ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

***บุญ กับ บาป อันไหนส่งผลนานกว่ากันครับ***


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 07:14 AM

ยกตัวอย่างนะครับ เราไปขโมยเงินเขามาอย่างเลือดเย็น 1000 บาท แล้วเราเอาเงิน 1000 บาท ที่ขโมยมา ไปทำบุญด้วยความเลื่อมใส อยากทราบว่า อันไหนส่งผลนานกว่ากันครับ มีคนมากมายที่ทำบุญทำกุศล ปน กับการทำบาป เช่นพวกเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลาย หรือคนที่คิดแบบ อุตตริมี อวิชาบังใจ อยากจะเป็นอย่างท่าน จอมโจรโรบินฮู๊ด ไปปล้นฆ่าเขาแล้วเอาเงินแจกชาวบ้าน มันคุ้มใหมครับ ระหว่าง ตกนรก กับ ขึ้นสวรรค์
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#2 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 09:16 AM

จัดอยู่ในจำพวก..."วัตถุทานไม่บริสุทธิ์" มังค่ะ dont_tell_anyone_smile.gif

เอาเรื่องนี้มาฝากค่ะ

*************************************
การให้ทานพระพุทธเจ้าให้ดูอีกว่าควรให้หรือไม่ควรให้ ถ้าให้ในเขตของคนเลวอานิสงส์ก็น้อย อาจจะไม่มีเลยรู้ว่าคนนี้ควรจะให้เราก็ให้ ถ้าไม่ควรให้เราก็ไม่ให้ ให้แล้วไปกินเหล้าเมายา ไปสร้างอันตรายกับคนอื่น เราไม่ให้ดีกว่า เป็นการต่อเท้าโจร ให้พลังแก่โจร เวลาจะให้ท่านวางกฏไว้ดังนี้

๑. ผู้ให้บริสุทธิ์

๒. ผู้รับบริสุทธิ์

๓. วัตถุทานบริสุทธิ์

ของดีก็ตาม ของเลวก็ตามมีอานิสงส์มาก อานิสงส์คือความดี ความชื่นใจมาก

ถ้าผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ความดีก็ลดน้อยลง

แต่ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ให้บาทหนึ่ง จะได้สักสตางค์หรือเปล่าก็ไม่รู้

รวมความว่าต้องบริสุทธิ์ ๓ อย่าง ถ้าลดไปอย่างใดอย่างหนึ่ง อานิสงส์ก็ลดตัวลงมา ถ้าลดเสียหมดเลยก็ไม่มี

แต่ว่าการให้ทาน พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้อีกประเภทหนึ่งต้องให้ครบ ๓ กาล จึงจะมีอานิสงส์สูง

มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยหนึ่ง เมื่อท่านอนาถบิณฑกเศรษฐีจนลง เพราะเคราะห์กรรมบางอย่างทำลายท่าน เงินที่เขากู้ไปก็ถูกโกง ไอ้คนที่อยู่ภายในบ้านมันก็ขโมยของ ทรัพย์ที่ฝังไว้ชายทะเลชายแม่น้ำ แผ่นดินก็พังทรัพย์จมไปหมด ท่านจนขนาดข้าวเป็นเม็ดแทบไม่มีกิน ต้องกินปลายข้าว แต่ว่าศรัทธาท่านยังไม่ถอย ท่านนิมนต์พระพุทธเจ้าพร้อมไปด้วยพระสงฆ์ไปฉันภัตตาหารที่บ้าน ท่านก็เอาปลายข้าวละเอียด เรียกว่าข้าวปลายเกวียนต้ม แล้วก็เอาน้ำผักดองเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ ทำเป็นกับมาถวายพระพุทธเจ้า ก็ฉันแบบนี้เหมือนกัน เวลาที่พระพุทธเจ้าฉันอยู่ท่านก็นั่งอยู่ใกล้ ๆ กราบทูลพระพุทธเจ้า

"เวลานี้ทานของข้าพระพุทธเจ้าเศร้าหมอง พระพุทธเจ้าข้า"

พระพุทธเจ้า ถามว่า"เธอมีเจตนายังไง ก่อนจะให้เธอมีความรู้สึกยังไง..?"

