิดมากขึ้นตามลำดับ จนเมื่อสมาธิตั้งมั่นถึงที่สุดแล้ว ปัญญาก็เกิดสว่างขึ้นเต็มที่ จนกระทั่งสามารถขจัดกิเลสจากใจไปได้ แก่นหรือหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ธรรมะทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเราไว้ พระองค์ทรงตอบได้ทันทีเมื่อมีคนไปถาม ไม่มีการขอเวลาเพื่อหาคำตอบ และไม่มีการตอบผิด ที่เป็นอย่างนั้นเพราะผู้ที่ปฏิบัติธรรมเอาใจเข้ากลางจนความสว่างภายในเกิดขึ้นเต็มที่ เขาจะเป็นบุคคลที่ไม่มีปัญหา ต่างจากคนทั่วไปที่มีปัญหาและมักหาคำตอบไม่ได้ เพราะปัญหาหรือคำถามมีมากกว่าคำตอบ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีปัญหา เพราะท่านมีคำตอบมากกว่าคำถาม พระองค์มีคำตอบพร้อมอยู่แล้วก่อนที่จะมีใครมาถาม ธรรมะทุกข้อเกิดมาจากการปฏิบัติธรรมอย่างนี้


มีการฝึกสมาธิมาก่อนสมัยพุทธกาล ทั้งฤๅษีชีไพร ดาบส โยคี ต่างก็ฝึกสมาธิ แม้แต่เจ้าชายสิทธัตถะ ก่อนตรัสรู้ธรรมก็ยังเคยฝึกสมาธิกับอุทกดาบส อาฬารดาบส จนได้ฌานสมาบัติ 7 และ 8 สุดท้ายเห็นว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้น จึงหันมาค้นคว้าด้วยตัวเองจนกระทั่งพบตำแหน่งที่วางของใจ สมาธิของฤๅษีชีไพรกับสมาธิในพระพุทธศาสนาแตกต่างกันที่จุดที่ตั้งของใจ เป้าหมายหวังจะพ้นทุกข์เหมือนกัน แต่หนทางไม่เหมือนกัน คือ เขาเอาใจออกนอกตัว เช่น ฤๅษีบูชาไฟ ก็เอาใจไปจรดอยู่ที่กองไฟ หรือ เพ่งกสิณดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ถือว่าเป็นสมาธิที่ผิดวิธี เพราะเอาใจไปอยู่นอกตัว แม้กระนั้นผู้ที่ทำโดยทิ้งชีวิต ก็ทำให้ได้ฌานสมาบัติ หรือมีฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ นั่นคือ มีความสุขได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่หมดกิเลส เพราะตำแหน่งที่วางของใจผิด เป็นการข่มไว้ ที่เรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ เมื่อถึงคราว กิเลสก็กำเริบกลับขึ้นมาได้ เพราะใจตั้งไว้ผิดที่ สมาธิในพระพุทธศาสนาจะเอาใจมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย หากจะใช้กสิณต่างๆ ก็ได้ แต่เอาดิน น้ำ ลม ไฟมาไว้ที่ศูนย์กลางกายและพิจารณาตรงนี้ เราอาจน้อมเอาดวงแก้ว หรือองค์พระมาไว้ในตัว วิธีการฝึกเช่นนี้ เรียกว่า การฝึกวิธีเข้าถึงธรรมกาย ซึ่งเป็นกสิณอย่างหนึ่ง คือ อาโลกกสิณ แปลว่า กสิณความสว่าง การภาวนา “สัมมา อรหัง” เรียกว่า พุทธานุสสติ คือ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า การฝึกทั้ง 2 อย่างนี้เพื่อให้เข้าถึงธรรมกาย ทางไปของพระอริยเจ้าทุกพระองค์ไปทางสายกลาง ยิ่งเข้ากลางมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

