ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ระหว่างสร้างองค์พระประจำตัวกับร่วมบุญสร้างวัด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 โลกสีชมพู

โลกสีชมพู
  • Members
  • 12 โพสต์
  • Interests:ชอบฟังธรรมะอะค่ะ

โพสต์เมื่อ 11 November 2006 - 08:57 PM

- ทำไมการสร้างองค์พระประจำตัวถึงมีบุญมากมายมหาศาลคะ
- ระหว่างสร้างองค์พระประจำตัวกับร่วมบุญสร้างวัด แบบไหนจะได้บุญมากกว่ากันคะ (กรณีต้องให้เลือกอะค่ะ)
- ถ้ามีเงินอยู่สองกอง คือค่าขนมจากคุณแม่กับเงินทุนที่เราหามาได้ด้วยตัวเอง ควรใช้เงินส่วนไหนไปทำบุญถึงได้บุญมากกว่ากันคะ
- ทำไมการถือศีลแปดถึงไม่ให้ทานข้าวเย็นคะ แล้วถ้าเราเกิดหิวข้าวขึ้นมาปวดท้องไม่เป็นการทำร้ายตัวเองหรอคะ (กรญีคนที่ทานปานะแล้วยังไม่อิ่ม..อิอิ)แล้วอย่างนี้เราจะได้บุญหรอคะ
- ทำไมกานนั่งสมาธิถึงมีความสุขได้อะคะ
- การที่หนูนอนดึก เที่ยงคืนตีหนึ่ง ควนทำวัดเย็นหรือวัดเช้าดีอะคะ
- สุดท้ายแล้วค่ะ ทำไมเวลาคนอื่นได้ยินว่า เราเข้าวัดพระธรรมกายแล้ว เค้าต้องไม่เข้าใจด้วยอะคะ บางทีทำให้เราไม่ค่อยกล้าบอกเท่าไรเลยค่ะ พี่ๆมีกำลังใจยังไงหรอคะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบดีดีที่มีให้นะคะ

ไฟล์แนบ



#2 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 11 November 2006 - 09:49 PM

ผมเลือกสร้างพระก่อนครับ

#3 Bugs

Bugs
  • Members
  • 56 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 08:44 AM

อยากรู้เหมือนกาน

#4 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 10:34 AM

ถามเยอะดีจัง ผมขอให้ความเห็นดังนี้แล้วกันนะครับ
1. ผมว่าการสร้างวัดหรือองค์พระนั้นได้บุญพอๆกัน แต่อานิสงค์และคุณค่าทางจิตใจนั้นต่างกัน วัดเราสร้างเพื่อให้เป็นที่พักอาศัยและเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระภิกษุและสามเณร รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วไป องค์พระเราสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบุชาเป็นตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนกราบไหว์ระลึกถึงคุณของพระองค์ดังนั้น ผมจึงคิดว่าได้บุญพอๆกันครับ แต่ถ้าจะให้ได้บุญมากมายมหาศาลแล้วล่ะก็ ทำทั้ง2อย่างเลยครับ มากมายสุดๆ หุหุ

2. เงินที่ได้มาจากค่าขนมของพ่อแม่กับเราหามาได้เองนั้น หากเอาไปทำบุญ ได้บุญไม่แตกต่างกันครับ แต่คุณค่าที่ได้ทางจิตใจหรือความปลื้มปิตินั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เงินที่เราหามาได้เองนั้นจะให้คุณค่าทางจิตใจและความปลื้มปิติมากกว่าเงินที่เราขอเขามาได้ เพราะได้มาจากนําพักนําแรงกำลังกายความคิดสติปัญญาของเราเอง เหมือนกับเราติดบุญที่ทำด้วยกาวต่างชนิด เงินที่ได้มาอย่างง่ายๆก็เหมือนเราใช้กาวลาเท๊กซ์ เราทำบุญไม่นานเราก็คงลืม บางทีเราอาจนึกไม่ออกว่าเราทำบุญอะไรไป แต่เงินที่เราหามาได้เองนั้นเหมือนกับเราเอากาวตราช้างมาติด ความภูมิใจความปลื้มปิติจะช่วยตอกยําใจเราได้อย่างดีครับ