ท่านจึงบอกว่า"ก่อนจะให้เต็มใจพร้อมเสมอ เตรียมใจไว้ก่อนแล้ว"

พระพุทธเจ้าก็ถามว่า"ในขณะที่ให้เธอก็มีความรู้สึกยังไง...?"

ท่านก็บอกว่า"ในขณะที่ให้ก็ปลื้มใจ พระพุทธเจ้า ข้า"

พระพุทธเจ้า ก็ถามว่า"เมื่อให้แล้ว เป็นยังไง..?"

ท่านก็บอกว่า"ให้แล้วเกิดความเลื่อมใส ดีใจว่าให้แล้ว"

พระพุทธเจ้า จึงได้ตรัสว่า"ดูก่อนมหาเศรษฐี ลูขังวา ปะณีตัง วา"

ลูขัง แปลว่าเลว, ปะณีตัง แปลว่าดี หรือประณีต

ท่านตรัสว่า ถ้าคนให้ทานมีเจตนาพร้อมเพรียงทั้ง ๓ กาล คือ

๑. ก่อนจะให้ก็ตั้งใจว่าจะให้

๒. ขณะที่ให้ก็ดีใจ

๓. เมื่อให้แล้ว ก็เกิดความเลื่อมใส

อย่างนี้ ของดีก็ตามของเลวก็ตาม ย่อมมีอานิสงส์เลิศมีอานิสงส์สูง

แต่ที่ท่านอนาถบิณฑกเศรษฐีท่านทำนั้น ท่านถวายพระพุทธเจ้า และพระที่ฉันก็เป็นพระอรหันต์ทั้งหมด นับเป็นยอดของทาน

ถ้าหากว่าเราไม่รู้จะเลือกยังไง องค์นี้จะเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์หรือเปล่า หรือเป็นพระโปเก พระเชียงกง ถ้าเราไม่รู้ก็ถวายเป็นสังฆทาน เลย เพราะสังฆทานมีอานิสงส์สูงมาก รองจากวิหารทาน

พระพุทธเจ้า ท่านว่าไว้ตอนหนึ่งบอกว่า สมัยพระพุทธกัสสปท่านเทศน์อย่างนี้ คือ

"บุคคลใดทำบุญด้วยตนเอง ไม่ชักชวนคนอื่น ถ้าเกิดในชาติต่อไปจะร่ำรวยโภคสมบัติ แต่ขาดเพื่อนขาดบริวารสมบัติ"
"ถ้าดีแต่ชักขวนเขา ไม่ทำเอง ชาติต่อไป มีเพื่อนมาก แต่ตัวเองจน"
"ถ้าทำบุญด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นด้วย รวยด้วย มีพรรคพวกมากด้วย"

นี่ท่านเทศน์แบบนี้นะ ถ้าเราทำคนเดียวได้ก็ทำ ทีนี้ถ้าเราชวนเขาด้วย แต่ว่าการชวนนี้ก็ลำบากนะ ถ้าชวนเขาทำบุญด้วยก็อย่าหวังว่าเขาจะให้เรานะ คิดว่าเขาให้หรือไม่ให้ก็เป็นเรื่องเขา คือแนะนำเขาว่า เวลานี้เราทำโน่นทำนี่ จะทำบุญร่วมด้วยไหม.....ถ้าบังเอิญเขาไม่ทำร่วมด้วยก็อย่าไปโกรธ เราถือว่าเราชวนเขาทำความดี ถ้าเราโกรธเขาเข้า บุญเราจะด้อยลงไปเพราะตัวโกรธเข้ามาตัด

#3 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 11:34 AM

เรื่องการส่งผลของบุญ กับ บาป

ถ้าตามตัวอย่างที่ถามมา มีความเห็นว่า

บาปคงส่งผลแรงยาวไกลมากกว่า เนื่องจากเจตนาทำความชั่วแรง คือไปเบียดเบียนเงินคนอื่นมาอย่างเลือดเย็นด้วย

