มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[cheterk]

ทำไมพระสงฆ์ ถึงไม่หมวยผมเกศ ดอกบัวตูมครับ และเหตุใดต้องโกนผม ในเมื่อพระพุทธรูปก็มีปรากฏหมวยผมปรากฏทุกองค์

[A Little Guide]

เพราะเป็นหนึ่งในลักษณะของมหาบุรุษ 32 ประการค่ะ

ส่วนเรื่องคำอธิบายนั้น คนข้างล่างสามารถช่วยได้ค่ะ (แฮ่ะ แฮะๆ ชอบโยนค่ะ)

[Omena]

พระสงฆ์ท่านโกน เพื่อไม่ให้ติดในรูปร่างหน้าตา ไม่รักหล่อรักงามเหมือนชาวบ้านเขา

ส่วนพระพุทธเจ้าน่ะ ท่านก็ไม่ได้ไว้มวยแต่อย่างใดเลยค่ะ ท่านมีลักษณะของผู้มีบุญ มีกระหม่อมที่นูนขึ้นมาเป็นศิริของท่าน
แต่สมัยนี้พระพุทธรูปบางองค์เป็นมวยผมมัดขึ้นไว้นั้นก็เป็นความผิดเพี้ยนของผู้ปั้น (ไม่ได้แปลว่ากราบไม่ได้นะคะ เพราะถือเป็นตัวแทน ไม่จำเป็นต้องเหมือน)
ที่จริงต้องเป็นผมที่ยาวขดกันเป็นระเบียบ แล้วที่ท่านไม่โกนก็เพราะว่าท่านไม่ยึดติดแล้ว เป็นผู้หลุดพ้นอย่างแน่นอน

เรื่องเกศบัวตูมนี่ คนละส่วนกับผมค่ะ เป็นลักษณะที่กายหยาบไม่มี

[น้อมเศียรเกล้า]

การโกนผมของพระสงฆ์ก็มีประโยชน์หลายอย่างเช่น....

พระสงฆ์ไม่ได้หาเลี้ยงชีพเองใช่มั้ยคะ..จะมาหาใช้แชมพูอะไรๆ ก็ลำบาก

อีกอย่างการมีผมนี่บางคนก็หลงผมตัวเองอีก การปลงผมก็อาจจะหมายถึงการปลงและสละอะไรๆออกไปจากชีวิตน่ะค่ะ (ตามความเห็นส่วนตัวนะคะ)

[พักผ่อน]

พระพุทธองค์ไม่มีภาระในการปลงผมครับ

[Tanay007]

ทำความเข้าใจให้ดีครับ พระพุทธเจ้านับตั้งแต่ผนวช ก็ไม่มีมวยผมอยู่แล้ว ที่เห็นเป็นมวยผมนั่นเป็นศิลปินแต่ละยุคก็จินตนาการกันไปครับ
ส่วนลักษณะมหาบุรุษก็จะมีจอมกระหม่อมนูนสูงขึ้นไป
หลังจากทรงผนวชแล้ว เส้นพระเกศาทุกขุมก็ขมวดเวียนปทักษิณคล้ายก้นหอยและจะไม่งอกยาวขึ้นไปอีก อย่างที่เราเห็นจากรูปปฏิมากรรมพระธรรมกาย ทั้งตลอดพระชนม์ของพระองค์ไม่มีกิจเกี่ยวกับการปลงพระเกศาอีกเลย

[Pungpa]

แถมอีกนิดนะคะ
เรื่องการโกนคิ้วค่ะ
พระภิกษุในสมัยพุทธกาลไม่มีการโกนคิ้ว เพิ่งจะมีก็สมัยนี้ (สมัยนี้ จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว แต่รู้ว่านานค่ะ รู้ว่าเพิ่งจะมีการโกนคิ้วกัน)

[somchet]

1 ในลักษณะมหาบุรุษคือ มีจอมกระหม่อม (ศรีษะนูนขึ้นมา)

พระพุทธเจ้า ไม่ต้องโกนศรีษะครับ เพราะเส้นผมของท่านจะมีขนาดเท่าเดิมตลอดพระชมน์ชีพ คือยาว 1 องคุลี(ไม่แน่ใจ) แล้วขดเป็นเกลียวเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตร

พระพุทธรูปยุคหลังๆ ศิลปิน ไม่ได้ศึกษาลักษณะมหาบุรุษ นึกว่า จอมกระหม่อม เป็นมวยผม เลยทำผิดมาตั้งแต่นั้น

ยกตัวอย่างที่เห็นเก่าสุด ที่เป็นพระพุทธรุปโดยช่างชาวกรีก นั่นก็เป็นมวยผม เพราะฝรั่ง เขาไม่ได้ศึกษาพุทธประวัติ

[Tanay007]

แถมอีกนิดนะคะ
เรื่องการโกนคิ้วค่ะ
พระภิกษุในสมัยพุทธกาลไม่มีการโกนคิ้ว เพิ่งจะมีก็สมัยนี้ (สมัยนี้ จำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้ว แต่รู้ว่านานค่ะ รู้ว่าเพิ่งจะมีการโกนคิ้วกัน)

ถ้าจำมาไม่ผิด การโกนคิ้วของภิกษุไทย เพิ่งจะมีในช่วงอยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้นนี่แหละ เนื่องจากมีจารบุรุษหรือสายลับพม่าปลอมบวชมาเพื่อสืบความลับชัยภูมิความได้เปรียบในการรบ ผู้มีอำนาจในยุคนั้นก็เลยขอให้ภิกษุไทยโกนคิ้ว เพื่อแบ่งแยกให้ออกจากภิกษุพม่านั่นเอง

[ธรรมภิญโญ]

คือว่า การโกนผมนั้น หมายถึงการขาดจากวรรณะ เช่น พราห์ม ถ้าโกนผมหรือตัดผมก็ขาดจากวรรณะพราหม
เป็นการแสดงว่าได้สละทุกอย่างแล้วแม้แต่วรรณะของตัว ซึ่งในสมัยนั้นเรื่องวรรณะ สำคัญมาก
และพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงธรรมว่า คนดีเลวไม่ใช่เพราะวรรณะ แต่เป็นเพราะ การกระทำของตน

[LiL' Faery]

ถ้าจำมาไม่ผิด การโกนคิ้วของภิกษุไทย เพิ่งจะมีในช่วงอยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ตอนต้นนี่แหละ เนื่องจากมีจารบุรุษหรือสายลับพม่าปลอมบวชมาเพื่อสืบความลับชัยภูมิความได้เปรียบในการรบ ผู้มีอำนาจในยุคนั้นก็เลยขอให้ภิกษุไทยโกนคิ้ว เพื่อแบ่งแยกให้ออกจากภิกษุพม่านั่นเอง

Hmm, that-s what I heard too kah