ศาสตราจารย์นายแพทย์ชาวอินเดียคนหนึ่ง ถามพระอาจารย์ว่า ฮินดูต่างกับพุทธอย่างไร คำตอบคือ ต่างกันตรงที่ตั้งของใจ และได้ถามต่อว่า ใจกับสมองเป็นอันเดียวกันหรือเปล่า คำตอบ คือ ไม่ใช่ สมองกับใจเป็นคนละอันกัน คนเราประกอบด้วยกายและใจ สมองเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย จับต้องได้ เป็นเครื่องมือของใจ ส่วนใจก็คือใจ การรับรู้ต่างๆ จะวิ่งไปที่สมอง แล้วสมองผ่านมาถึงใจ เช่น เมื่อเรามองดอกบัว เราเห็นดอกบัวเพราะแสงตกกระทบที่ดอกบัว แล้ววิ่งเข้าตา ผ่านเลนส์ตาไปถึงเรตินา แล้วแปลเป็นสัญญาณไฟฟ้าเข้าเส้นประสาทตา วิ่งไปถึงสมองส่วนท้ายทอย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเห็น เวลาใครถูกตีที่ท้ายทอย จะรู้สึกว่าดาวขึ้น เห็นแสงวูบวาบ ทางการแพทย์ถือว่าเท่านี้การเห็นก็สมบูรณ์แล้ว แต่จริงๆ แล้วจะต้องวิ่งจากสมองส่วนท้ายทอยลงไปที่ใจซึ่งอยู่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เสียก่อน วงจรของการเห็นจึงจะสมบูรณ์ ซึ่งการแพทย์แผนปัจจุบันยังค้นไม่พบ ยังพบเพียงสิ้นสุดที่สมอง วิธีพิสูจน์ว่าวงจรนี้มีอยู่ คือ บางครั้งที่เรามองดอกบัว แต่ใจเหม่อไปคิดถึงเรื่องอื่น แล้วเมื่อเหลียวไปทางอื่น และถูกถามว่า เมื่อกี้มองเห็นอะไร ก็ตอบว่า ไม่รู้ เพราะใจลอย ทั้งที่ลืมตาอยู่ นั่นคือ เมื่อเราใจลอยนึกถึงเรื่องอื่น วงจรจากสมองไปที่ศูนย์กลางกายจึงขาดไป ทำให้มองไม่เห็น หรือบางทีเรานั่งอยู่ท่ามกลางเสียงต่างๆ มากมาย แต่เราตั้งใจฟังพระเทศน์ ก็ไม่ได้ยินเสียงที่คนข้างๆ คุยกัน เพราะวงจรที่ฟังพระเทศน์ยังอยู่ แต่วงจรเสียงอื่นๆ ขาดไป นั่นคือ อยู่ที่ใจว่า จะเลือกต่อวงจรอันไหน ดังนั้น สมองเป็นเครื่องมือของใจ เป็นทางผ่านไปถึงใจ


#2 Peacefulness ™

Peacefulness ™
  • Members
  • 1145 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:On the planet Earth.
  • Interests:Almost everything that helps me to become better and better; especially, the Grestest Dharma of the Lord Buddha

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 12:09 AM

ขออนุโมทนาบุญ และ ขอบคุณกับ ท่าน Extra
สำหรับนำ หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 10
มาให้ได้อ่าน และศึกษากันครับ laugh.gif
laugh.gif ขอติดตามตอนต่อไปด้วยครับ
สาธุ... สาธุ... สาธุ... ครับ
.
ปล.
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 1
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 2
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 3
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 4
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 5
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 6
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 7
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 8
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 9
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 10
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 11
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 12
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 13
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 14
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 15
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 16
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 17
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 18
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 19
หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 20 (ตอนจบจ้า)
.
.
.
.
ข้าพเจ้าใคร่ขออนุญาต ท่าน Extra เพิ่มเติม สำหรับท่านผู้ที่สนใจจะฟัง พระธรรมเทศนานี้ ดังนี้
.
.
.
สามารถ Download ได้ทั้งหมดโดย กดที่ "GET iT ALL" ขนาดประมาณ 57.45 MB
.
.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี

ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดปากน้ำภาษีเจริญ คลิ๊กที่นี้
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
.

Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

For any inquiries please

.

รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า:
คลิ๊กที่นี้
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ ได้รับ ภาพทั้งหมดของ คำสอนคุณยาย ฉบับรวมเล่ม และภาพ (ฉบับสมบรูณ์)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 157 files, 557.61 MB, ธรรมมะเทศนา มงคล 38 โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชีโว)
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
ที่มา: คลิ๊กที่นี้ ปล. สืบเนื้องมาจาก กระทู้นี้ โพสต์โดย ท่าน ฟ้าร้าง
.
เรื่อง การสร้างบารมีของพระโพติสัตว์ เข้าใจได้ไม่ยาก โปรดลอง คลิ๊กที่นี้
.
สนใจอ่าน

The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้

(With some english explanation)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

"Do not confuse having a career with having a life"
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>>
CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
Lastest Revised: 16/12/2006 | 08:43 PM

#3 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 09:48 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#4 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 27 March 2007 - 03:16 PM

ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