น้องน้ำผึ้งเล่าถึงประวัติความเป็นมาของการประกวดครั้งนี้ว่า เริ่มแรกก่อนที่จะเข้ามาประกวดทางมหาวิทยาลัยได้จัดงาน Freshy day 2006 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สานสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง
ต่อจากนั้นได้มีการจัดกิจกรรมทูตน้องใหม่ไร้แอลกอฮอล์ของ สสส. ในโครงการ “รักน้อง อย่าชวนน้องดื่ม” เพราะที่ผ่านมามักจะมีเรื่องของเหล้าหรือของมึนเมาเข้ามาเกี่ยวข้องในกิจกรรมต่างๆของแต่ละคณะทุกครั้ง ทางมหาวิทยาลัยจึงตัดสินใจจัดโครงการนี้ขึ้น
“พอได้ยิน ก็รู้สึกว่ามันแปลกดีและน่าสนใจ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน เพราะเห็นว่าอยู่ในมหาวิทยาลัยแล้ว เป็นอิสระ จะทำอะไรก็ได้ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็ได้ จึงคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี จึงตัดสินใจเข้าร่วม”
คุณสมบัติของการประกวดครั้งนี้ไม่มีกฎกติกาอะไรมากมาย แค่เป็นเพียงตัวแทนของคณะ และมีใจที่จะทำงานเพื่อส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งโครงการต่อต้านเหล้าและยาเสพย์ติด และด้วยความสดใส น่ารักในแบบฉบับของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 อย่าง “น้องน้ำผึ้ง” สามารถเอาใจคณะกรรมการด้วยคำถามที่ว่า
“คุณจะทำอย่างไร ถ้ามีคนสูบบุหรี่”
“หนูก็ตอบเขาไปว่า “คุณทำแบบนี้ คุณไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขา แต่คุณฆ่าเขาทางอ้อม คุณเป็นฆาตกรไปแล้ว โดยที่คุณไม่รู้ตัว เขาไม่ได้ทำอะไรคุณ แต่คุณไปทำร้ายเขา คุณทำลายเขาไม่พอ คุณทำลายสิ่งแวดล้อมข้างๆด้วย" ก็หวังว่า ถ้าพูดแบบนี้ เขาคงมีจิตสำนึก เพราะว่าคนเราไม่ชอบการบังคับหรือใช้คำสั่ง ของแค่พูดดีๆไป เขาก็จะรับฟัง”
นอกจากนี้ไม่เพียงแต่รับตำแหน่งทูตไร้แอลกอฮอล์เท่านั้น น้องน้ำผึ้งยังต้องทำกิจกรรมควบคู่ไปกับสสส.ในโครงการต่างๆ เสมือนเป็นตัวแทนนักศึกษาในการต่อต้านเหล้า บุหรี่ ยาเสพย์ติด ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และปัจจุบันเป็นหัวหน้าหลักในการร่วมโครงการต่อต้านเหล้า บุหรี่ เมื่อไม่นานมานี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่วัดพระธรรมกาย มีทั้งการอบรมและเข้าชมผู้เข้ารับการบำบัดเหล้า สุราและยาเสพย์ติด
“อยากจะฝากบอกว่าเหล้าเป็นสิ่งไม่ดีและไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย อาหารแห้งก็ไม่มีคำว่าเหล้าหรือแอลกอฮอล์ ซึ่งก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย ดื่มไปก็มีเสียสุขภาพ ถ้าเพื่อนไม่รักตัวเองแล้ว เพื่อนจะไปรักใครได้อีก”