ส่วนบุญ คือเอาเงินไปทำบุญ ถึงแม้ด้วยจิตศรัทธา แต่วัตถุทานไม่บริสุทธิเลย ทำ 1,000 อาจจะได้ไม่ถึงสลึงเดียวด้วยซ้ำไป

#4 saowanee15

saowanee15
  • Members
  • 207 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 12:28 PM

เงินที่ขโมยมาก็รู้ว่าขโมยมาตามเจ้าของกระทู้บอก ไม่พูดในกรณีอื่น ๆ นะคะ
หากเป็นคนมีใจอยู่ในศีลในธรรมพอสมควร มันจะเลื่อมใสไปได้ยังไงค่ะ เพราะเจ้าตัวก็รู้ว่า ได้มาบริสุทธิ์?
หากหลอกตัวเอง ก็จะโดนกรรมมุสาเข้าไปอีกข้อ
ก็คงเหมือน คุณ panu บอกนั่นแหละคะ

#5 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 01:16 PM

เป็นบุญปนบาปครับมีตัวอย่างหลายๆๆเคสครับที่ส่งไป
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#6 Defilement Destroyer

Defilement Destroyer
  • Members
  • 274 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 03:11 PM

ขโมยด้วยใจที่หมองๆ เอาไปทำก็ทำด้วยใจหมองๆ นะครับ ไม่คุ้มเลย ทำบุญต้องใจใสครับ happy.gif
ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 03 November 2006 - 05:59 PM

เคยมีเคสเช่นนี้ครับ ไปต่างประเทศ(เบลเยี่ยม) กระเป๋าเดินทางหาย เคว้งคว้างมาก ไม่รู้จะทำฉันใด (ถึงขั้นตายได้ทีเดียว) เพราะภาษาก็พูดไม่เป็นด้วย แต่สักพักก็มีหนุ่มชาวเบลเยี่ยมมาช่วยเหลือ

ฝันในฝัน ภพในอดีต ขโมยผลไม้เจ้าของสวน แต่พอดีเดินไปเจอพระภิกษุ จึงน้อมผลไม้นั้นไปทำบุญ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 November 2006 - 09:40 AM

เคยมีคำถามของพระยามิลินทร์ที่ถามเรื่องนี้กับพระนาคเสนว่า บุญกับบาป สิ่งไหนมีผลมากกว่ากัน พระยามิลินทร์คิดว่าบาปมีผลมากกว่า เพราะว่านรกขุมที่ 1 สัตว์นรกมีอายุอยู่หลายล้านปี เทียบกับเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาแล้ว มีอายุน้อยอย่างเทียบกันไม่ได้

พระนาคเสนตอบว่าบุญมีผลมากกว่า เพราะว่าสัตว์นรกที่มีอายุยืนที่สุด ก็แค่ 1 มหากัป (จำไม่ได้แล้วครับ อันนี้ต้องไปค้นดู) แต่ผลของฝ่ายบุญนั้น มีอรูปพรหมที่มีอายุ 10000, 20000, 40000 และ 84000 มหากัป เป็นต้น

แต่ตัวอย่างที่เจ้าของกระทู้ยกมา คงเปรียบเทียบอย่างง่าย ๆ ไม่ได้ครับ เพราะการกระทำแต่ละอย่างก็มีผลมากน้อยไม่เท่ากัน อย่างเช่นการขโมยทรัพย์ของผู้อื่นไปแจกจ่ายชาวบ้าน อย่างนี้ผลบาปคงมากกว่าผลบุญ เพราะการแจกจ่ายทรัพย์ชาวบ้านที่ไม่ใช่เนื้อนาบุญ อีกทั้งทรัพย์นั้นยังไม่ใช่ทรัพย์บริสุทธิ์ ผลบุญคงแทบไม่ได้ครับ แถมพ่วงด้วยมิจฉาทิฏฐิอีกต่างหาก

#9 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 04 November 2006 - 07:37 PM

which one that going to ส่งผลนานกว่ากัน is depend on many factors but one of it is your mind kah..... it might be like that case that :: some one won a lottery and went into chock and died!!
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง