ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ทำไมทะเลจึงเค็ม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 01:49 AM

IPB Image
น้ำเค็ม

.....อากาศร้อนอบอ้าว บนโต๊ะอาหารไม่มีใครพูดคุยกันเรื่องอื่นเลย นอกจากเรื่องอากาศที่แปรปรวนขึ้นเรื่อยๆ
เช้าแดดจัด บ่ายฝนตก ค่ำลมหนาว เพื่อนคนหนึ่งขึ้นหัวข้อสนทนาได้ดีมาก "เราไปเที่ยวทะเลกันเถอะ!"
เพื่อนอีกคนสวนขึ้นทันควัน "อย่าไปเลย ทะเลมันเค็ม "
เท่านั้นแหละ ทั้งโต๊ะหัวเราะครืนทันที "นี่ๆ ยกตัวอย่างได้น่าอัศจรรย์มาก "

.....สรุปวันนั้นไม่มีใครตัดสินใจไปเที่ยวทะเลสักคน เพราะทรัพย์มันจาง หนทางเลยปิด แต่คำพูดของเพื่อน
ยังขำไม่หาย ทะเลมันเค็ม อืมม! จริงสินะ


.....แล้วทำไมทะเลถึงเค็ม ? เคยสงสัยกันบ้างไหม

.....ถ้าถามนักวิทยาศาสตร์จะได้คำตอบว่า ตอนที่เปลือกโลกเย็นตัวใหม่ๆ ยังมีเปลือกโลกบางส่วนปะทุอยู่บ้าง
ส่วนที่ปะทุนั้นจะพ่นก๊าซคลอรีนออกมาด้วย เมื่อก๊าซคลอรีนทำปฏิกิริยากับน้ำ จะกลายเป็นกรดไฮโดรคลอริกปนอยู่ในทะเล
ต่อมาเจ้ากรดตัวนี้ไปจับขั้วกับแร่ธาตุต่างๆริมฝั่ง ทำให้แปรสภาพจากกรด มาเป็น เกลือ ละลายตัวอยู่ในทะเลนั่นเอง

.....หรือจะให้ลึกลงไปอีก ก็าซคลอรีนมีสูตรทางเคมีว่า CL2 พอไปเจอกับน้ำ H2O ทำให้เกิดปฏิกิริยากัน
กลายเป็นกรดโฮโดรคลอริก HCL บวกกับออกซิเยน O2 เมื่อกรดตัวนี้ไปรวมกับหินปูนตามชายฝั่ง
ซึ่งมีธาตุโซเดียม Na เป็นองค์ประกอบสำคัญและมีฤทธิ์เป็นด่าง พอเจอกันเข้าโซเดียมเลยรวมตัวกับสารประกอบคลอไรด์
ในกรดโฮโดรคลอริก กลายเป็นเกลือโซเดียมคลอไรด์ NaCL2 ซึ่งมีรสเค็ม ผสมกับน้ำตามสูตรที่ว่า กรดรวมกับด่าง
จะได้เกลือกับน้ำ ทะเลจึงเค็มด้วยประการฉะนี้

.....อืมม!...ฟังดูมีหลักการน่าเชื่อถือดีมาก


.....แต่ถ้าไปเปิดพระไตรปิฎก เรื่องมิลินทปัญหา พระยามิลินท์ถามพระนาคเสน ซึ่งเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่ง
ในสมัยหลังพุทธปรินิพพานเล็กน้อย ว่า "ทำไมน้ำทะเลจึงมีรสเค็ม "

.....พระนาคเสนตอบว่า " เพราะมันตั้งอยู่นาน" ........จบ !!

.....โอ..ช่างเป็นคำตอบที่ลึกซึ้งกินใจอะไรเช่นนี้ อ่านตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจ แต่คิดไปตรองมา ทำให้เกิดปัญญาว่า
จริงของท่าน ไม่ว่าวิวัฒนาการ หรือหายนาการอะไรก็ตาม ทุกสรรพสิ่งบนโลกย่อมแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อยู่เสมอ ไม่มีตัวตันแท้จริงหรือคงอยู่อย่างเดิมตลอดไป


.....แม้ทะเลจะเค็มเพราะตั้งอยู่นาน แต่ชีวิตคนเราตั้งอยู่ไม่นาน และไม่ใหญ่โตเกินกล่องไม้เล็กๆพอนอนดิ้นได้
บุญและบาปเท่านั้นที่ติดตามตนไป ผู้มีปัญญาจึงรีบขวนขวายสร้างความดี รักษาไว้ให้เป็นสมบัติล้ำค่าในชีวิต
ดังพระพุทธพจน์ตรัสว่า.........