3. ก๋อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจ ศีล8นั้น หลักสำคัญจริงๆคือ5ข้อแรกซึ่งเหมือนกับศีล5 ส่วน3ข้อที่เหลือคือ1. ไม่ทานอาหารหลังเที่ยง 2. ไม่ชมการแสดงหรือการละเล่น 3. ไม่นอนฟูกหรือที่นอนหนาๆ นั้นจะสนับสนุนได้ข้อที่3เท่านั้น เป็นเพียงข้อที่เสริมขึ้นมาเพื่อตัดเสบียงกามเท่านั้นครับ ตัดยังไงเรามาดูกัน การที่เรารับประทานอาหารนั้น เราทานเพียงเพื่อให้ร่างกายได้มีเรี่ยวมีแรงกำลังในการทำกิจวัตรประจำวันใช่ไหมครับ แน่นอนหลายท่านรัปประทานอาหารโดยปราศจากการยั้งคิด เมื่อทานอิ่มมากก็ทำให้อาหารเปลี่ยนแปลงกายเป็นกำลังสะสมในร่างกายเรามาก หากเราไม่ทำงานหนัก กำลังที่ใช้ไปน้อย มีสะสมอยู่ในตัวเยอะ แล้วสุดท้าย จะไปจบที่ไหนล่ะครับ ก็คงหนีไม่พ้นผิดศีลข้อ3จริงไหมครับ แล้วทำไมถึงห้ามทานเฉพาะช่วงเย็นล่ะ ก็เพราะ ในชีวิตประจำวันของเรานั้น เราต้องทำงาน ใช้เรี่ยวแรง ใช้หัวคิด ดังนั้น มื้อที่สำคัญที่สุดจึงเป็นช่วงเช้าจริงไหมครับ ส่วนมื้อกลางวันเราทานเพียงแค่พอประทังชีพชดเชยมื้อเช้าที่เราใช้ไปเท่านั้น ส่วนมื้อเย็นนั้นเป็นมื้อส่วนเกิน ส่วนมากเมื่อทานเสร็จแล้วเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ดูทีวีก็นอน ดังนั้นมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่ไม่จำเป็น ขอแนะนำนะครับ ท่านใดที่อยากลดความอ้วน ลองไม่รับประทานมื้อเย็นดูสิครับ แค่สัปดาห์เดียวเห็นผล ขอบอกๆ แล้วท่านใดที่ออกกำลังกายก็แล้ว ลดอาหารก็แล้ว แต่ก็ยังอ้วนอยู่ ลองสังเกตุดูเถิดครับ ส่วนมาจะไปอดอาหารผิดเวลากัน แต่จะไปตะบี้ตะบันทานที่มื้อเย็น หากอดให้ถูกมื้อจะลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีเลยครับ

4. เวลานั่งสมาธิ เราไม่ต้องทำอะไรใช่ไหมครับ นั่งหลับตาอย่างเดียว ไม่ต้องไปวุ่นวายวิ่งเต้นให้เหนื่อยกายเหนื่อยใจ หรือไม่ต้องไปเครียดกับซีเรียสกับงาน นี่เป็นความสบายขั้นพื้นฐานคือสบายกายครับ เมื่อสบายกาย ใจเราก็จะได้รับความผ่อนคลายไปด้วย หากใจนิ่งได้ถูกส่วน ความสบายใจนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเพิ่มยังไงนั้นไม่ขอบอก แต่อยากให้ไปลองดูเอาเองครับ หุหุ

5. ต้องขอทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า การสวดมนต์นั้นเป็นการสวดเพื่อระลึกและสรรเสริญคุณของพระรัตนตรับ ซึ่งเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ดังนั้นสวดมนตืทำวัตรเช้าเย็นนั้น ไม่มีเวลาจำกัดที่แน่นอนครับ แต่หากเราลืมสวดทำวัตรเย็น ไปนึกได้ตอนตี1 หากเรามีใจรักในพระรัตนตรัยแล้วล่ะก็ เราจะสวดทำวัตรเย็นตอนตี1ก็ได้ไม่ผิดครับ ยิ่งสวดก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเราเคารพในพระรัตนตรัยมากแค่ไหน

6. การที่คนอื่นไม่เข้าใจเราก็นั้นก็เป็นเพราะเขายังไม่เคยได้มาสัมผัสเองไงครับ และได้แต่ฟังข่าวในแง่อื่นจึงทำให้บางคนเข้าใจผิดและเป็นอคติกับทางวัด ยกตัวอย่างนะครับ อย่างข่าวในทีวี สมมุติคุณเจ้าของกระทู้ได้ยินแต่เสียงแต่ไม่เห็นภาพ ตะวันออกกลางเปิดฉากระดมยิง ทำให้สงครามกลางเมืองประทุขึ้นอีกครั้ง คุณเจ้าของกระทู้จะคิดยังไง ผมมั่นใจว่าคุณเจ้าของกระทู้คงนึกภาพถึงทหารหลายร้อยคนระดมยิงปืนใส่กันเป็นห่าฝนใช่ไหมครับ ทั้งที่ อาจจะเป็นทหารแค่10-20คน ยิงกันแค่นัด2นัด และแน่นอนคุณเจ้าของกระทู้คงต้องคิด ทำไมต้องมาทำสงครามกันด้วยให้คนตายเป็นร้อยๆ ทั้งที่อาจจะยังไม่มีใครตาย แค่ยิงปืนใส่กันเท่านั้นจริงไหมครับ แล้วเพราะอะไรทำไมถึงคิดเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะคุณเจ้าของกระทู้ไม่ได้ไปเห็นด้วยตาจึงจิตนาการไว้ก่อนว่ามันต้องเป็นถึงขนาดนั้นขนาดนี้จริงไหมครับ ฉันใดฉันนั้น ผู้ที่ไม่ได้มาสัมผัสวัดเราจริงๆก็คงมีความคิดเช่นเดียวกัน คือทำไมเราต้องมาที่วัดนี้วัดเดียวด้วย แล้วยิ่งได้ข่าวที่มาจากสื่อที่เอาไปใส่ไข่จนเกินจริงก็ยิ่งทำให้พวกเขามีความคิดเป็นเช่นนั้นไปจริงไหมครับ

1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#5 น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14

    เราคือ นักรบกล้าอาสาสมัคร กองทัพธรรม

  • Members
  • 1961 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ช่วยงานบุญที่วัด ให้ถึงที่สุดกำลัง ตราบวันที่ชีวิตจะสิ้นลมหายใจ

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 10:52 AM

QUOTE
ทำไมการถือศีลแปดถึงไม่ให้ทานข้าวเย็นคะ แล้วถ้าเราเกิดหิวข้าวขึ้นมาปวดท้องไม่เป็นการทำร้ายตัวเองหรอคะ (กรญีคนที่ทานปานะแล้วยังไม่อิ่ม..อิอิ)แล้วอย่างนี้เราจะได้บุญหรอคะ

เราไม่ได้กินเพื่ออิ่มนิค่ะ เพื่อประทังความหิว
QUOTE
ถ้ามีเงินอยู่สองกอง คือค่าขนมจากคุณแม่กับเงินทุนที่เราหามาได้ด้วยตัวเอง ควรใช้เงินส่วนไหนไปทำบุญถึงได้บุญมากกว่ากันคะ

เท่ากันค่ะแต่ถ้าให้เลือกก็ของพ่อแม่ค่ะ ถึงจะหามาได้ด้วยตนเองก็ไม่มีทางจะเทียบเทียมได้
QUOTE
ทำไมกานนั่งสมาธิถึงมีความสุขได้อะคะ

ลองนั่งดูสิค่ะแล้วจะรุ้ค่ะ
"ด้วยใจกล้าอาสา พัฒนาไม่หยุดยั้ง"

น้ำฝนลูกพระธัมฯ

#6 Pungpa

Pungpa
  • Members
  • 458 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ผ่านการอบรมมัชฌิมธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ 13 /2549 แล้วค่ะ<br /><br />รับบุญ : ฝึกงานอยู่ที่ ศูนย์ประสานงานโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 01:02 PM

--ทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ

--สร้างพระกับสร้างวัด ถ้าใจปลื้ม ก็ได้บุญเต็มที่ค่ะ

--เงินพ่อแม่ กับเงินตนเอง ถ้านำมาทำบุญ ใจปลื้มมากก็ได้บุญมาก

--อย่างที่น้อง SoperNora บอกนะคะ ว่า กินปานะไม่ใช่เพื่ออิ่ม แต่เพื่อประทังความหิว ถือศีล8 ถ้าใจจะถือจริงๆ เราก็ถือศีล8ได้อย่างไม่หิวค่ะ

--นั่งสมาธิมีความสุข เพราะว่าใจวางถูกที่ค่ะ เลยมีความสุข

--นอนกี่โมงแล้วแต่ ถ้าใจอยู่กับพระรัตนตรัย อยากจะสวดมนต์ตอนไหนก็ได้ค่ะ

--จะเข้าวัดพระธรรมกาย เพราะใจเราศรัทธา เมื่อคนอื่นไม่ศรัทธา ไม่เข้าใจ เราทำให้เขาศรัทธา และเข้าใจดีกว่าไหมค่ะ
หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด

#7 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 09:42 PM

QUOTE
ทำไมการสร้างองค์พระประจำตัวถึงมีบุญมากมายมหาศาลคะ

เพราะพระประจำตัวที่สร้างขึ้นเป็นสิ่งที่ทำให้รำลึกถึง"พุทธรัตนะ"ซึ่งเป็นที่พึ่งอันสูงสุด จึงมีอานิสงค์นับอสงไขยอปมานัง
QUOTE
ระหว่างสร้างองค์พระประจำตัวกับร่วมบุญสร้างวัด แบบไหนจะได้บุญมากกว่ากันคะ (กรณีต้องให้เลือกอะค่ะ)

เทียบกันลำบากนะ แนะให้ทำทุกบุญ เพียงแต่โอกาสการสร้างพระประจำตัวนั้นหาได้ยากยิ่ง
QUOTE
ถ้ามีเงินอยู่สองกอง คือค่าขนมจากคุณแม่กับเงินทุนที่เราหามาได้ด้วยตัวเอง ควรใช้เงินส่วนไหนไปทำบุญถึงได้บุญมากกว่ากันคะ

อย่าเพิ่งให้ความสำคัญกับ"มากกว่าหรือน้อยกว่า" เอาเป็นว่าถ้าจะทำบุญแล้ว และยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะแนะนำให้ขอความเห็นคุณแม่ไว้เป็นดี
QUOTE
ทำไมการถือศีลแปดถึงไม่ให้ทานข้าวเย็นคะ แล้วถ้าเราเกิดหิวข้าวขึ้นมาปวดท้องไม่เป็นการทำร้ายตัวเองหรอคะ (กรญีคนที่ทานปานะแล้วยังไม่อิ่ม..อิอิ)แล้วอย่างนี้เราจะได้บุญหรอคะ

ศีลมัย ถือเป็นบุญกิริยาวัตถุ วิกาละโภชนาในศีลแปดหมายถึงเมื่อเลยเพลแล้วให้งดการขบฉัน แต่ในประเทศพม่าวิกาละโภชนาหมายถึงหลังอาทิตย์ตกดิน เวลาเจริญภาวนาใจตรึกนึกถึงบุญ ก็จะรู้สึกอิ่มบุญนะ ลืมหิวไปเลย ไร้กังวล ถ้าปวดท้องก็ดื่มน้ำเจือจางไปก่อนแล้วจรดในบุญ
QUOTE
ทำไมกานนั่งสมาธิถึงมีความสุขได้อะคะ

นัตถิ สันติ ปะรัง สุขขัง "สุขอื่นเหนือใจหยุดใจนิ่งนั้น ไม่มี"
QUOTE
การที่หนูนอนดึก เที่ยงคืนตีหนึ่ง ควนทำวัดเย็นหรือวัดเช้าดีอะคะ

ทำวัตรเย็น(ทำวัตรเช้าแล้วไม่นอนนะ)
QUOTE
ทำไมเวลาคนอื่นได้ยินว่า เราเข้าวัดพระธรรมกายแล้ว เค้าต้องไม่เข้าใจด้วยอะคะ บางทีทำให้เราไม่ค่อยกล้าบอกเท่าไรเลยค่ะ พี่ๆมีกำลังใจยังไงหรอคะ

เพราะคนอื่น(บางคน)ยังไม่ทราบ ไม่สนใจ ไม่เข้าใจ ไม่พยายามจะเข้าใจ ปิดโอกาส หรืออาจปฏิเสธในการทำความเข้าใจ
เราต้องตั้งมโนปณิธานไว้ว่าจะเป็นกัลยาณมิตรเกื้อกูลเขา เริ่มจากการฝึกตนเอง พิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเราเข้าวัดแล้ว มีการพัฒนาไปในทางที่ดี แล้วเขาจะเปิดโอกาสทำความเข้าใจ
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#8 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 10:36 PM

คำถามคล้าย ๆ พ่อกับแม่เราควรตอบแทนพระคุณท่านใดดี

เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ เพราะการเปรียบเทียบทำให้เรามุมมองแคบ พอมุมมองแคบแล้ว ใจเราก็จะแคบ และคิดอะไรแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ คิดใหญ่ ๆ ไม่เป็น

หากเราคิดว่าเรามีเงินแค่นี้ เราสามารถตอบแทนพระคุณได้แค่คนเดียว เราก็จะไม่ขวนขวายหรือพยายามทำให้ยิ่งกว่านั้น

แต่หากเราคิดจะตอบแทนพระคุณให้ได้ทั้งหมด แม้ตอนนี้เราจะมีแค่นี้ แต่เราย่อมมีกำลังใจที่จะขวนขวายให้มากกว่านี้ ทรัพย์เป็นสิ่งไม่คงที่ ทรัพย์ที่เราเสียไป ใช่ว่าจะไม่มีวันมาเพิ่ม

ไม่ว่าจะบุญไหน ให้ตัดสินใจทำไปก่อน หากเกิดศรัทธามากขึ้น ก็ให้ทำทุกบุญอย่างตลอดต่อเนื่อง แค่นี้เราก็ไม่ต้องมานั่งถามว่า บุญไหนสำคัญกว่า

หากเราทำบุญบ่อย ๆ แล้ว เราจะเข้าใจเองว่าการทำบุญนั้นดีอย่างไร พระพุทธองค์ตรัสว่า บุญ เป็นชื่อของความสุข ตรงนี้จริงซะยิ่งกว่าจริง

คนทั่วไปนำทรัพย์ไปใช้จ่ายแลกสิ่งที่คิดว่าจะนำความสุขมาให้กับตัวเองได้ แต่ทุกคนก็ต้องประสบกับความสุขแค่ชั่วคราวที่มีทุกข์ใหญ่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเสมอ

แต่ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การยึดถือในสิ่งเหล่านั้น หากแต่เป็นการสละความยึดถือสิ่งเหล่านั้นออกจากใจ เหมือนคนที่เที่ยวแบกหีบทองใบใหญ่ เดินไปมาหวังความสุข แต่แล้วก็ต้องบ่นว่า หนัก ๆ ๆ ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ยอมวางหีบทองใบนั้น

ผู้ที่หมั่นสละทรัพย์เพื่อทำบุญบ่อย ๆ ก็จะไม่มีความอาลัยในทรัพย์เหล่านั้น เพราะบริจาคมาจนเคย เมื่อถึงคราวที่ต้องพลัดพรากจากสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของโลก ก็จะไม่พร่ำเพ้อพิไรรำพัน จึงเป็นผู้มีความสุขอย่างแท้จริงเพราะไม่มีความยึดถือซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์มารังควาน

#9 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 12 November 2006 - 10:43 PM

- การสร้างพระประจำตัว กับบุญสร้างวัด ก็ควรทำทั้งสองบุญ หากปัจจัยยังมีไม่มาก จะทะยอยทำบุญก็ได้ แต่เป้าหมายควรทำจนครบ (จะได้เต็มองค์) และหมั่นนึกถึงบุญบ่อยๆ ด้วยใจที่แช่มชื่น ผ่องใส
- เงินค่าขนม กับเงินที่เราหามาได้เอง ล้วนเป็นเงินที่ได้มาอย่างบริสุทธิ์ สามารถนำมาทำบุญได้ทั้งสองส่วน แต่ถ้าจะนึกแล้วปลื้มใจมากกว่าก็คงเป็นส่วนที่เราหามาเอง จะปิติใจมากกว่า เพราะเป็นเงินที่เราพากเพียรหามาได้ด้วยตนเอง มักจะเกิดความภาคภูมิใจได้มากกว่า
- การถือศีลแปด หากค่อยๆ เตรียมตัวก่อนวันที่ถือศีลแปด โดยการค่อยๆ ฝึกลดปริมาณอาหารเย็น ก่อนการถือศีล8 สัก 1 สัปดาห์ ร่างกายจะค่อยปรับตัวจนเกิดความเคยชิน และคุ้นกับการไม่กินข้าวเย็นไปเอง
- การถือศีล 8 ให้บ่อยๆ หรือรักษาศีล8ได้ตลอดต่อเนื่อง ก็จะทำให้ไม่หิวตอนเย็น หากมีความหิวหลงเหลือ ก็ดื่มน้ำปานะ หรือเครื่องดื่มที่ได้รับอนุญาตกับศีล8 ได้แก่น้ำผลไม้ที่กำหนดไว้ เป็นต้น
- การนั่งสมาธิ เมื่อใจหยุดสนิท ก็จะเข้าถึงความสุขภายใน เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง จึงจะเข้าใจถ่องแท้
- การนอนค่ำหรือดึก ก็เป็นการทำวัตรเย็นก่อนนอน เมื่อตื่นตอนเช้า จึงเป็นการทำวัตรเช้า
- การที่มีคนไม่เข้าใจเรื่องที่มาวัด ก็เป็นไปได้ เพราะความเข้าใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน เรื่องๆเดียวกัน บางคนใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจก็มี การที่เราจะบอก ก็เริ่มด้วยตั้งใจของเราไว้ในความเมตตาต่อผู้อื่น ไม่โกรธเคืองเขา ไม่คิดว่าเขาคนละพวกกันกับเราไปก่อน
และการที่เราวางตัวดี คิดพูดทำแต่ความดี ก็จะเป็นตัวเบิกทางให้ใครๆ สามารถเข้าใจธรรมะหรือบุญที่เรานำเสนอได้ดีขึ้น
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#10 5514

5514
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2006 - 08:23 AM

ทำบุญทุก ๆ บุญด้วยใจที่ใส ใส แล้วบุญนี้จะเป็นเสบียงติดตัวเราไปทุกภพทุกชาติจ้ะ

#11 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2006 - 09:58 AM

ถ้าให้เลือกก็เลือกสร้างองค์พระประจำตัว ก่อนครับสำหรับผม เพิ่อเป็นบุญต่อบุญให้มีอายุนานๆ ที่สุด เพื่อสร้างบารมีได้ นานๆ ครับ สาธุ

ลูกพระธรรม