..."บัณฑิตพึงรักษาความดี เสมือนเกลือรักษาความเค็ม"...


อุบลเขียว

#2 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 03:03 AM

กล่าวถึง "ทำไมทะเลจึงเค็ม"

หนูยังเด็ก กิกิ ไม่เด็กเท่าไหร่
แต่ชอบฟังนิทานเป้นม้วนเทป
เลยได้ฟังเรื่อง ทำไมทะเลจึงเค็ม
มาจากนําฝนนั่นเองค่ะ
(ขอโทษทีค่ะที่ไม่ละเอียดเพราะว่าจำไม่ค่อยได้)
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#3 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 07:11 AM

***ทำไมทะเลจึงเค็ม***

ตอบ เพราะมันมีเกลือ จึงเค็ม
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#4 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 12:21 PM

QUOTE
ทำไมทะเลจึงเค็ม

glare.gif คำตอบขึ้นกับผู้ถาม
เมื่อยังเด็ก ผมประทับใจนิทานพื้นบ้านของประเทศญี่ปุ่นเรื่อง"โม่หินพ่นเกลือ" เวลาพาหลานๆวัยอนุบาลไปทะเล ถ้าเขาถามคำถามนี้ ผมจะเล่าเป็นนิทานให้เขาฟัง เด็กๆฟังนิทานแล้วรู้สึกสนุกสนาน มีความสุขดี
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#5 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 01:37 PM

***ทำไมทะเลจึงเค็ม***

ตอบ เพราะว่า ถ้าไม่เค็ม ก็ไม่ใช้ทะเล wacko.gif งง mad.gif สับสน





ลูกพระธรรม

#6 เฉย เฉย

เฉย เฉย
  • Members
  • 618 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:เรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำ สมาธิ

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 06:00 PM

แต่ที่รู้ๆมีไอโอดีนแน่นอน
แม้มืดตื้อ..มืดมิด..ก็มีสิทธิ์เข้าถึงธรรม

#7 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 07:28 PM

อืมเป็นเรื่องที่คิดไม่ออก
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#8 ละอ่อนดอย

ละอ่อนดอย
  • Members
  • 32 โพสต์
  • Interests:I LOVE THAILAND// เมืองไทยช่างสวยงามและน่าอยู่จริงๆ

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 08:14 PM

*** ทำไมน้ำทะเลจึงเค็ม ***

อืม...เรื่องนี่ก็ตอบอยากเหมือนกันเนอะ แต่ผู้ที่คิดคำตอบได้ก็ถือว่าสุดยอดเหมือนกัน...สาธุ สาธุ

#9 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 05:50 AM

เป็นของเสีย (ส่วนน้ำ) ของสรรพสัตว์ ที่มีมานานๆหรือป่าวครับ ...อุอุ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv

#10 m-ss

m-ss
  • Members
  • 108 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:ใกล้บ้าน

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 12:40 PM

ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ

อ้างอิงจากเรื่องหัวข้อภพภูมิ

การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของจักรวาล


๑ . ในอากาศที่ว่างเปล่านั้น เมื่อเวลาล่วงไปนานนับประมาณไม่ได้ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คือมีเม็ดฝนตกลงมา ( เรื่องเช่นนี้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะน้ำเกิดจากการรวมตัวของก๊าซไฮโดรเจนและก๊าซออกซิเจน ในความว่างเปล่าที่มีอยู่ อาจมีก๊าซทั้งสองเป็นจำนวนมาก เวลาผ่านไปนานเข้าทำปฏิกิริยากันเกิดรวมตัวเป็นหยดน้ำพร้อมกันขึ้นมา จึงกลายเป็นฝนตก)

แรกๆ เม็ดฝนมีขนาดเล็กมาก แล้วค่อยโตขึ้นๆ จนสายฝนโตเท่าลำต้นตาล ( ฝนตกทำให้อากาศเย็น ก๊าซทั้งสองชนิดรวมตัวกันได้มากยิ่งขึ้น) น้ำฝนที่เกิดขึ้นไม่รั่วทิ้งหายไปไหน เพราะมีลมแรงพัดรองรับไว้ เป็นเวลานานเข้าลมนั้นก็พัดแทรกน้ำขึ้นมาทำให้น้ำงวดเข้า งวดจากข้างบนลงมาต่ำตามลำดับ ( น้ำฝนคงละลายธาตุต่างๆ ในอากาศรวมไว้)

งวดถึงพรหมโลก พรหมโลกก็บังเกิดขึ้น เป็นการรวมตัวของธาตุละเอียด มองด้วยตามนุษย์ไม่เห็น งวดถึงเทวโลกชั้น ๖ - ๕ - ๔ – ๓ เทวโลกทั้ง ๔ ชั้นก็ตั้งขึ้นเป็นธาตุละเอียดเช่นเดียวกัน

๒ . น้ำฝนงวดต่อเรื่อยลงมาจนถึงระดับที่พื้นดินจะเกิด จึงเกิดลมพัดให้น้ำนิ่งอยู่กับที่ไม่ไหลแห้งต่อไป ต่อจากนั้นน้ำก็จับเป็นตะกอนลอยอยู่เหนือน้ำ มีสีเหลืองเหมือนในบัวลอยอยู่ทั่ว มีกลิ่นหอมมีรสหวาน ตอนนี้เป็นการรวมตัวของธาตุหยาบ สายตาของมนุษย์มองเห็น

ตะกอนแผ่นดินมีเกิดขึ้นก่อนเป็นครั้งแรก เรียกกันว่า ศีรษะแผ่นดิน ( ง้วนดิน) เป็นประธานของโลกมนุษย์ชมพูทวีป ต่อจากนั้นที่นั่นจะมีกอบัวบังเกิดขึ้นเป็นบุพนิมิต ถ้ากอบัวนั้น มีแต่ใบไม่มีดอก หมายความว่า จักรวาลที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ถ้ากอบัวมีดอก จำนวนดอกหมายถึงจำนวนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะอุบัติขึ้น ก่อนที่จักรวาลจะถูกทำลายหายสูญไปอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ดี กอบัวดังกล่าวนี้จะมีดอกไม่เกิน ๕ ดอก ผู้แลเห็นดอกบัวมีแต่มหาพรหมผู้เป็นใหญ่ ถ้ากอบัวไม่มีดอก ท้าวมหาพรหมก็สังเวชสลดใจ ที่เห็นเหล่ามนุษย์ไม่มีที่พึ่ง ถ้าเห็นมีดอกบัวหลายดอก ก็พากันรื่นเริงบันเทิงใจ

๓ . เมื่อมีแผ่นดินเกิดขึ้นแล้ว พรหมในชั้นอาภัสสราชั้นที่ ๔ สิ้นบุญบ้าง สิ้นอายุบ้าง ก็จุติลงมาเป็นตัวโตเต็มที่กิดขึ้นเอง ( โอปปาติกะ) ไม่มีบิดามารดา มีรูปร่างอย่างพรหมไม่มีเพศ ร่างกายมีแสงรุ่งเรือง สัตว์เหล่านี้มีชีวิตอยู่ช้านาน จนกระทั่งมีคนอยู่คนหนึ่งมีกิเลสความโลภะเกิดขึ้น เห็นแผ่นดินมีสีสันงดงาม ( ง้วนดิน) มีกลิ่นหอมน่ากลิ่น จึงหยิบใส่ปากลิ้มรส แค่วางที่ปลายลิ้น รสดินนั้นก็แผ่ซาบซ่านไปทั่วร่างกาย มีรสอร่อยเป็นที่ชอบใจยิ่งนัก อดใจไว้ไม่ได้ก็บริโภคอยู่เรื่อยไป คนอื่นๆ เห็นเข้าต่างก็พากันเอาอย่าง เมื่อบริโภคอาหารหยาบ รัศมีกายซึ่งเคยให้ความสว่างก็อันตรธาน มีแต่ความมืดปกคลุมไปทั่ว เหล่ามนุษย์ทั้งสิ้นตกใจกลัวเป็นกำลัง

๔ . ในเวลานั้นเอง สุริยเทพบุตรพร้อมด้วยที่อยู่คือดวงอาทิตย์ก็บังเกิดขึ้นให้ความสว่างทันที ถ้าคิดในทางความเป็นไปได้ บุญของมนุษย์ยุคนั้นคงพอมีเหลืออยู่ เมื่อประสบทุกข์จากความมืด ดวงดาวที่ยังร้อนเป็นไฟ คือดวงอาทิตย์จึงบังเอิญโคจรผ่านมา ให้ความสว่างแทนรัศมีกาย

ดวงอาทิตย์ไม่ได้ส่องสว่างอยู่ตลอดเวลา เมื่อโคจรผ่านไปแล้ว ดวงจันทร์จึงเกิดขึ้น ครั้นแล้วจึงปรากฏมีดวงดาวต่างๆ มีเวลา มีกลางวัน กลางคืน มีฤดูกาล มีเขาพระสุเมรุ เขาจักรวาล เขาหิมพานต์ ท้องมหาสมุทร ดวงดาวต่างๆ และตัวเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดาชั้นที่ ๑ จาตุมหาราชิกา ส่วนหน้าตัดของเขาเป็นที่อยู่ของเทวาดชั้นที่ ๒ ดาวดึงส์

เรื่องการเกิดของดวงดาวต่างๆ ภูเขาและทะเล อะไรต่างๆ เหล่านี้เป็นของที่เกิดขึ้นเอง เพราะเมื่อน้ำงวดแห้งเข้า ธาตุน้ำหมดลง ธาตุดินก็แข็งขึ้น ธาตุดินตรงที่ใดสูงขึ้นถูกเรียกว่า ภูเขา ส่วนที่น้ำตรงไหนไม่แห้งก็กลายเป็นท้องทะเล มหาสมุทร น้ำตรงที่ใดหลุดออกไปเป็นก้อนต่างหาก เมื่อเหือดแห้งไปเหลือแต่ธาตุของแข็ง จึงกลายเป็นดวงดาวต่างๆ

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่ใช่เกิดขึ้นในทันที ใช้เวลานานมาก จนไม่มีคำพูดจะนับจึงเรียกกันว่า “ อสงไขยกัป”

๕ . เมื่อเหล่ามนุษย์มีตัณหาในรสครอบงำ ทำให้กินแผ่นดินที่เพิ่งเกิดใหม่อยู่นั้น ร่างกายซึ่งเคยโปร่งใสสวยงามก็เปลี่ยนแปลงไป บางพวกมีผิดพรรณเศร้าหมองมาก พวกที่ผ่องใสกว่าก็ดูหมิ่น ดูแคลน บาปธรรม ๒ ประการ จึงเกิดขึ้นในจิตใจ คือ สักกายทิฏฐิ ( ความยึดมั่นในตัวตน) และมานะ ( ความถือตัว) ร่างกายมีน้ำหนัก เหาะไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อบาปธรรมทั้งสองเกิดขึ้น โลกก็แปรปรวน แผ่นดินที่เป็นอาหารรสหวานอร่อยก็หายสูญไปหมด กลับแห้งกลายเป็นสะเก็ดดิน แต่ยังมีรสอร่อย มีกลิ่นหอม เป็นอาหารของมนุษย์ได้อยู่

ต่อมาจิตใจของมนุษย์ถูกกิเลสครอบงำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สะเก็ดเดินหายไป กลายเป็นเครือดิน

เครือดินหาย กลายเป็นข้าวสาลี

.....อ่านต่อได้ในนี้ การเกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป ของจักรวาล (กำเนิดโลก).....

น้ำทะเลที่เค็มเพราะเป็นเเหล่งรวมของแร่ธาตุต่างๆไว้มาก มานานมากๆๆ




#11 บุญเย็น

บุญเย็น
  • Members
  • 812 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:thailand

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 11:08 PM

*** ทำไมน้ำทะเลจึงเค็ม ***
อันนี้ไม่สงสัย แต่ที่น่าสงสัยกว่านั้น คือ

"หลวงปู่่ทวดเหยียบนำ้ทะเลจืด" ???
สุดยอด ทำได้อย่างไร ????
นำมอ ตี่ จ่าง อ้วง ผู่ สัก

#12 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 07:41 PM

เพราะทะเลขี้เหนียว เอ๊ะ มันยังไงๆหุหุ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#13 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 06:34 PM

QUOTE
เพราะทะเลขี้เหนียว เอ๊ะ มันยังไงๆหุหุ


คิดได้ไงเนี้ยฝน
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี